Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 246
TXV – 246 เสื้อผ้าหลุดลุ่ย !
หลังจากช่วงบ่ายเซี่ยเหล่ยก็กำลังจะกลับบ้านแต่เฉินตูเหยินต้องการที่จะให้เซี่ยเหล่ยอยู่ต่อ แต่เซี่ยเหล่ยก็ต้องขอตัวก่อนอยู่ดีเนื่องจากเขาได้บอกกับอเลน่าไว้แล้วว่าจะกลับไปทำอาหารเย็นให้เธอกิน
เมื่อรถ BMW M6 สีดำได้ออกจากบ้านของตระกูลเฉินตูจนพ้นสายตา เฉินตูเหยินก็ได้มองไปที่เฉินตูเทียนหยินจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เขามีท่าทางอย่างไรบ้างหล่ะ?”
เฉินตูเทียนหยินมองกลับไปที่เฉินตูเหยินจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พ่อหมายถึงอะไร? ท่าทางอะไร? “
เฉินตูเหยินยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “ลูกสาวของพ่อสวยออกขนาดนี้ เขาไม่มีท่าทีตื่นเต้นบ้างเลยเหรอ? “
เฉินตูเทียนหยินส่ายหัวจากนั้นก็พูดว่า “ไม่มี”
“ไม่มีซักนิดเลยจริงๆ?” เฉินตูเหยินถามซ้ำ
“ไม่มีเลย” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้น
เฉินตูเหยินพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “ผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่?”
“ฉันก็อยากรู้ด้วยเหมือนกัน” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นจากนั้นก็ถอนหายใจและพูดต่อว่า “เขาเป็นคนที่เดาใจยากเหลือเกิน”
“นี่ลูก หรือว่าลูกจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน?” เฉินตูเหยินพูดขึ้น
“ไม่ เขาควรจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” เฉินตูเทียนหยินพูดอย่างไม่แยแสจากนั้นก็พูดขึ้นต่อว่า “ถ้าเขาชอบฉันเขาก็ควรที่จะคอยไล่ตามฉัน ไม่ใช่ให้ฉันไปไล่ตามเขา และฉันคิดว่าเขาเองก็คงจะหยิ่งกับบริษัทของเขามาก ดังนั้นก็ควรให้เวลาเขาก่อน “
“งั้นเรื่องนี้ช่างมันเถอะ แต่เซี่ยเหล่ยนี้ยอดเยี่ยมจริงเมื่อกี้นี้ที่หลังจากที่เขามานวดและฝังเข็มให้พ่อแล้ว พ่อรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากจริงๆ เขาจะมาอีกเมื่อไหร่นะ? “
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาบอกว่าจะมาพบพ่อบ่อยๆ” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นจากนั้นก็เข็นรถของเฉินตูเหยินกลับเข้าไป
เฉินตูเหยินยิ้มจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พ่ออยู่มานาน พ่อคิดว่ายังไงเซี่ยเหล่ยก็คงจะชอบลูกเหมือนกันเพียงแต่ยังไม่ได้เปิดปากออกมา”
เฉินตูเทียนหยินพูดอย่างหงุดหงิดไปว่า “พ่อ…ถ้ายังจะพูดแบบนี้อีกฉันจะไม่เข็นรถให้แล้วนะ “
เฉินตูเหยินหัวเราะเบาๆและก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เมื่อถึงยามเย็นในช่วงที่กำลังใกล้จะมืด มันเป็นฉากที่อบอุ่นและละมุนอย่างมากหลังจากกลับมาจากบ้านของเฉินตูเทียนหยิน เซี่ยเหล่ยได้กลับมาทำงานก่อนตลอดเวลาราวๆ2-3ชั่วโมง จากนั้นเมื่อถึงมืออาหารค่ำ เซี่ยเหล่ยก็ได้ทำอาหารมื้อใหญ่หลายเมนู หมูเปรี้ยวหวานที่สัญญากับเซี่ยเสวียก็เป็นหนึ่งในนั้นนอกจากนี้ก็ยังมีอาหารสไตล์ตะวันตกหลายเมนูจากการช่วยเหลือในการปรุงของอเลน่า
หลังจากกินมื้ออาหารชุดใหญ่ไปจนเสร็จ ทั้งสามคนก็ได้เปิดไวน์แดงขึ้นสองขวดจากนั้นก็เริ่มดื่มกันแต่หลังจากดื่มไปได้แค่สองแก้วเซี่ยเสวียก็รู้สึกวิงเวียนจึงต้องขอตัวไปนอนก่อน ทำให้เหลือแค่เซี่ยเหล่ยและอเลน่าที่ยังคงดื่มแต่หลังจากดื่มไปเรื่อยๆก็ทำให้ขวดแรกหมดลงจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มขวดสองต่อพร้อมกับคุยเกี่ยวกับเรื่องการผลิตปืนไรเฟิลไปด้วย
หลังจากที่ทั้งคู่พูดคุยกันแล้ว เซี่ยเหล่ยก็ค้นพบว่าที่จริงแล้วอเลน่านั้นเปรียบได้กับช่างเครื่องที่มีความสามารถสูงระดับอัจฉริยะเรียกได้ว่าเก่งอย่างไร้ที่ติเลยทีเดียว ….
