Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 362 สิ่งที่คาดไม่ถึง !
TXV –
พรึ่บ! จู่ๆหลงบิงก็ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
”เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมรีบย่อตัวลงไปดูสถานการณ์ของเธอ
สภาพของหลงบิงไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งนั้น มีเพียงหน้าอกที่ยุบและพองตามการหายใจเข้าหายใจออก แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะตบหน้าของเธอเบาๆเพื่อให้ได้สติ แต่ก็ไม่เป็นผล เธอไม่รู้สึกตัว
เซี่ยเหล่ยหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาก็พบว่ามันยังคงเปียกและมีกลิ่นฉุนอยู่ เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้เนื่องจากเสื้อของเธอก็ยังคงเปียกอยู่แถมเธอยังนำมาปิดปากและจมูกอย่างมิดชิดแล้วด้วย
สภาพร่างกายและสภาพจิตใจของหลงบิงน่าจะแข็งแกร่งและทนทานเพราะผ่านการฝึกและผ่านสนามรบมาไม่น้อย ความสามารถนั้นน่าจะเทียบเท่ากับเซี่ยเหล่ยหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งในความเป็นจริงเธอควรที่จะทนแก๊สยาสลบได้
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เสียงของอันซูฮยอนดังขึ้นในเครื่องสื่อสารขนาดเล็กว่า “นี่เซี่ยเหล่ย…..”
แน่นอนว่าอันซูฮยอนยังคงต้องการความแน่ใจว่าเซี่ยเหล่ยสลบไปแล้วหรือยัง
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบอะไรไป เขายังคงเขย่าไหล่ของหลงบิงเพื่อต้องการให้เธอรู้สึกตัวแต่สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่รู้สึกตัวเลย
จังหวะนี้อันซูฮยอนยังคงพูดผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็กต่อว่า “ก่อนอื่นผมมีเรื่องจะต้องบอกคุณก่อน ผมไม่รู้ว่าทำไมพวกคนอเมริกันถึงสนใจในตัวคุณมากนักแต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ เรื่องของผมนี่แหละที่สำคัญกว่า ตอนนี้การรอคอยของผมได้สิ้นสุดลงแล้วคุณจะต้องได้รับบทเรียนที่บังอาจมาต่อต้านผม”
เซี่ยเหล่ยฟังที่อันซูฮยอนพูดอยู่ตลอดเวลา หลังจากเขาพูดจบเซี่ยเหล่ยก็ตัดสินใจเอาเสื้อของตัวเองออกจากการปิดจมูกและปาก จากนั้นเขาก็กลั้นหายใจและสูดดมแก๊สยาสลบเข้าไปเล็กน้อยด้วยความระมัดระวัง อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้สึกสับสนวิงเวียนหรือมึนงงได้อย่างใด เขาไม่เป็นอะไรเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ในเวลาต่อมาเซี่ยเหล่ยก็ยังสลัดความสงสัยออกไปไม่ได้ เขาต้องการจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง นั่นทำให้เขาวางเสื้อลงและสูดลมหายใจเขาไปอีกสองครั้ง ผลลัพธ์คือเขาก็ยังไม่เป็นอะไรอีกเช่นเคย
แก๊สยาสลบไม่สามารถใช้ได้กับเซี่ยเหล่ย!
ผลลัพธ์นี้ทำให้เซี่ยเหล่ยค่อนข้างจะตกใจอย่างมาก!
ด้านอันซูฮยอนเขาก็ยังคงพูดอยู่แต่ในตอนนี้มีเสียงบางอย่างผสมอยู่ด้วยในขณะที่เขาพูด มันเป็นเสียงของใครบางคนพูดภาษาเกาหลีว่า “คนพวกนั้น ตอนนี้คงจะสลบกันหมดแล้วเพราะนี่ก็ผ่านมาตั้งห้านาทีแล้วตั้งแต่เราเริ่มปล่อยแก๊สยาสลบออกมา”
”หยุดปล่อยแก๊สยาสลบได้แล้วไม่อย่างนั้นเขาคงได้ตายอยู่ใต้ดินก่อนแน่ๆ” คนๆนั้นยังคงพูดด้วยภาษาเกาหลีและยังพูดต่ออีกว่า “คนอเมริกันต้องการเขาตัวเป็นๆ ดังนั้นเราจะให้เขาตายก่อนไม่ได้”
อันซูฮยอนพูดขึ้นว่า “คิมจียอน เธอไปหยุดปล่อยแก๊สยาสลบซะ” พูดเสร็จก็พูดต่ออีกว่า “ส่วนชูคูรี คุณไปหาคนมาอีกสองสามคนและลงไปชั้นใต้ดินกับผม”
ชูคูรีตอบกลับไปว่า “แล้วเด็กที่อยู่ในห้องนี้จะให้ทำอย่างไร?”
