Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 441 ตาวิเศษ ?
TXV– 441 ตาวิเศษ ?
พวกเขาเดินไปตามทางท่อระบายน้ำเพื่อไปยังไปยังเขตเมืองเก่า ระหว่างทางนั้นพวกเขาก็ยังต้องเจอกับกองขยะ น้ำเน่าเสีย และสิ่งปฏิกูลต่างๆมากมายที่ส่งกลิ่นเหม็นจนชวนอ้วก เซี่ยเหล่ยสามารถอดทดกับสิ่งเหล่านั้นได้ ผิดกับถ่างหยู่เหยี่ยแหละหลงบิงที่หน้าตาสะอิดสะเอียนและต้องการจะออกไปจากที่นี่เต็มทีแล้ว
“นี่” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมกับทำหน้าบิ้งก่อนจะพูดต่ออีกว่า “คุณแน่ใจนะว่าสิ่งที่คุณคิดทั้งหมดมันถูกต้อง?”
“ท่อระบายน้ำแห่งนี้ค่อนข้างที่จะทันสมัยมากเลยนะ มันจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบระบายน้ำโบราณได้ยังไง? คุณลองตรวจสอบเส้นทางดูอีกทีไหม? เผื่อบางทีเราจะมาผิดทาง?” หลงบิงพูดเสริม
เซี่ยเหลี่ยหันกลับไปหาพวกเธอก่อนจะยิ้มและพูดว่า “พวกคุณสามารถกลไปข้างบนได้หากพวกคุณทนไม่ไหวแล้ว ผมจะไปต่อเองคนเดียว” เซี่ยเหล่ยพูด
ถ่างหยู่เหยี่ยและหลงบิงไม่ได้ตอบอะไร
”งั้นก็ไปกันเถอะ เราเกือบจะถึงแล้ว” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับยิ้ม
หลังจากเดินต่อไปอีกหนึ่งกิโลเมตรเซี่ยเหล่ยก็ต้องหยุดเดิน เขาสังเกตเห็นว่ารอบข้างตอนนี้ไม่มีสิ่งปฏิกูลแล้ว สภาพของมันก็ค่อนข้างแห้งและดูเหมือนว่ามันจะอยู่ห่างจาก the Church of the Holy Sepulchre อีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรเช่นกันอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านี่จะเป็นสุดทางของท่อระบายน้ำที่พวกเขาลงมาแล้ว เพราะมันไม่สามารถไปต่อได้ แถมยังมีบันไดเหล็กให้ไต่ขึ้นไปข้างบนซึ่งมีฝาท่อปิดเอาไว้อยู่
“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ทางนี้นะ” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดอย่างหดหู่
แต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่สนใจคำพูดของเธอ เขาเดินไปที่กำแพงพร้อมกับใช้ค้อนทุบอย่างรุนแรงไปที่ฐานของกำแพงทันที
ปัง! เสียงดังจากการใช้ค้อนทุบผนังคอนกรีต ซึ่งเสียงเสียงของมันสะท้อนไปทั่วทั้งท่อระบายน้ำ
”นี่ ระวังหน่อย เดี๋ยวคนที่อยู่ข้างบนก็รู้กันหมดหรอกว่ามีคนทำอะไรอยู่ที่นี่” หลงบิงพูด
“ไม่มีใครได้ยินเราหรอก ตอนนี้เราอยู่ใต้ดินซึ่งลึกกว่าสามเมตร” เซี่ยเหล่ยพูด
หลงบิงไม่เชื่อเขา เธอเดินไปที่บันไดเหล็กก่อนที่จะปีนขึ้นไปจากนั้นก็เงี่ยหูฟังเสียงภายนอกฝากท่อระบายน้ำ เธอไม่ได้ยินเสียงแม้แต่น้อยหลังจากนั้นเธอก็ลองดันฝาท่อระบายน้ำขึ้น แต่ก็ไม่สามารถดันได้ ดูเหมือนว่ามันจะโดนอะไรที่หนักมากๆทับไว้อยู่
แล้วมันคืออะไรหล่ะ?
