Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 285
TXV – 285 เปศวาร์
ขนมปังเนื้อหยาบ เนื้อแกะและพิราฟไรซ์ อาหารเช้ามือนี้เซี่ยเหล่ยได้กินไปแบบฟรีๆ นอกจากเจ้าของร้านจะไม่คิดเงินแล้ว เขายังชวนเซี่ยเหล่ยและถ่างหยู่เหยี่ยไปที่บ้านของเขาในฐานะแขกอีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้ทั้งสองคนเกรงใจมากๆ
ตลอดบทสนทนา ถ่างหยู่เหยี่ยจะใช้ภาษาอูรดูคุยกับเจ้าของร้านค้าคนนี้เสมอ ซึ่งเซี่ยเหล่ยไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย เขาจะพูดภาษาจีนบ้างเป็นบางครั้งแต่นั่นก็เข้าใจยากและผิดๆถูกๆไปหมด
“ดูเหมือนว่าเราคงต้องเรียนภาษาอื่นเพิ่มแล้วล่ะ ต่อให้เป็นภาษาหลักหลายภาษาก็คงยังไม่พอ ภาษาอูรดูของถ่างหยู่เหยี่ยเองก็ถือว่าคล่องทีเดียวค่อนข้างชัดเลยว่าเธอคุ้นเคยกับทางตะวันออกกลางมากๆ อาจจะเพราะแบบนี้ล่ะมั้งที่ภารกิจนี้ไม่ถูกส่งไปให้หลงบิงแต่ส่งให้ถ่างหยู่เหยี่ยแทน” เซี่ยเหล่ยคิดในใจ
หลังจากออกจากภัตตาคารแล้วถ่างหยู่เหยี่ยก็ขับรถ Ford Raptor ไปยังชายแดนอัฟกานิสถาน
“คนอัฟกานิสถานใช้ภาษาอะไรกันเหรอ?” เซี่ยเหล่ยถามขึ้น
ถ่างหยู่เหยี่ยตอบ “ภาษาพัชโตกับเปอร์เซีย ฉันพูดได้นะ” ก่อนจะยกตัวอย่างคำของทั้งสองภาษาด้วยท่าทีภูมิใจ
เซี่ยเหล่ยอ้าปากค้างก่อนจะพูดว่า “เก่งจัง แล้วภาษารัสเซียล่ะ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดต่อ “อันนั้นคงต้องหลงบิงแล้วล่ะเพราะงั้นถ้าคุณจะไปทำงานในยุโรปตะวันออกคุณต้องเลือกหลงบิงไปแทนแต่ถ้าในตะวันออกกลางก็ต้องฉันนี่แหละ”
“แล้วพี่ชายคุณล่ะ?”
“เขาพูดเวียดนาม พม่า ไทย ญี่ปุ่นได้ ส่วนภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักอยู่แล้ว เขาเลยได้รับงานหลักแถวเอเชียใต้กับในญี่ปุ่น” ถ่างหยู่เหยี่ยมองเซี่ยเหล่ยพลางยิ้ม “แต่ฉันรู้ว่าคุณพูดภาษาเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น รัสเซีย และอื่นๆได้ เพราะงั้นคุณก็ทำงานได้ทั่วโลกเลยสิ”
เซี่ยเหล่ย “……”
รถ Ford Raptor ขับออกมาจากเมืองอิสลามาบาดและมุ่งหน้าไปยังเมืองเปศวาร์ เมืองเปศวาร์เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นของปากีสถานซึ่งเมื่อผ่านเมืองนี้ไปจะเป็นชายแดนของประเทศอัฟกานิสถานแล้ว
ในช่วงบ่าย……ในที่สุดถ่างหยู่เหยี่ยและเซี่ยเหล่ยก็มาถึงเมืองเปศวาร์
เซี่ยเหล่ยคิดว่าเธอคงจะพาเขาไปพักที่โรงแรมหรืออะไรทำนองนั้นก่อนแต่เธอกลับขับตรงไปยังบ้านของคนทั่วไปแทนซึ่งรั้วรอบบ้านสูงมากๆ สูงประมาณ 4 เมตรมีรถFord Raptorsอีกสองคันจอดอยู่หลังรั้วสูงและมีเจ้าหน้าที่อีก 10 คนที่มาถึงก่อนแล้ว
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วก็มีเจ้าหน้าที่ที่กำลังยุ่งอยู่และอุปกรณ์ต่างๆอยู่ภายใน เซี่ยเหล่ยพบว่าที่นี่คือฐานของสำนักงานลับ 101 ในปากีสถานซึ่งถูกเรียกว่า “เซฟเฮ้าท์”
ถ่างหยู่เหยี่ยพาเซี่ยเหล่ยขึ้นมาบนชั้นสองของบ้าน “คุณอยู่ห้องนี้นะ ฉันจะอยู่ห้องข้างๆ ตอนนี้คุณพักผ่อนเถอะ เราจะเข้าอัฟกานิสถานคืนนี้ถ้าต้องการอะไรบอกได้เลยนะ เพราะเดี๋ยวออกจากเปศวาร์แล้ว สภาพแวดล้อมจะแย่กว่านี้มากๆ”
