Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 260
TXV – 260 การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ?
หลังจากตกลงทุกอย่างกันได้แล้ว ในขณะนี้รถจี๊ปทหารกำลังวิ่งไปไปตามทางของถนนแน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังไปดูที่ดินกัน
“เราจะไปดูที่แรกกันก่อน มันอยู่ไม่ไกลจากเขตเมืองและเป็นที่ราบซึ่งดูแล้วก็เหมาะสำหรับที่จะใช้สร้างโรงงาน” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดขึ้น
“มันมีทั้งหมดกี่แห่งที่คุณดูไว้?” เซี่ยเหล่ยถาม
“ฉันมองไว้สี่ที่” ถ่างหยู่หยี่ยตอบ
เซี่ยเหล่ยตอบว่า “คุณมีที่ไหนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษมั้ย ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ หน้าที่ของฉันคือการแนะนำคุณและบอกรายละเอียดต่างๆเพื่อให้คุณเลือกและตัดสินใจว่าจะเป็นที่ไหน”
“อืม…” เซี่ยเหล่ยตอบจากนั้นก็มองไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยแล้วถามต่อว่า “คุณถ่างผมขอถามอะไรบางอย่างกับคุณได้ไหม?”
“คุณอยากจะถามอะไร?” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดขึ้นพร้อมยิ้มเล็กน้อย
“เอ่อ…ที่จริงแล้วพ่อของคุณมีหน้าที่ทำอะไรกันแน่?” เซี่ยเหล่ยถามออกไป
ถ่างหยู่เหยี่ยหัวเราะก่อนพูดขึ้นว่า “ฉันรู้ว่าคุณจะถามคำถามนี้กับฉันแต่ก็ไม่คิดว่ากว่าคุณจะถามขึ้นจะใช้เวลานานขนาดนี้ และฉันก็ไม่มีอะไรพิเศษจะบอกคุณหรอกนะแต่ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงอะไรเลย เขาก็เป็นแค่เจ้าหน้าที่ฝ่ายอุปกรณ์ก็เท่านั้น “
“ไม่อะไรพิเศษงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นเพราะเชื่อว่าถ่างถ่างหลงนั้นเป็นคนของฝ่ายอุปกรณ์จริงแต่เขาไม่เชื่อว่าถ่างถ่างหลงจะไม่มีตำแหน่งใหญ่โตในหน่วยงานลับ 101
ถ่างหยู่เหยี่ยเลียลิมฝีปากของตัวเองก่อนที่จะมองไปที่เซี่ยเหล่ยแล้วพูดขึ้นว่า “หลงบิงคงมีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้แต่สิ่งที่ฉันพูดก็เป็นความจริงเพราะถ้าคุณจะสร้างบริษัทขนาดใหญ่และเกี่ยวข้องกับทางการทหารละก็อีกหน่อยจะมีคนอีกมากมายมาหาคุณ “
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วมองไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยเพราะสิ่งที่เธอพูดมาก็มีเหตุผลเหมือนกันซึ่งตัวเซี่ยเหล่ยเองก็เป็นผู้ที่เปิดบริษัทเอกชนขนาดเล็กๆเท่านั้นแล้วจะมีคนใหญ่คนโตหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาพูดคุยเจรจาและเซ็นสัญญาอย่างนั้นเหรอ?
