Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ – 416 หัวใจศักดิ์สิทธิ์
TXV– 416 หัวใจศักดิ์สิทธิ์
อันซูฮยอนเป็นคนฉลาด เขารู้วิธีใช้ประโยชน์จากความร่วมมือของบริษัทก๊อดโดเมนและบริษัทเหวี้ยนเทียนรวมทั้งอำนาจอิทธิพลของพ่อเขาเองด้วยนอกจากนั้นเขายังใช้สื่อ นักข่าว และบรรดาแขกเหรื่อเพื่อโหมกระแสแต่เขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่ามันจะฆ่าเซี่ยเหล่ยได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำลายเขาจนย่อยยับเสียแทนด้วย!
ความน่าขายหน้าแบบนั้น จะให้ประธานหนุ่มของบริษัทก๊อดโดเมนทนนิ่งอยู่ได้ยังไง?
กูอยากให้มันตาย! ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินในรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งอันซูฮยอนกระแทกหมัดลงบนพวงมาลัยอย่างเกรี้ยวกราด
ที่นั่งด้านหลังคนขับมีชายร่างสูงผมบลอนด์คนหนึ่งนั่งอยู่ เขาพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ คุณอัน แม้แต่นักฆ่าขององค์กรยังฆ่าเซี่ยเหล่ยไม่ได้เลย คุณจะกำจัดเขาได้ก็ต่อเมื่อใช้เงินเยอะๆหน่อย จ้างนักฆ่าที่ดีที่สุดในโลกมาทำงานนี้
อันซูฮยอนหันหน้าไปเผชิญกับเขาพูดด้วยเสียงเย็นเฉียบ คุณฮอฟฟ์แมน นี่คุณกำลังหมายถึงตัวคุณเองใช่มั้ย?
ชายผมบลอนด์เจ้าของชื่อฮอฟฟ์แมนตอบเสียงเรียบ เรื่องนั้นน่ะ ถึงผมจะเก่งมากๆ แต่ก็ไม่ใช่เก่งที่สุดหรอกครับ ผมแค่มีเส้นสายตราบใดที่คุณพร้อมจ่ายก็มีคนพร้อมไปเอาชีวิตเซี่ยเหล่ยมาให้คุณอยู่แล้วครับ
ผมไม่สนเรื่องเงินหรอก ผมจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ที่ต้องการอยู่แล้ว! อันซูฮยอนแทบรอให้เซี่ยเหล่ยตายไม่ไหวอยู่แล้วและเซี่ยเหล่ยจะต้องตายต่อหน้าเขาด้วย!
ดีครับ งั้นผมจะติดต่อให้เดี๋ยวนี้เลย ฮอฟฟ์แมนหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา
ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมาจากด้านหลังรถและเคาะที่กระจก
อันซูฮยอนหันไปมองต้นเสียง ก่อนจะอึ้งไปทันที……
ตอนนั้นเองรถ Chevrolet Suburban ก็ขับมาถึงทางแยกจากจุดจอดเพื่อเข้าสู่ถนน เขาขับออกไปและทิ้งตึกทั้งตึกไว้เบื้องหลัง
เซี่ยเหล่ยเป็นคนขับโดยมีเฉินตูเทียนหยินนั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับ เซี่ยเหล่ยมองไปยังทางข้างหน้า ส่วนเฉินตูเทียนหยินก็มองเขาอยู่เบาะข้างๆ บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม ดูมีความสุขและสงบมาก
สำหรับเฉินตูเทียนหยินเมื่อเซี่ยเหล่ยขอเธอแต่งงานผลลัพธ์ก็ไม่ต้องเดาอะไรเลย เธอเฝ้ารอเขามาถึง 2 ปีและหลังจากเรื่องราวมากมาย จุดเปลี่ยนหลายอย่างผ่านไป ในที่สุดทั้งสองคนก็ลงเอยกันด้วยดี
สำหรับเซี่ยเหล่ยเรื่องนี้มันราวกับละครหลังข่าวก่อนที่เขาจะเข้าไปในตึก เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะขอเธอแต่งงานมาก่อนแต่ตอนนี้เขาก็ออกจากตึกมาพร้อมกับเฉินตูเทียนหยินข้างๆ เขาเป็นคู่หมั้นของเธออย่างเป็นทางการแล้ว