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ขอหนังสือภาษาเปอร์เซียกับภาษาอูรดูหน่อยสิ อ่านหนังสือก็ถือว่าเป็นการพักนะ”
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะให้คนเอามาให้” ถ่างหยู่เหยี่ยกล่าวก่อนจะออกจากห้องเซี่ยเหล่ยไป
เซี่ยเหล่ยมองไปรอบห้องตัวเอง ห้องของเขาเป็นห้องเรียบๆ มีเตียงเดี่ยว โต๊ะ เก้าอี้และมีห้องน้ำที่มีห้องอาบน้ำในตัว
เซี่ยเหล่ยเปลี่ยนไปมองที่เตียงแล้วจู่ๆก็นึกถึงตอนอยู่กับหลงบิงในเยอรมนีขึ้นมาเดือนนั้นเขานอนเตียงเดียวกับหลงบิง เล่นบทสามีภรรยากันแต่ถ่างหยู่เหยี่ยไม่ได้นอนกับเขาเหมือนเธอ
“นี่เราคิดอะไรอยู่นะ? ที่นี่ปากีสถานประเทศพันธมิตรกับจีนและที่นี่ก็เป็นเซฟเฮ้าท์ของสำนักงานลับ 101 ด้วยแล้วเราจะนอนกับคนอื่นในเตียงเดียวกันทำไม? บทสามีภรรยามันคงจำเป็นแค่ในสถานการณ์พิเศษเท่านั้นแหละ” เซี่ยเหล่ยคิดในใจ
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเคาะประตูก่อนจะส่งหนังสือภาษาเปอร์เซีย พัชโต และอูรดูหลายเล่มให้เซี่ยเหล่ยตามคำขอ
เมื่อเซี่ยเหล่ยบอกขอบคุณ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็เดินออกไป เซี่ยเหล่ยใช้เวลาอ่านหนังสือพวกนั้นในห้อง ความเร็วในการอ่านของเขาเรียกได้ว่าเป็นเต่าคลานเพราะตาซ้ายของเขาต้องทำหน้าที่เป็นสแกนเนอร์แต่เขาก็จำทุกอย่างที่เขาเห็นผ่านตามาได้หมดแล้ว
หลังจากอ่านหนังสือมาได้สักพัก ก็มีเสียงน้ำดังมากจากห้องข้างๆ
เซี่ยเหล่ยที่อยู่ในโหมดมองทะลุก็หันไปมองห้องข้างๆ จนผนังห้องหายไปเผยให้เห็นเตียงนอนในห้องนั้นบนเตียงมีเสื้อผ้า กางเกงในลูกไม้สีดำ บราสีดำ และถุงเท้าสีขาวของถ่างหยู่เหยี่ยวางอยู่ส่วนประตูห้องน้ำก็เปิดอยู่เช่นกันแต่ไม่ได้เปิดอ้าซ่าซึ่งก็ยังเห็นผิวขาวๆของคนข้างในอยู่ดี
ผิวเธอขาวและดูนุ่มราวกับหิมะที่สามารถละลายได้เพียงหายใจรด หน้าอกอวบตึงดูกระชับให้ความรู้สึกน่าทึ่งเมื่อเห็น บั้นท้ายของเธอก็เช่นกันมันไม่ใช่ความเซ็กซี่แบบเดียวกับอเลน่า บั้นท้ายกลมมนและเจ้าเนื้อให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มมากกว่า เรียวขายาว ดูสมบูรณ์แต่ก็ยังดูเล็กเรียวอยู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นผลมาจากการฝึกศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก เรียวขาเธอดูสวยไม่แพ้หลางซือเหยาเลย……
แม้นี่จะเป็นการมองแบบไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ถือว่าเป็นการถ้ำมองแบบอนาจารอยู่ดี เซี่ยเหล่ยควรจะมองไปทางอื่นได้แล้วแต่เพราะเขายังอึ้งอยู่จึงยังไม่ได้เบนสายตาไปไหนทันใดนั้นก็มีอีกความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา “ตาซ้ายเราเริ่มมองได้เร็วขึ้นทุกที รู้สึกว่าระยะเวลาตอนมองผ่านสิ่งกีดขวางก็สั้นลงเรื่อยๆ หรือว่านี่คือผลของการใช้งานมานาน ความสามารถนี้เลยพัฒนาขึ้น?”