เมื่อพูดคุยเพิ่มเติมกับอเลน่าไปเรื่อยๆนั้น เซี่ยเหล่ยก็เข้าใจมากขึ้นว่าทำไมหลงบิงถึงได้ให้อเลน่ามาเข้าร่วมการพัฒนาในครั้งนี้เพราะนอกจากที่เธอจะคลุกคลีกับเรื่องนี้มานานพอสมควร เธอก็ยังมีพรสวรรค์ที่วิเศษยากที่ใครจะมี
“อเลน่า หลงบิงหรือว่าใครกันที่แนะนำให้คุณมาร่วมงานในครั้งนี้?” เซี่ยเหล่ยถามขึ้นมา
“ก็มีหลงบิงแล้วก็ตาแก่ฉือ พวกเขาได้โน้มน้าวให้ฉันเข้าร่วมกลุ่มอุตสาหกรรมจีนแต่ฉันก็ไม่ได้ตกลงกับพวกเขาหรอกนะ ฉันบอกพวกเขาไปว่าถ้าฉันไม่ได้ทำงานร่วมกับบริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า ฉันก็จะไม่ทำเด็ดขาด “อเลน่าพูดขึ้น
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “งั้น ผมจะหาวิธีทำให้คุณมาทำงานที่บริษัทผมให้ได้ จากนั้นเราก็จะมาทำโปรเจคใหญ่ด้วยกัน”
อเลน่ามองไปที่เซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นว่า ”คุณจำได้มั้ยตรงป่าที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านของฉัน คุณสอนให้ฉันยิงปืน”
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า”จำได้ พวกเราได้กำจัดพวกคนชั่วช้าที่นั่นด้วยกัน”
“หึหึ…ฮ่าฮ่า… ” อเลน่าหัวเราะ จากนั้นก็พูดต่อว่า “เดิมทีฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่พูดแบบกระมิดกระเมี้ยน ฉันจึงคิดว่าคุณจะเป็นผู้ชายทีขี้อายมาก”
“อย่าลืมสิ ผมเป็นสายลับนะ ผมจะต้องปลอมตัวให้เหมือนกับบทที่ผมได้รับซึ่งก็คือผู้ชายขี้อาย ” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นจากนั้นก็กระดกไวน์ในแก้วจนหมด
“อืม…ฉันรู้ว่าที่จริงแล้วคุณแข็งแกร่งมากและฉันก็ยังรู้อีกว่า…” อเลน่าพูดขึ้น จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ตอนที่อยู่ที่ประเทศจีน ฉันได้คิดเกี่ยวกับเรื่องของเราในหลายครั้งๆ ฉันต้องการที่จะรู้จักตัวตนของคุณที่แท้จริงไม่ใช่เพียงแค่หน้ากากที่คุณสวมใส่เพื่อที่จะปลอมตัวเป็นสายลับ”
เซี่ยเหล่ยรู้สึกอายเล็กน้อยจากนั้นก็พูดไปว่า “เราอย่ามาพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย “
“ไม่…ฉันจะไม่ลืมเรื่องราวในครั้งนี้เพราะในช่วงเวลานี้มันมีค่าสำหรับฉัน” อเลน่าพูดขึ้นและมองเซี่ยเหล่ยอย่างยั่วยวนจากนั้นเธอก็กระดกไวน์ในแก้วจนหมดเหมือนกัน
ความรู้สึกอบอุ่นที่แสดงออกมาจากดวงตาที่บอบบาง บลัชออนที่เพิ่มความสวยงามพร้อมด้วยชุดที่เซ็กซี่นั้น มันทำให้ผู้หญิงชาวเยอรมันคนนี้เหมือนกับหนังสือนวนิยายที่มีคนอ่านมากมายจนไม่สามารถที่จะหยุดอ่านเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้เซี่ยเหล่ยได้หลีกเลี่ยงที่จะมองไปยังดวงตาของอเลน่า จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “เรามาดื่มแก้วสุดท้ายแล้วแยกย้ายไปพักผ่อนกันดีกว่า”
“สำหรับการร่วมงานกันอีกครั้งของพวกเรา” อเลน่าพูดขึ้นจากนั้นก็จับแก้วไวน์ยกขึ้น
“สำหรับการร่วมงานกันอีกครั้งของพวกเรา” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นด้วยจากนั้นก็ยกแก้วไวน์ขึ้นไปชนกับแก้วไวน์ของอเลน่า
หลังจากนั้นอเลน่าก็ได้ลุกขึ้นและแยกตัวไปพักผ่อนที่ห้องของเซี่ยเหล่ย ส่วนเซี่ยเหล่ยเองนั้นก็ได้ทำความสะอาดโต๊ะและล้างจานจากนั้นก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องของพ่อของเขา
เมื่อมาถึงห้องของพ่อของเขา เซี่ยเหล่ยก็นอนลงบนเตียงและคิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะผลิตปืนไรเฟิล
เขาคิดไปในเรื่องการกู้เงินเพราะการที่จะกู้เงินนั้นจำเป็นจะต้องมีการพูดคุยและเจรจากันเพื่อที่จะให้เสียผลประโยชน์ให้น้อยที่สุด…….