อันซูฮยอนพูดว่า “หลังจากส่งเซี่ยเหล่ยให้กับคนอเมริกันแล้ว เราค่อยฆ่ามันพร้อมกับผู้หญิงที่อยู่ชั้นใต้ดินซะ”
แน่นอนว่าคนที่อันซูฮยอนพูดถึงในตอนนี้หมายถึงเจ้าหน้าที่หวู่และนั่นรวมไปถึงหลงบิงด้วยแม้ว่าพวกเขาตอนนี้จะไม่ได้สติอยู่แต่เซี่ยเหล่ยได้ยินทุกอย่างชัดเจน เขาโกรธเป็นอย่างมาก โกรธชนิดที่ว่าอยากจะเอาปืนไปยิงอันซูฮยอนให้ตายเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย
จังหวะนี้เองเซี่ยเหล่ยก็ได้ยินเสียงรอสายของโทรศัพท์ดังขึ้นจากนั้นก็มีเสียงพูดเป็นภาษาเกาหลีว่า “สวัสดี …… เทียนหยิน ผมอยากจะโทรหาคุณพอดีว่าแต่อะไรนะ …… โรงแรมพาเลซ? ……มีผู้สื่อข่าวด้วยงั้นเหรอ? อืม…จะว่าไปเราก็มีโครงการที่จะต้องร่วมมือกันอีกสองโครงการนี่ …อืม… งั้นผมจะรีบไปทันที ” อันซูฮยอนพูดเสร็จก็วางสาย
มันเป็นการคุยผ่านโทรศัพท์ อันซูฮยอนกำลังคุยกับเฉินตูเทียนหยิน
หลังจากวางสายเสร็จ อันซูฮยอนก็พูดขึ้นว่า “โอเค ผมจะต้องไปโรงแรมพาเลซก่อนดังนั้นฝากพวกคุณช่วยจัดการส่งไอบ้านี่ให้กับชาวอเมริกันด้วยและอย่าลืมจัดการพวกที่เหลือด้วยหล่ะ ”
”นายน้อย สบายใจได้ผมรู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไรต่อ” ชูคูรีพูดต่อว่า “ว่าแต่คุณอยากที่จะให้จัดการอะไรกับผู้ชายคนนั้นเป็นพิเศษก่อนส่งให้ชาวอเมริกันหรือไม่? ”
”ฮ่าฮ่าฮ่า …… ยังต้องให้บอกอีกงั้นเหรอ” อันซูฮยอนหัวเราะเสียงดังและก็พูดต่อว่า “แต่จำเอาไว้ว่าอย่าให้ตายไปเสียก่อนหล่ะ และเสร็จแล้วก็ฆ่าเชื้อและทำแผลให้กับเขาก่อนส่งตัวไปด้วย เข้าใจไหม?”
