Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 332 สิ่งตอบแทน !
เมื่อเทียบกับเส้นทางอื่นๆที่จะไปยังอัฟกานิสถานแล้วดูเหมือนการเดินทางผ่าน เวิคล์ฮาน คอร์เด่อจะเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดเพราะที่นี่ไม่ค่อยมีใครอาศัยอยู่ รวมถึงกลุ่มซานไอดร้าด้วยแถมที่นี่ยังไม่ค่อยมีเครื่องบินของกองทัพสหรัฐบินผ่านอีก
เนื่องจากพวกเขาเคยเดินทางผ่านเวิคล์ฮาน คอร์เด่อมาแล้วครั้งหนึ่งแล้วพวกเขามีความคุ้นเคยกับภูมิประเทศบริเวณนี้เป็นอย่างดีทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วขึ้นเพียงเวลาแค่ห้าวันพวกเขาก็สามารถผ่านเวิคล์ฮาน คอร์เด่อได้แล้วซึ่งการที่พวกเขาเดินทางได้รวดเร็วแบบนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ทั้งห้าวันที่ผ่านมานั้นพวกเขาไม่ถูกโจมตีเลยและสภาพอากาศก็เอื้ออำนวยด้วย
เมื่อเวลาผ่านไปในช่วงใกล้จะค่ำทั้งสามคนจำเป็นจะต้องหาที่พัก พวกเขาจึงมองหาโอเอซิสที่ใกล้ที่สุดหลังจากหาอยู่ซักพักใหญ่พวกเขาก็หาเจอและพักอยู่ที่โอเอซิสแห่งนั้น มันมีแม่น้ำที่ใหญ่พอสมควรและมีต้นไม้หลายพันธุ์กระจายอยู่รอบๆ
ทั้งสามคนปูผ้าห่มลงบนพื้น จากนั้นก็เข้าไปนั่งเพื่อจะกินอาหารและน้ำเติมพลังที่เสียไปจากการเดินทาง
”ดีมาก ฉันอยากที่จะอาบน้ำจริงๆ” แคนลามี่พูดอย่างตื่นเต้นและหันไปถามเซี่ยเหล่ยว่า “เซี่ยเหล่ย ไปอาบน้ำกันรับรองว่าการอาบน้ำบนทะเลทรายจะทำให้คุณไม่มีวันลืมมันได้เลย”
”เชิญคุณก่อนเลย ผมจะไปทีหลัง” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมความรู้สึกอึดอัด
”ไปพร้อมกันแหละดีแล้ว” แคนลามี่พูดพร้อมเดินไปคล้องแขนเซี่ยเหล่ยและพูดต่ออีกว่า “เพราะถ้ามีคนแอบดู ฉันจะได้เรียกขอความช่วยเหลือให้คุณมาช่วยได้”
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดว่า “ที่นี่คือทะเลทรายที่ห่างไกลมาก การที่จะบังเอิญมีคนผ่านมาคงเป็นไปได้ยาก”
”ถึงไม่มีใคร แต่ถ้ามีงูขึ้นมาหล่ะถ้ามันจะกัดฉันหล่ะ?” แคนลามี่พูดพร้อมพยายามจะดึงให้เซี่ยเหล่ยเดินไปด้วยกันจากนั้นก็พูดต่ออีกว่า “ฉันเป็นคนที่กลัวงูมาก”
เซี่ยเหล่ย “…… ”
จังหวะนี้ทีน่าก็พูดขึ้นอย่างช้าๆว่า “พูดไร้สาระอะไรเธอหน่ะ ตอนที่อยู่ในชนเผ่า เธอสามารถจับงูได้กว่า20ตัวแบบสบายๆอยากจะให้ฉันพูดอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย?”
”หัวหน้า!” แคนลามี่พูดพร้อมแสดงท่าทางไม่พอใจ
ทีน่าไม่สนใจท่าทางที่ไม่พอใจของแคนลามี่ เธอหันไปพูดกับเซี่ยเหล่ยแทนว่า “เซี่ยเหล่ย ฉันและแคนลามี่จะไปอาบน้ำกันก่อน ส่วนคุณค่อยไปหลังพวกเราเสร็จก็แล้วกัน”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าพร้อมตอบไปว่า “ได้เลย…ไม่มีปัญหา.”
