Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 320
TXV – 320 ยอมแพ้ ?
คําพูดนี้เป็นการเยาะเย้ยอย่างเห็นได้ชัด
เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ผมไม่ได้ถูกเชิญ ผมไม่ทราบ…”
อันซูฮยอนมองไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ผมยกให้ชเว มยองโฮ เป็นคนรับผิดชอบและจัดการ เอาเป็นว่าผมจะไปถามเขาให้แล้วกันว่าทําไมถึงไม่ได้เชิญคุณอันที่จ ริงแขกผู้มีเกียรติในงานวันนี้ต่างเป็นผู้คนที่มีหน้ามีตาในสังคมของประเทศเกาหลีแต่เอาเป็นว่าผ มรับรองคุณให้เองก็แล้วกันเมื่อคุณผ่านการรับรองจากผมแล้ว ผมคิดว่าไม่นานคุณก็คงจะได้รับ การเชิญ”
เซี่ยเหลียได้แต่ยิ้ม เขาไม่ได้พูดอะไรตอบ
เฉินตูเทียนหยินแอบถอนหายใจเบาๆ แม้แต่ตอนนี้เธอก็ค่อนข้างที่จะผิดหวังกับเซีย เหล่ยแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่เธอต้องการแต่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นไปในแบบที่เธอคิดเหมือนก่อนหน้านี้ เซี่ยเหล่ยกลายเป็นคนที่ยอมอ่อนข้อให้กับคนอื่นไปเสียแล้ว เขากลายเป็นคนที่ใครๆก็สามารถ เยาะเย้ยเขาได้โดยที่เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปเลย!
อันซูฮยอนไม่ได้ต้องการที่จะพูดกับเซี่ยเหลีย เขาจึงเดินเข้าไปในห้องและตรงไปยัง เฉินตูเทียนหยินในระหว่างที่เดินไปนั้นใบหน้าของเขาแสดงรอยยิ้มออกมาตลอดเวลาที่มองไป ที่เธอหลังจากเดินไปหยุดตรงหน้าเธอแล้วก็พูดขึ้นอย่างอ่อนโยนไปว่า ”เทียนหยิน คืนนี้คุณสวยจ ริงๆ ผมมั่นใจเลยว่าคุณจะต้องสวยที่สุดในงานเลี้ยงอย่างแน่นอน”
เฉินตูเทียนหยินตอบอันซูฮยอนพร้อมรอยยิ้มไปว่า “ขอบคุณ”
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเฉินตูเทียนหยินทําให้อันซูฮยอนรู้สึกดีอย่างมากเพราะเธอยิ้มให้กับเขาแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทําให้อันซูฮยอนรู้สึกดีอย่างมากอีกเหตุผลห นึ่งก็คือการที่เขาได้ทําลายและเหยียบย่ําเซี่ยเหลี่ยได้สําเร็จนั้นเองเขาทําให้เซี่ยเหล่ยกลายเป็นคนไม่มีทางเลือกได้เลยเมื่ออยู่ที่นี่!
“พวกเราไปกันเถอะ งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว” อันซูฮยอนพูดกับเฉินตูเทียนหยินพร้อมทําท่าทางการเชิญชวนเธอแบบผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษ
“ตกลง” เฉินตูเทียนหยินพูดพร้อมมองไปที่เซี่ยเหลียแต่ในขณะนั้นเธอลังเลที่จะเรียกเซี่ยเหลี่ยให้เดินไปด้วยกัน
เซี่ยเหลี่ยมองไปที่เฉินตูเทียนหยินแล้วพูดขึ้นว่า “เทียนหยิน มีบางอย่างอยู่บนหน้า ของคุณ” เมื่อพูดเสร็จเซี่ยเหลี่ยไม่รอให้เฉินตูเทียนหยินตอบหรือทําอะไรเขารีบยกมือขึ้นและพยายามจะไปจับที่แก้มของเธอ
การยื่นมือออกไปของเซี่ยเหลี่ยไม่ได้รวดเร็วแต่อย่างใดแถมเขายังแสดงท่าทางที่ลังเลที่จะยื่นมือออกไปด้วยเช่นกัน
แม้ว่าเฉินตูเทียนหยินจะไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้หรือขัดขืนแต่ไม่ใช่กับอันซูฮยอนเขา รีบเอามือของเขาจับไปที่มือของเซี่ยเหล่ยก่อนที่มือของเซี่ยเหลี่ยจะเอื้อมไปถึงแก้มของเฉินตูเทียนหยินจากนั้นอันซูฮยอนก็พูดขึ้นว่า “นั่นคุณจะทําอะไร?”
