Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 329
TxV – 329 แผนสํารอง ?
หลงบิงไม่ได้หยิบปืนขึ้นมายิง ตอนนี้เซี่ยเหลียและหลงบิงขยับตัวไปไหนมาไหนได้ลําบากเนื่องจากภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่แคบมาก มือของเขาก็ไม่ได้มีที่ยึดเกาะ จึงทําให้ต้องไปเกาะอยู่ที่หน้าอกของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ
ร่างกายของเซี่ยเหล่ยมีการเปลี่ยนแปลงทันที ส่วนลับของเขาค่อยๆตื่นขึ้น
จังหวะนี้หลงบิงเองก็รู้สึกได้ถึงร่างกายของเซี่ยเหล่ยที่มีการเปลี่ยนแปลง และรู้ว่ามันหมายความว่ายังไงแต่ตอนนี้เธอไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ โดยปกติหลงบิงเป็นคนตรงไปตรงมา ดังนั้นเมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนี้ หน้าของเธอก็แดงทันที
เมื่อรถยังคงเคลื่อนที่อยู่ทําให้ตัวของทั้งสองคนโยกไปมาเล็กน้อยตามการเคลื่อนที่ของรถ
“ลามก คุณคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่?” หลงบิงถาม
“ลามกตรงไหน?” เซี่ยเหล่ยถามกลับ
“จากการกระทําของคุณ ตอนนี้คุณไม่ควรชื่อเซี่ยเหล่ยแต่ควรชื่อเซี่ยหลิ่ว มากกว่า”หลงบิงพูด
“…..” เซี่ยเหลีย
จังหวะนี้รถบรรทุกคอนเทนเนอร์ได้เร่งความเร็วขึ้นทําให้ริมฝีปากของหลงบิงไปประกบกับเซี่ยเหลียอีกครั้ง
ริมฝีปากของเธอยังคงนุ่มและชุ่มชื่นแต่ไม่นานพวกเขาทั้งคู่ก็ได้พยายามแยกปากออกจากกัน
เซี่ยเหล่ยยิ้มจากนั้นก็รีบพูดก่อนทันทีว่า “คุณไม่ควรชื่อหลงนิ่งเหมือนกันนะ คุณควรจะชื่อหลงเซ่อมากกว่า ผมขอเตือนคุณว่าอย่าจูบผมอีก ไม่อย่างนั้นผมจะ…”
“ไม่อย่างนั้นจะ… ไม่อย่างนั้นจะทําไมงั้นเหรอ?” การแสดงออกของหลงบิงดูรุนแรงมากขึ้น
“ผม…” ยังไม่ทันจะได้พูดจนจบรถก็โยกทําให้หัวของเซี่ยเหลียฝาดเข้ากับขอบลังไม้
“ฮ่า ๆ คุณสมควรโดน… หึ!!” หลงบิงพูด
“มันเป็นอุบัติเหตุ“ เซี่ยเหล่ยพูด
ตอนนี้ถ่างปั่วฉ่วนได้ขับรถเข้าไปจอดในคลังสินค้า จากนั้นก็ลงจากรถและเดินไปเปิดประตูตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อปล่อยให้เซี่ยเหล่ยและหลงบิงออกมา
“ลําบากจริงๆกว่าจะมาถึงที่นี่” ถ่างปั่วฉ่วนยิ้มพร้อมพูดกับเซี่ยเหลียและหลงบิงทันทีที่เปิดประตู
เซี่ยเหลียไม่ได้ตอบถ่างปั่วฉ่วนแต่อย่างใด เขารีบกระโดดออกจากตู้คอนเทนเนอร์ และเดินออกไปทางด้านขวาของตัวรถจากนั้นค่อยหันไปยิ้มให้กับเขา
หลังจากอยู่ที่คลังสินค้ามาสองชั่วโมง เรือขนส่งสินค้าก็มาจอดยังท่าเทียบเรือโดยเป้าหมายของเรือขนส่งลํานี้อยู่ที่ท่าเทียบเรือของเซี่ยงไฮ้
เรือลํานี้เป็นสิ่งที่พวกเขาเตรียมไว้สําหรับการเดินทางกลับประเทศ
เมื่อไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนก็รีบขึ้นเรือและออกเดินทางกลับทันที
ในห้องโดยสารเซี่ยเหลียหยิบดาบโบราณขึ้นมาและมองอย่างระมัดระวัง ถ่างปั่วฉ่วนและหลงบิงก็เช่นกัน พวกเขามองไปที่ดาบพร้อมกับเซี่ยเหลีย
