Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 337 หนทางการรักษา !
TXV–
ทีน่าได้ตายไปแล้วปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขตอนนี้แคนลามี่ก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ตามที่ต้องการทำให้เซี่ยเหล่ยไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับถ่างหยู่เหยี่ยและเหล่านักวิจัยที่ถูกจับเป็นตัวประกันอีกต่อไปรวมถึงเรื่องการสำรวจที่เมืองโบราณด้วย
ปัญหาสุดท้ายในตอนนี้คือกองกำลังชนเผ่าอิกคา
ภายใต้เนินเขาหัวหน้าเผ่าอาบูตูลูได้นำกองกำลังส่วนหนึ่งถืออาวุธและเดินไปหาเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่ พวกเขาเดินขึ้นไปอย่างช้าๆและระมัดระวังทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกเขาค่อนข้างจะกลัวและกังวลในความสามารถของเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่
”อาบูตูลู พาคนมาด้วยหลายคน พวกเขาจะทำอะไรกันแน่?” แคนลามี่พูดและรู้สึกกังวล
เซี่ยเหล่ยดูผ่อนคลายและพูดขึ้นว่า “ถึงแม้ผมจะไม่ได้รู้จักอาบูตูลูอย่างลึกซึ้ง แต่ผมก็พอจะมองออกว่าเขาเป็นคนโลภ ตอนนี้ทั้งสองชนเผ่าอยู่ในมือของคุณแล้ว ผมจะเป็นคนหาเงินจำนวนสี่แสนเหรียญให้เอง ด้วยเงินจำนวนนี้เพียงพอที่จะซื้อสันติภาพได้”
แคนลามี่ยิ้มพร้อมพูดออกมาว่า “ฉันเชื่อคุณ แต่ถ้าพวกเขาคิดจะเล่นตุกติกกับคุณ ฉันจะฆ่าพวกเขาซะ!”
เซี่ยเหล่ยมองรอยยิ้มของเธอและก็เหลือบมองต่ำลงไปมีเลือดไหลออกอยู่บ้างผ่านแผลที่หน้าอกของเธอ ไม่แน่ใจว่าบาดแผลจะลึกมากน้อยแค่ไหน
”เซี่ยเหล่ย คุณจะช่วยทำแผลให้ฉันได้หรือไม่” แคนลามี่พูดพร้อมรอยยิ้มแม้ในขณะที่มีแผลเธอก็ยังหัวเราะและยิ้มได้
”ไม่มีปัญหา” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมรอยยิ้มด้วยเช่นกัน เขาต้องทำให้เธอพอใจ เพื่อให้ง่ายต่อเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ในเวลานี้อาบูตูลูได้นำกำลังส่วนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้มากแล้ว พวกเขาอยู่ห่างกันเพียงยี่สิบเมตรเท่านั้นด้วยระยะทางเท่านี้อาบูตูลูหยุดเดิน ดูเหมือนเขาไม่คิดจะเดินเข้าไปใกล้มากกว่านี้แล้ว
”เรามาที่นี่ เพื่อต้องการพูดคุย “อาบูตูลูพูดเสียงดังออกไปยังเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่
แคนลามี่กำลังจะเดินออกไปแต่เซี่ยเหล่ยก็คว้ามือของเธอไว้และกระซิบข้างหูว่า “คุณอยู่ที่นี่และคอยระวังไว้ให้ผม ผมจะไปคุยกับพวกเขาเอง”
แคนลามี่แสดงใบหน้ากังวลและพูดว่า “แต่ …… ”
เซี่ยเหล่ยได้ขัดจังหวะและพูดแทรกทันทีว่า “ผมรู้ว่าคุณกังวลและเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผมแต่มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและอันตรายนอกจากนี้คุณรู้หรือไม่ว่าจะจ่ายเงินได้อย่างไร? ”
แคนลามี่แสดงท่าทางอึดอัดใจ
ก่อนจะเดินออกไปเซี่ยเหล่ยก็หยิบปืน AK-47 ของทีน่าขึ้นมาและวางปืนไรเฟิลของเขาเอาไว้เหตุผลที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะว่าปืน AK-47 จะสามารถยิงและใช้การได้ง่ายกว่าปืนไรเฟิลหากต้องยิงในระยะใกล้ๆ ปืนไรเฟิลดูจะยุ่งยากและไม่ทันการ