”แคนลามี่ ไปกันได้แล้ว” ทีน่าพูด
แคนลามี่พูดขึ้นว่า “หัวหน้า คุณไม่เข้าใจฉันเลย…”
หลังจากนั้นผู้หญิงทั้งสองคนของชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์กำลังเดินไปอาบน้ำที่โอเอซิสถ้าหากไม่รู้จักกันมาก่อนตอนนี้พวกเธอดูเหมือนเป็นพี่น้องกันอย่างมาก
จุดที่พวกเธอเดินไปอาบน้ำอยู่ห่างจากจุดที่เซี่ยเหล่ยนั่งอยู่เพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น แคนลามี่และทีน่ากำลังนั่งยองๆและค่อยๆอาบน้ำ
”มันเป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบว่าใครหุ่นดีกว่ากัน ใครจะไปรู้ว่าแคนลามี่ที่ตอนนี้ยังดูวัยรุ่นและไร้เดียงสา ต่อไปเธออาจจะกลายเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์ก็ได้” จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็คิดอะไรแปลกๆในหัว
แต่ถ้าต้องเลือกใครซักคนที่จะไปอาบน้ำด้วยกัน เขาก็ต้องเลือกแคนลามี่อยู่แล้วนั่นก็เพราะว่าอยู่กับเธอจะรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าอยู่กับทีน่าเพราะในหัวของทีน่าเต็มไปด้วยเรื่องที่เกี่ยวกับชนเผ่า
‘แปลก…นี่มันแปลกจริงๆ การกระทำของทีน่าดูไม่ชอบมาพากลซักเท่าไหร่’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจและก็คิดต่ออีกว่า ‘เราช่วยเหลือชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ให้ได้ดาบอาทิส์ล่ากลับคืนมา นี่ถือเป็นของขวัญชิ้นใหญ่สำหรับชนเผ่าเลยก็ว่าได้ แต่จากเรื่องนี้และเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้น ปฏิกิริยาของเธอดูจะแสดงออกมาน้อยกว่าปกติที่ควรจะแสดงออกมา ถ้าหากเธอคิดว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีและช่วยเหลือเธอ มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ?’
เหตุผลง่ายๆที่ช่วยเสริมความคิดให้กับเขาก็คือ ถ้าทีน่าถือว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันหรือเป็นแขกที่สำคัญจริงๆ เธอจะไม่หยุดหรือห้ามเรื่องระหว่างเขาและแคนลามี่เลยแต่ในความเป็นจริงเธอกลับห้ามแคนลามี่ทุกครั้ง นี่แสดงว่าเธอยังไม่ไว้ใจเซี่ยเหล่ย แล้วแบบนี้พวกเขาจะร่วมมือกันได้อย่างไร?
ด้วยเรื่องที่กำลังคิดอยู่ทำให้คิ้วและหน้าผากของเซี่ยเหล่ยเหี่ยวย่นตลอดเวลา
ยิ่งดึกเท่าไหร่ แสงจันทร์ก็ดูจะสว่างมากยิ่งขึ้น
จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยหันไปมองที่พวกเธอดูเหมือนทั้งทีน่าและแคนลามี่กำลังโต้เถียงกันอยู่ เขารับรู้ได้ทันทีแม้จะอยู่ไกลจากพวกเธอ
เขากระตุกตาซ้ายเล็กน้อยและมองไปที่ริมฝีปากของผู้หญิงทั้งสองว่ากำลังทะเลาะอะไรกันอยู่ จากนั้นก็พยายามอ่านปากพวกเธอ
จังหวะนี้แคนลามี่ก็หยุดนิ่งและหันไปมองทีน่าพร้อมพูดออกไปโดยที่ร่างกายยังอยู่ในน้ำว่า “หัวหน้า เซี่ยเหล่ยเป็นคนดีมาก เขาดูแลเราทุกอย่าง อย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่เราโดนกองกำลังของสหรัฐซุ่มโจมตี เขาก็ปล่อยให้พวกเราหนีไปก่อนโดยที่ตัวเองยืนหยัดสู้กับพวกมันด้วยตัวคนเดียว แถมตอนนี้เขายังเอาดาบศักย์สิทธิ์ ดาบอาทิส์ล่ากลับมาให้เราได้อีกด้วย ซึ่งสองเรื่องที่เขาทำให้เรานี้เขาไม่ใช่แค่เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเราเพียงแค่นั้น แต่เขายังถือว่าเป็นฮีโร่ของชนเผ่าเราเลยด้วย ไม่คิดงั้นเหรอ? ”
ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาพูดอะไรกันบ้าง ถึงได้พูดกันในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนจะถูกเวลา เพราะเซี่ยเหล่ยเองก็ต้องการรู้ถึงมุมมองที่พวกเธอมีต่อเขา
ทีน่ายิ้มเยาะก่อนจะพูดว่า “ในสมองของเธอมีแต่เรื่องผู้ชายงั้นเหรอ? งี่เง่า! ฉันเคยบอกไปแล้ว ลืมเขาไปซะ ฉันจะหาผู้ชายมาให้เธอได้มากตามที่ต้องการ เว้นเขาเอาไว้ เพราะเราไม่สามารถมีความสัมพันธ์อันดีที่ลึกซึ้งกับเขาได้”
”ทำไมหล่ะ?” แคนลามี่ถาม.Aileen-novel.