จังหวะที่มือของอันซูฮยอนจะทันได้จับมือของเซี่ยเหลียนั้น เซี่ยเหล่ยก็ได้หันมือของ เขาไปจับมือของอันซูฮยอนโดยตรงแทน เซี่ยเหลียเงียบอยู่ครู่หนึ่งในขณะที่ยังจับมืออยู่จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ผมคงไม่เหมาะกับสถานที่แบบนั้นหรอก ผมขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่า” เมื่อพูดจบซี่ยเหล่ยก็เดินกลับออกไป
“เหล่ย คุณ ฉันและอันซูฮยอน พวกเราจะไปงานเลี้ยงด้วยกัน” เฉินตูเทียนหยินตัดสินใจพูดขึ้นเมื่อเซี่ยเหลี่ยเดินไปถึงหน้าประตูห้องของเธอแล้วที่เธอพูดชวนเซี่ยเหลียนั้นก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่ชวนให้เซี่ยเหลี่ยมาที่เกาหลีใต้หากไม่ให้เซี่ยเหลียไปร่วมงานเลี้ยงด้วยนั่นจะทําให้เฉินตูเทียนหยินรู้สึกผิดด้วยเหตุผลนี้จึงทําให้เธอพูดชวนเซี่ยเหลียออกไป
แม้ว่าในความเป็นจริงอันซูฮยอนจะไม่อยากให้เซี่ยเหลียอยู่ใกล้กับเฉินตูเทียนหยิน แต่เขาก็ไม่อยากที่จะขัดความตั้งใจของเธอทําให้เขาพูดขึ้นว่า “คุณเซียคุณไม่ได้ยินที่เทียนหยินพูดงั้นเหรอ การเชิญจากเธอก็เหมือนการเชิญจากผมดังนั้นคุณควรที่จะมาในงานเลี้ยงคืนนะ”
“ผมไม่ค่อยสันทัดกับงานแบบนี้ซักเท่าไหร่” เซี่ยเหลียพูดต่อว่า ” ขอบคุณแต่ตอนนี้ ผมอยากจะเข้าห้องน้ํา”
เซี่ยเหลียพูดขึ้นและรีบตรงไปยังห้องน้ําอย่างรวดเร็ว
อันซูฮยอนหัวเราะเยาะเบาๆพร้อมพูดขึ้นว่า “หยาบคายที่สุด”
คิ้วอันละเอียดอ่อนของเฉินตูเหี่ยวย่นทันทีดูเหมือนว่าการที่เธอชวนเซี่ยเหลี่ยมาด้วยในครั้งนี้คงจะเป็นความผิดพลาดของเธอเอง
“เทียนหยิน ปล่อยคุณเซียไปเถอะ เราไปกันดีกว่า” อันซูฮยอนพูด
“อื้ม เราไปกันเถอะ” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้น เธอเดินออกไปจากห้องไปพร้อมกับอันซูฮยอน
เมื่อเข้าไปในห้องน้ําเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเหล่ยก็รีบหยิบกาวชนิดพิเศษสีน้ําเงินขึ้นมา ทันทีจากนั้นก็ราดมันลงไปที่มือของเขาเองซึ่งเป็นมือที่จับมือของอันซูฮยอนได้ก่อนหน้านี้ หลังจากกาวพิเศษ2ชนิดนี้ผสมกันเรียบร้อยแล้วลายนิ้วมือที่เป็นของเซี่ยเหลี่
ยในตอนแรกตอน นี้มันกลายเป็นลายนิ้วมือของอันซูฮยอนไปเรียบร้อยหลังจากลายนิ้วมือเปลี่ยนไปแล้วเซี่ยเหล่ยก็รีบดูนาฬิกาทันทีเพราะเขามีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้นสําหรับการขโมยดาบอาทิสล่า
“ผมได้มันมาแล้วกําลังจะเริ่มขั้นตอนต่อไป” เซี่ยเหล่ยพูดผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็ก
หลังจากนั้นไม่นานที่หูฟังขนาดเล็กของเซี่ยเหล่ยก็มีเสียงของหลงบิงตอบกลับมาว่า “เริ่มดําเนินการต่อได้”
หลังจากพูดคุยกันจบแล้ว เชี่ยเหล่ยก็เดินออกจากห้องน้ําในห้องตอนนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วอันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าทั้งเฉินตูเทียนหยินและอันซูฮยอนจะต้องเดินออกไปก่อนโดยไม่รออยู่แล้วแต่ถึงจะรู้อย่างนั้นแล้วในตอนนี้ในใจของเขากลับรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“เรากลายเป็นคนไม่เอาถ่านไปแล้วงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมหัวเราะเยาะตัวเอง จากนั้นก็เดินออกจากห้องของเฉินตูเทียนหยินไป