เมื่อคิดไปถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้เขาคิดไปถึงเรื่องในวันนี้ที่ได้เจอกับวัยรุ่นคนหนึ่งที่แอบถ่ายรูปเขากับเฉินตูเทียนหยินอีกครั้ง
ก๊อก ก๊อก ! ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากนั้นอเลน่าก็พูดขึ้นว่า “เหล่ย คุณหลับแล้วหรือยัง?”
“เธอมาเคาะประตูในตอนนี้ เธอต้องการอะไรงั้นเหรอ ?” เซี่ยเหล่ยคิดในใจ
เซี่ยเหล่ยรู้สึกกระวนกระวายจึงได้กระพริบตาซ้ายเล็กน้อยจากนั้นก็มองออกไปเห็นอเลน่ายืนอยู่ตรงหน้าประตู เธอคงเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะผมของเธอตอนนี้เปียกอยู่และตอนนี้เธอได้แปลี่ยนมาใส่ชุดนอนแล้วแต่เนื่องจากมันเป็นชุดนอนของ เซี่ยเสวียที่ให้เธอยืมจึงทำให้ขนาดมันไม่พอดีกับตัวของอเลน่าอย่างมาก ด้วยขนาดตัวของเซี่ยเสวียที่ตัวเล็กกว่า ทำให้เมื่ออเลน่ามาใส่เสื้อตัวนี้ก็ทำให้มันรัดแน่นจนเห็นสัดส่วนช่วงบนของลำตัวได้อย่างชัดเจนพร้อมกับกางเกงที่ตัวก็เล็กเหมือนกันจึงทำให้กลายเป็นกางเกงนอนสามส่วนไปแทนและเนื่องจากมันมีขนาดที่เล็กกว่ามาก มันจึงไปรัดส่วนสำคัญของอเลน่าจนเห็นเป็นรูปร่างได้อย่างชัดเจนเพราะทั้งเสื้อและกางเกงทำมาจากผ้าฝ้าย มันจึงค่อนข้างที่จะบาง…..
“เซี่ยเสวีย เจ้าเด็กโง่ ทำไมถึงไม่ไปซื้อเสื้อผ้ามาให้อเลน่าใส่หล่ะ?” เซี่ยเหล่ยคิดในใจ
“เหล่ย…คุณหลับแล้วงั้นเหรอ?” อเลน่าถามขึ้นอีกครั้ง
เซี่ยเหล่ยพยายามที่จะเงียบให้ได้มากที่สุดเพื่อทำให้เหมือนกับว่าหลับไปแล้ว แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นว่าในมือของอเลน่านั้นถือแผนงานมาด้วยจึงทำให้เซี่ยเหล่ยพูดออกไปว่า “ผมยังไม่นอน เข้ามาสิประตูไม่ได้ล็อก”
อเลน่าบิดลูกบิดประตูจากนั้นก็เดินเข้าห้องไปในขณะนี้เซี่ยเหล่ยที่ก่อนหน้านี้นอนอยู่บนเตียงก็ได้เปลี่ยนลุกขึ้นมานั่งแทนแล้ว
เมื่ออเลน่าเข้ามาเธอก็พูดขึ้นว่า “คุณควรจะนอนได้แล้วนะ”
“ก็กำลังจะนอนแหละ ว่าแต่คุณต้องการที่จะพูดคุยเกี่ยวกับแผนงานของคุณใช่มั้ย?” เซี่ยเหล่ยถาม
อเลน่าถอดรองเท้าสลิปเปอร์จากนั้นก็ไปนั่งบนเตียงของเซี่ยเหล่ยพร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ แผนงานของฉันเสร็จไปแล้วบางส่วน ฉันจึงจะมาคุยกับคุณก่อน” จากนั้นอเลน่าก็ยื่นแผนงานที่เธอได้เริ่มทำไปแล้วให้กับเซี่ยเหล่ย
เมื่อมีผู้หญิงขึ้นมาบนเตียงเดียวกันกับผู้ชายก็ทำให้รู้สึกหวั่นไหวได้อยู่แล้ว อเลน่าที่อยู่ในชุดที่รัดรูปจนเซ็กซี่ขึ้นมาอยู่บนเตียงเดียวกับเซี่ยเหล่ยในตอนนี้ก็ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายอย่างมาก แต่เขาก็ได้พยายามข่มใจไว้และพยายามที่จะเปิดแผนงานที่อเลน่าเอามาให้ดูต่อไป……..
