Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 463 ข้อตกลง ?
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเกิดขึ้นพร้อมกับบรรยากาศที่ตึงเครียด
เฉินตูเทียนหยินซินะ เจียงหยูยี่พูด
เซี่ยเหล่ยตอบอย่างกังวลไปว่า ผมไม่รู้
ต้องเป็นเธอแน่ๆ เจียงหยูยี่พูดก่อนจะพูดต่อว่า รับสิ รับแล้วบอกเธอไปว่าเรากำลังอยู่ด้วยกันบนโซฟา!
เซี่ยเหล่ยถึงกับพูดไม่ออก
กริ๊ง กริ๊ง…. เสียงโทรศัพท์ของเขายังคงดังอยู่
เซี่ยเหล่ยหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะยืนขึ้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะมองไปที่หน้าจอ มันไม่ใช่เบอร์ของเฉินตูเทียนหยินแต่เป็นเบอร์ของประเทศเกาหลีใต้ เขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า นี่ไม่ใช่เบอร์ของเทียนหยินนี่
พูดจบก็รับสายทันที เสียงของอันกวนดังออกมาจากลำโพงของโทรศัพท์ว่า คุณเซี่ย ผมได้เตรียมสิ่งที่คุณต้องการไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ผมอยู่บนเกาะซานเฉินของเมืองห่ายจู ผมให้เวลาคุณสองชั่วโมงเพื่อมาแลกเปลี่ยนของกันที่นี่
เกาะซานเฉินงั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยทวนก่อนจะพูดต่อว่า ทำไมผมต้องไปที่นั่นด้วยหล่ะ? ตอนนี้ผมถือไพ่เหนือกว่านะ ทำไมผมต้องทำตามที่คุณบอกด้วย ผมควรจะเป็นคนกำหนดวันเวลาและสถานที่เองนะ
คุณเซี่ย ตอนนี้ผมก็อยู่ที่เมืองห่ายจูแล้ว ที่นี่คือประเทศจีน คุณยังจะกลัวอะไรอีกหล่ะ? อันกวนพูด
คุณมากันกี่คน? เซี่ยเหล่ยถาม
แค่ผมและบอดี้การ์ดอีกสองคน อันกวนตอบ
งั้นบอกผมหน่อยว่าทำไมผมต้องเชื่อใจคุณและไปตามที่คุณนัดด้วย เซี่ยเหล่ยพูด
คุณมีสิ่งที่ผมต้องการ ผมจะกล้าโกหกคุณงั้นเหรอ? อันกวนพูดก่อนจะพูดต่ออีกว่า นอกจากนี้ผมจะบอกคุณด้วยว่าตอนนี้กู๋เค่อเหวินอยู่ที่ไหนถือว่าเป็นของขวัญก็แล้วกัน ผมรู้ว่าคุณเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?
เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า แค่สองชั่วโมง ผมจะไปทันเวลาได้ยังไงกันหล่ะ นี่ก็ดึกแล้วด้วย
ประเด็นที่น่าสนใจในตอนนี้ไม่ใช่หลักฐานของเฉินตูเทียนหยินที่อันกวนมีอยู่อีกต่อไปเพราะสิ่งที่เขาอยากจะรู้ตอนนี้คือสถานที่ที่กู๋เค่อเหวินหลบซ่อนอยู่ต่างหาก ด้วยคำพูดนี้ของอันกวนทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกสนใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยในตอนนี้ไม่ใช่เซี่ยเหล่ยคนเก่าแล้ว เขาไม่ใจร้อนเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆที่อันตรายถึงชีวิตรวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดทำให้เขาใจเย็นและมีความสุขุมรอบคอบมากขึ้น ดังนั้นการที่อันกวนเป็นคนนัดเวลาและสถานที่ในเวลาแบบนี้ เขาจะไม่ตอบตกลงทันทีและไปโดยไม่เตรียมตัวเลยอย่างแน่นอน
อันกวนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดว่า ผมเป็นกังวลอย่างมากกับสิ่งที่คุณมีในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่เร่งรีบและมาเป็นการส่วนตัวแบบนี้หรอก ผมเองก็รู้ว่ามันไม่น่าไว้ใจแต่เพราะเหตุนั้นผมก็ได้เตรียมของขวัญไว้ให้คุณด้วยยังไงหล่ะ
เซี่ยเหล่ยคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า เอาหล่ะ ผมจะไปหาคุณที่เกาะซานเฉิน ภายในสองชั่วโมง
พูดจบก็วางสายทันทีหลังจากนั้นเขาก็ยังไม่ขยับตัวไปไหนอยู่ครู่หนึ่ง เขายืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับคิดว่าไฮยีน่าและนักฆ่าคนอื่นๆที่อันกวนจ้างมาจะต้องอยู่ที่นั่นด้วยแน่นอน…..
