Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 229
TXV – 229 ซ้ำเติมแผลในจิตใจ !
ถ้าหลางซือเหยาไม่ใช่คนของหน่วยงาน CIA ของสหรัฐอเมริกา เขาคงแต่งงานกับเธอมีลูก และใช้ชีวิตด้วยกันถ้าเธอไม่ใช่คนของ CIA แล้วเธอจะกลับจากอเมริกามารักกับเขาได้ไหม? เรื่องนี้ยังคงเป็นปัญหาที่ไม่มีทางออก……..
กลับมาที่บริษัท เซี่ยเหล่ยกำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เผชิญ เขาคิดว่าจะทำอย่างไรเมื่อเจอหน้าหลางเฉิงชุน ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขาวันใดวันหนึ่งจากอาจารย์ หลางเฉิงชุนก็จะเปลี่ยนสถานะมาเป็นพ่อของเขา ยิ่งไปกว่านั้นหลางเฉิงชุนยังหวังให้เขาแต่งงานกับหลางซือเหยาอีกแต่ดันติดปัญหาเรื่องนี้ซะก่อน เขาจะอธิบายเรื่องนี้กับหลางเฉิงชุนอย่างไรดี?
“พี่เซี่ย พี่สะใภ้ล่ะ?’’ เซี่ยเสวียมาถึงสำนักงานในตอนเช้าตรู่
“พี่สะใภ้ของน้อง เธอ…’’ เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นก่อนพูดไปว่า “ไปสหรัฐอเมริกาน่ะ’’
“พี่สะใภ้ไปทำอะไรที่อเมริกาหรอ?’’ เซี่ยเสวียดูเหมือนจะสงสัยมากๆ
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “เธอมีธุระที่ต้องทำ พี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเธอสักเท่าไหร่ เธอรีบไปมาก พี่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเธอเลย’’
เซี่ยเสวียเกาหัวแล้วมองไปที่เซี่ยเหล่ย “พวกพี่ทะเลาะกันหรือเปล่า?’’
เซี่ยเหล่ยจ้องไปที่เธอ “เธอไปทำงานเหอะ อย่ามาพูดอะไรไร้สาระนะ’’
เซี่ยเสวียยกยิ้มมุมปาก “พี่เป็นพี่ชายของฉันนะ พี่โกหกฉันไม่ได้หรอก พี่ดูไม่มีความสุขเลยแต่ก็ยังโกหกน้องนี่แสดงถึงความขัดแย้งระหว่างพี่กับเธอและมันคงจะร้ายแรง ไม่อย่างนั้นพี่สะใภ้คงจะไม่ไปอเมริกาหรอก’’
เซี่ยเสวียสมกับเป็นน้องสาวของเขาจริงๆ เธอรู้ทุกอย่างจะโกหกก็ไม่ได้ เซี่ยเหล่ยถอนหายใจ “อย่าเรียกเธอว่าพี่สะใภ้อีก เธอไม่ใช่พี่สะใภ้ของน้อง เธอจะไม่กลับมาที่นี่อีก ตั้งแต่วันนี้น้องจะต้องทำงานที่เธอเคยทำ !’’
เซี่ยเสวียรู้สึกแปลกใจแต่เธอก็ยังถามต่อ “พี่เลิกกันแล้วหรอ?’’