เมื่อมองย้อนกลับไปแล้วถ้าอันซูฮยอนไม่ทำตัวยโสก้าวร้าว ครั้งนี้อาจเป็นโอกาสดีที่เขาจะทำให้เฉินตูเทียนหยินประทับใจและตอบตกลงเขาเลยก็ได้ ส่วนเซี่ยเหล่ยก็อาจจะไม่ได้ขอเฉินตูเทียนหยินแต่งงานไปแบบตอนนี้
ชีวิตคนเราก็เหมือนละครที่คาดการณ์อะไรไม่ได้เลยจริงๆ
คุณมองผมตลอดเลยนะ แบบนี้ผมก็ไม่มีสมาธิขับรถสิ เซี่ยเหล่ยพูดยิ้มๆ
ก็ขอมองคู่หมั้นหน่อยไม่ได้เหรอ? เฉินตูเทียนหยินพูดเสียงนุ่ม ใครบอกให้คุณดูดีนักล่ะ?
เมื่อฟังประโยคแบบนี้จากปากเฉินตูเทียนหยิน เซี่ยเหล่ยก็ได้แต่ยิ้ม หัวเราะน้อยๆ
คนพูดที่เห็นแบบนั้นจึงตีเขาเข้าทีหนึ่ง มาหัวเราะฉันเหรอ งั้นขอถอนคำพูดก็แล้วกัน คุณน่ะไม่หล่อเอาซะเลย
แต่คุณสวยมากจนไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหลงเลยนะ เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมรอยยิ้ม
สถานะคู่หมั้นของทั้งคู่เข้ามาโดยไม่ทันให้เซี่ยเหล่ยตั้งตัว เขายังไม่ค่อยชินในช่วงแรก แต่ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกับเธอไปเรื่อยๆแล้ว เซี่ยเหล่ยก็จะค่อยๆปรับตัวทีละน้อยจนชินไปเอง
ทั้งสองคนพูดคุยและหัวเราะกันในรถ เมื่อพูดเรื่องช่อดอกไม้งานแต่งที่ยังไม่ได้คำตอบ เฉินตูเทียนหยินจึงมอบอำนาจการตัดสินใจให้พ่อของเธอ เฉินตูเหยินและ เซี่ยเหล่ยเองก็ไม่มีความเห็นอะไรเช่นกัน เพียงแต่คิดในใจว่าพ่อของเธอจะพูดอะไรบ้าง ถ้าเลือกวันเวลาใกล้ๆนี้มันก็คงจะเร็วเกินไป!
ระหว่างที่กำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย รถ Chevrolet Suburban ก็มาถึงร้านค้าแห่งหนึ่ง
ผู้จัดการที่ร้านจำเฉินตูเทียนหยินได้เพียงมองแค่ครั้งเดียวและเมื่อได้ยินว่าคนทั้งคู่กำลังมองหาแหวนแต่งงาน เขาก็รีบพาเซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินไปที่ห้อง VIP ทันที ในขณะเดียวกันก็พูดทักทายและนำของล้ำค่าหลากหลายแบบที่ร้านมีออกมาให้ลูกค้าทั้งสองเลือกซื้อ
ในขณะที่เซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินกำลังเลือกแหวนกันอยู่ สายตาของคุณผู้จัดการก็จ้องตรงไปยังอัญมณีที่สร้อยคอของเฉินตูเทียนหยิน เขานิ่งไปด้วยความตกตะลึง
เหล่าพนักงานที่รอลูกค้า VIP ทั้งสองเลือกแหวนก็กระซิบกระซาบคุยกันอยู่ไม่ไกล
นี่รู้มั้ย? ผู้หญิงคนนั้นคือเฉินตูเทียนหยิน ผู้หญิงที่รวยที่สุดในจีนเลยนะ พนักงานหญิงคนหนึ่งซุบซิบเสียงเบา
นี่ ฉันชอบเพื่อนเธอคนนั้นนะ พนักงานหญิงอีกคนกระซิบตอบ
นั่นไม่ใช่คู่หมั้นของเฉินตูเทียนหยินเหรอ? เขาหล่อมากเลยเนอะ
หน้าตาขนาดนี้ เฉินตูเทียนหยินก็คงมองๆเขาอยู่เหมือนเธอนั่นแหละ ฉันว่านะ เขาต้องเป็นเด็กในสังกัดเธอแน่ๆเลย
แต่เขามาที่นี่เพื่อเลือกแหวนนะ ฉันว่าคนจ่ายเงินต้องเป็นเฉินตูเทียนหยินแน่นอน พนันด้วยชีวิตเลย!