”เพราะเขาตกเป็นเป็นเป้าหมายของกองกำลังสหรัฐถึงจะไม่รู้ว่าทำไมก็ตามแต่ที่นี่คืออัฟกานิสถานซึ่งถูกควบคุมโดยสหรัฐ หากเรามีสัมพันธ์ที่ดีและลึกซึ้งกับเขา เท่ากับว่าเราประกาศตัวเป็นศัตรูกับกองทัพสหรัฐ เธอต้องการแบบนั้นเหรอ? เรื่องนี้ฉันก็เคยบอกไปแล้วนะ”
”แล้วคุณยังให้เขาสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำอีกงั้นเหรอ?” แคนลามี่ถาม
”จะไม่มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำ” ทีน่าตอบ
”หัวหน้าหมายความว่ายังไง?” แคนลามี่ถามต่อ
”พอได้แล้ว ต่อไปนี้อย่าถามอะไรอีก ฉันไม่อยากพูดมากไปกว่านี้แล้ว” ทีน่าตอบพร้อมต้องการจะจบบทสนทนาในเรื่องนี้
”คุณจะส่งตัวเขาไปงั้นเหรอ?” แคนลามี่ถาม
”พอได้แล้ว เรื่องนี้ฉันได้ตัดสินใจแล้วอย่าพูดขึ้นมาอีก” ทีน่าพูดตัดบทเป็นครั้งสุดท้าย
”เอาล่ะ ฉันจะไม่ถามและไม่พูดอะไรแล้ว ฉันจะเงียบตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป คุณคือหัวหน้า ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างคุณเป็นคนตัดสินใจ!” แคนลามี่พูดเสร็จก็ดำน้ำลงไปจนมิดหัว
จังหวะนี้ทีน่าหันกลับไปมองยังทิศทางที่เซี่ยเหล่ยนั่งอยู่แต่เธอสิ่งที่เธอเห็นก็เป็นเพียงแค่เงาคลุมเครือไม่ชัดเจน ผิดกับเซี่ยเหล่ยที่ตอนนี้เห็นเธอมองมาที่เขาอย่างชัดเจน
สายตาของทีน่าดูเหมือนจะลังเลและดูสับสนเล็กน้อย
ด้วยสายตาของเธอทำให้หัวใจของเซี่ยเหล่ยสับสนเช่นกัน
การกลับมาอัฟกานิสถานครั้งนี้ เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้
ทีน่าไม่ได้ต้องการที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เธอไม่คิดที่จะปล่อยตัวของถ่างหยู่เหยี่ยและเหล่านักวิจัยดูเหมือนว่าข้อตกลงในการค้นหาซากปรักหักพังที่เมืองโบราณก็จะเป็นไปไม่ได้ด้วย
‘เธอคิดที่จะทำอะไรกันแน่นะ?’ เซี่ยเหล่ยเกิดคำถามขึ้นในใจ
เมื่อเขาได้รับรู้ถึงเจตนาที่ไม่แน่ชัดของทีน่า เขาก็รู้สึกเคร่งเครียดกังวลและโกรธไปพร้อมๆกัน จนตัวเขาเองค่อนข้างที่จะสับสนในตอนนี้
เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อคำว่ามิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีแต่ดูเหมือนสิ่งที่ได้ตอบแทนจะกลายเป็นการทรยศ!