“เลิกถามได้แล้วน่า ถามไปแล้วจะได้อะไร?’’ สำหรับเซี่ยเหล่ย หลางซือเหยาได้กลายเป็นบาดแผลของเขาไปแล้วแม้กระทั่งตอนน้องสาวของเขาพูดถึงเธอนั่นเท่ากับการเอามือไปแกะรอยแผลเป็นของเขา มันทำให้เขาเจ็บปวดมาก
“โอเค น้องจะไม่ถามแล้วแต่อย่างไรก็ตาม พี่ก็อย่าเศร้าเสียใจมากล่ะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป’’ เซี่ยเสวียหัวเราะคิกคักตอนปลอบใจพี่ชายของเธอ “น้องมักจะกังวลมาตลอดว่าพี่จะหางานที่ดีได้มั้ยเพราะครอบครัวเราเคยจนมาก่อนแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว พี่อาจจะเจอผู้หญิงที่พี่รักอีกก็ได้’’
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่มีอะไรจะพูดก่อนที่เขาจะนั่งลงที่โต๊ะของเขา และคิดถึงเรื่องนี้อย่างเงียบๆ
เซี่ยเสวียต้มชาให้เซี่ยเหล่ยหลังจากนั้นสักครู่ เซี่ยเหล่ยก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยในขณะนั้นเซี่ยเสวียพูดว่า “พี่ชาย ฉันอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องของพี่กับพี่สะใภ้…เอ่อคุณหลางหน่ะและพี่ก็ยังต้องมีเลขาคนใหม่อีกด้วย’’
เซี่ยเหล่ยเกือบจะไม่ได้ยินเสียงของเซี่ยเสวีย เขามองถ้วยชาของเซี่ยเสวียอย่างเหม่อลอย
เซี่ยเสวียถอนหายใจ “พี่คะ ในสายตาของฉัน พี่เป็นคนที่เข้มแข็งมากถึงแม้ว่าพี่จะเศร้า พี่ก็ต้องลืมและเข้มแข็งขึ้นให้ได้บริษัทต้องการการจัดการของพี่นะ มีคนหลายร้อยคนกำลังรอพี่อยู่’’
เซี่ยเสวียก็เหมือนกับเซี่ยเหล่ย เธอเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งมาตั้งแต่เด็กๆ เธอเป็นเด็กหญิงที่ฉลาดมากคนหนึ่ง
คำพูดของเซี่ยเสวียปลุกให้เซี่ยเหล่ยตื่นขึ้น เขาหัวเราะออกมาจากนั้นพูดขึ้นมาว่า “อืม เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป น้องพูดถูก พี่ต้องบริหารจัดการบริษัทต่อไป ยังมีคนอีกหลายร้อยคนรอให้บริษัทจ่ายค่าจ้างให้พวกเขาอยู่’’
เซี่ยเสวียยิ้ม “นี่สิ พี่ชายตัวจริงของน้อง’’
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “เมื่อกี้นี้ เธอพูดเรื่องหาเลขาคนใหม่ เธอพอจะรู้จักคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มั้ย?’’
เซี่ยเสวียยิ้มและพูดว่า “โธ่ พี่คนที่น้องรู้จักก็มีแค่อาจารย์กับเพื่อนร่วมห้องเท่านั้นแหละ น้องคงช่วยอะไรไม่ได้ พี่ต้องหาเองแล้วล่ะ’’
เซี่ยเหล่ยกลับไปนั่งที่เก้าอี้จะพิจารณาใครดี เขานึกถึงอเลน่าแต่อาการของอเลน่าตอนนี้คงไม่สามารถเข้ามาทำงานนี้ได้ แต่นอกจากอเลน่าแล้วเขาก็ไม่สามารถหาใครที่จะมาแทนที่ตำแหน่งของหลางซือเหยาได้อีก
ในตอนนี้กวนหลิงซานถือแฟ้มงานมาถึงหน้าห้องทำงานของเซี่ยเหล่ย เธอเคาะประตูและพูดด้วยเสียงที่เบาว่า “หัวหน้าเซี่ย ฉันเข้าไปได้มั้ยคะ?’’
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “เข้ามาได้’’
เมื่อเข้ามาในห้อง กวนหลิงซานทักทายเซี่ยเสวียด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูเซี่ย’’
“พี่กวน’’ เซี่ยเสวียยิ้มแหยๆ เพราะไม่เคยมีใครเรียกเธอว่าคุณหนูเซี่ยมาก่อน เธอรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
เมื่อกวนหลิงซานเดินมาถึงโต๊ะของเซี่ยเหล่ย เธอวางแฟ้มงานไว้ตรงหน้าเขา พร้อมกับพูดว่า “หัวหน้าเซี่ย นี่คือบัญชีเงินเดือนของเดือนนี้ค่ะจะต้องให้ค่าจ้างกับพนักงานวันนี้แล้ว’’
เซี่ยเหล่ยอ่านแฟ้มและเซ็นชื่อลงนาม
“หัวหน้าเซี่ยดูเหมือนกำลังยุ่ง งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ’’ กวนหลิงซานหยิบแฟ้มและเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน’’
“หัวหน้าเซี่ยมีอะไรหรอ?’’ กวนหลิงซานรู้สึกเครียดขึ้น เธอเป็นคนที่ขี้อาย อ่อนไหวง่ายและยังขี้กลัวมากๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยเหล่ยเธอมักจะเขิน เครียด และกลัวอยู่เสมอ…….
เซี่ยเหล่ยเข้าใจที่เธอเป็นแบบนี้เขายิ้มและพูดว่า “คุณอย่ากังวลไปเลย ผมไม่ใช่เสือนะ ดังนั้นคุณอย่ากลัวว่าผมจะทำอะไรคุณ’’
กวนหลิงซานหน้าแดง เธอเอื้อมมือออกไปจับกรอบรูปพยายามจะปกปิดความกังวลของเธอ
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “ตอนที่คุณยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย คุณเรียนสาขาอะไรมา?’’