”ได้เลย ไม่มีปัญหา” ชูคูรีตอบ ไอรีนโนเวล
ช่องระบายอากาศในชั้นใต้ดินที่ก่อนหน้านี้ได้พ่นแก๊สยาสลบออกมา ตอนนี้ได้หยุดการทำงานแล้วส่วนพัดลมดูดอากาศก็เริ่มทำงานขึ้นมาแทน มันเริ่มดูดแก๊สยาสลบออกอย่างรวดเร็ว
สภาพอากาศในชั้นใต้ดินตอนนี้กลับสู่สภาวะปกติแล้วแต่หลงบิงกับลู่เชิงก็ยังไม่ได้สตินี่ถือเป็นเรื่องปกติ พวกเขาไม่มีทางที่จะได้สติขึ้นมาในทันที
เซี่ยเหล่ยหยิบปืนของหลงบิงและของตัวเองขึ้นมาถือไว้ทั้งสองมือพร้อมเดินไปที่ประตูลิฟต์หลังจากนั้นก็เอาปืนที่มือซ้ายไปซ่อนด้านหลังของตัวเองไว้ จากนั้นก็นั่งลงพร้อมปิดตานั่งรอคอยเวลาที่พวกเขาจะลงมาที่ชั้นใต้ดิน
หลังจากนั้นผ่านไปไม่กี่นานทีก็มีลิฟต์ลงมายังชั้นใต้ดิน
เซี่ยเหล่ยสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายมากที่สุด
และถึงแม้ว่าตอนนี้เซี่ยเหล่ยจะยังหลับตาอยู่แต่เขาก็สามารถใช้ความสามารถของตาซ้ายจึงสามารถมองเห็นทุกอย่างภายในชั้นใต้ดินได้อย่างชัดเจน
ประตูลิฟต์ได้เปิดออกชูคูรีและคิมจียอนเดินออกมาจากลิฟต์ พวกเขามาพร้อมกับบอดี้การ์ดสี่คนของอันซูฮยอนหนึ่งในนั้นแบกเจ้าหน้าที่หวู่พร้อมกับเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้สอดแนมของเขาลงมาที่นี่ด้วย
เห็นได้ชัดว่าเมื่อพวกเขาส่งตัวเซี่ยเหล่ยให้ชาวอเมริกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะจัดการฆ่าหลงบิงและเจ้าหน้าที่หวู่ ลู่เชิง พร้อมกับทำลายเครื่องมือสอดแนมทิ้ง ณ ที่นี่ด้วย
ชูคูรีเมื่อเดินออกมาแล้ว เขามองไปยังหลงบิงและลู่เชิงที่นอนหมดสติอยู่ที่พื้น หลังจากนั้นก็มองไปที่เซี่ยเหล่ยที่ดูเหมือนจะหมดสติอยู่เช่นกัน มุมปากของเขายิ้มเยาะเย้ยขึ้นทันทีจากนั้นก็พูดออกมาเสียงดังว่า “ได้ยินมาว่า เพื่อนคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์มากแถมยังมีความสามารถในการยิงปืนที่แม่นยำแต่แล้วยังไงหล่ะ….ยุคนี้ คนที่ถืออาวุธไม่ได้น่ากลัวเสมอไป คนมีสมองต่างหากที่น่ากลัว ฮ่าฮ่า…”
คิมจียอนยิ้มก่อนพูดว่า “เขาคิดว่าเราไม่รู้ตัวว่า นายน้อยถูกเครื่องติดตามสอดแนมอยู่ แต่ไม่เลย…เขาต่างหากที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้มันคือกับดักที่เราสร้างขึ้นมา ซึ่งฉันรู้สึกผิดคาดมาก มันไม่เหมือนกับที่ชาวอเมริกันบอกว่าเขาแข็งแกร่งเลย ”
”แต่เขาก็ยังฉลาดอยู่ เขารู้ว่าต้องให้ผ้าเปียกเพื่อป้องกันแก๊สยาสลบ” ชูคูรีพูดพร้อมเดินไปใกล้ๆกับเสื้อที่มีกลิ่นฉุนของปัสสาวะ
”แต่มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี” คิมจียอนพูดต่ออีกว่า “เอาหล่ะ แยกย้ายกันไปจัดการได้แล้ว!”
”ทองคำถือว่ามีค่าอย่างมากในประเทศของเรา ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกัน เธอดูดีไม่ใช่น้อยเราขอเล่นกับเธอก่อนได้หรือไม่” บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้น
”หยุดทำอะไรไร้สาระ เราไม่มีเวลามากขนาดนั้น” คิมจียอนพูดอย่างไม่พอใจ
บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ทำไมหล่ะ มันก็คงไม่เสียเวลามากเกินไปหรอกหน่า ฮ่าฮ่า! ”
”อย่ามาไร้สาระ ไอ้ลูกหมา!” คิมจียอนพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ
ทำให้เหล่าบอดี้การ์ดต่างกระจายตัวกันออกไปทำหน้าที่ของตัวเองส่วนหนึ่งก็ไปจับหลงบิงและพาไปยังเวที ส่วนหนึ่งก็ไปจับลู่เชิงและพาไปยังเวที อีกกลุ่มหนึ่งก็พาเจ้าหน้าที่หวู่พร้อมอุปกรณ์การสอดแนมไปยังเวทีเช่นกัน
ชูคูรีเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เมื่อคุณตื่นขึ้นมา ก็จะพบว่าปืนของคุณหายไปเรียบร้อยแล้ว” พูดเสร็จก็ก้มตัวพร้อมจะหยิบปืนในมือขวาของเซี่ยเหล่ยขึ้นมา
แต่แล้ว…ตอนนี้!
จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็ยกปืนในมือซ้ายที่ซ่อนไว้ด้านหลังก่อนหน้านี้ขึ้นมาและเล็งไปตรงหน้าอกของชูคูรีอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญเขาทำทุกอย่างโดยที่ยังปิดตาของตัวเองอยู่ !
ปัง!!
บริเวณหน้าอกของชูคูรีมีแผลฉกรรจ์พร้อมกับมีเลือดไหลกระเซ็นออกมามากมายเหมือนกับท่อประปาแตก
แต่นี่ยังไม่หมดความตั้งใจของเซี่ยเหล่ย เขาได้ขยับปากกระบอกปืนไปยังหัวของชูคูรีจากนั่นก็ลั่นไกทันที!
เขาทำแบบนี้ก็เพื่อความมั่นใจ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นแน่นอนว่าตอนนี้ชูคูรีตายแล้ว!!
เซี่ยเหล่ยไม่รอช้า เขาคงยังคงดำเนินการต่อไป เขาหันปากกระบอกปืนไปที่ คิมจียอน อย่างรวดเร็วหลังจากนั้นก็ลั่นไกทันที!
ปัง!! กระสุนพุ่งเข้าหัวของเธออย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่ถึงสิบวินาที มีคนตายไปสองคนแล้ว!!
บอดี้การ์ดทั้งสี่คนที่รับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้พวกเขากำลังวางหลงบิงลู่เชิง พร้อมกับเจ้าหน้าที่หวู่และเตรียมที่จะหยิบปืนขึ้นมา
แต่เซี่ยเหล่ยอาศัยความรวดเร็วของตัวเอง เขาดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาและเล็งยิงไปที่พวกเขา
ปังปังปังปังปังปังปังปังปัง…..
เสียงปืนดังขึ้นหลายหนัด
บอดี้การ์ดทั้งสี่คนต่างพากันสำรวจที่ตัวเองดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าตัวตอนนี้ตัวเองโดนยิงเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นก็เพราะความรวดเร็วและความแม่นยำของเซี่ยเหล่ย
จนในที่สุดตอนนี้พวกเขาได้รับรู้แล้วว่าตัวเองถูกยิง พวกเขาต่างค่อยๆพากันล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
เซี่ยเหล่ยไม่ใช่แค่คนที่ยิงปืนไรเฟิลแม่นเท่านั้นแต่ความสามารถในการยิงปืนพกของเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลยนั่นรวมไปถึงความรวดเร็วในการตอบสนองต่อการขยับร่างกายไปเล็งเป้าหมายก็ทำได้ในระดับที่เรียกว่าคนธรรมดาไม่สามารถเลียนแบบได้!!
แต่ถึงอย่างไรก็ตามตอนนี้มีบอดี้การ์ดคนหนึ่งที่ยังไม่ตายในทันที เขาพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้าย ยกปืนขึ้นมาและเล็งไปที่เซี่ยเหล่ย
ปัง เสียงปืนนัดนี้ไม่ใช่ของบอดี้การ์ดแต่เป็นเสียงปืนจากปืนของเซี่ยเหล่ยเขายิงไปที่มือของบอดี้การ์ดคนนั้น ปืนหลุดจากมือเขาทันที
หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็เดินไปหาเขาอย่างช้าๆพร้อมกับทำหน้าตาดุดัน
”ไม่ …… อย่าฆ่าผม …… ผมยัง …… ภรรยาและลูก …… ” บอดี้การ์ดคนนั้นพยายามพูดอ้อนว้อนและร้องขอชีวิต
แต่เซี่ยเหล่ยไม่สนใจเขาตอบกลับไปอย่างไม่แยแสว่า “เดี๋ยวภรรยาของคุณก็จะได้แต่งงานใหม่”
”ไม่ !!!!!!!!!!!!!!!!!” บอดี้การ์ดกรีดร้องออกมาเสียงดัง
ปัง!! กระสุนเข้าตรงหน้าผากและเจาะทะลุออกไปทางด้านหลัง เลือดสาดกระเซ็นออกมามากมาย ภาพนี้เป็นภาพที่ไม่ค่อยหน้าดูซักเท่าไหร่เพราะมันค่อนข้างจะน่าขยะแขยง แต่เซี่ยเหล่ยกลับไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย…
ติดตามตอนต่อไป…….