แม้ว่าเสียงซุบซิบต่างๆนานาจะเบาแค่ไหนก็ไม่สามารถเล็ดรอดเซี่ยเหล่ยคนหูดีไปได้ เขาได้ยินหมดทุกอย่าง คำพูดของพนักงานหญิงทำให้เขารู้สึกอึดอัดโดยเฉพาะที่บอกว่าเขาเป็นเด็กเลี้ยงของเฉินตูเทียนหยิน คนแบบเขาน่ะเหรอที่จะเกาะผู้หญิงกิน? แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพราะพนักงานหญิงในห้องนี้ก็มีแค่ไม่กี่คน ซึ่งไม่เยอะพอให้เขารู้สึกอายเท่าไหร่
อันที่จริงตอนที่เฉินตูเทียนหยินตอบตกลงการขอแต่งงานของเขา เซี่ยเหล่ยก็เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องมีคนซุบซิบนินทาอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ก็ใครบอกให้เธอรวยกว่าเขากันล่ะ? Aileen-novel
แต่ดูเหมือนว่าหัวหน้าของพนักงานที่ซุบซิบกันก็ได้ยินไปด้วย เขาเหลือบมองพนักงานตัวเองและนั่นทำให้พวกเธอเงียบลงในทันที
คุณเทียนหยิน ขอถามได้มั้ยครับว่าคุณซื้อสร้อยเส้นนี้มาจากที่ไหน? คุณผู้จัดการถามขึ้นอย่างนอบน้อม
เฉินตูเทียนหยินฟังจบก็ก้มลงมองอัญมณีบนสร้อยที่คอตัวเอง แล้วถามกลับเสียงเรียบ คุณรู้จักสร้อยเส้นนี้ด้วยเหรอ?
เซี่ยเหล่ยหันมามองคุณผู้จัดการ เขาเองก็อยากได้คำตอบของคำถามนั้นเหมือนกัน
ผู้จัดการเริ่มตอบ ผมเคยเห็นสร้อยเส้นนี้ในหนังสือหายากเกี่ยวกับพวกเครื่องประดับล้ำค่ามาก่อนน่ะครับ หนังสือเล่มนั้นคืออาจารย์ของผมเลยเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเก่าแก่เกือบ 200 ปีแล้ว เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะถามต่อ คุณเทียนหยิน บอกผมหน่อยได้มั้ยครับว่าคุณซื้อสร้อยเส้นนี้มาจากไหน?
