Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่– 389 เรื่องลับ !
เมื่อตรงสู่ด้านหลังของโกดังสินค้าจะพบว่ามีกระท่อมหลังหนึ่งตั้งอยู่ภายในมีเตียงนอน โต๊ะ และโซฟาสองตัว เรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน ด้านหน้ากระท่อมมีแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำสายนั้นเป็นไซต์ก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้าง มันเงียบสนิทไม่มีเสียงใด
”บางครั้งพ่อก็มาอยู่ที่นี่สักพักน่ะนะ” เซี่ยฉางห่ายกล่าวก่อนจะให้เซี่ยเหล่ยนั่งลงบนโซฟา
คนเป็นลูกนั่งลงแล้วพูดต่อ “พ่อครับ มีเรื่องหลายอย่างที่ยังคาใจผมอยู่ ไหนๆตอนนี้เราก็เจอกันแล้ว ผมอยากได้คำอธิบายเรื่องพวกนั้น”
เซี่ยฉางห่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเซี่ยเหล่ย “พ่อรู้ ตอนนี้ถึงเวลาบอกความจริงลูกทั้งหมดแล้ว” เซี่ยเหล่ยมองหน้าพ่อตัวเอง เงียบลงและรอฟังเขาพูด
”พ่อเชื่อว่าลูกคงรู้แล้วว่าพ่อไม่ใช่คนธรรมดา” เซี่ยฉางห่ายเริ่มเล่าช้าๆ “พ่อเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กร FA องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 นั่นคือเมื่อ 100 ปีที่แล้วแต่ลูกคงจินตนาการไม่ออกหรอกว่าที่นั่นมีอิทธิพลและลึกลับขนาดไหน”
”แล้วพ่อ…… เข้าองค์กรนั่นได้ยังไง?” เซี่ยเหล่ยอดถามคำถามนี้ไม่ได้
เซี่ยฉางห่ายแค่นยิ้ม “พ่อเป็นเด็กกำพร้าที่โตมากับบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนมารับพ่อไปจากบ้านเด็กกำพร้าแต่มันไม่ใช่การรับไปเลี้ยงอย่างที่ลูกคิด พ่อถูกพาไปที่ไซบีเรียเพื่อรับการฝึกอันโหดร้ายที่นั่นมีเด็กจากทั่วโลก อเมริกัน เยอรมัน อังกฤษ ญี่ปุ่น อิสราเอลหรือซาอุดิอาระเบียทุกประเทศที่ลูกเห็นในแผนที่โลกล้วนมีบ้านเด็กกำพร้าที่จะส่งเด็กไปที่องค์กรโดยเฉพาะองค์กร FAเป็นองค์กรระดับโลก พวกเขาจะคัดเลือกคนเป็นพิเศษเพื่อดึงตัวไปเป็นสมาชิกองค์กร และพ่อก็เป็นหนึ่งในนั้น”
เมื่อได้ฟังพ่อเล่า เซี่ยเหล่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นหน้าปู่มาก่อน
เซี่ยฉางห่ายพูดต่อ “พ่ออยู่ไซบีเรียมา 15 ปีหลายคนก็ตายจากไปส่วนคนที่ผ่านการทดสอบสุดท้ายก็จะถูกส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิด ซ่อนตัวเพื่อรอทำภารกิจและระหว่างนั้นเองที่พ่อได้รู้จักกับแม่ของลูก”
เซี่ยเหล่ยรู้สึกเจ็บแปลบในใจเล็กๆ ความทรงจำเกี่ยวกับแม่ของเขาเองก็เลือนรางเหลือเกิน
”พ่อรู้ว่าพ่อไม่ควรเข้าใกล้เธอแต่พ่อก็ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย พ่อตกหลุมรักแม่ของลูกและนั่นเป็นครั้งแรกที่พ่อรู้สึกว่าพ่อได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติธรรมดาหลังจากนั้นเราก็แต่งงานกันมีลูกและเซี่ยเสวีย พ่อใช้ชีวิตอยู่ระหว่างครอบครัวเราและองค์กร FA ทำภารกิจขององค์กรในขณะที่รับบทเป็นสามีและพ่อของครอบครัวไปด้วย” ”แล้วองค์กร FA รู้เรื่องผมกับเซี่ยเสวียรึเปล่า?” เซี่ยเหล่ยถามต่อ
เขาตอบ “มี 3 คนที่รู้นะ แต่พวกเขาตายไปหมดแล้ว พ่อไม่มีทางปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่แน่ถ้ามีคนมาทำอะไรลูกพ่อทั้งสองคนล่ะก็ ไม่ว่ามันเป็นใคร พ่อจะฆ่ามันซะ”
ความกลัวผุดวาบขึ้นมาในใจเซี่ยเหล่ย เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวตนของเซี่ยฉางห่ายจริงๆจะเลือดเย็นแบบนี้! มันช่างต่างกับพ่อที่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ในความทรงจำเขาจริงๆ!