กวนหลิงซานพูด “ฉันเรียนสาขาเลขานุการมาค่ะแล้วก็วิทยาการจัดการธุรกิจ แต่ไม่ได้รับใบรับรองค่ะ’’
เซี่ยเหล่ยยิ้ม “โอเค’’
วิชาชีพเลขานุการที่ฝึกอบรมให้มาเป็นเลขาโดยเฉพาะและเธอยังศึกษาวิทยาการจัดการธุรกิจมาอีกด้วย เธอเหมาะที่จะมาแทนตำแหน่งของหลางซือเหยา แน่นอนว่าเธออาจจะไม่ได้จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเหมือนอย่างหลางซือเหยาเพียงแค่ให้โอกาสเธอ ให้เวลาปรับตัว เธอจะทำงานได้ดีมากเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามกวนหลิงซานยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนั่นทำให้เธอเป็นกังวล “หัวหน้าเซี่ยอยากให้ฉันทำอะไรหรอคะ?’’
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “คุณหลางกลับสหรัฐอเมริกาไปแล้ว คุณมาทำงานแทนเธอนะ’’
“ห๊ะ?’’ กวนหลิงซานตกตะลึง
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “คุณหาคนที่จะมาทำงานเรื่องการเงินแทนคุณในออฟฟิศได้เลยนะ ส่วนคุณก็มาทำงานเป็นผู้ช่วยของผม พรุ่งนี้มาทำงานได้เลย’’
“ฉัน…’’ กวนหลิงซานรู้สึกตื่นเต้น “ขอบคุณมากๆนะคะหัวหน้าเซี่ย ฉัน…ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ค่ะ’’
ในที่ทำงานไม่มีใครไม่อยากได้รับการเลื่อนตำแหน่งและนั่นคือสิ่งที่กวนหลิงซานคาดหวังมาตลอด
“พี่เจ๋งจริงๆที่แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว’’ เซี่ยเสวียพูดไปยิ้มไป “พี่กวนเหมาะสมที่จะเป็นผู้ช่วยของพี่มากๆ บุคลิกของเธอก็ดีทีนี้ก็เหลือแต่เลขานุการแล้ว พี่อยากได้เลขาแบบไหน?’’
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “มีแค่ผู้ช่วยก็พอแล้วเลขาไม่ค่อยจำเป็นในตอนนี้ ถ้าเราขยายบริษัทเมื่อไหร่ พี่จะลองพิจารณาดูอีกที’’
จู่ๆเจียงหยูยี่ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เธออยู่ในชุดเครื่องแบบตำรวจในมือเธอถือกล่องพลาสติกใบใหญ่
เมื่อเซี่ยเสวียสังเกตเห็นเธอก็ยิ้มออกมาทันที “พี่หยูยี่ พี่มาได้ยังไงคะเนี่ย?’’
เจียงหยู่ยี่ก้าวเข้ามา มองหน้าเซี่ยเหล่ยก่อนที่จะพูดกับเซี่ยเสวียว่า “เสวีย เธอช่วยออกไปข้างนอกและเฝ้าประตูให้หน่อยนะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่ชายของเธอ’’
เซี่ยเสวียมองอย่างแปลกใจแต่เธอก็ยิ้มออกมา “โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเฝ้าหน้าประตู’’
ในสายตาของเซี่ยเสวีย เจียงหยู่ยี่เป็นคนที่เหมาะจะมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอมากที่สุด
เซี่ยเสวียออกมาจากห้องและเธอก็ยังเฝ้าหน้าประตูอยู่อีกด้วยแน่นอนว่าเธอแอบมองพี่ชายของเธอและเจียงหยู่ยี่ผ่านทางประตู เธอสงสัยและอยากรู้ว่าเจียงหยู่ยี่คุยอะไรกับพี่ชายของเธอ
เมื่อเซี่ยเหล่ยสังเกตเห็นกล่องพลาสติกที่อยู่ในมือของเจียงหยู่ยี่ เขาก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่เธอเข้ามาที่นี่
เจียงหยู่ยี่วางกล่องพลาสติกลงบนโต๊ะของเซี่ยเหล่ยจากนั้นก็เอากุญแจมือออกมาแล้ววางไว้บนโต๊ะโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เซี่ยเหล่ยยิ้มแหยๆ “คูณจะทำอะไรเนี่ย เล่นละครใบ้หรอ?’’
