Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 424 ประชันหน้า
TXV– 424 ประชันหน้า
โรงงานร้างนี้เป็นโรงงานเคมีที่มีชื่อว่าชุนเฟิง
ในตอนนี้ เซี่ยเหล่ยจอดรถไกลจากโรงงานร้างไกลกว่าสี่กิโลเมตร ด้วยระยะนี้เขาไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เขาเห็นพลซุ่มยิงซุ่มอยู่บนแท๊งค์น้ำหนึ่งคน และมีมือปืนอีกสองซ่อนอยู่หลังประตูทางเข้าได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเห็นมือปืนเพียงแค่สามคน แต่เขามั่นใจมากว่าจะต้องมีมากกว่านี้ แต่เนื่องจากระยะทางสูงสุดในการใช้ความสามารถของตาซ้ายและมุมอับ ทำให้เซี่ยเหล่ยสามารถมองเห็นได้เพียงแค่นี้เท่านั้น
“ถึงกับมีพลซุ่มยิงอยู่ด้วย พวกมันเป็นใครกันแน่?” เซี่ยเหล่ยพูดกับตัวเอง
เซี่ยเหล่ยตัดสินใจขับรถเข้าไปต่อโดยไม่เปิดไฟหน้า ก่อนจะจอดข้างถนน พร้อมกับหยิบปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 ออกจากรถและไปซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้
เซี่ยเหล่ยค่อยๆขยับเข้าไปใกล้กับโรงงานร้างเรื่อยๆ เขาค่อยๆขยับไปตามแนวพุ่มไม้และทุ่งหญ้าที่ขึ้นตามธรรมชาติอย่างช้าๆ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นกำบังธรรมชาติที่ดีมากจริงๆ มันช่วยเขาได้เยอะ
เขาค่อยๆย่องไปเหมือนกับหมาป่าที่กระหายเลือดที่เตรียมตัวจะล่าเหยื่อ อย่างไรก็ตามในตอนนี้เจ้าหญิงหยงเหม่ยก็ยังไม่หายไปไหน เธอยังคอยตามเซี่ยเหล่ยเหมือนกับเงา
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจถึงการมีอยู่ของเธอแม้แต่น้อย
หลังจากค่อยๆย่องไปเรื่อยๆ เซี่ยเหล่ยก็หาจุดยิงได้ เขาวางปากกระบอกปืนไว้กับพุ่มไม้พร้อมกับเล็งไปที่พลซุ่มยิงบนแท๊งค์น้ำ
ก่อนหน้านี้พลซุ่มยิงคนนั้นยืนสวมหมวกอยู่ แต่เซี่ยเหล่ยไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้ เนื่องจากระยะห่างระหว่างพวกเขาก่อนหน้านี้อยู่ห่างกันกว่าสี่พันเมตรซึ่งเป็นระยะสูงสุดของสายตาเซี่ยเหล่ยจะมองเห็นได้ ด้วยระยะที่ไกลกว่านี้เขาจะมองเห็นเป็นภาพเบลอและเห็นรายละเอียดไม่ชัดเจน
แต่ตอนนี้ระยะทางระหว่างเซี่ยเหล่ยและโรงงานอยู่ใกล้กันเพียงสามพันเมตร ด้วยระยะนี้เขาสามารถมองเห็นพลซุ่มยิงได้อย่างชัดเจน พลซุ่มยิงคนนั้นตัวสูงมาก เขามีดวงตาสีตาล และเขาสวมหมวกสีน้ำเงิน
นี่เป็นรูปร่างและลักษณะของชาวตะวันตก
เซี่ยเหล่ยตะหนักทันทีว่า “นี่เป็นชาวตะวันตกนี่……คนที่อยู่เบื้องหลังและลักพาตัวเทียนหยินจะเป็น CIA”
หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็หันไปสังเกตุพลซุ่มยิงที่อยู่ตรงประตูทางเข้า พวกเขาไม่ใช่คนเอเชีย พวกเขาเป็นชาวต่างชาติ คนหนึ่งผิวดำ คนหนึ่งผิวขาว
เซี่ยเหล่ยค่อนข้างมั่นใจมากขึ้นว่าพวกเขาคือเจ้าหน้าที่ของ CIA
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง……
เสียงโทรศัพท์ของเซี่ยเหล่ยดังขึ้น
เบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลกแต่เซี่ยเหล่ยก็รู้ว่าเป็นใคร เขารับสายและพูดขึ้นก่อนเลยว่า “ผมเกือบจะถึงแล้ว รอผมหน่อย”
“อะไรกัน ผมรู้ว่าคุณมาถึงแล้วนี่ รออะไรอยู่หล่ะ?” เสียงของชายคนนั้นพูดออกมาผ่านโทรศัพท์ มันยังคงเป็นน้ำเสียงโทนต่ำและเย็นชา เขายังพูดต่ออีกว่า ”ผมรู้ว่าคุณเป็นคนเก่งและฉลาด ดังนั้นอย่าทำอะไรโง่ๆเลยดีกว่า ไม่อย่างนั้นผมจะฆ่าเธอตอนนี้เลย”