”สิ่งที่พ่อเสียใจที่สุดคือแม่ของลูก แม้ในตอนที่เธอจากไปเพราะป่วยหนัก เธอก็ยังไม่รู้ตัวตนจริงๆของพ่อเลยด้วยซ้ำหลังจากเธอตาย พ่อก็ได้รับภารกิจให้ไปสืบความลับของศูนย์วิจัย AE ของอเมริกา พ่อเลยไปกับเจ้าหน้าที่หัวกะทิที่เพิ่งผ่านการทดสอบใหม่กลุ่มหนึ่ง เราใช้เวลาเกือบสองปีในการสืบความลับนั่นคือแคปซูล AE เป็นยาที่ทำให้มนุษย์เกิดการวิวัฒนาการตอนนั้นลูกกำลังป่วย ปวดหัวบ่อยๆ ร่างกายก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ พ่อเลยพาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วหมอก็บอกพ่อว่าลูกมีเนื้องอกในสมองที่ผ่าตัดไม่ได้ และลูกจะมีชีวิตได้อีกไม่เกิน 1 ปี”
”เพราะงั้นพ่อก็เลย……”
เซี่ยฉางห่ายพยักหน้า “แม่ของลูกบอกพ่อไว้ก่อนจากไปว่าให้ดูแลลูกทั้งสองคนให้ดีแล้วพ่อก็สัญญาไว้ดังนั้นพ่อจะไม่อยู่เฉยๆ มองลูกจากไปอีกคนแน่ พ่อขโมยแคปซูล AE มาจากศูนย์วิจัยนั่น 12 เม็ดแล้วให้ลูกกินเข้าไปเพราะมันคือความหวังเดียวของพ่อที่ลูกจะได้มีชีวิตต่อไป”
ภาพเรื่องราวหลายๆอย่างย้อนเข้ามาในความคิดเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง “พ่อบอกให้ผมกินแคปซูลพวกนั้นเข้าไปทุกเดือน ผมกินไป 11 เม็ด…… แต่ยาพวกนั้นรักษาเนื้องอกของผมได้ยังไง?”
เซี่ยฉางห่ายส่ายหน้า “พ่อก็ไม่ใช่นักชีววิทยาน่ะ พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันทำงานยังไงแต่รู้แค่ว่ามันมีพลังที่แข็งแกร่งและลึกลับจนสามารถเปลี่ยนร่างกายของลูกให้ยิ่งเพอร์เฟ็คและมีพลังมากขึ้นได้ อันที่จริงตอนที่พ่อทำภารกิจนี้ พ่อก็เก็บข้อมูลมาได้เยอะเหมือนกัน พ่อเลยเชื่อว่าแคปซูลนี่จะช่วยลูกได้ ไม่งั้นพ่อก็คงไม่ขโมยมันมา” ไอลีนโนเวล
เซี่ยเหล่ยยกมือขึ้นสัมผัสจีอัลลอยที่คอโดยอัตโนมัติ แคปซูล AE มี 12 เม็ด เขากินไปแล้ว 11 เม็ดถ้าหากเซี่ยเหล่ยกินเม็ดสุดท้ายนั่นเข้าไป เขาจะเป็นยังไงกันนะ?
”พ่อรู้ว่าลูกยังเก็บเม็ดสุดท้ายไว้” เซี่ยฉางห่ายมองคนตรงหน้า “แล้วลูกจะกินมันเมื่อไหร่ล่ะ?”
