Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 266
TXV – 266 ลอบโจมตี !
วันต่อมาเซี่ยเหล่ยเรียกแท็กซี่เพื่อเข้าไปในเมืองระหว่างทางเขาก็โทรหาถ่างหยู่เหยี่ยไปด้วยจากนั้นก็ไปที่บ้านของเธอพร้อมกล่องพลาสติกบรรจุสไนเปอร์ไรเฟิล
เซี่ยเหล่ยกดกริ่งประตูแต่มีเพียงเสียงตอบรับจากในห้องเท่านั้น “ฉันให้กุญแจคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยอยู่ในห้องนั่งเล่นแต่ไม่ได้เดินมาเปิดประตูให้ เซี่ยเหล่ยได้แต่ยิ้มแห้งๆก่อนจะหยิบพวงกุญแจออกมาและใช้กุญแจที่ถ่างหยู่เหยี่ยให้เปิดประตูเข้าไป
เมื่อผ่านประตูมา เซี่ยเหล่ยก็พบกับหุ่นไม้ในห้องนั่งเล่นและถ่างหยู่เหยี่ยที่ยืนอยู่หน้าหุ่นกำลังฝึกหวิงชุนอยู่ดูเหมือนเธอจะกลัวว่าหุ่นไม้จะทำเธอเจ็บหรือเป็นแผล เพราะถ่างหยู่เหยี่ยใช้ผ้าห่อเจ้าหุ่นไม้ไว้หลายชั้นจนหนาเตอะ
และการห่อผ้าหนาเตอะทำให้เจ้าหุ่นไม้ดูกลายเป็นซอมบี้ไปเลย มันดูตลกมากๆ
ถึงอย่างนั้นถ่างหยู่เหยี่ยก็ยังดูสวยมีเสน่ห์ เธอยังอยู่ในชุดสปอร์ตบิกีนีสีดำ ผิวขาวเนียนอกโตกับสะโพกมนส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอเพอร์เฟ็คราวกับถูกวาดเอาไว้ โดยเฉพาะรอยสีผิวที่ชัดเจนระหว่างสะโพกและขานั่นทำให้อวัยวะบางส่วนของผู้ชายตื่นตัวได้เลย
ถ่างหยู่เหยี่ยไม่ได้หันมามองเซี่ยเหล่ย เธอพยายามฝึกกับหุ่นต่อปล่อยหมัดออกไป ต่อยอย่างแรงและยกขาเตะทุกๆการเคลื่อนไหวทำให้หน้าอกและบั้นท้ายเธอกระเพื่อมเป็นระลอก เป็นคลื่น นั่นเป็นการสั่นสะเทือนที่กลืนน้ำลายไม่ลงเลยทีเดียว
เซี่ยเหล่ยวางกล่องพลาสติกลงบนพื้นก่อนจะยิ้มแล้วพูดขึ้น “คุณจะซ้อมกับหุ่นไม้ห่อผ้าแบบนั้นจริงๆเหรอ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยหยุดต่อยแล้วเดินมาหาเซี่ยเหล่ย “คุณลองคิดดูนะ ฉันเป็นผู้หญิง ถ้าผิวมือกับเท้าเกิดด้านขึ้นมา ใครเขาจะมาชอบฉันล่ะ?”
เซี่ยเหล่ยพูดหยอกล้อกลับไปว่า “คุณสวยมากเลยนะแต่ผมเกรงว่าคนที่จะมาจีบคุณอาจจะโดนอัดปลิวไปเป็นลี้ซะก่อนน่ะสิแล้วแบบนี้ใครจะมาตามจีบคุณกันล่ะ?”
“ฮ่าฮ่า……” ถ่างหยู่เหยี่ยยกยิ้มกว้างเป็นมุมที่น่ารักของเธอจริงๆ ถ่างหยู่เหยี่ย มองไปยังกล่องพลาสติกที่เซี่ยเหล่ยวางไว้บนพื้น “ลองใช้รึยัง?”