เจียงหยู่ยี่มองเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง “เราตัดขาดกันแล้ว ฉันไม่อยากจะคุยกับคุณ’’
เซี่ยเหล่ย “…’’
“คุณชนะ’’ เจียงหยู่ยี่พูด
“คุณไปซะเถอะ ผมรู้ว่าคุณมาที่ทำไม’’
“ฉันไปแน่! คุณกล้าพูดกับฉันแบบนี้แล้วหรอ ?’’ จู่ๆเจียงหยู่ยี่ก็คว้าแขนทั้งสองข้างของเซี่ยเหล่ยไปพาดหลังของเขาและเจียงหยู่ยี่ก็จับเขาทันที
ในความเป็นจริงแล้วเซี่ยเหล่ยอยากหนี เขาก็ทำได้อย่างง่ายดายแต่เขาเลือกที่จะไม่ขัดขืนการจับกุมของเธอ……..
ข้างนอกประตูเซี่ยเสวียที่กำลังแอบมองอยู่ก็หน้าแดงขึ้น “นี่ฉันตาฝาดหรือยังไง ทำไมพี่หยู่ยี่ถึงแข็งแรงแบบนี้ยังกลางวันแสกๆอยู่เลย พี่เขาจะทำอะไรกันนะ?’’
“บอกมา ว่าของที่อยู่ในกล่องนี้มันคืออะไร?’’
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “คุณต้องปล่อยผมก่อนเสวียยังอยู่ข้างนอก เดี๋ยวเธอจะเข้าใจผิด’’
“เข้าใจผิดเรื่องอะไร?”
เซี่ยเหล่ย “…’’
“อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ !’’ ในที่สุดเธอก็ปล่อยเซี่ยเหล่ย “ ทางตำรวจพบร่างของผู้หญิงคนหนึ่งถูกฆ่าด้วยปืนไรเฟิลจากระยะไกล คุณรู้ว่าใช่มั้ยว่าฉันกำลังพูดเรื่องอะไร? ของในกล่องนี้คืออะไร ?’’
เซี่ยเหล่ยรู้สึกอุ่นใจขึ้นเขาพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “คุณรู้อยู่แล้วนี่ว่าผมไม่ทำสิ่งผิดกฎหมาย สิ่งที่อยู่ในกล่องนี้เป็นของหลงบิง เธอให้ผมเอามาดัดแปลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นถ้าคุณไม่เชื่อก็ให้ผมโทรเรียกเธอมาที่นี่ก็ได้ จะได้คุยกันตรงๆ’’
“ของหลงบิงจริงๆหรอ?’’ เจียงหยู่ยี่มองและจับพิรุธเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยเปิดกล่องพลาสติกเพื่อดูสิ่งที่อยู่ในนั้นและปิดมันลง
“หลางซือเหยาล่ะ?’’ เจียงหยู่ยี่ถาม “ตั้งแต่มาที่นี่ฉันยังไม่เจอเธอเลย’’
“เธอ….ไปอเมริกาน่ะ’’ เซี่ยเหล่ยตอบ
“ฮ่าๆๆ’’ เจียงหยู่ยี่หัวเราะอย่างเสียงดังราวกับว่าเธอไม่ได้หัวเราะสะใจแบบนี้มานานแล้ว
“เป็นบ้าไปแล้วหรอ? เธอหัวเราะทำไม?’’
“คุณโกหกฉันกี่ครั้งแล้ว?’’
“ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้คุณตั้งมันไว้เถอะ เดี๋ยวผมจะส่งคืนให้หลงบิงเอง ’’ เซี่ยเหล่ยพูด
“เอากุญแจรถมาให้ฉัน’’ เจียงหยู่ยี่ยื่นมือออกมา
เซี่ยเหล่ยรู้สึกประหลาดใจ “ทำไมผมต้องให้กุญแจรถกับคุณ?’’
“ฉันต้องการกุญแจรถของฉันคืน ตอนนี้ใครเป็นคนขับรถของคุณล่ะ ?’’
“คุณไง ตอนนี้มันเป็นของคุณ’’
เจียงหยู่ยี่มองเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง “คุณโง่หรือเปล่าเนี่ย? เงินเดือนของตำรวจอย่างฉันมันแค่ไม่กี่พันหยวนเท่านั้น ถ้าฉันขับรถราคา 2 ล้านไปทำงานที่สถานีตำรวจล่ะก็ พวกคนอื่นๆเขาจะหาว่าฉันคดโกงน่ะสิ’’
ในที่สุดเซี่ยเหล่ยยื่นกุญแจให้เจียงหยู่ยี่
เจียงหยูยี่ยื่นมืออีกข้างออกมา
“คุณต้องการอะไร?’’
“คุณขับรถฉันไปเติมน้ำมันให้หน่อยสิ’’
เซี่ยเหล่ย “…’’
ผู้หญิงคนนี้เธอเป็นใครกันแน่ ? เธอเป็นตำรวจจริงๆรึปล่าว ?
ติดตามตอนต่อไป……….