หลังจากคิดอยู่สักพัก เซี่ยเหล่ยก็ยอมล้มเลิกความคิดบ้าๆนี้แล้วไปอ่านหนังสือต่อ
ผ่านไปพักใหญ่ใครบางคนก็มาเคาะประตูแต่ไม่รอให้เซี่ยเหล่ยละสายตาจากหนังสือถ่างหยู่เหยี่ยก็เปิดประตูเข้ามาก่อน ตอนนี้เธออยู่ในชุด outdoor สะอาดสะอ้าน ผมเปียกปอน เป็นภาพที่ดูสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามาก
เซี่ยเหล่ยวางหนังสือลงและมองเธออย่างช้าๆ “มีอะไรเหรอ?”
“เรายังไม่กินอะไรเลย คุณไม่หิวเหรอ?” ถ่างหยู่เหยี่ยกล่าว “เชฟทำเมนูจีนไว้ให้เราแบบพิเศษด้วยนะ”
เซี่ยเหล่ยตอบ “เมื่อเช้าผมกินอะไรเลี่ยนๆไปเยอะแล้วล่ะ ผมว่าตอนนี้ผมคงยังไม่หิว ผมไม่กินดีกว่า คุณกินเถอะ”
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดต่อ “จริงๆฉันก็ไม่หิวเท่าไหร่เหมือนกัน ดีเลย ตามมาสิฉันจะพาไปหาใครบางคน”
“ไปหาใคร?”
“ไกด์”
เซี่ยเหล่ยพูดด้วยแปลกใจ “เราจะทำงานนี้ต้องมีไกด์ด้วยเหรอ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยยกยิ้มนิดๆ “คุณที่นั่นอาฟกานิสถานนะ ไม่ใช่ปากีสถานมีกองกำลังของอเมริกา อังกฤษ และยุโรปอยู่ในนั้น กองกำลังติดอาวุธของ Saint Ita และกองกำลังป้องกันของอัฟกานิสถานก็เหมือนกัน คุณนึกภาพความวุ่นวายที่นั่นไม่ออกหรอก เราต้องมีไกด์เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ในพื้นที่นะ เขาจะได้ช่วยเราเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นและพาเราไปยังจุดหมายได้อย่างปลอดภัยด้วย”
“แล้วจุดหมายของเราคือส่วนไหนของอัฟกานิสถานล่ะ?”
“บามียาน” ถ่างหยู่เหยี่ยตอบ “ ปติมากรรมที่ดังระดับโลกก็อยู่ที่นั่นแต่โดนกองกำลังติดอาวุธของ Saint Ita ครอบครองไปแล้วล่ะ”
เซี่ยเหล่ยรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “หนิงจิงกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆอยู่ที่นั่นเหรอ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยตอบ “ใช่ ในเขตปุชตุน เรารู้พิกัดนะแต่มันอยู่ในเขตสงครามเพราะงั้นเราเลยต้องพึ่งคนพื้นที่ให้พาเข้าไปไงล่ะ”
“หนิงจิงกับคนอื่นที่นั่นเกี่ยวข้องอะไรกับปติมากรรมแห่งบามียานรึเปล่า?” ในหัวเซี่ยเหล่ยประมวณผลอย่างรวดเร็ว
ถ่างหยู่เหยี่ยนิ่งเงียบไปเมื่อเซี่ยเหล่ยถามแบบนั้น “หนิงจิงกับคนอื่นกำลังทำงานอะไรสักอย่างที่ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร อย่าถามฉันเลยและคุณเองก็ห้ามไปไหนคนเดียวล่ะ”
เซี่ยเหล่ยพูดต่อ “ต้องไปสิ เปศวาร์เป็นเมืองที่สวยนะ ไม่ได้มากันได้บ่อยๆด้วย ผมต้องไปช็อปปิ้งสักหน่อย”
ถ่างหยู่เหยี่ยหยิบปืนที่เอวตัวเองออกมาโยนให้เซี่ยเหล่ย “เอาไปสิ นี่อาวุธคุณ”
เซี่ยเหล่ยยิ้ม “ในที่สุดก็ยอมให้ปืนผมสักที”
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดต่อ “ถึงที่นี่จะเป็นเปศวาร์ แต่เราก็อยู่ใกล้อัฟกานิสถานมากนั่นคือเหตุผลที่เราไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะงั้นเลยต้องให้ปืนคุณไว้ป้องกันตัวด้วย พอคุณเข้าไปในอัฟกานิสถานแล้ว คุณก็จะทำอะไรก็ได้ตามต้องการเลย ไปกันเถอะ”
เซี่ยเหล่ยเหน็บปืนไว้ที่เอวก่อนจะเปิดประตูเดินไปพร้อมถ่างหยู่เหยี่ย
ในช่วงบ่าย ถนนก็ถูกเคลือบไปด้วยแสงพระอาทิตย์สีทองตึกต่างๆก็เหมือนกับกำลังอาบแดดมีดอกไม้สีสดปลูกอยู่ในเมืองด้วย ภาพทั้งหมดตอนนี้ดูราวกับภาพวาด
ไม่ไกลนัก มีหญิงสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาเซี่ยเหล่ยจึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแต่พวกเธอกลับหันไปหาทางอื่นแทนไม่แม้แต่จะมองเซี่ยเหล่ยสักนิด
นั่นทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกอึดอัด “อะไรกันเนี่ย?”