ก่อนหน้านี้เซี่ยเหล่ยได้ตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาใช้ความสามารถของตาซ้ายมองทะลุขึ้นไปข้างบน เขาพบว่ามีคอนกรีตประมาณหนึ่งเมตรทับฝาท่อระบายน้ำเอาไว้อยู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครสามารถเปิดมันได้และเสียงจะไม่เล็ดลอดออกไปภายนอกอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ก้นของหลงบิงก็อยู่สูงขึ้นไปจากหัวของเซี่ยเหล่ยประมาณสามนิ้วเท่านั้น แม้ว่าเซี่ยเหล่ยไม่ได้ตั้งใจจะมองไปที่มัน แต่ด้วยความใกล้ขนาดนี้เขาก็อดใจที่จะมองขึ้นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยใจไปชั่วขณะพร้อมกับได้รู้ว่าเธอไม่ได้สวมอะไรไว้ข้างในเลย
อันที่จริงหลงบิงไม่ได้ตั้งใจยั่วยวนเซี่ยเหล่ยแต่อย่างใดแต่เป็นเพราะสถานที่ จึงทำให้เธอต้องอยู่ในสภาพแบบนั้น
ขณะเดียวกันถ่างหยู่เหยี่ยก็ส่องไฟไปที่ตาของเซี่ยเหล่ยทันที
เซี่ยเหล่ยรู้ว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไร เขายังคงใช้ค้อนทุบกำแพงอย่างต่อเนื่อง
ปัง! ปัง! ปัง!
ค้อนของเซี่ยเหล่ยค่อยๆบิ่นลงเรื่อยๆ ตามความแข็งของผนังคอนกรีต
หลงบิงลงจากบันไดก่อนจะเดินไปยืนอยู่ข้างถ่างหยู่เหยี่ย พวกเธอกำลังมองไปที่เซี่ยเหล่ยในขณะที่เขากำลังทำลายกำแพงในขณะนั้นก้นของเขาก็กระเพื่อมไปมาตามการออกแรงในการเหวี่ยงค้อน แน่นอนว่าพวกเธอสังเกตเห็นมันและดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่ได้สังเกตเห็นเพียงแค่ก้นของเขาเท่า เพราะยังมีออวัยวะที่สำคัญที่อยู่ไม่ห่างจากก้นซึ่งมันก็กระเพื่อมด้วยเช่นกัน
ผนังค่อนกรีตนั้นไม่หนามาก เมื่อเซี่ยเหล่ยทุบไปเรื่อยๆมันก็แตกจนหมด ชั้นต่อไปที่เขาจะตั้งทุบนั้นก็คือก้อนอิฐ เขาทุบต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่ลดละ
หลังจากใช้เวลาขุดอยู่นานพอสมควร เขาก็สามารถทะลวงก้อนอิฐเหล่านั้นได้ มันมีความหนาประมาณหนึ่งเมตร
หลังจากกำแพงอิฐได้พังลง สิ่งที่อยู่ภายหลังก็เป็นชั้นดินที่ค่อนข้างแห้งและดูสกปรก
“คงไม่ใช่ทางนี้หรอกมั้ง” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดเยาะเย้ยก่อนจะพูดต่อว่า “ไม่มีทางไปต่อ ดูเหมือนว่าสหายเซี่ยเหล่ย คุณจะต้องขุดต่อไปเรื่อยๆจนถึง the Church of the Holy Sepulchre เลยใช่ไหม? ทีนี้มันต้องใช้เวลาขุดนานแค่ไหนหล่ะ? หนึ่งปีหรือสองปี?”