ในขณะที่เซี่ยเหล่ยเดินออกไป แคนลามี่ก็ได้เตรียมปืนของเธอให้พร้อมเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เธอจะได้สามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างทันท่วงที เธอหยิบปืนไรเฟิลขึ้นมาและเล็งไปที่พวกเขาอยู่ตลอดเวลา
เซี่ยเหล่ยเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าของอาบูตูลูในระยะห่างกันไม่มากนัก
อาบูตูลูเงียบและยังไม่ได้พูดอะไรในขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังเดินไปอยู่หยุดด้านหน้า
อาบูตูลูมองไปที่เซี่ยเหล่ยและพูดขึ้นว่า “ผมเห็นคุณแล้ว คุณเป็นคนที่กล้าหาญมาก คุณไม่กลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจฆ่าคุณอย่างนั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปอย่างเยือกเย็นว่า “คุณฆ่าผมแล้วจะได้อะไรหล่ะ? ก็ได้ไปแค่ซากศพ นอกจากนี้อย่าลืมว่าหัวหน้าเผ่าแคนลามี่ของชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ยังอยู่ด้านหลังของผม ถ้าคุณเล่นตุกติดอะไรขึ้นมา เธอจะเป่าหัวคุณทันทีว่ายังไงหรือคุณอยากจะลอง? ”
อาบูตูลูมองไปที่แคนลามี่และพูดเสียงดังออกไปว่า “ผมก็พูดไปงั้น แต่…คุณฆ่าพวกเราไปแล้วหลายคน เรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้และคุณคงไม่อยากให้เราทำแบบนี้กับชนเผ่าของคุณเช่นกัน ดังนั้นไม่ต้องพูดอะไรกันมากจ่ายมาเลยดีกว่า ”
หนึ่งในกองกำลังติดอาวุธที่อาบูตูลูเดินขึ้นเนินเขามาด้วยได้เดินออกมาด้านหน้าและถือแล็ปท็อปพร้อมตัวรับสัญญาณดาวเทียมดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่มีความรู้ในด้านเทคโนโลยี
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า “ถ้าผมจ่ายให้คุณแล้ว เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าพวกคุณจะปล่อยเราไปแต่โดยดี?”
อาบูตูลูได้ตอบกลับไปทันทีว่า “คุณไม่เชื่อผมรึ?”
เซี่ยเหล่ยก็พูดขึ้นอีกว่า “ท่านหัวหน้าอาบูตูลู จากสถานการณ์ที่เพิ่งผ่านมา ผมไม่สามารถที่จะเชื่อใจคุณได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นหรอกนะและเงินจำนวนสี่แสนดอลล่านี้ก็ไม่ใช่น้อย คาดว่าชนเผ่าของคุณใช้เวลาทั้งปีก็คงจะหาเงินจำนวนมากขนาดนี้ไม่ได้หรอกใช่หรือไม่? ”
“ไอ้เลวเอ๊ยยย! คุณกล้าพูดคุยกับหัวหน้าของเราอย่างนี้ได้ยังไง!” หนึ่งในกองกำลังพูดอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินเซี่ยเหล่ยพูดพร้อมยกปืนและชี้ไปที่เขา
อาบูตูลูรีบเดินไปหน้าผู้ชายคนนั้นและกดปืนของเขาลงเพราะเขากลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะทำอะไรโง่ๆจนทำให้เขาชวดเงินจำนวนสี่แสนดอลล่า!
”งั้นคุณต้องการแบบไหน?” อาบูตูลูถาม
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “อาบูตูลู คุณต้องสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าก่อน”
อาบูตูลูดูจะตกใจกับเงื่อนไขที่เซี่ยเหล่ยต้องการ เขาตะลึงและไม่คิดว่าจะเป็นเงื่อนไขนี้จริงๆแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำตามเงื่อนไขที่เซี่ยเหล่ยต้องการ.ไอรีนโนเวล.