“เรียบร้อย ผมลองแล้วระยะการยิงคงไกลได้ถึง 3,200 เมตรใกล้เคียงกับหลงบิงเลย” เซี่ยเหล่ยตอบ
“แล้วนักฆ่าสามคนที่คุณจัดการเมื่อคืน คุณใช้ปืนนี้รึเปล่า?” ถ่างหยู่เหยี่ยเปิดกล่องพลาสติกแล้วหยิบปืนออกมา
เซี่ยเหล่ยตอบ “ใช่ ปืนนี้แหละ”
จากจุดนี้เป็นไปได้ว่าถ่างหยู่เหยี่ยเป็นคนเก่งในระดับพอๆกับหลงบิงเลย
เพียงเซี่ยเหล่ยพูดสั้นๆ ถ่างหยู่เหยี่ยก็ประกอบปืนในกล่องแล้วหันปากกระบอกปืนมาทางเขา
เซี่ยเหล่ยรีบหลบโดยอัตโนมัติ เขาเคลื่อนตัวหลบไปไม่ไกลแต่หลบไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ในปืนไม่มีกระสุน
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดยิ้มๆ “ตอบสนองเร็วดี” ก่อนจะมองที่กล้องปืนแล้วพูดต่อด้วยความประหลาดใจ “คุณขัดกล้องปืนด้วยเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยกล่าว “ถ้าผมไม่ขัด แล้วจะเล็งเป้าหมายที่อยู่ไกล 3 กิโลเมตรได้ยังไงล่ะ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยยกนิ้วโป้งให้เขา “คุณนี่เจ๋งจริงๆ”
เซี่ยเหล่ยพูดต่อ “ผมให้ปืนคุณแล้ว เมื่อไหร่คุณจะสอนกังฟูของคุณให้ผมสักทีล่ะ?”
“ฉันว่าแล้วว่าคุณต้องพูดเรื่องนี้เพราะวันนี้งั้นฉันเลยตั้งใจอยู่บ้านเป็นพิเศษไง” ถ่างหยู่เหยี่ยวางสไนเปอร์ไรเฟิลลงแล้วกวาดขาเตะเซี่ยเหล่ยทันที
เธอเคลื่อนไหวเร็วมากอีกทั้งยังรุนแรงมากอีกด้วย ขาเรียวยาวอมชมพูที่พุ่งมาจากพื้นดูเหมือนปลาไหลตัวยาวสีขาว กางเกงสีดำก็คับสะโพกและต้นขาแน่นมองดูแล้วก็น่าห่วงว่าชิ้นผ้านั่นจะขาดแล้วเปิดเผยอะไรออกมาหรือเปล่า
เซี่ยเหล่ยกระโดดถอยหลังมานิดหน่อย เขาสามารถหลบการโจมตีของถ่างหยู่เหยี่ยได้ทัน
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดแล้วก็เริ่มต่อสู้เลยที่สำคัญคือเธอใช้หวิงชุนเข้าสู้ เซี่ยเหล่ยมองเห็นเทคนิคเธอและรับมือเธอได้อย่างใจเย็น ในใจเขารู้ชัดเจนแล้วว่าการจะให้ถ่างหยู่เหยี่ยสอนกังฟูให้ เขาก็ต้องสอนหวิงชุนเธอก่อนเป็นอย่างที่หลงบิงพูดไว้จริงๆถ่างหยู่เหยี่ยทั้งฉลาดและเจ้าเล่ห์ ถ่างหยู่เหยี่ยไม่มีทางเชื่อใจใครง่ายๆเลย
สอนกัน ฝึกซ้อมกัน จนกระทั่งเวลาทั้งวันหมดลง……
เมื่อเซี่ยเหล่ยออกมาจากบ้านถ่างหยู่เหยี่ยท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