ดาบเล่มนี้มีชื่อว่าอาทิสล่า เซี่ยเหล่ยต้องใช้ความพยายามและความเสี่ยงอย่างมากในการขโมยมันมา มันมีอายุมากกว่าพันปีและมันยังเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ของชาวฮั่น
ในระยะเวลาที่ผ่านมากว่าพันปี ไม่รู้ว่าจะมีใครตายจากดาบเล่มนี้มากี่คนแล้ว แต่ก็ดูจะไม่น้อยเหมือนกัน
“มันมีน้ำหนัก 31 ปอนด์” ถ่างปั่วถ่วนพูดพร้อมพูดต่อทันทีว่า “ด้วยน้ำหนักที่ไม่เหมือนกับดาบทั่วไปของมัน ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากที่จะศึกษามันอย่างละเอียดซักหน่อย”
แน่นอน ถ่างปั่วฉวนเป็นคนในตระกูลถ่าง พวกเขามีความสนใจในอาวุธอย่างมากยิ่ง นี่เป็นดาบโบราณแล้วด้วย ทําให้เขาอยากที่จะศึกษาดาบอาทิสล่าให้มากกว่านี้
หลงบิงพูดขึ้นว่า “เรื่องอยากจะศึกษานั้นเอาไว้ก่อน อันดับแรกเราต้องใช้มันในการแลกเปลี่ยนน้องสาวของคุณพร้อมกับเหล่านักวิจัยเสียก่อน”
ถ่างปั่วฉ่วนพูดว่า “มันก็เป็นเพียงแค่ความอยากเท่านั้น ยังไงซะการนํามันไปแลกเปลี่ยนก็เป็นเรื่องสําคัญที่สุดสําหรับผม” เขาพูดพร้อมมองไปที่เซี่ยเหล่ยและก็พูดต่อทันทีว่า “น้องเซี่ย โปรดใช้มันและพาน้องสาวผมกลับมาด้วย”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าพร้อมพูดว่า “สบายใจได้ ผมจะพาน้องสาวคุณกลับมาประเทศจีนอย่างปลอดภัยเอง ”
ถ่างปั่วฉวนยิ้มพร้อมกับพูดอีกว่า “ที่ผมเคยบอกไปก็ยังมีผลอยู่ ตราบเท่าที่คุณพานองของผมกลับมาได้อย่างปลอดภัย ปูของผมก็จะรับคุณเป็นศิษย์ และเมื่อนั้นคุณก็จะถือว่าเป็นสมาชิกของตระกูลถ่างเหมือนกับผม”
ในความเป็นจริง เซี่ยเหลียไม่สนใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลถ่าง เขาสนใจเฉพาะเทคนิคในการใช้อาวุธลับของพวกเขาเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นานหลงบิงและถ่างปั่วฉวนก็ลุกขึ้นไปสูดอากาศ ทําให้ตอนนี้เซี่ยเหล่ยมีเวลาในการสังเกตดาบอาทิสล่าอย่างละเอียด
เซี่ยเหล่ยกระตุกตาซ้ายเล็กน้อยจากนั้นก็มองไปที่ดาบ เขามองเห็นส่วนประกอบที่ใช้ในการตีดาบขึ้นมา ตอนนี้สายตาของเขาทําหน้าที่คล้ายกับเตาหลอม มันจึงทําให้เขาเห็นส่วนประกอบอย่างชัดเจน
ทันใดนั้นจู่ๆก็มีสิ้นส่วนสีเขียวปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยเหล่ย มันเป็นแถบสีเขียวตั้งแต่ด้ามดาบจนถึงปลายดาบ มันมีความยาวประมาณสามฟุตและกว้างประมานหนึ่งเซนติเมตรรูปร่างมันก็คล้ายกับตะเกียบยาวๆ
ด้วยการค้นพบนี้ทําให้เซี่ยเหล่ยตกใจอย่างมาก เนื่องจากเขาไม่คิดมาก่อนว่าภายในของดาบจะมีอะไรแบบนี้ซ่อนอยู่ นี่คงเป็นเหตุผลที่ทําให้มันมีน้ำหนักมากกว่าปกติ และด้วยความหนาแน่นของแท่งประหลาดที่อยู่ภายในดาบที่เซี่ยเหล่ยเห็นอยู่นี้อยู่เหนือจินตนาการของเขาอย่างมาก
“มันเป็นโลหะชนิดพิเศษที่หนิงจิงเคยพูดถึงหรือปล่าวนะ” เซี่ยเหล่ยคิดขึ้นในหัว แต่ไม่ถึงสามวินาทีเขาก็สายหัวและคิดต่อว่า “ก็อาจจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ก็ได้ นี่มันคืออะไรกันแน่?”