เซี่ยเหล่ยรู้สึกหนักใจทันที ในตอนนี้ด้วยความสามารถของเขา เขาสามารถเก็บพลซุ่มยิงที่อยู่บนแท๊งค์น้ำหรือแม้แต่มือปืนที่เฝ้าประตูได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถยิงได้ เนื่องจากเฉินตูเทียนหยินยังถูกจับเป็นตัวประกันอยู่
“จริงๆแล้วคุณเป็นใคร?” เซี่ยเหล่ยถามหลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง
“ก็แค่คนขาดเงินหน่ะ” ชายคนนั้นตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “ผมให้เวลาคุณอีกสิบนาที ถ้ายังไม่ปรากฏตัว ผมจะฆ่าเฉินตูเทียนหยินทิ้งซะ”
“ถ้าคุณทำอย่างนั้นคุณก็จะตายด้วยเช่นกัน” เซี่ยเหล่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เราควรที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้นคุณแค่จ่ายเงินให้เราพร้อมกับนำตัวเธอกลับไป นี่คือสถานการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา” ชายคนนั้นพูด
“โอเค อีกสิบนาทีเจอกัน” เซี่ยเหล่ยพูดเสร็จก็วางหูทันทีพร้อมกับเดินกลับไปขึ้นรถ
หลังจากสิบนาทีเซี่ยเหล่ยก็ขับรถมาถึงหน้าโรงงานร้าง เขาจอดรถอยู่หน้าประตูทางเข้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขับต่อเช้าไปภายใน
เขาขับรถเข้าไปเรื่อยๆจนเข้าไปถึงภายในโกดังสินค้าภายในเขาพบว่ามีมือปืนทั้งหมดสิบสองคน และมีอีกสองคนที่กำลังควบคุมตัวเฉินตูเทียนหยินเอาไว้อยู่ สภาพของเฉินตูเทียนหยินไม่ค่อยสู้ดีซักเท่าไหร่ ที่ขาของเธอมีรอยฟกเช้ามากมาย ดูเหมือนว่าเธอจะโดนเตะหลายครั้ง
เมื่อเซี่ยเหล่ยเห็นรอยฟกช้ำของเธอ ในใจของเขารู้สึกร้อนเป็นไฟ เขาอยากจะล้างแค้นให้กับเธอ แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อน!
จังหวะเดียวกันนี้ก็มีรถฟอร์ดแรปเตอร์ขับเข้ามาในโกดังสินค้าด้านทิศตรงกันข้ามกับเซี่ยเหล่ย เขาขับมาจอดห่างไม่ไกลมากนักกับรถของเซี่ยเหล่ย
หลังจากรถหยุดนิ่งก็มีชาวผิวขาวหนึ่งคนและผิวดำหนึ่งคนเดินลงจากรถพร้อมกับไปยืนอยู่ด้านหน้าของรถตัวเอง พวกเขาตัวสูงมาก แถมทั่วร่างยังติดอาวุธเต็มไปหมด พวกเขาสวมชุดเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัว ในมือถือปืนไรเฟิลจู่โจม M16A1 ที่เอวเหน็บมีดดาบ เข็มขัดมีลูกระเบิด ที่สะโพกมีแพลูกกระสุนถูกเหน็บเอาไว้เช่นกัน ดูเหมือนพวกเขาพร้อมรบในทุกสถานการณ์
จากนั้นก็มีชายอีกหนึ่งคนเดินมายืนหน้าชายสองคนนั้น เขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ระดับสูงที่มีชื่อว่า แลนด์เบริก เขาประจำการอยู่ภาคเอเซีย เซี่ยเหล่ยไม่ทราบชื่อของเขามาก่อนเลยเนื่องจากว่านี่เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างพวกเขา ในตอนแรกเซี่ยเหล่ยยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA หรือไม่ แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้วเพราะทั้งรูปร่างหน้าตาของเจ้าหน้าที่ รวมถึงอาวุธที่พวกเขาเตรียมมานั้นมันคือคำตอบที่ดีที่สุด
“ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้!” แลนด์เบริกตะโกนเสียงดัง
เซี่ยเหล่ยเปิดประตูรถและลงมาทันที ไอลีนโนเวล
หลังจากเซี่ยเหล่ยลงจากรถเรียบร้อยแล้ว เหล่าเจ้าหน้าที่ CIA ต่างเข้ามาค้นตัวของเขา รวมถึงรถของเขาด้วย
มีดที่เหน็บไว้ข้างเอวถูกพบอย่างรวดเร็วรวมถึงที่ขาด้วยเช่นกัน แต่โชคดีที่พวกเขายังไม่เจอเข็มเซี่ยเหล่ยแอบไว้ที่ฝ่าเท้า