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดยิ้มๆ “เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของที่นี่คือ ‘ความเรียบง่าย’ “
ทั้งสองคนเดินข้ามถนนไปช้าๆ มุ่งหน้าไปยังตลาดถ่างหยู่เหยี่ยบอกเซี่ยเหล่ยว่าไกด์คนนั้นอยู่ในตลาดเป็นชาวปาทานชื่อคาลาซึ่งกำลังขายถั่วและข้าวสาลีในตลาด แต่นั่นก็แค่ฉากบังหน้าเพราะตัวตนจริงๆของเขาคือสมาชิกรอบนอกของสำนักงานลับ 101 ซึ่งทุกๆเดือนเขาจะได้เงินเดือนมหาศาลจากที่นั่นอยู่แล้ว
เมื่อเข้ามาในตลาด เซี่ยเหล่ยก็ต้องตกตะลึงกับแผงลอยตามทางไม่ใช่พายหรือของทำมือที่ควรจะขายตามแผงลอยทั่วไป แต่มันเป็นอุปกรณ์ทางทหารของอเมริกามีตั้งแต่เสื้อผ้ายันอุปกรณ์ป้องกันตัวหรืออาวุธและกระสุนของกองทัพก็มี
เจ้าของแผงลอยเห็นเซี่ยเหล่ยกำลังจ้องมองสินค้าของเขาจึงพูดขึ้นด้วยภาษาอังกฤษแปร่งๆ “เพื่อน มาดูก่อนสิของดีๆทั้งนั้นเลยไรเฟิล 100 ดอลล่าร์พร้อมกระสุน 100 นัด”
เซี่ยเหล่ยอยากเดินเข้าไปดูตามคำเชิญแต่ถ่างหยู่เหยี่ยจับมือเขาไว้ก่อน “ระวังสายตาคนด้วย”
เซี่ยเหล่ยจึงโบกมือปฏิเสธพ่อค้าก่อนจะเดินออกไปกับถ่างหยู่เหยี่ย
ถ่างหยู่เหยี่ยกระซิบ “ฉันไม่รู้ว่าที่นี่มีสายข่าวของกี่ประเทศทำงานอยู่ อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าดีกว่า ไม่งั้นคนอื่นจะจับตามองเราเอาได้”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ผมรู้แล้วแต่แค่สงสัยไม่ได้อยากซื้อปืนจริงๆหรอก”
ระหว่างที่พูดเซี่ยเหล่ยก็มองรอบตัวไปด้วยตลาดเทอร์มินอลแห่งนี้ค่อนข้างแออัดไม่ใช่มีแค่ลูกค้าชาวอัฟกานิสถานเพียงอย่างเดียวแต่ก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะแยะมากมายหลายคนเป็นนักท่องเที่ยวตะวันตกผมบลอนด์ นักท่องเที่ยวบางคนถ่ายรูปเซลฟี่ นักท่องเที่ยวบางคนก็ทำธุรกิจโดยการต่อรองราคากันไปมา
ซึ่งสภาพแวดล้อมแบบนี้ยิ่งทำให้เซี่ยเหล่ยกังวลเพราะถ้าเขาถูกคนของ CIA เจอตัวเข้า เขาคงต้องรับมือปัญหาอื่นนอกจากการไปช่วยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ถูกจับตัวไว้แล้วล่ะ
เซี่ยเหล่ยเดินตามถ่างหยู่เหยี่ยลึกเข้าไปในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันที่มุมๆหนึ่งมีผู้หญิงพร้อมผ้าคลุมหน้าสีดำคนหนึ่งกำลังชี้นาฬิกาข้อมือของเธอไปยังคนทั้งคู่อยู่….