ในหัวของเซี่ยเหล่ยมีคําถามเกิดขึ้นมากมาย เป็นคําถามที่เขาไม่สามารถตอบได้เลยในตอนนี้ อย่างไรก็ตามถึงแม้เขาจะอยากศึกษาดาบเล่มนี้อย่างละเอียดมากแค่ไหน แต่เรื่องการช่วยเหลือตัวประกันถือเป็นสิ่งสําคัญที่สุด
ดาบอาทิสล่าถือเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮั่น ผู้หญิงของชนเผ่าเฮปตาไลท์ถือว่าดาบเล่มนี้ล้ำค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด ถ้าคืนให้กับที่น่าแล้ว คงไม่มีโอกาสที่จะได้ศึกษามันอีกครั้งแน่นอน แต่ในความเป็นจริงถ้าได้ศึกษามัน ก็อาจจะค้นพบสาเหตุว่าทําไมเข็มทิศถึงได้ชี้มาที่มันได้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสําคัญคือการช่วยตัวประกันให้ได้เสียก่อน” เซี่ยเหลียจึงตัดใจในการศึกษาดาบเล่มนี้
จู่ๆเรือขนส่งสินค้าที่พวกเขานั่งก็มีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น
“ถูกเจอตัวแล้วงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยตกใจอย่างมาก เขารีบออกจากห้องโดยสารและรีบขึ้นไปยังดาดฟ้าซึ่งเป็นคอกพิทของเรือ
หลงบิงและถ่างปั่วฉ่วนรวมถึงเจ้าหน้าที่ของสํานักงานลับ 101 เองก็เช่นกัน หลังจากนั้นพวกเขาก็หาว่าเกิดอะไรขึ้น เหล่าเจ้าหน้าที่อยู่ในคอกพิทมองไปในทะเลที่ห่างออกไปด้วยกล้องส่องทางไกล จากนั้นก็พูดออกมาว่า “มีเรือตํารวจของเกาหลีสองลําขับตามมา !”
เซี่ยเหล่ยเองก็มองไปรอบๆ จากนั้นก็เห็นเรือตํารวจขนาดใหญ่สองลํา ดูแล้วน้ำหนักของมันคงไม่ต่ำกว่า สามพันตัน
ด้วยความเร็วของเรือตํารวจอยู่ที่สิบแปดนอต เทียบกับเรือส่งสินค้าที่พวกเขากําลังอยู่นี้มีความเร็วเพียงสิบนอตเท่านั้น ด้วยความเร็วนี้เรือตํารวจจะตามทันโดยใช้เวลาเพียงแค่สิบนาที
ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ ในเรือได้รับข้อความผ่านทางเครื่องสื่อสาร เมื่อฟังข้อความเสร็จ เขาก็หันไปพูดกับหลงยิ่งว่า “หัวหน้า กัปตันของฝ่ายตรงข้ามต้องการพูดกับกับตันของทางเรา”
“ให้ฉันพูดเอง” หลงบิงพูดพร้อมหยิบหูฟังที่มีไมค์ในตัวใส่หูของตัวเอง
จากนั้นก็มีเสียงพูดออกมาเป็นภาษาจีนว่า “เราเป็นตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้ เราสงสัยว่าในเรือของคุณมีสินค้าต้องห้าม ดังนั้นพวกเราจะขอทําการตรวจสอบทันที”
หลงบิงตอบกลับไปอย่างเยือกเย็นว่า “นี่คือน่านน้ำสากล คุณไม่มีสิทธิ์ทําแบบนั้น”
“แผนที่ของคุณคงจะผิดพลาด จุดนี้ยังเป็นเขตน่านน้ำของเกาหลีใต้ ดังนั้นเรามีสิทธิในการสั่งหยุดเรือและตรวจค้น ผมจะพูดอีกครั้งขอให้พวกคุณหยุดเรือและรับการตรวจค้นจากเราทันที หากขัดขืนเราจะทําการยิงอย่างโดยไม่มีการละเว้น” กัปตันฝั่งตํารวจพูด
หลงบิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบกลับไปว่า ” กลับบ้านไปกินชาซะ”
พูดเสร็จเธอก็จบการสื่อสารทันที
“หึ!” ตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เขาสั่งการไปทันทีว่า “เข้าไปในระยะยิงได้เมื่อไหร่ ยิ่งได้เลย! ”
เซี่ยเหล่ยได้ยินที่หลงบิงพูดทุกคํา เขาถามเธอกลับไปอย่างเป็นกังวลว่า “เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นน่านน้ำสากล แต่พวกเขากลับทําอะไรเกินกว่าอํานาจ พวกเขาจะยิงเราจริงๆหรือเปล่า?”