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบอะไร เขาวางค้อนลงกับพื้นก่อนจะเดินไปหยิบพลั่วแบบพับเก็บได้จากกระเป๋าและตรงไปขุดต่อทันที
“คุณนี่จริงๆเลย …” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมแอบมองไปที่ก้นของเซี่ยเหล่ยต่อ
หลงบิงเดินเข้าไปหาเซี่ยเหล่ย ซึ่งเป็นมุมมองที่บังสายตาของถ่างหยู่เหยี่ยพอดี ไม่แน่ใจว่าเธอตั้งใจหรือไม่ เธอพูดกับเซี่ยเหล่ยว่า “ให้ฉันช่วยไหม?”
เซี่ยเหล่ยไม่หันกลับมามอง เขายังคงขุดต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับตอบว่า “ไม่เป็นไร อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว”
“จะเสร็จแล้วอย่างนั้นเหรอ?” หลงบิงถามทันที
เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้ตอบอะไรอีกเช่นเคย เขายังคงขุดต่อไปเรื่อยๆ จนสิบนาทีต่อมาพลั่วของเขาก็ทะลวงชั้นดินที่สกปรกได้สำเร็จ มันเผยให้เห็นอุโมงค์ที่ดำมืดอยู่ข้างหน้าเขา
ด้วยความสงสัยถ่างหยู่เหยี่ยจึงเดินเข้าไปใกล้กับอุโมงค์ก่อนจะส่องไฟเข้าไป แสงสีเขียวพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง มันขับไล่ความมืดให้หายไป
สิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณสองเมตรและมีความกว้างประมาณหนึ่งจุดห้าเมตร ผนังและเพดานทำด้วยหิน ส่วนพื้นทำด้วยปูน ดูเหมือนที่นี่จะเป็นอุโมงค์ระบายน้ำโบราณ
ไม่มีสิ่งปฏิกูลในอุโมงค์ระบายน้ำแห่งนี่เลย มันแห้งมาก รอบๆอุโมงค์ตามแผ่นหินมีฝุ่นและคราบตะกอนสีดำเกาะเต็มไปหมด ดูไม่ออกเลยว่าพวกมันมีอายุมานานแค่ไหนแล้ว อุโมงค์ระบายน้ำแห่งนี้เป็นทางตรงยาวที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
“คุณ…” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดอย่างประหลาดใจก่อนจะพูดต่อว่า “คุณ…คุณรู้ได้ยังไงว่ามีอุโมงค์อยู่หลังกำแพงนั่น?”
“ใช่แล้ว” หลงบิงเองก็สงสัยเช่นกันก่อนจะพูดต่ออีกว่า “เหมือนคุณสามารถมองทะลุสิ่งของได้อย่างนั้นเลยนะ”
เซี่ยเหล่ยรีบหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ ถ้าผมมีพลังแบบนั้น ผมจะไม่เห็นเรือนร่างของคุณได้ภายในพริบตาเลยงั้นเหรอ? แต่ก็ดีนะ ถ้าผมมีพลังแบบนั้นจริงๆ ผมจะมองสาวๆบนถนนแก้ผ้าให้หมด ฮ่าฮ่า!”