เฉินตูเทียนหยินตอบ คู่หมั้นฉันให้มาหน่ะ
อ๋า…… เมื่อคนถามได้ยินคำตอบก็แสดงท่าทีประหลาดใจออกมา
เฉินตูเทียนหยินขมวดคิ้วอย่างสงสัย
คุณผู้จัดการมองความคิดคนอื่นออก เขารีบพูดต่อทันที คุณเทียนหยินอย่าเข้าใจผมผิดนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย ผมแค่รู้สึกทึ่งเพราะสร้อยเส้นนี้คงราคาประมาณ 20 ล้านดอลล่าร์ แต่คู่หมั้นของคุณมอบสร้อยเส้นนี้ให้คุณ นั่นแสดงว่าเขารักคุณมากๆเลยนะครับ
เมื่อจบประโยคไม่เพียงแค่เฉินตูเทียนหยินที่อึ้ง แต่พนักงานหญิงทุกคนก็อึ้งไปด้วยไม่มีใครกล้าพูดอีกเลยว่าเซี่ยเหล่ยเป็นเด็กเลี้ยงของเฉินตูเทียนหยิน 20ล้านดอลล่าร์สหรัฐก็ประมาณ130ล้านหยวนจีน การจะมอบของขวัญราคาแพงขนาดนี้ให้คนอื่นได้ คนให้เขาจะต้องขายไตแลกเงินไปแล้วรึเปล่า?
ตอนที่ให้สร้อยเส้นนี้กับเธอ เซี่ยเหล่ยไม่รู้มาก่อนเลยว่ามูลค่าของมันจะเยอะขนาดนี้แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรหลังจากรู้ราคาของมันแล้วอยู่ดี เพราะถ้าเขาตั้งใจจะแต่งงานกับเธอ ก็ต้องมอบของขวัญที่ดีที่สุดในโลกให้เธอสิ!
คุณผู้ชายครับ คุณบอกว่าเคยเห็นสร้อยในหนังสือ แล้วหนังสืออธิบายเอาไว้ว่าอะไรบ้างเหรอครับ? เซี่ยเหล่ยถามขึ้น
ผู้จัดการกล่าว มันเรียกว่า ‘หัวใจศักดิ์สิทธิ์’ ครับ มันเป็นสร้อยที่ราชาแห่งนครศักดิ์สิทธิ์บอลด์วินที่ 4 ได้มอบให้พี่สาวของเขาเป็นของขวัญแต่งงาน แต่ตอนนั้นบอลด์วินที่ 4 เป็นโรคร้ายระยะสุดท้ายแล้ว นครเยรูซาเล็มจึงต้องรีบหาผู้สืบบัลลังก์มาดูแลสถานการณ์ให้สงบเรียบร้อยแต่ว่าบอลด์วินที่ 4 ไม่มีรัชทายาท ทางเลือกจึงมีแค่ให้สามีของพี่สาวเขามาดูแลนครต่อแทน อ้อ คุณเคยดูหนังเรื่อง ‘Kingdom of Heaven’ มั้ยครับ? ผมชอบและประทับใจเรื่องนั้นมากๆ คือผมไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าวันนี้จะได้มาเห็นของขวัญพิธีแต่งงานที่บอลด์วินที่ 4 ได้มอบให้พี่สาวของเขาซิบิลล่ากับตาตัวเอง
นครศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเล็ม บอลด์วินที่ 4 และพี่สาวของเขาซิบิลล่า ทั้งหมดล้วนหายไปในประวัติศาสตร์อันยาวนานเกือบ 900 ปีมาแล้ว แต่สร้อยเส้นนี้กลับไปอยู่ในมือของเจ้าหญิงหยงเหม่ยแล้วเรื่องนี้ล่ะ มีใครรู้อะไรบ้าง?
เซี่ยเหล่ยพยายามจำเรื่องนี้อยู่เงียบๆ บางทีมันอาจจะเป็นเบาะแสอธิบายอัลลอยโบราณและหนังสือสำริดนั่นก็ได้ เซี่ยเหล่ยพูดต่อสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ขอบคุณครับ เรื่องที่คุณเล่าน่าสนใจมากเลย เอาล่ะ เทียนหยิน เลือกอันที่ชอบได้รึยังล่ะ?