หลังจากหลายนาทีผ่านไป ทีน่าและแคนลามี่ก็ขึ้นมาจากน้ำ พวกเธอใส่เสื้อผ้าและกำลังจะเดินกลับมาที่แคมป์
ใบหน้าของแคนลามี่ในตอนนี้ดูไม่มีความสุขเลยคงจะเป็นเพราะไม่พอใจทีน่า แถมยังต้องอยู่ในการควบคุมอีก ซึ่งในตอนนี้เธอคงจะรู้สึกอึดอัดมาก
ทีน่าเดินกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม เธอมองหน้าเซี่ยเหล่ยและพูดขึ้นว่า “เซี่ยเหล่ย ตอนนี้พวกเราอาบน้ำล้างตัวกันเสร็จแล้ว ถึงตาคุณที่จะไปอาบบ้างแล้วแหละ ”
”อื้ม ผมจะรีบไป” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำ
เมื่อมาถึงโอเอซิส เซี่ยเหล่ยไม่รอช้า เขาถอดเสื้อผ้าและรีบกระโดดลงน้ำ เขารู้สึกสดชื่นไม่น้อยเลยเมื่อร่างกายได้สัมผัสกับน้ำ หลังจากลงไปแช่อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หันกลับไปมองตรงแค้มป์ เขาเห็นทีน่าได้หยิบเอากล้องสำหรับมองในเวลากลางคืนขึ้นมาจากกระเป๋าของเขาจากนั้นก็ใช้มันส่องมายังโอเอซิส
เซี่ยเหล่ยเห็นเข้าพอดี เขาก็รีบดำน้ำลงไป
อุปกรณ์มองกลางคืนนี้ การทำงานของมันจะจับความร้อนที่ออกมาจากร่างกายหรือวัตถุ มันสามารถมองทะลุแม้แต่ผนังที่หนามากๆได้ แต่มันไม่สามารถมองลงไปในน้ำได้
แม้ว่าตอนนี้เซี่ยเหล่ยจะดำลงไปในน้ำแต่เขาสามารถลืมตาใต้น้ำและมองกลับไปยังแคมป์ด้วยความสามารถของตาซ้าย
ในเวลานี้ทีน่าก็ได้หยิบปืนไรเฟิลของเซี่ยเหล่ยที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้วขึ้นเล็งไปยังทิศทางที่เซี่ยเหล่ยอยู่ก่อนหน้านี้
‘เธอต้องการจะฆ่าเรา!’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจด้วยความตกใจและโกรธมาก!
การที่เธอได้ดาบกลับมา เธอจึงลุล่วงเป้าหมายตามที่เธอต้องการแล้ว และตอนนี้เขาดูเหมือนจะเป็นภัยต่อชนเผ่าจึงคิดที่จะจัดการฆ่าเขาทิ้งซะ นี่คงเป็นแรงจูงใจของทีน่าที่พอจะเป็นไปได้!
แคนลามี่หันไปเห็นทีน่าที่กำลังถือและเล็งปืนไรเฟิลอยู่
”หัวหน้า นั่นคุณจะทำอะไร?” แคนลามี่พูดด้วยความโกรธพร้อมพูดต่อว่า “เซี่ยเหล่ยเป็นฮีโร่ของชนเผ่าเรา คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”
”เพื่อชนเผ่าเราแล้ว นี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำ!” ทีน่าพูดด้วยความโกรธจากนั้นพูดต่ออีกว่า “รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!”
”นี่มันไม่ถูกต้อง ฉันไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ” แคนลามี่พูดขึ้นและเดินเข้าไปหาทีน่า
ทีน่ายกมือขึ้นและตบไปที่หน้าของแคนลามี่ เธอเสียการทรงตัวและเดินถอยหลังไปเล็กน้อย จังหวะนี้ทีน่าก็ได้เปลี่ยนเป้ามาเล็งที่หน้าอกของเธอจากนั้นก็พูดอย่างจริงจังทันทีว่า “ถ้าไม่ฟังที่ฉันสั่ง ฉันจะฆ่าเธอ! ”
ติดตามตอนต่อไป………..