งานเลี้ยงในค่ําคืนนี้ถูกจัดที่ห้องโถงห้องหนึ่งที่สวยงามในบ้านของตระกูลอัน ห้องนี้มีขนาดใหญ่มากแต่มันก็ไม่ได้มีแขกในงานมากตามขนาดห้องเพราะแขกที่ได้รับเชิญมาในงานนี้เป็นแขกที่มีหน้ามีตาและอยู่ในระดับสูงทําให้มีผู้คนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ได้รับเชิญในตอนนี้เซี่ยเหล่ยก็เดินเข้ามาในห้องโถงนี้เพื่อดูเฉินตูเทียนหยิน เฉินตูเทียนหยินกําลังทักทายและพูดคุยกับแขกผู้มีเกียรติที่อยู่ในงานอย่างทั่วถึง
จังหวะนี้ก็มีพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งถือถาดที่มีเหล้าและไวน์อยู่หลายแก้วเดินเข้ามา หาเซี่ยเหลี่ยจากนั้นก็กระซิบขึ้นว่า “มันอยู่ที่ไหน?”
ดูเหมือนว่าเซี่ยเหล่ยค่อนข้างจะตกใจเมื่อเห็นว่าพนักงานเสิร์ฟที่เดินมากระซิบกับ เขานั้นคือฉิงเสวียงตอนนี้เธอได้เปลี่ยนลุคไปอย่างสิ้นเชิง มันก็คงจะไม่แปลกที่เซี่ยเหลียจะตกใจเมื่อเห็นในครั้งแรก
เพราะการแสดงจะต้องดําเนินการต่อไปทําให้เซี่ยเหล่ยหยิบแก้วไวน์แดงขึ้นมาจากนั้นก็พูดตอบไปว่า “ในห้องสมุดของอันกวนจะมีห้องลับที่ถูกซ่อนไว้แต่อย่าทําอะไรผลีผลาม เราจะต้องไปด้วยกัน”
“เราเหลือเวลาอีก 50 นาที” ฉิงเสวียงพูดเตือนเซี่ยเหลี่ย
“ผมรู้แล้ว คุณไปรอผมก่อนก็แล้วกัน” เซี่ยเหล่ยพูด
ฉิงเสวียงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปทางอื่น
เซี่ยเหลียสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าที่ฉิงเสวียงเป็นเครื่องแบบเหมือนกับพนักงานคนอื่นๆที่กําลังเสริฟเครื่องดื่มในงานนี้ทําให้รู้ว่าจริงๆแล้วที่นี่มีพนักงานไม่เพียงพอจึงทําให้ต้องไปจ้างพนักงานภายนอกเข้ามาเพิ่ม นี่จึงเป็นโอกาสให้ฉิงเสวียงปลอมตัวเข้ามาได้
ในหัวของเซี่ยเหล่ยตอนนี้จู่ๆก็คิดขึ้นมาได้อีกว่า ถ้าฉิงเสวียงปลอมตัวเข้ามาที่นี่ได้คนอื่นๆก็คงจะปลอมตัวเข้าได้เหมือนกันทําให้เซี่ยเหลียเริ่มกวาดสายตาไปให้ทั่วๆงานในทันทีไม่นานเขาก็เจอกับถ่างยั่วฉวนอย่างรวดเร็ว
ถ่างทั่วฉวนในตอนนี้เขาเองก็ปลอมตัวเหมือนกันแม้ว่าจะปลอมตัวอยู่แต่เขาดูกลมกลืนกับผู้คนเป็นอย่างมาก
จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็จําอะไรบางอย่างที่ถ่างหยู่เหยี่ยเคยพูดได้เธอเคยบอกว่าถ่างยั่วฉวน เขาค่อนข้างที่จะเป็นที่นิยมในชาวเกาหลีหรือแม้แต่ญี่ปุ่นก็ด้วยการที่เซี่ยเหลี่ยเห็นท่าทางของถ่างทั่วฉวนในตอนนี้ก็ทําให้เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย
ในงานเลี้ยงนี้เซี่ยเหลียหาหลงบิงไม่เจอ เขาก็คิดว่าเธอคงจะรับหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการล่าถอยและการหลบหนี
ในตอนนี้ทุกคนรอให้เซี่ยเหลียเปิดประตูให้และหลังจากนั้นจะได้เอาดาบอา ที่ส์ล่าออกมาและหนีไป
ตอนนี้เซี่ยเหลียวางแก้วไวน์ลงและกําลังจะเดินออกจากงานเลี้ยง
“คุณเซีย! ” จู่ๆอันซูฮยอนก็ส่งเสียงเรียกเซี่ยเหลียพอดี
เซี่ยเหลียรู้สึกตกใจไม่น้อยจากนั้นเขาก็หันไปหาอันซูฮยอน เขายิ้มก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “มีเรื่องอะไรงั้นเหรอคุณอัน?”