เซี่ยเหล่ยโอนเงินผ่านแท็ปเล็ตอย่างรวดเร็วและเงินจำนวนสี่แสนดอลล่าได้เข้าไปอยู่ในบัญชีของอาบูตูลู….
เมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีที่เพิ่มขึ้นมาใบหน้าของอาบูตูลูเผยรอยยิ้มและพูดขึ้นว่า “บอกผมได้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วคุณเป็นใคร?”
เซี่ยเหล่ยตอบไปว่า “ผมไม่รู้ว่าทีน่าบอกอะไรกับคุณไปบ้าง แต่จริงๆแล้วผมเป็นแค่นักธุรกิจและผมก็มาเพื่อลงทุนในชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ ในกรณีนี้ต่อไปนี้ผมอาจจะร่วมมือกับชนเผ่าของคุณก็ได้คราวนี้คุณคงเข้าใจผมมากขึ้นแล้วสินะ หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
”ฮ่าฮ่า พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้ว” อาบูตูลูพูดพร้อมเดินเข้าไปกอดเซี่ยเหล่ย และพูดต่อว่า “ผมขอเชิญคุณไปเยี่ยมชมชนเผ่า คุณคิดว่ายังไงบ้างจะไปกับเราไหม?”
”ไว้เป็นครั้งหน้าก็แล้วกัน ครั้งนี้ผมจะต้องรีบกลับไปชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์เสียก่อน ” เซี่ยเหล่ยปฏิเสธคำชวน
”ตกลง งั้นไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน” อาบูตูลูพูดพร้อมเดินลงเขาไป
สำหรับชนเผ่าอิกคาในสงครามครั้งนี้การที่พวกเขาเสียกำลังพลไปไม่น้อยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะได้รับเงินชดเชยจำนวนสี่แสนดอลล่าแล้วก็ตามแต่ก็พูดไม่ได้ว่าภายในจิตใจของพวกเขาจะไม่มีความเคียดแค้นแต่อย่างไรก็ตามพวกเขาเหล่านั้นก็กลัวนักแม่นปืนอย่างเซี่ยเหล่ย ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะติดตามและลอบสังหารเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่อีกต่อไป
เงินและความแข็งแกร่งของเซี่ยเหล่ยสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ในสถานที่แห่งนี้
หลังจากเวลาผ่านไปกองกำลังชนเผ่าอิกคาต่างก็พากันล่าถอยพร้อมนำศพเพื่อนร่วมรบของพวกเขากลับไปด้วย
เซี่ยเหล่ยมองตามหลังพวกเขาไปพร้อมกับความรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก ปัญหาเกี่ยวกับชนเผ่าอิกคาได้คลี่คลายเรียบร้อยแล้ว จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยกำลังจะหันกลับไปหาแคนลามี่แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามีเสื้อผ้าลอยผ่านหัวเขาไปพอดี มันเต็มไปด้วยเลือดและเหงื่อผสมกันแน่นอนเขารู้ได้ทันทีว่านี่จะต้องเป็นเสื้อของเธอที่ถอดออกมา ทำให้ตอนนี้เธอที่เป็นหัวหน้าคนใหม่ที่เปลือยกายท่อนบนอยู่แน่นอน
เซี่ยเหล่ยสัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้มีสิ่งดึงดูดตาดึงดูดใจอยู่
เซี่ยเหล่ยเดินกลับไปหาเธอจากนั้นก็ถอดบราของเธอออก มันเผยให้เห็นเนื้อเนินขนาดใหญ่สีขาวตระการตาสำหรับเขา เขาเห็นถึงรอยแผลของเธอ มันไม่ได้ลึกมากเพียงแต่มีความยาวประมานห้าเซนติเมตรตรงกลางอกและยังคงมีเลือดไหลซึมอยู่ตลอดเวลา…..