“คุณเซี่ย วันนี้ฉันมาบริการคุณในฐานะคนพาไปดูสถานที่ดังนั้นคุณจะตอบแทนฉันยังไง ? ” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดขึ้น
“อืม…งั้นคุณอยากกินอะไรหล่ะ?” เซี่ยเหล่ยถาม
“ฉันสามารถที่จะชวนคุณมาที่เมืองชิงตู่อีกได้มั้ย? ฉันจะได้ไปกินอาหารกับคุณ อืม…ที่จริงฉันก็รู้ว่าคุณได้ดัดแปลงและพัฒนาปืนไรเฟิลให้กับหลงบิง คุณทำให้มันยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก คุณช่วยดัดแปลงมันให้ฉันด้วยได้มั้ย? “ถ่างหยู่เหยี่ยพูดและมองไปที่เซี่ยเหล่ยพร้อมรอยยิ้ม
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบไปว่า “ได้ ผมจะดัดแปลงปืนไรเฟิลให้คุณใหม่หลังจากที่ผมกลับไปที่เมืองห่ายจู “
“เยี่ยมเลย ฉันเตรียมปืนไรเฟิลไว้แล้วมันอยู่ที่เบาะหลัง” ถ่างหยู่เหยี่ยพูด
เซี่ยเหล่ยมองกลับไปที่เบาะหลัง เขาก็เห็นกล่องพลาสติกตั้งอยู่บนเบาะจากนั้นเขาก็กระพริบตาเล็กน้อยและมองทะลุเข้าไปก็พบว่าปืนไรเฟิลที่อยู่ภายในกล่องพลาสติกนั้นเป็นรุ่นเดียวกับของหลงบิง
เซี่ยเหล่ยหันกลับมาแล้วมองไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยแล้วพูดว่า “คุณได้เตรียมมันไว้เรียบร้อยแล้วนี่”
ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้มแล้วพูดว่า “เพราะฉันรู้ว่าคุณจะไม่ปฏิเสธฉัน”
ในขณะนี้รถที่พวกเขานั่งมาได้เข้าไปในเขตชานเมืองและขับเลยผ่านไปจนถึงที่ดินที่แรกที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเขตเมืองประมาน 20 กิโลเมตรแต่ก็สามารถขับรถเข้าเมืองได้โดยใช้เวลาราวๆ10นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งมันสะดวกมากและพื้นที่แห่งนี้ก็เป็นพื้นที่กว้างมาก…..
“ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง?” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดขึ้นพร้อมกระโดดขึ้นไปบนโขดหินซึ่งสูงประมาน1เมตรที่อยู่บริเวณนั้นแล้วมองกลับมาที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยเงยหน้าขึ้นไปมองเธอแล้วก็พูดว่า “ที่นี่เป็นที่ดีมาก ว่าแต่มันราคาเท่าไหร่?”
“200 ล้าน” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดขึ้นแล้วก็พูดต่อว่า “มันอยู่ใกล้กับเขตเมืองด้วยราคาเท่านี้ก็ถือว่าไม่แพง “
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “พาผมไปดูที่อื่นก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ สำหรับผมแล้วที่นี่มันค่อนข้างที่จะแพง”
“อืม…ฉันจะพาคุณไปดูที่อื่นต่อ” ถ่างหยู่เหยี่ยกระโดดลงมาจากก้อนหินจากนั้นก็เตะไปที่หน้าอกของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยถอยหลังออกไปเพื่อหลบพร้อมกับพูดขึ้นว่า “คุณถ่าง คุณทำอะไร ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยไม่ได้ตอบอะไรและเธอก็ยังเตะไปที่ขาของเซี่ยเหล่ยต่อ
เซี่ยเหล่ยยังคงหลบและพูดขึ้นด้วยอารมณ์โกรธเล็กน้อยไปว่า “คุณถ่าง ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่?”
ถ่างหยู่เหยี่ยไม่ได้พูดอะไร แต่เธอได้ตอบคำถามของเซี่ยเหล่ยโดยการชกอย่างรวดเร็วหลายหมัดติดต่อกัน หมัดของเธอดูเหมือนมีลักษณะที่ละเอียดอ่อนมากแต่มันกลับรุนแรงและทรงพลังแถมยังเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ!