“คุณจะฟันดาบกับผมได้หรือไม่?” อันซูฮยอนพูดกับเซี่ยเหลี่ยพร้อมแสดงท่าทางดู
“ฟันดาบงั้นเหรอ?” เซี่ยเหลียพูดขึ้นและส่ายหัวจากนั้นก็พูดต่อว่า “ไม่ดีกว่า”
อันซูฮยอนพูดต่อทันทีว่า “คุณเชีย คุณไม่ควรที่จะถ่อมเนื้อถ่อมตัวหรอกนะ ผม ได้ยินมาว่าคุณเรียนวิชากังฟูมาด้วยแล้วทําไมไม่ดวลกับผมหน่อยหล่ะ กลัวอะไรงั้นเหรอ? “
เซี่ยเหลี่ยพูดกลับไปว่า “ผมขอโทษจริงๆ แต่ผมไม่สามารถฟันดาบกับคุณได้ ”
“ดูเหมือนว่าคุณจะกลัวจริงๆซินะ ความกล้าของคุณมันไม่ได้น้อยไปใช่ไหม?” อันซู ฮยอนพูดเขาไม่พลาดโอกาสที่จะเหยียบย่ําและเยาะเย้ยเซี่ยเหลี่ยแม้แต่ครั้งเดียว
ด้วยฝีมือของเซี่ยเหลียในตอนนี้ อันซูฮยอนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาได้เลยแต่ที่เขาไม่รับคําท้าก็เพราะว่าตอนนี้เขามีเวลาเหลือเพียง 50 นาทีเท่านั้นสําหรับปฏิบัติภารกิจ ดังนั้นไม่ ว่าอันซูฮยอนจะกระตุ้นเซี่ยเหลียด้วยคําพูดมากแค่ไหนก็ตามเชี่ยเหล่ยก็จะไม่เล่นด้วยอย่างแน่นอน
ตอนนี้เฉินตูเทียนหยินก็เดินเข้ามาพร้อมพูดกระซิบกับเซี่ยเหลียว่า “คุณจะกลัวไป ทําไม?หรือว่าจริงๆแล้วคุณกลัวแพ้เขาอย่างนั้นเหรอ?”