แผนงานของอเลน่านั้นน่าสนใจอย่างมากแม้ว่าตอนนี้เซี่ยเหล่ยเองจะไม่ได้มีสมาธิมากพอที่จะตรวจสอบอย่างละเอียด แต่เขาก็รับรู้ได้ว่ามันสุดยอดตอนนี้จมูกของเขาได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ออกมาจากตัวของอเลน่าและภายในใจก็คิดไปถึงสะโพกที่อยู่ในชุดรัดรูปยิ่งผลสำรวจออกมาว่าสะโพกของผู้หญิงตะวันตกสามารถดึงดูดใจได้มากกว่าผู้หญิงชาวเอเชียแล้วด้วยแต่อเลน่ากลับยอดเยี่ยมไปกว่านั้น เพราะสะโพกของเธอนั้นสวยกว่าผู้หญิงชาวตะวันตกหลายๆคน ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองไม่ให้คิดและจินตนาการกับสะโพกของอเลน่าได้เลย
อเลน่าได้โน้มตัวเข้าไปใกล้กับเซี่ยเหล่ย จากนั้นก็เอาปากไปกระซิบใกล้หูของเขาแล้วก็พูดว่า “ถ้าคุณคิดว่ามีอะไรไม่เหมาะสมก็บอกมาได้เลย ฉันจะไปแก้ไขแล้วเอากลับมาให้คุณดูอีกครั้ง”
ด้วยลมหายใจที่ออกมาจากปากของเธอนั้นเมื่อไปกระทบกับผิวหนังของเซี่ยเหล่ยก็ทำให้เขารู้สึกชาไปทั้งตัว ภายในจิตใจกำลังยุ่งเหยิงและสมองค่อยๆเบลอ
ในตอนนี้อเลน่าจูบไปที่หูของเซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นอีกว่า “ลูคัส ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้คุณตกหลุมรักฉันหรือบางทีมันก็อาจจะต้องใช้เวลานาน แต่ฉันชอบคุณจริงๆ ฉันต้องการที่จะทำมันกับคุณและฉันต้องการมันในตอนนี้ คุณเคยสัญญากับฉันแล้วด้วยที่เยอรมัน อย่ากลับคำพูดหล่ะ “
“ผม…ผมสัญญากับคุณอย่างนั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นเพราะเขาเองก็จำไม่ได้ว่าเคยพูดออกไปหรือเปล่า
“คุณเคยสัญญา” อเลน่าพูดขึ้นพร้อมผลักเซี่ยเหล่ยให้นอนลงบนเตียงและเธอก็ขึ้นไปนั่งอยู่บนตัวเซี่ยเหล่ยในทันที
ในเวลานี้แผนงานที่อเลน่าเอามาให้เซี่ยเหล่ยก็ได้หลุดมือของเซี่ยเหล่ยและร่วงลงไปที่พื้น แต่มันไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่ล่วงไปที่พื้น แต่เสื้อของอเลน่าเองก็ร่วงลงไปอยู่ที่พื้นเช่นกัน
แม้ว่าการที่เซี่ยเหล่ยจะชอบอเลน่านั้นก็พอจะมีโอกาสอยู่บ้างแต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้
ในมุมมองของเซี่ยเหล่ยเขาไม่มีทางที่จะปฏิเสธอเลน่าได้อีกครั้งเพราะเขาทำให้เธอเสียใจก่อนหน้านี้และครั้งนั้นมันก็มากเกินพอแล้ว เขาไม่อยากที่จะทำร้ายเธออีกครั้งแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเซี่ยเหล่ยเองเพราะหลังจากที่เซี่ยเหล่ยได้เลิกลากับหลางซือเหยาไปแล้วนั้น เขาก็เหมือนกับถ่านเชื้อเพลิงที่ดับมอด ดังนั้นต้องใช้ความร้อนขนาดไหนถึงจะทำให้มันติดไฟได้อีกครั้ง…..
ติดตามตอนต่อไป………..