เซี่ยเหล่ยก็ได้ปัดป้องหมัดที่รวดเร็วของถ่างหยู่เหยี่ยด้วยข้อศอกและฝ่ามือเขาสามารถป้องกันการโจมตีของถ่างหยู่เหยี่ยได้ทุกหมัด แต่ออย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่การป้องกันเท่านั้นจึงทำให้เขาถอยหลังไปเรื่อยๆจนตอนนี้อยู่ติดกับแม่น้ำเล็กๆสายหนึ่ง
เมื่อเห็นแบบนี้เซี่ยเหล่ยจึงพูดขึ้นเตือนอีกครั้งว่า “พอได้แล้ว”
ถ่างหยู่เหยี่ยทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงเตือนของเซี่ยเหล่ยและยังคงโจมตีเซี่ยเหล่ยอยู่และด้วยท่าทางของการโจมตีของเธอในตอนนี้มันช่างสวยงามเหมาะกับคำว่าศิลปะแห่งการต่อสู้เป็นอย่างมาก
เซี่ยเหล่ยเคยฟังที่หลางเฉิงชุนพูดว่าตระกูลถ่างนั้นเก่งกาจมากไม่เพียงแค่อาวุธลับเท่านั้นแต่วิชาหมัดของพวกเขาเองก็รุนแรงมากเช่นกัน
ถ่างหยู่เหยี่ยยังคงโจมตีเซี่ยเหล่ยอย่างไม่หยุดหย่อนแต่ครั้งนี้ปฏิกิริยาของเซี่ยเหล่ยเองเป็นไปตามธรรมชาติ เขาได้เข้าประชิดตัวของถ่างหยู่เหยี่ยจากนั้นก็จับเธอและยกขึ้นข้ามไหล่และทุ่มเธอลงไปกับพื้น
ถ่างหยู่เหยี่ยที่ล้มลงไปกับพื้นก็ได้งอตัวจากนั้นก็ใช้แรงดีดตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ท่วงท่าของเธอเป็นไปอย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติอย่างมากเช่นกัน
เซี่ยเหล่ยไม่ได้โจมตีสวนกลับไปแต่เขามองไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยอย่างไม่ค่อยพอใจกับการกระทำของเธอ
ถ่างหยู่เหยี่ยที่ลุกขึ้นมาแล้วได้เอามือปัดก้นและส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อให้ฝุ่นออกและถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ลักษณะท่าทางของเธอก็แสดงออกถึงความเจ็บ…..
“คุณสวนกลับฉันแบบนี้ได้ยังไง…ด้วยท่าทางแบบนั้น?” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมแสดงลักษณะท่าทางที่เศร้าในขณะที่มือของเธอยังคงปัดก้นของตัวเองอยู่
ถ้าไม่ทำเช่นนี้เซี่ยเหล่ยจะไม่สามารถควบคุมตาซ้ายของเขาได้ เพราะเธอได้เป็นคนกระตุ้นมันในตอนที่ปล่อยหมัดรัวออกมาและก็เหมือนกับในตอนนี้ขณะที่เธอกำลังปัดฝุ่นที่ก้อนของเธอเองนั้น มันได้ไปกระตุ้นให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกเร้าใจจนทำให้ตาซ้ายสูญเสียการควบคุม และนั่นทำให้เซี่ยเหล่ยมองเห็นเสื้อผ้าของเธอหายไปและในวินาทีนั้น….
ก็ปรากฏร่างกายของเธอขึ้นมาซึ่งเธอมีความสูงอยู่ราวๆ 175 เซ็นติเมตร ร่างกายของเธอผอมเพรียวและสวยงามอย่างมาก เนื่องจากเธอฝึกศิลปะการต่อสู้และฝึกซ้อมมันอยู่ตลอด ทำให้ร่างกายของเธอไม่มีไขมันเลย ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ดูสวยงามและไม่ใหญ่จนเกินไป เซี่ยเหล่ยมองต่ำลงไปก็พบกับหน้าอกที่ขนาดคัพดีและมีรูปทรงที่สวยงาม ต่ำลงไปอีกก็เป็นหน้าท้องที่แบนราบและมีกล้ามหน้าท้องที่เป็นร่องสวยงามเช่นกัน ต่ำลงไปอีกก็จะเป็นก้นที่โค้งงอนได้รูปชนิดที่ใครเห็นเป็นต้องคิดว่ามันเซ็กซี่อย่างมากซึ่งก้นของเธอก็คล้ายกับของหลางซือเหยาอย่างมากและนอกจากนี้ก็ยังมีส่วนที่ลึกลับของเธอที่…….
“อย่าโทษผม…ผมไม่ได้ต้องการที่จะทำแบบนี้เลย” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นและพยายามที่จะตั้งสติการหายใจของเขาที่ถี่ขึ้นเพราะการที่เซี่ยเหล่ยเห็นเรือนร่างของเธอเต็มตาแบบนี้ ทำให้เซี่ยเหล่ยตื่นเต้นอย่างมาก
“นี่…” ถ่างหยู่เหยี่ยมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างหงุดหงิดและพูดต่อว่า “ทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้?”