”มันจะเป็นแผลเป็นหรือไม่?” แคนลามี่ถามด้วยความกังวล
เซี่ยเหล่ยพยายามพูดปลอบเธอว่า “ไม่เป็นแผลเป็นหรอก คุณนั่งดีกว่า ผมจะได้ทำแผลให้คุณได้สะดวก”
แคนลามี่นั่งลงบนโขดหิน เซี่ยเหล่ยเองก็หยิบชุดปฐมพยาบาลขึ้นมาจากนั้นหยิบผ้าก็อตออกมาและเช็ดเลือดของเธอออก จากนั้นเริ่มฉีดยาชาแล้วใช้เข็มชุบแอลกอฮอล์เย็บแผลของเธอเข้าด้วยกัน นี่เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เนื่องจากเขาต้องการปิดปากแผลของเธอให้ได้โดยเร็ว
”อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นผมเย็บแผลให้คุณไม่ได้” เซี่ยเหล่ยพูด
”คุณก็จับเอาไว้สิ มันจะได้นิ่งขึ้น?” แคนลามี่พูด
”มันใหญ่เกินกว่าที่จะจับมือเดียว!” เซี่ยเหล่ยตอบ
”แล้วทำไมไม่จับด้วยสองมือหล่ะ?” แคนลามี่ถาม
”ถ้าผมใช้สองมือจับแล้วผมจะเย็บแผลของคุณได้ยังไงหล่ะ?” เซี่ยเหล่ยถาม
“……” แคนลามี่
ในความเป็นจริงถ้าเขาเลือกได้ เขาไม่อยากที่จะให้แผลเกิดขึ้นบริเวณหน้าอกของเธอเลย
บาดแผลที่ได้นี่เกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีแต่การปฐมพยาบาลและการเย็บแผลใช้เวลากว่าชั่วโมงหลังจากเย็บเสร็จเขาก็ใช้ผ้าพันแผลพันจนทั่วบาดแผล จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เสร็จแล้ว รีบใส่เสื้อผ้า เราต้องรีบหาม้าเพื่อใช้เดินทางต่อ”
”ฉันบาดเจ็บอยู่นะ คุณใส่ให้ฉันได้หรือไม่?” แคนลามี่พูด
เซี่ยเหล่ย “…… ”
เซี่ยเหล่ยหยิบเสื้อขึ้นมาและเตรียมจะใส่ให้เธอแต่ท่าทีของเธอกลับปัดมือของเขาและตรงเข้าไปจูบปากทันที
เซี่ยเหล่ยตัวแข็งทันทีแม้ว่าในสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยอันตรายแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจอะไรแล้ว เขารู้ว่าการที่เธอจูบมาแบบนี้ก็เหมือนป็นการเริ่มความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของเธอได้
หลังจากจูบที่ดูดดื่มผ่านไป พวกเขาก็แยกตัวออก แคนลามี่เริ่มพูดก่อนว่า “ตอนนี้คุณเป็นของฉันแล้ว ฉันเป็นหัวหน้า ไม่มีใครสามารถขัดขวางพวกเราไม่ให้อยู่ด้วยกันได้แล้ว”
มุมปากของเซี่ยเหล่ยเผยรอยยิ้มออกมาเพียงแต่มันเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้าและความอึดอัดเพราะหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเขาจะต้องรีบออกจากที่นี่ ด้วยเหตุผลนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังจากเขากลับไปแล้วหรือไม่นะ?
”คุณรอฉันก่อน ฉันมีเรื่องจะต้องทำก่อนที่เราจะไปหาม้า” แคนลามี่พูดพร้อมเดินไปที่ศพของทีน่าจากนั้นก็หยิบเอาดาบสั้นของเธอขึ้นมา
เซี่ยเหล่ยถามเธอว่า “คุณต้องการจะทำอะไร?”
“ตัดหัวของเธอ” แคนลามี่ตอบ
เซี่ยเหล่ยตกใจแล้วอุทานออกไปว่า “อะไรนะ?”
“ฉันจะไม่สามารถเป็นหัวหน้าได้หากปราศจากศีรษะของหัวหน้าคนเก่าถ้าคุณรู้สึกไม่ดีก็หันไปทางอื่นก่อนก็แล้วกัน” แคนลามี่อธิบาย
“งั้นผมจะไปหาม้าก่อนก็แล้วกัน” เซี่ยเหล่ยพูดแล้วเดินออกไปเพราะเขาไม่สามารถทนดูสิ่งที่เธอกำลังจะทำได้
ติดตามตอนต่อไป……….