เซี่ยเหล่ยเงียบคิดแล้วจึงตอบ “ผมก็อยากกินนะครับและอยากรู้ด้วยว่ามันจะเป็นยังไงต่อไปแต่ผมอยากรู้ส่วนประกอบของมันก่อน จริงๆผมก็ลองศึกษามันแล้ว มันค่อนข้างพิเศษและมีเอกลักษณ์ ตอนนี้ผมเลยไม่อยากกินมันสักเท่าไหร่ แต่ผมไม่เข้าใจ ในเมื่อมันพิเศษแล้วศูนย์วิจัย AE ได้อะไรจากมัน? ใครเป็นคนคิดค้น? อเมริกาเหรอ?” เซี่ยฉางห่ายนิ่งไปครู่หนึ่ง “ตอนนี้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์คงมาได้ไม่ถึงระดับนี้ พวกมันถูกขุดขึ้นมา”
”หา?” เซี่ยเหล่ยอึ้งไป
”พ่อได้ข้อมูลมาว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นญี่ปุ่นบุกหนานจิงพวกเขาเจอหนังสือโบราณของราชวงศ์หมิงในหอสมุด หนังสือเล่มนั้นรวบรวมข้อมูลอันเหลือเชื่อเอาไว้ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ AE ไงล่ะ ในหนังสือนั่นยังมีตัวอักษร AE อยู่ด้วยนะ มันถึงได้เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อแต่ถึงอย่างนั้นญี่ปุ่นก็กำลังยุ่งอยู่กับการบุกดินแดนของเราเลยไม่ได้ใส่ใจมันนักแต่หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยอมจำนน อเมริกาก็เริ่มเอามันไปศึกษา ใช้ข้อมูลในหนังสือ จนในที่สุดก็พบแคปซูล AE ในเยรูซาเลม”
เรื่องทั้งหมดที่เซี่ยฉางห่ายเล่ามามันฟังดูราวกับนิทาน
ญี่ปุ่นได้เข้ารุกรานและยึดหนานจิงเป็นเมืองขึ้นก่อนจะพบหนังสือโบราณของราชวงศ์หมิงจากนั้นอเมริกาก็ชิงอำนาจญี่ปุ่นไปหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขาได้เบาะแสในหนังสือและพบแคปซูล AE ในเยรูซาเลมแต่สุดท้ายแล้วพวกแคปซูลเหล่านั้นก็ถูกส่งลงท้องวัยรุ่นชาวจีนคนหนึ่งไปเกือบหมดอยู่ดี นี่ถือเป็นโชคชะตารึเปล่านะ?
เซี่ยฉางห่ายพูดต่อ “ถ้าเราให้เวลาพวกอเมริกันอีกสักหน่อย พวกเขาอาจจะปลดล็อคความลับของแคปซูล AE ได้เลยแต่โชคร้ายที่ลูกคงรอได้ไม่นานขนาดนั้น พ่อขโมยมันมาแล้วส่งต่อมันให้ลูกเพราะงั้นพ่อถึงได้มีหมายจับจาก CIA โลกและถูกคนขององค์กร FA ตามล่า ภายใต้สถานการณ์แบบนี้จะให้พ่อไปเจอลูกกับน้องได้ยังไง?”
เซี่ยเหล่ยยิ้ม “ถ้างั้นแม้แต่ศูนย์วิจัยเองก็ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่มาและความลับของแคปซูล AE ที่แน่นอนเลยใช่มั้ย?”
คนเป็นพ่อส่ายหน้า “พ่อบอกได้เลยว่าบนโลกนี้ไม่มีใครรู้ความลับของแคปซูลนั่นเลยสักคนเดียว” ”แล้วอัลลอยโบราณที่ผมขุดได้ในอัฟกานิสถานนี่ล่ะ? มีคำว่า AE สลักอยู่บนนี้ด้วย”
เซี่ยฉางห่ายกล่าว “พ่อไม่เคยหยุดสืบหาข้อมูลหรอกนะ เพราะงั้นพ่อเลยขอให้เยลเลน่าไปรับลูกมาที่นี่เพื่อเอาอัลลอยนั่นให้พ่อแต่ยังไงลูกก็ทำถูกแล้วนะที่ส่งมันให้รัฐบาลจีนน่ะเพราะข้อมูลของ AE ถูกพบในจีน มันจึงควรถูกส่งกลับบ้านที่มาของมันที่สุดแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นคือลูกก็อยู่ในสำนักงานลับ 101 ลูกมีโอกาสที่จะเข้าถึงข้อมูลของอัลลอยนั่นได้มากกว่าพ่อ พ่อเลยยอมแพ้ดีกว่า”
ตอนนี้เซี่ยเหล่ยเข้าใจชัดเจนแล้วว่า เซี่ยฉางห่ายจะส่งต่องานอัลลอยโบราณให้เขาทำไมเพราะถ้าเป็นเซี่ยฉางห่ายคงไม่เหมาะจะรับหน้าที่นี้เท่าไหร่ เขาอาจถูกฆ่าเพื่อชิงอัลลอยไปก็ได้
”ถึงพ่อจะทำดีที่สุดแล้วแต่สุดท้ายพ่อก็ถูกพวก CIA เจอตัวอยู่ดี พวกเขาส่งสายลับชาวจีนอย่างหลางซือเหยาไปหาลูกตอนนั้นพ่อล่ะอยากฆ่าเธอจริงๆ แต่เธอแข็งแกร่งมากทั้งยังมี CIA บางคนคอยคุ้มกันเธออยู่ใกล้ๆด้วยแต่หลังจากนั้นพ่อก็รู้ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรลูกเลย พ่อส่งอีเว่นส์แจไปเตือนลูกแต่ไม่คิดว่าเธอจะถูกหลางซือเหยาฆ่าเอาซะก่อน” เมื่อพูดถึงตรงนี้เซี่ยฉางห่ายก็ยิ้มออกมา “ที่น่าสนใจกว่านั้นคือหลางซือเหยารักลูกและลูกก็รักเธอ พ่อฆ่าเธอไม่ได้อีกแล้วเพราะถ้าพ่อทำแบบนั้น ลูกคงไม่มีวันให้อภัยพ่อแน่”
เมื่อฟังดังนั้น เซี่ยเหล่ยก็แค่นยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ความรักของเขากับเธอเป็นแค่ความผิดพลาดเท่านั้น
”แล้ว ลูกอยากถามอะไรพ่ออีกล่ะ?” เซี่ยฉางห่ายมองลูกชายอย่างใจดี
เซี่ยเหล่ยพูดต่อ “บอกผมทุกเรื่องที่บอกได้เถอะ ผมไม่มีอะไรจะถามแล้วล่ะแต่เรื่องความลับของ AE ตอนนี้พ่อสืบไปถึงไหนแล้ว?”