หลงบิงมองไปที่เซี่ยเหล่ยและพูดอย่างเร้าใจไปว่า “คุณกลัวงั้นเหรอ?”
นับตั้งแต่ที่เธอใช้เวลามากกว่าสี่ชั่วโมงในตู้คอนเทนเนอร์กับเซี่ยเหลีย ไม่ว่าเธอจะไปกระตุ้นเซี่ยเหลียโดยเจตนาหรือไม่ ดูเหมือนเธอต้องการเอาคืนเขา
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปอย่างไม่แยแสว่า “ผมดูกลัวงั้นเหรอ? สกิลการว่ายน้ำของผมถือว่ายอดเยี่ยมมาก มันไม่ใช่ปัญหาเลยหากจะต้องว่ายในทะเล”
มุมปากขอหลงบิงเผยรอยยิ้มออกมาจากนั้นจึงพูดขึ้นว่า ”วางใจได้ ฉันมีแผนสํารองไว้อยู่แล้ว ตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้ไม่สามารถทําอะไรเราได้อย่างแน่นอน”
ถ่างปั่วถ่วนตบไหล่ของเซี่ยเหลียเบาๆ แล้วพูดว่า “น้องเซี่ย คุณรอดูได้เลย”
แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างแย่มาก แต่หลงบิงและถ่างปั่วฉวนดูจะมั่นใจในแผนสํารองของตัวเองอย่างมาก ว่าแผนที่ว่านี้จะทําเรือตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้ไม่สามารถทําอะไรพวกเราได้ เซี่ยเหลียแอบสงสัยอยู่ในใจและไม่รู้ว่าแผนการนั้นคืออะไรกันแน่
ตอนนี้เรือตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้สองลําได้ใกล้ชิดมากยิ่งกว่าเดิม จนตอนนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว
แม้จะเห็นตัวเรือแล้วแต่ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตํารวจอยู่ภายนอกตัวเรือเลยซักคน ดูเหมือนพวกเขาจะยังหลบอยู่ภายใน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าหลงบิงและถ่างปั่วฉ่วนมีแผนสํารอง แต่เพราะเขายังไม่รู้จึงทําให้อดกังวลไม่ได้อยู่ดี
ปังปังปัง! ตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้ได้ยิงเตือนเป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากเสียงปืนดังขึ้นเพียงไม่กี่วินาที จู่ๆตอนนี้ก็มีเรือดําน้ำโผล่ขึ้นมาอย่างกระทันหัน
“นั่นมัน…เรือดําน้ำของจีน!” ตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้คนหนึ่งพูด
“เราถูกล็อคเป้าหมายโดยเรดาร์!” ตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้คนหนึ่งพูดเสริม
“บ้าเอ๊ยย! เลี้ยวหลบเร็วเข้า” กัปตันสั่งการ
ทันทีที่เรือดําน้ำปรากฏตัวขึ้น เรือตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้ก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย
เรือดําน้ำถือเป็นอาวุธทางทะเลที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก มันสามารถทําอะไรได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือแม้แต่การหลบหนีก็ทําได้ดีและมีประสิทธิภาพมากกว่าเรือตํารวจของเกาหลีใต้
ดูเหมือนเซี่ยเหล่ยจะเข้าใจแผนสํารองที่หลงบิงและถ่างปั่วฉ่วนค่อนข้างที่จะมั่นใจแล้ว
เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าแผนสํารองที่ว่าจะเป็นเรือดําน้ำ
เรือตํารวจทางทะเลของเกาหลีใต้สองลําหันเลี้ยวหลบอย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าเรือดําน้ำจะโจมตีเรือตํารวจจนอับปางแต่หากปกปิดร่องรอยไว้ก็อาจจะโยนความผิดให้เป็นของพวกโจรสลัดแทนได้ แผนนี้จึงค่อนข้างที่จะรัดกุม
หลงบิงหันไปพูดกับเซี่ยเหล่ยทันทีว่า “ไปกันได้แล้ว ฉันมีอะไรจะคุยกับคุณหน่อย”
พูดเสร็จเธอก็เดินออกจากก๊อกพิท เซี่ยเหล่ยเองก็เดินตามเธอออกไป..
ติดตามตอนต่อไป……………