เซี่ยเหล่ยรีบตั้งสติจากนั้นก็มองขึ้นฟ้าเพื่อเบี่ยงเบนสายตาแล้วพูดขึ้นว่า “แล้วคุณออกหมัดใส่ผมทำไมกันหล่ะ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นคุณสู้กับบรูซหลงที่ ชุมนุมหมัดมวยโลกาภิวัตน์ทำให้ฉันตื่นเต้นมาก ความจริงแล้วฉันเองก็ต้องการที่จะสู้กับคุณเหมือนกันแต่ก็ไม่มีโอกาสเลย “
ตอนนี้เซี่ยเหล่ยตั้งสติได้และทำให้ตาของซ้ายของเขากลับเป็นปกติ อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าที่จะมองไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยตรงๆเพราะกลัวว่าสายตาของเขาจะถูกกระตุ้นอีกครั้งหนึ่ง
“คุณยังคงเก่งเหมือนเดิม ฉันปล่อยหมัดออกไปตั้งหลายหมัดแต่มันไม่โดนคุณเลย” ถ่างหยู่เหยี่ยพูด
เซี่ยเหล่ยมองไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยแล้วยิ้มจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ความสามารถของคุณจะยอดเยี่ยมที่สุดก็ต่อเมื่อใช้อาวุธลับ ซึ่งถ้าคุณให้อาวุธลับร่วมกับโจมตีผมด้วยแล้วละก็ ผมคงเอาชนะคุณไม่ได้หรอก “
ถ่างหยู่เหยี่ยส่ายหัวเบาๆจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “อาวุธลับที่พวกเราใช้นั้นไม่ได้ใช้กันเล่นๆแต่มันจะเอาไว้สำหรับฆ่าศัตรูของพวกเรา ดังนั้นฉันไม่สามารถที่จะเอามาใช้กับคุณได้หรอก”
เซี่ยเหล่ยฟังที่พูดแล้วก็คิดย้อนกลับไป เขาไม่ได้จดจำท่าทางที่ถ่างหยู่เหยี่ยที่ใช้โจมตีก่อนหน้านี้แต่เมื่อเขาคิดกลับไปแล้วก็พบว่าท่าทางมันสวยงามและน่าทึ่งอย่างมาก
ถ่างหยู่เหยี่ยหัวเราะแล้วก็พูดขึ้นว่า “อืม…ประวัติศาสตร์ของตระกูลถ่างนั้นยาวนานหลายร้อยปีจริงและก็ไม่ได้มีอะไรพูดเกินจริงจากในนวนิยายหรอกนะ อย่างเช่นว่ากระโดดข้ามกำแพงสูงสามเมตรได้โดยเริ่มวิ่งจากระยะ35เมตรหรือจะสามารถกระโดดได้สูงกว่านี้หากว่าได้เริ่มวิ่งที่45เมตร “
เซี่ยเหล่ยพูดสรรเสริญไปว่า “มันยอดเยี่ยมมาก!”
“คุณต้องการที่จะเรียนไหม?” ถ่างหยู่เหยี่ยถามขึ้นพร้อมมองไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นอย่างประหลาดใจไปว่า “ผมสามารถเรียนได้อย่างนั้นเหรอ?”
“แน่นอน” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมรอยยิ้มจากนั้นก็พูดต่อว่า “แต่คุณจะต้องสอนหมัดหวิงชุนให้กับฉันก่อน”
เซี่ยเหล่ยยิ้มเช่นกันพร้อมพูดขึ้นว่า “ได้เลย”
เซี่ยเหล่ยคิดไปถึงอนาคต…..ก่อนหน้านี้หลางเฉิงชุนได้สอนเคล็ดลับของหมัด หวิงชุนให้กับเซี่ยเหล่ยดังนั้นในตอนนี้เขามีคุณสมบัติที่จะสอนมันให้กับถ่างหยู่เหยี่ยแล้วและนี่ยังเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้กังฟูของพวกตระกูลถ่างเช่นกันแน่นอนว่าถ้าเธอไม่ได้สอนทั้งหมดที่เธอรู้ เซี่ยเหล่ยเองก็จะไม่สอนทั้งหมดที่เขารู้เหมือนกัน
“ตอนนี้ฉันจะพาคุณไปยังที่ถัดไปทั้งหมด จากนั้นก็จะให้คุณตัดสินใจว่าจะสร้างอาคารขึ้นที่ไหน จากนั้นก็ไปกินข้าวกันแล้วค่อยไปที่บ้านของฉัน ฉันจะได้สอนคุณ และคุณก็จะได้สอนฉันเหมือนกัน คุณคิดว่าดีมั้ย?” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
ติดตามตอนต่อไป……………..