ด้านเจ้าหน้าที่ที่ค้นรถของเซี่ยเหล่ยนั้น เขาไม่พบอาวุธอะไรเลยนั่นก็เพราะเซี่ยเหล่ยเป็นคนฉลาดและรอบคอบ ก่อนที่เขาจะขับรถเข้ามายังโรงงาน เขาได้ทำการซ่อนปืนไรเฟิลซุ่มยิงเอาไว้ในพุ่มไม้ที่เขาหลบอยู่ก่อนหน้านี้
”คุณเซี่ย ในที่สุดพวกเราก็ได้พบกัน” แลนด์เบริกพูดพร้อมกับเดินมาตรงหน้าของเซี่ยเหล่ย ที่ปากของเขามีรอยยิ้มเยาะเย้ยเล็กน้อยก่อนจะพูดต่ออีกว่า “สำหรับการพบกันครั้งแรกของเรา ผมรอวันนี้มานานมากจริงๆ ดูสิวันนี้ผมถึงกับโกนหนวดโกนเครามาด้วยเลยนะ”
แลนด์เบริกสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่วมาก
เซียวเหล่ยหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดว่า “คุณไม่ใช่ผู้ลักพาตัวธรรมดาแต่เป็นเจ้าหน้าที่ CIA”
แลนด์เบริกยักไหล่หนึ่งครั้งก่อนจะพูดต่อว่า “การลักพาตัวมันคือส่วนหนึ่งในแผนการเท่านั้น ดูสิว่ามันได้ผลมากขนาดไหน?”
แม้ว่าจะเจอกับคำพูดการประชดประชัน แต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่สนใจ เขาพูดขึ้นว่า ”คุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่มันผิดกฏหมายของประเทศจีน อีกอย่างคุณยังลักลอบนำอาวุธเข้ามายังประเทศของเราอีกด้วย พวกคุณทำพลาดครั้งใหญ่แล้ว”
แลนด์เบริกส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “พลาดงั้นเหรอ? ไม่หรอก จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ”
เซี่ยเหล่ยพูดต่อทันทีเลยว่า “คุณควรจะรู้ว่าในโลกนี้ หน้าต่างมีรู ประตูมีช่อง”
แลนด์เบริกยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะพูดว่า ”คุณรู้มั้ย สหรัฐอเมริกาของเรานั้นแข็งแกร่งและยอดเยี่ยมขนาดไหน เรามีทีมที่คอยวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์รวมถึงความเสี่ยงจากการกระทำทุกๆอย่าง มันมีโอกาสน้อยมากที่จะถูกจับได้ แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดเผย ทางเราก็มีแผนเตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว ไม่ว่ามันจะกลายเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เราพร้อมจะทำทุกอย่าง…แม้แต่สงคราม เราไม่กลัวประเทศจีนเลย เพราะกำลังพลรวมถึงยุทโธปกรณ์ในการรบของประเทศจีนไม่สามารถทำอะไรสหรัฐอเมริกาได้อยู่แล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ ……”
นี่ถือเป็นการยั่วยุและการดูหมิ่นทั้งเซี่ยเหล่ยและประเทศจีนอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามที่แลนด์เบริกพูดมาก็มีส่วนถูกมากเลย
แม้ว่าประเทศจีนจะไม่ใช่ประเทศที่อ่อนแอแต่หากต้องเผชิญหน้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังรบของประเทศจีนก็ยังเทียบเท่าไม่ได้กับกำลังรบของประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ดี กำลังรบของประเทศจีนในตอนนี้ทำได้แค่เพียงป้องกันประเทศเท่านั้น ประเทศจีนไม่มีกำลังมากพอที่จะเปิดฉากบุกจู่โจมได้เลย
แม้ในหัวใจของเซี่ยเหล่ยจะรู้สึกโกรธมากเพียงใดแต่เขาก็ต้องข่มใจตัวเองเอาไว้และพยายามพูดด้วยท่าทีที่สงบว่า “ตอนนี้ผมก็มาแล้ว คุณควรทำตามสัญญา ปล่อยเฉินตูเทียนหยินไปได้แล้ว”
“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องรีบร้อน” แลนด์เบริกพูดและพูดต่ออีกว่า “ก่อนอื่นผมอยากรู้จริงๆว่าคุณก็รู้ถึงสถานะของเรา แล้วทำไมยังเลือกที่จะมาที่นี่อีก? คุณสามารถหนีไปได้นี่?”
“คุณกำลังถามในสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้วนะ” เซี่ยเหล่ยพูดอย่างเย็นชาก่อนจะพูดต่ออีกว่า “เฉินตูเทียนหยินเป็นคู่หมั้นของผม เธอไม่รู้เรื่องอะไร ปล่อยเธอไปซะ!”
ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ CIA สองคนได้นำตัวเฉินตูเทียนหยินออกมาพร้อมกับถอดผ้าคลุมที่คลุมหัวเธอเอาไว้
เมื่อเห็นเซี่ยเหล่ย เฉินตูเทียนหยินก็ร้องไห้และรีบพูดทันทีเลยว่า “หนีไป! ทิ้งฉันไว้! แล้วหนีไปซะ!”
“หุบปาก!” เจ้าหน้าที่ CIA คนหนึ่งที่กำลังควบคุมตัวเธอพูด พร้อมกับทุบไปที่ท้ายทอยของเธออย่างแรง ด้วยแรงทุบทำให้เธอล้มลงไปกองกับพื้นทันที
“ไอ้เลว!” เซี่ยเหล่ยตะโกนด้วยความโกรธจนไม่สามารถควบคุมตัวได้ เขากำลังเตรียมจะพุ่งไปจัดการเจ้าหน้าที่ CIA คนนั้น
“อย่าขยับ!” แลนด์เบริกพูดพร้อมยกปืนไรเฟิลจู่โจม M16A1 ขึ้นเล็งที่หัวของเซี่ยเหล่ย
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ที่ทุบท้ายทอยของเฉินตูเทียนหยินได้เล็งปืนไปที่หัวของเธอก่อนจะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นผู้หญิงคนนี้จะตายเป็นคนแรก”
เซี่ยเหล่ยหยุดเท้าอยู่กับที่พร้อมกับหันไปพูดว่า “ปล่อยเธอไปซะ ผมจะไปกับคุณเอง!”
แลนด์เบริก หัวเราะเยาะก่อนจะพูดว่า “คุณเซี่ย คุณนี่ไร้เดียงสาจริงๆ คุณคิดจริงๆหรือว่าผมจะปล่อยเธอไปง่ายๆ การปล่อยเธอไปเท่ากับเป็นการสร้างปัญหาให้กับพวกเราเอง ดังนั้นเราจะทำอย่างนั้นไปทำไมกันหล่ะ…ว่าไหม? ฮ่าฮ่า… ดังนั้นเราจะพาเธอไปพร้อมกับคุณด้วย เพราะมันจะช่วยให้คุณเชื่อฟังเรามากขึ้นยังไงหล่ะ”
เซี่ยเหล่ยงโกรธมาก เขาพร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่เพื่อช่วยเฉินตูเทียนหยิน แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เนื่องจากถ้าทำอะไรวู่วามและผลีผลาม ปืนที่จ่อหัวเธอในตอนนี้จะลั่นทันที เธอจะตายอย่างแน่นอน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดและไร้ประโยชน์อย่างมาก
“ทำไมคุณโง่แบบนี้?” เฉินตูเทียนหยินพูดพร้อมกับร้องไห้อย่างหนัก เธอสูญเสียการควบคุมตัวเอง เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดต่อว่า “คุณก็รู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถช่วยฉันได้ แต่คุณก็ยังมา มันจะทำให้คุณตายอย่างไร้ความหมาย คุณมันเป็นคนโง่!”
เธอไม่อยากให้เซี่ยเหล่ยต้องมาพลอยรับกรรมไปด้วย!
“เพราะคุณคือผู้หญิงของผม” เซี่ยเหล่ยพูด
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเซี่ยเหล่ย น้ำตาไหลของเฉินตูเทียนหยินยิ่งไหลออกมามากกว่าเดิม
จังหวะนี้อยู่ดีๆเจ้าหญิงหยงเหม่ยก็เดินเข้ามายืนใกล้กับเฉินตูเทียนหยิน เธอมองไปยังเจ้าหน้าที่ CIA ที่ทุบเฉินตูเทียนหยินที่ท้ายทอยก่อนหน้านี้ ก่อนจะเอื้อมมือไปที่หัวของเจ้าหน้าที่คนนั้น
ติดตามตอนต่อไป………