ระหว่างวันของการแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้กัน เซี่ยเหล่ยก็ได้หนังสือเล่มเล็กๆที่เป็นลายมือของถ่างหยู่เหยี่ยด้านบนจะเขียนวิธีการฝึกวิชาตัวเบาเอาไว้แต่ก็ไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ แม้เซี่ยเหล่ยจะเพิ่งเคยเห็นหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรกแต่เขาก็เคยใช้ตาซ้ายมองและเก็บรายละเอียดการสาธิตของถ่างหยู่เหยี่ยเอาไว้แล้ว เซี่ยเหล่ยเข้าใจบางจุดที่แม้แต่ตระกูลถ่างอาจจะไม่เข้าใจเท่าเขาเลยด้วยซ้ำ เมื่อเซี่ยเหล่ยลองเทียบความเข้าใจของเขากับเนื้อหาในหนังสือแล้ว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าในหนังสือที่เขาได้มาเนื้อหาด้านในยังไม่ครอบคลุมและยังไม่ได้พูดถึงส่วนสำคัญบางส่วนอีกด้วย
แต่ถึงอย่างนั้นหนังสือที่ถ่างหยู่เหยี่ยให้มาก็มีเนื้อหานอกเหนือจากที่ที่เซี่ยเหล่ยมองเห็นด้วยตาซ้ายของเขาอยู่ด้วยและเมื่อรวมกันแล้ว เซี่ยเหล่ยก็ได้ข้อมูลทั้งหมดมาซึ่งจุดนี้แหละที่ตระกูลถ่างยังไม่รู้……
เซี่ยเหล่ยยังต้องฝึกอีกเยอะ ถึงแม้ถ่างหยู่เหยี่ยจะยังปกปิดเทคนิคบางส่วนเป็นความลับเอาไว้ เซี่ยเหล่ยเองก็มีเทคนิคที่ไม่ได้สอนเธอเช่นกัน เขาให้หนังสือหวิงชุนเขียนมือให้ถ่างหยู่เหยี่ยเอาไว้และแน่นอนว่าเนื้อหาข้างในก็ไม่ครอบคลุมทั้งหมดเช่นกัน
แต่ถึงเธอจะกั๊กเทคนิคเอาไว้ เซี่ยเหล่ยก็เข้าใจดีไม่ต้องพูดถึงกฎของตระกูลถ่าง ที่ว่าห้ามสอนคนนอกตระกูลนั่นเลย เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในโลกของศิลปะการต่อสู้ของจีนอยู่แล้ว
เมื่อออกมาจากบ้านถ่างหยู่เหยี่ยแล้ว เซี่ยเหล่ยก็มองหาแท็กซี่กลับบ้านหลงบิง คืนนี้คงพักที่บ้านเธอเหมือนเดิม
สำหรับคืนนี้พวกเขาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันพอแล้ว……
เช้าวันถัดมา เซี่ยเหล่ยก็ออกจากบ้านหลงบิงไปยังร้านกาแฟแห่งหนึ่งไม่นานนัก ชายหนุ่มพร้อมแว่นตาก็เดินมาหยุดยืนหน้าเขา
“คุณคือคุณเซี่ยใช่มั้ยครับ?” ชายหนุ่มกับแว่นดำบนจมูกโด่งของเขาถามอย่างสุภาพ
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ใช่ครับ คุณล่ะ?”