เบื้องหน้าเฉินตูเทียนหยินตอนนี้เป็นแหวนเพชรราคา 1 ล้านหรือมากกว่านั้นวางอยู่มากมายแต่เมื่อรู้ราคาของ ‘หัวใจศักดิ์สิทธิ์’ ที่เซี่ยเหล่ยให้เธอแล้ว เฉินตูเทียนหยินก็รู้สึกอายเกินกว่าที่จะเลือกแหวนพวกนั้นต่อไปแล้ว
โอเค งั้นเลือกอันถูกๆนะ เธอกล่าว ของขวัญที่คุณให้ฉันมามันมีค่ามากจริงๆ ฉันพอใจแล้วล่ะ
เซี่ยเหล่ยตอบ ได้ไงล่ะ คุณเป็นคู่หมั้นของผมนะ ถ้าคุณใส่แหวนราคาล้านเดียว คนอื่นเขาต้องหัวเราะเยาะผมแน่ๆ
แต่ดูเหมือนเฉินตูเทียนหยินจะไม่เข้าใจความคิดจริงๆของเขา เธอยิ้มกว้าง ถ้างั้น ฉันเป็นผู้หญิงของคุณ เป็นหน้าตาของคุณ แล้วฉันจะทำคุณเสียชื่อได้ไงล่ะเนอะ อืม เอาวงนี้ก็แล้วกันนะ 3ล้าน
เซี่ยเหล่ยยิ้มตามไปด้วย เฉินตูเทียนหยินบทจะเป็นผู้หญิงหัวทึบก็ดี บทจะเป็นผู้หญิงฉลาดก็ดี ที่สำคัญคือเธอไปสุดทั้งสองทางเลยจริงๆ
ขอโทษนะคะ วงนี้ลดได้มั้ยคะ? เฉินตูเทียนหยินเริ่มทำหน้าที่แทนเซี่ยเหล่ย
เอ่อนี่…… ลดไม่ได้แล้วครับ แม้ว่าจะเป็นเฉินตูเทียนหยินที่ขอลดราคาแต่คุณผู้จัดการคนนี้ก็ไม่ใช่คนที่จะต่อรองด้วยง่ายๆอยู่แล้ว
เธอยังคงยืนยันด้วยสีหน้าแบบเดิม ถ้าคุณไม่ลด เราจะไปซื้อร้านอื่นแทนนะ
เอ่อ…… ผู้จัดการเริ่มกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด
เฉินตูเทียนหยินเลิกคิ้ว เอาไว้ฉันจะกลับไปเช็กดูนะว่า Chow Sang Sang เช่าร้านอะไรของเราเอาไว้รึเปล่าแล้วก็รบกวนคุณบอกหัวหน้าของคุณให้มาตกลงกับฉันเรื่องนี้ด้วยนะ
คุณเทียนหยิน ใจเย็นๆก่อนสิครับ ผม ผมขอคุณกับผู้บริหารร้านก่อนนะครับ คุณผู้จัดการเริ่มรับไม่ไหว นี่มันไม่ใช่การขอลดราคาแต่เป็นการปล้นกันแล้ว!
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เฉินตูเทียนหยินก็กอดแขนเซี่ยเหล่ยและเดินออกไปจากร้าน Chow Sang Sang เธอยกมือข้างที่สวมแหวนหมั้นเอาไว้ขึ้นมามองมันอีกครั้ง
แสงอาทิตย์ส่องลงมาบนใบหน้าสวยของเธอ ไม่มีความงามแบบเย็นชาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
เซี่ยเหล่ยนิ่งมองเธอ ความคิดเขาย้อนฉายภาพในอดีตอีกครั้ง เรื่องราวตอนที่อยู่บนเกาะนั้น……
ความรักเป็นสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดในโลกแต่บางครั้งมันก็กลับง่ายเช่นกัน ณ ตอนนี้ ความฝันที่เป็นจริงกำลังช่วยชดเชยเรื่องร้ายๆในอดีตด้วยความสุขและความยินดีจนเต็มเปี่ยมไปในหัวใจของคนทั้งสอง….
ติดตามตอนต่อไป………