“หึ คนไม่ดีต่อให้มีพลังวิเศษก็นำไปใช้ผิดวิธีอยู่ดีสินะ” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดก่อนจะพูดต่อว่า “คุณก็ฝันต่อไปเถอะ ในโลกนี้ไม่มีพลังแบบนั้นจริงๆหรอก”
เซี่ยเหล่ยยิ้มกว้างก่อนจะพูดว่า “มันก็เป็นไปตามที่แผนที่ที่พวกเราเจอยังไงหล่ะ ทางเข้าถูกทำเครื่องหมายไว้ ผมจำทางเข้าได้ ผมจึงพาพวกคุณมาที่นี่ได้ไง ถ้าคุณไม่เชื่อ หลังจากเสร็จเรื่องนี้คุณจะกลับไปที่พิพิธภัณฑ์เพื่อดูแผนที่อีกครั้งก็ได้นะ” Aileen-novel
ถ่างหยู่เหยี่ยและหลงบิงได้หันหน้ามาสบตากัน สัญชาตญาณของพวกเธอบอกว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้นแต่พวกเธอก็ไม่รู้และไม่สามารถอธิบายได้อยู่ดี อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเธอจะพยายามเดาไปต่างๆนาๆมากแค่ไหนก็ไม่เชื่อว่าความคิดที่ว่าเขาสามารถมองทะลุได้จริง
เซี่ยเหล่ยวางเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆของเขากลับไปไว้ในกระเป๋า ก่อนจะเดินเข้าไปยังอุโมงค์ระบายน้ำโบราณเป็นคนแรก
หลังจากนั้นหลงบิงและถ่างหยู่เหยี่ยก็ตามเข้ามา ในหัวของพวกเธอยังคงเต็มไปด้วยความสงสัยแต่มันยังไม่ถึงจุดสูงสุด พวกเธอจึงยังไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ
ในระหว่างที่กำลังเดินนั้น เซี่ยเหล่ยก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าถ้าผู้หญิงทั้งสองคนนี้รู้ว่าเขามีความสามารถในการมองทะลุและด้วยความสามารถนี้สามารถมองทะลุเสื้อผ้าได้ พวกเธอจะทำอย่างไรกับเขา
‘เราจะโดนพวกเธอตบไหมนะ?’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ
หลังจากเดินไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรตามทางของอุโมงค์ระบายน้ำโบราณ เซี่ยเหล่ยก็หยุดก่อนจะพูดขึ้นว่า “หลงบิง คุณเอาเข็มทิศออกมาหน่อย ผมว่าตอนนี้เราใกล้จะถึงแล้วนะ”
หลงบิงหยิบเข็มทิศจากกระเป๋าขึ้นมาไว้ในมือ เข็มของเข็มทิศมีการสั่นอย่างรุนแรง โดยปฏิกิริยาของมันเหมือนกับตอนที่อยู่ the Church of the Holy Sepulchre
เซี่ยเหล่ยมองไปที่มันก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้นว่า “แถวนี้จริงๆ เราใกล้จะถึงแล้ว”
ถ่างหยู่เหยี่ยเงยหน้าขึ้นไปมองบนเพดานของอุโมงค์ระบายน้ำอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “คุณหมายความว่าตอนนี้พวกเราอยู่ ใต้ the Church of the Holy Sepulchre ใช่มั้ย?”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าก่อนจะตอบว่า ” ใช่ ดูเหมือนตอนนี้เรากำลังยืนอยู่ใต้แผ่นหินอ่อนสีแดงเลยหล่ะ”
หลงบิงมองลงไปที่พื่นก่อนจะพูดว่า “แสดงว่าที่ที่เรามองหาอยู่ใต้เท้าของพวกเราใช่มั้ย?”
“ใช่ มันอยู่ใต้เท้าของพวกเรา ตอนนี้เรามาขุดกันเถอะ” เซี่ยเหล่ยตอบ
ทั้งสามหยิบอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการขุดออกมาจากกระเป๋า
วัสดุที่ใช้ในการเชื่อมแผ่นหินเข้าด้วยกันคือโคลนชนิดพิเศษที่มีลักษณะคล้ายปูนในปัจจุบัน ดังนั้นด้วยอายุที่นานกว่าพันปีจึงทำให้มันแข็งจนกลายเป็นหินที่มีความแข็งมาก ทั้งสามคนช่วยกันใช้ทั้ง พลั่วและค้อนกระแทกกับหินพวกนั้นจนเกิดประกายไฟมากมาย เสียงก็ดังมากเช่นกัน แต่ไม่จำเป็นว่าใครจะได้ยินเนื่องจากตอนนี้พวกเขาอยู่ใต้ the Church of the Holy
Sepulchre ที่ตอนนี้ลึกถึงสิบเมตรแล้ว คนที่อยู่ข้างบนไม่มีทางได้ยินแน่นอน
พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ!