คําพูดของเฉินตูเทียนหยินทําให้เซี่ยเหลี่ยสับสนและลังเลได้ไม่น้อยเลย
แขกจํานวนมากตอนนี้ต่างพากันกระซิบกันเกี่ยวกับการดวลดาบของพวกเขาทั้งสอง บ้างก็ว่าเป็นการไม่ชอบหน้ากันระหว่างเซี่ยเหลียและอันซูฮยอนเอง บ้างก็ว่าการดวลกันครั้งนี้มีเฉนตูเทียนหยินเป็นต้นเหตุ
ในจังหวะที่เซี่ยเหล่ยกําลังจะหาข้ออ้างพูดออกไปนั้นหูฟังขนาดเล็กของเขาก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงของถ่างยั่วฉวนพูดว่า “คุณสู้กับเขาแล้วก็ยอมแพ้ซะ นั่นพอจะเป็นข้ออ้างให้คุณออกจากที่นี่ได้”
แม้ต้องอยู่ในสถานการเช่นนี้ถ่างยั่วฉ่วนก็ยังคิดหาวิธีการรับมือและคิดแผนการที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาได้
ด้วยคําพูดของถ่างยั่วฉวนทําให้ตอนนี้เซี่ยเหลียพูดออกไปเสียงดังว่า “ตกลงงั้นเรามาดวลกัน”
อันซูฮยอนยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “ดี…ผมจะให้คนนําอุปกรณ์และเครื่องป้องกันเข้ามา”
เซี่ยเหลียรีบพูดขึ้นทันทีว่า “ไม่จําเป็นต้องใส่เครื่องป้องกันหรอกนะ”
“หม…?” อันซูฮยอนหัวเราะเยาะเย้ยก่อนจะพูดต่อว่า” ผมเป็นแชมป์ฟันดาบเชียวนะ ถ้าคุณไม่ใส่เครื่องป้องกันจะทําให้คุณเจ็บตัวถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลได้เลย… “
“คุณไม่จําเป็นต้องห่วงผมในเรื่องนั้นหรอกนะ” เซี่ยเหลียพูดขึ้นอย่างมั่นใจ
ตอนนี้อันซูฮยอนก็ให้สัญญาณกับบอดี้การ์ดเพื่อให้พวกเขานําดาบเข้ามาให้บอดี้ การ์ดแจกดาบให้กับทั้งเซี่ยเหลียและอันซูฮยอนดาบนี้เป็นดาบจริงแต่มันจะแตกต่างจากดาบทั่วไปตรงที่หัวของมันไม่ได้แหลมคมดังนั้นดาบเล่มนี้ไม่สามารถใช้แทงคนให้ตายได้
เมื่อเห็นทั้งเซี่ยเหลียและอันซูฮยอนได้รับอาวุธแล้ว บรรดาแขกภายในงานต่างก็พา กันถ่อยล่นออกไป เพื่อให้พวกเขาได้มีพื้นที่มากพอในการต่อสู้
อันกวนยิ้มขึ้นก่อนพูดกับอันซูฮยอนไปว่า “ดูเหมือนว่าลูกคงจะมีเลือดของความเป็นซามูไรอยู่ในตัวไม่น้อยเลยฮ่าฮ่า…แต่สิ่งที่ควรระวังไว้ให้ดีคืออย่าให้แขกภายในงานของเราโดนลูกหลงระหว่างการต่อสู้ด้วย ”
“ผมรู้แล้ว” อันซูฮยอนพูดตอบพร้อมแสดงท่าทางที่มั่นอกมั่นใจว่าจะชนะอย่างแน่
นอน
จังหวะนี้เฉินตูเทียนหยินก็เข้าไปกระซิบข้างหูของเซี่ยเหลียอีกครั้งว่า “เอาชนะเขา
เพื่อฉัน”
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจเบาๆให้กับสิ่งที่เฉินตูเทียนหยินขอแม้ว่าความจริงเขาก็อยากที่ จะเอาชนะอันซูฮยอนแต่เขาก็รู้ตั้งแต่ก่อนสู้อยู่แล้วว่าทําไม่ได้ เพราะสิ่งที่เซี่ยเหลียต้องทําคือการยอมแพ้และรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“คุณเซีย คุณใช้มือซ้ายงั้นเหรอ?” อันซูฮยอนพูดขึ้นเพราะสังเกตเห็นเซี่ยเหลียจับดาบด้วยมือซ้าย
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปอย่างเรียบง่ายแต่ความหมายรุนแรงว่า “คนเกาหลีใต้ ใช้ปากในการฟันดาบงั้นเหรอ?”
“!” อันซูฮยอนพูดในลําคอจากนั้นก็พุ่งตัวออกโจมตีเซี่ยเหลียในทันที
ความเร็วของอันซูฮยอนในการพุ่งโจมตีครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและลื่นไหล แม้ว่าในสายตาของผู้ชมจะมองว่าอันซูฮยอนบุกได้รวดเร็วมากแต่กับเซี่ยเหลี่ยแล้วเขารู้สึกได้ว่ามันช่างช้าเหลือเกิน จากการโจมตีของอันซูฮยอนในตอนนี้ เขาได้เปิดช่องโหว่ไว้ถึงสองจุดเซี่ยเหลียสามารถมองเห็นและสามารถที่จะตอบโต้กลับไปได้ตรงจุดทันที แต่เขาก็ทําไม่ได้เพราะเขาจะต้องแพ้ในการดวลกันครั้งนี้
เมื่อเซี่ยเหลียไม่สามารถโจมตีกลับไปยังช่องโหว่ได้ สิ่งที่เขาทําได้อย่างเดียวในตอน นี้คือปัดป้องการโจมตีของอันซูฮยอน
ติดตามตอนต่อไป………..