เซี่ยฉางห่ายตอบ “ตอนนี้ลูกก็รู้เท่าพ่อแล้วล่ะ ส่วนที่มากกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกแล้ว ลูกพ่อ ลูกต้องหาโอกาสเชื่อมต่อเข็มทิศกับอัลลอยโบราณเข้าด้วยกันนะ พ่อจะคอยช่วยลูกเงียบๆ ถ้าเราพ่อลูกร่วมมือกัน เราก็จะได้ค้นพบความจริงกันสักที”
แม้เซี่ยเหล่ยอยากจะออกจากสำนักงานลับ 101 แล้วแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะต้องเลื่อนแผนนี้ออกไปก่อนเพราะถ้าเขาออกตอนนี้ แล้วเขาจะเชื่อมต่อเข็มทิศกับอัลลอยโบราณได้ยังไง?
โลกนี้มันช่างยากเย็น บางคนที่ไม่อยากจะมองเห็นกลับต้องมีส่วนเกี่ยวพันจนถอนตัวไม่ได้ เรื่องบางเรื่องที่ไม่อยากจะทำก็กลับต้องทำเสียอย่างนั้น
”ลูกพ่อ ลูกต้องระวังตัวให้มากๆนะ” เซี่ยฉางห่ายกล่าว “ตำแหน่งของพ่อมันไม่ธรรมดาถ้าสำนักงานลับ 101 รู้เข้าล่ะก็ ลูกได้มีปัญหาใหญ่แน่”
เซี่ยเหล่ยตอบสั้นๆ “ผมกำลังจับตาดูอยู่”
”ใครเหรอ?” เซี่ยฉางห่ายขมวดคิ้วโดยอัตโนมัติ เขาตอบ “ผมก็ยังบอกไม่ได้ครับว่าเป็นใครแต่เรื่องนี้ผมมั่นใจมาก พ่อไม่ต้องเป็นห่วง ผมยังไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆกับประเทศเลยนะ เรื่องอาชญากรรมหรือผิดกฎหมายก็เหมือนกัน อันที่จริง ผมทำงานให้ประเทศด้วยซ้ำ พวกเขาจะไม่เมินผลงานของผมและตัวตนของผมแน่ ผมเชื่อว่าพวกคนเบื้องบนจะต้องให้ความยุติธรรมกับเรา”
เซี่ยฉางห่ายถอนหายใจ “ถ้าลูกคิดได้แบบนั้นพ่อก็สบายใจแต่ก็นะ พ่อไม่ได้มีศัตรูอะไรมากมายหรอกแต่พ่อห่วงว่าถ้าลูกใช้วิธีนั้น ศัตรูของลูกจะมาโจมตีลูกนี่สิ”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ผมจะระวังตัวครับ” เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “พ่อคือพ่อของผม ไม่ว่าพ่อจะเป็นใคร พ่อก็จะเป็นพ่อของผมอยู่ดีและมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมจะทำในสิ่งที่ถูกต้องยืนหยัดในสิ่งที่ถูกถ้าพวกเขาจะโจมตีผมก็เอาเลย ผมไม่ถอยแน่ ผมไม่กลัวด้วย”
เซี่ยฉางห่ายยกยิ้มมีลูกเก่งแบบนี้แล้วเขาจะไม่ภูมิใจได้ยังไงกัน?
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงเยลเลน่าก็ดังผ่านเข้ามาในห้อง “ออกไปเร็ว!”
ติดตามตอนต่อไป……..