อาจเป็นเพราะทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและหลงบิงเริ่มที่จะชอบชุดที่พวกเธอใส่อยู่ตอนนี้หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น พวกเธอไม่พูดหรือทะเลาะกันเลยในขณะที่กำลังขุด อย่างไรก็ตามพวกเธอแอบเหลือบมองนานๆครั้งไปที่เซี่ยเหล่ยในขณะที่กำลังขุดอยู่
พวกเขาเคลื่อนย้ายแผ่นหินออกมาก่อนจะขุดดินลงไปด้านล่างกองดินถูกแยกออกเป็นสองกอง มันอยู่ข้างๆหลุม ซึ่งอีกสองชั่วโมงต่อมา หลุมที่ขุดก็มีความลึกประมาณสองเมตร ในระดับนี้ก็ยังไม่ค้นพบอะไรเลย
“เราต้องขุดอีกนานแค่ไหนกันหล่ะเนี่ย?” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดต่อว่า “ถึงตอนนี้เราไม่สามารถนำดินที่ขุดขึ้นไปไว้บนปากหลุมได้แล้วนะ”
หลงบิงโยนจอบของตัวเองลงก่อนจะนั่งลงกับพื้นอย่างเหนื่อยล้าจากนั้นก็พูดว่า “ฉันหิวแล้ว เรามาพักกันก่อนเถอะ กินก่อนแล้วค่อยขุดต่อ”
“คุณสองคนขึ้นไปก่อนเลย ผมต้องการจะขุดต่ออีกหน่อย” เซี่ยเหล่ยพูด
ถ่างหยู่เหยี่ยมองไปที่ปากหลุมเหนือหัวของเธอ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “มันสูงมาก ฉันปีนขึ้นไปไม่ได้ ดังนั้นคุณต้องเป็นฐานรองให้กับเรา”
“ห๊ะ?” เซี่ยเหล่ยดูตกใจมากก่อนจะพูดต่อว่า “คุณเป็นผู้หญิงของตระกูลถ่างผู้ยิ่งใหญ่ หลุมนี้ลึกประมาณสองเมตรเท่านั้น ทำไมแค่นี้คุณจะปีนเองไม่ได้หล่ะ?”
“ฉันอาจจะปีนขึ้นไปด้วยตัวเองได้แต่ยังไงฉันก็ยังต้องการให้คุณเป็นฐานรองให้กับฉันอยู่ดี” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมกับกดไหล่ของเซี่ยเหล่ย ก่อนที่เริ่มไต่ขึ้นไปบนตัวของเขา
“เอาล่ะ เอาหล่ะ ผมจะเป็นฐานรองให้กับพวกคุณเอง” เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะโค้งตัวลงกับพื้นด้วยตัวเอง
ถ่างหยู่เหยี่ยปืนขึ้นไปบนหลังของเซี่ยเหล่ยแต่เธอไม่ได้ยืนบนหลังของเขา เธอนั่งบนตัวของเขาเหมือนกับกำลังขี่ม้าก่อนจะจับเอวของเขาและพูดว่า “นี่ ลุกขึ้นด้วยสิ”
จังหวะเดียวกันนี้หลงบิงก็กระโดดเหยียบก้นของเซี่ยเหล่ย มันทำให้เขาเสียหลักจนต้องล้มลงไปกองกับพื้นทั้งถ่างหยุ่เหยี่ยและหลงบิงก็เช่นกันพวกเธอก็ล้มลงมาแบบไม่เป็นท่า ทั้งสามคนนอนทับกันไปกันมา คนหนึ่งเอาขาพาดอีกคนหนึ่ง อีกคนเอาหน้าไปค้างที่ระหว่างหน้าอก…
ฉากแบบนี้มักจะเกิดขึ้นในละครโทรทัศน์
ติดตามตอนต่อไป………