“ผมฮั่วยิ้งจากสำนักข่าวเนชั่นนอล เดลี่ผมคือคนที่รับโทรศัพท์คุณครับ ผมเป็นบรรณาธิการของบริษัทเนชั่นนอล เดลี่ครับ” ฮั่วยิ้งกล่าว
“เชิญนั่งครับ” เซี่ยเหล่ยเชิญฮั่วยิ้งให้นั่งลงจากนั้นก็วางแฟ้มข่าวลงบนโต๊ะและส่งไปด้านหน้าฮั่วยิ้ง “ลองอ่านดูครับ ถ้าคุณกล้าส่งก็เอาข่าวนี้ไปได้เลยครับ”
ฮั่วยิ้งเปิดแฟ้มข่าวออกมาอ่านแต่ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่หน้าเขาก็ยิ่งตึงมากขึ้นเรื่อยๆ
ข่าวนั้นหลงบิงเป็นคนเตรียมเอาไว้ให้เซี่ยเหล่ยซึ่งเนื้อหาข้างในเป็นเอกสารของเจ้าหน้าที่บางคนที่รับเงินใต้โต๊ะจากตระกูลกู๋และบางรายการสามารถใช้เป็นหลักฐานได้เลย
“เอกสารพวกนี้……” ฮั่วยิ้งเริ่มพูดแต่ก็ลังเล
เซี่ยเหล่ยกล่าว “คุณกล้าตีพิมพ์มั้ยครับ?”
ฮั่วยิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่ใช่ไม่กล้าหรอกครับ แต่นี่…… เอาตรงๆนะครับคือถ้าผมตีพิมพ์ข่าวลงหนังสือพิมพ์ คนพวกนี้ต้องมารวมตัวกันแน่และอาชีพผมคงจบเห่ถ้าพวกเขา……”
เซี่ยเหล่ยพูดต่อ “คุณวางใจได้เลยครับเพราะคนที่แนะนำคุณให้ผมไม่ใช่คนขี้งกขี้เหนียว เรารับประกันความปลอดภัยของคุณได้อีกอย่างคือผมตระหนักเรื่องความเสียหายที่คุณอาจได้รับและผมก็เตรียมบางอย่างมาให้คุณแล้วครับ”
“คุณหมายความว่าไงครับ?” สายตาของฮั่วยิ้งดูระแวงเล็กน้อย
เซี่ยเหล่ยหยิบซองจดหมายออกมาจากกระเป๋าก่อนจะวางลงหน้าฮั่วยิ้ง
ฮั่วยิ้งเปิดซองดูด้านในและพบกับบัญชีเงินฝากของธนาคารควาฉี๋ เขาขมวดคิ้วแล้วถามออกมา “คุณเซี่ย นี่คืออะไร?”
เซี่ยเหล่ยพูดยิ้มๆ “คุณฮั่ว ธนาคารควาฉี๋มีสาขาในเมืองชิงตู่ด้วยคุณจะถอนเงินออกไปได้ทุกเมื่อ ธนาคารนี้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของประเทศเราเพราะฉะนั้นมันจับไม่ติดแน่นอนครับในบัญชีมีเงินอยู่ 5 ล้าน ผมว่าน่าจะพอชดเชยค่าเสียหายของคุณนะครับ”
“นี่……” ฮั่วยิ้งเริ่มลังเล
ในปัจจุบันเมื่อสื่อแบบดั้งเดิมลดลงบรรณาธิการอย่างฮั่วยิ้งมีเงินเดือนแค่ 3 แสนต่อปีแต่เซี่ยเหล่ยให้เขาถึง 5 ล้าน นี่มันเงินเดือนเขาเป็นสิบปีเลยนะ
เซี่ยเหล่ยพูดต่อ “ไม่ต้องกังวลครับ ผมไม่ได้บันทึกอะไรตอนเอาเงินเข้าบัญชีนี้ครับตอนนี้ก็ไม่มีเครื่องดักฟังบนตัวด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อ เราไปเช็คกันในห้องน้ำได้นะครับ”
“ไม่ไม่ไม่ คุณเซี่ย คุณคิดว่าผมเป็นคนยังไงกันครับ?” ฮั่วยิ้งพูดอย่างกระอักกระอ่วน “ผมไม่ใช่คนคอร์รัปชั่นนะ”
“ผมรู้ครับว่าคุณฮั่ว เป็นคนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์แต่คนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ก็ควรได้รับโอกาสดีๆในการทำเงินบ้างอย่าเข้าใจผมผิดล่ะ ผมไม่ได้ติดสินบนคุณนะ ผมแค่ให้รางวัลคุณเพราะงานของคุณต่างหาก” เซี่ยเหล่ยกล่าว
ฮั่วยิ้งนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็ตัดสินใจรับซองนั่นไป
เซี่ยเหล่ยยิ้ม “คุณฮั่ว คุณคือบรรณาธิการ คุณมีคนพร้อมรับคำสั่งและคุณก็มีเพื่อนในวงการสื่อมากมาย ผมแค่อยากขอให้คุณช่วยกระจายเรื่องนี้ออกไปยิ่งลงสื่อมากเท่าไหร่ยิ่งดีครับ เรื่องนี้คุณช่วยผมได้มั้ยครับ?”
ฮั่วยิ้งพยักหน้า “ไม่มีปัญหาครับ”
เมื่อรับรางวัล 5 ล้านไปแล้วถ้าจะมีปัญหาอีกก็คงเป็นเรื่องความโลภนั่นล่ะ
ฮั่วยิ้งไม่นั่งเฉยอีกต่อไป เขาหยิบแฟ้มข่าวและเดินออกไปเซี่ยเหล่ยนั่งคนเดียวต่ออีกสักพักก่อนจะออกจากร้านไปจากนั้นเขาก็ไปต่อที่ร้าน 4s
อุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าเปิดโรงงานทางกองทัพในเมืองชิงตู่ทั้งที ถ้าท่านประธานจะไปใช้เวลาในเมืองชิงตู่โดยไม่มีรถก็คงไม่ได้ แม้ป้ายทะเบียนรถเมืองชิงตู่จะได้มายากแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เซี่ยเหล่ยแค่ต้องหารถสักคันแล้วก็ให้หลงบิงพูดอะไรนิดๆหน่อยๆ เธอก็ได้ป้ายทะเบียนรถมาให้เขาได้ง่ายๆแล้ว
ครั้งนี้เซี่ยเหล่ยไม่ได้ซื้อรถสปอร์ตอย่างเคยแต่เขาไปที่ร้าน Chevrolet 4s และซื้อรถ Chevrolet Suburban SUV นำเข้ามาแทนรถประเภทนี้แข็งแรงทนทานการขับในแถบชนบทก็มีประสิทธิภาพรับมือได้ทั้งสภาพถนนในเมืองและภูเขาและการที่เซี่ยเหล่ยเลือกรถสัญชาติอเมริกาแบบนี้เพราะเหตุผลพิเศษอีกอย่างหนึ่งด้วยนั่นคือถ้าตระกูลกู๋ส่งรถมาไล่บี้เขารถประเภทนี้ก็ไม่น่าห่วงแต่เหตุการณ์อย่างนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้แต่ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด
เมื่อรูดบัตรซื้อรถแล้วเซี่ยเหล่ยก็ขับ Chevrolet Suburban ไปตามถนนเมืองชิงตู่ เมื่อมาถึงแยกไฟแดง เขาก็โทรหาหลงบิง
“จะโทรหาพอดีเลย เสร็จเรื่องรึยัง?” เสียงหลงบิงดังออกมาจากโทรศัพท์
เซี่ยเหล่ยตอบ “เรียบร้อย เขารับเงินผมและเขาก็กลัวตระกูลกู๋จะเล่นงานเขากลับด้วย คุณต้องหาคนคอยปกป้องเขาลับๆสักสองคนด้วยนะ เขาจะได้ทำงานได้สบายใจขึ้น”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว” หลงบิงกล่าว “คุณไปที่โรงพยาบาลของกองทัพตอนนี้เลยนะ แดลนี่ฟื้นแล้ว”
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” เซี่ยเหล่ยวางสายแล้วรีบขับไปต่อทันที
ติดตามตอนต่อไป……………