หากเขาคิดถูก ในอีกไม่นานต่อจากนี้เกาะซานเฉินก็จะกลายเป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยอันตราย
ในขณะนี้เซี่ยเหล่ยกำลังคิดว่า ‘เรื่องสำคัญแบบนี้ ไม่เขาก็อันซูฮยอนจะต้องมาด้วยตัวเองแน่นอน เพราะไพ่ที่อยู่ในมือของเราไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่จะใช้ให้คนอื่นมาทำแทนได้ด้วยนิสัยของทั้งอันกวนและอันซูฮยอน พวกเขาจะต้องได้มันมาและทำลายมันด้วยตัวเอง พวกเขาไม่ไว้ใจคนอื่นเพราะกลัวว่าจะถูกแบล็คเมล์อีกครั้ง เอาหล่ะ…ถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้า!‘
โอกาสที่ดีและอันตรายมักจะเกิดขึ้นพร้อมกันเสมอ!
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตัดสินใจว่าจะไปพบกับอันกวนแล้ว เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยเพราะต่อให้ไฮยีน่าจะเป็นราชาแห่งโลกของนักฆ่าแต่เซี่ยเหล่ยก็ถือว่าเป็นหนึ่งในโลกเหมือนกัน เขามั่นใจว่าตัวเองจะไม่เป็นอะไรและสามารถฆ่าศัตรูทุกคนได้!
เจียงหยูยี่ลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมเดินเข้าไปหาเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ….เหล่ย?
ไม่มีอะไรหรอก อย่าสนใจเลย เซี่ยเหล่ยตอบ
เจียงหยูยี่แสดงสีหน้าเศร้าเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า ฉันกำลังจะถอดกางเกงของคุณออกอยู่แล้ว แต่จู่ๆก็มีคนโทรมาบอกให้คุณไปพบกับเขาบนเกาะแห่งหนึ่ง ฉันจะไม่สนใจเรื่องนี้ได้ยังไงหล่ะ?
เธออดทนรอมานานกว่ายี่สิบปีแต่จู่ๆก็มีใครไม่รู้มาทำให้การอดทนรอของเธอจบลงอย่างสูญเปล่า เธอต้องโกรธและอยากรู้เป็นธรรมดาเพราะเธออยากที่จะไปจัดการกับคนๆนั้นด้วยตัวเอง!
อย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ หยูยี่ เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะพูดต่อว่า กลับบ้านไปแล้วรอผมอยู่ที่นั่นนะ ผมจะรีบไปและรีบกลับ
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เจียงหยูยี่ถามด้วยความสงสัย
อย่าถามอะไรอีกเลย ผมต้องไปแล้ว เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับรีบใส่เข็มขัดของตัวเองให้เรียบร้อย ฉันได้ยินคุณพูดว่าเกาะซานเฉิน ฉันรู้จักเกาะนั่น มันทั้งอยู่ไกลและไม่มีเรือโดยสารไปที่นั่นโดยเฉพาะ ทำไมคนๆนั้นถึงขอให้คุณไปเจอเขาที่นั่นหล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นคือเวลานี้อีกด้วย มันจะต้องมีอะไรแน่ๆ เจียงหยูยี่พูดพร้อมกับคว้ามือของเซี่ยเหล่ยไว้ก่อนจะพูดต่ออีกว่า ตอนนี้คุณเองก็ถือว่าเป็นคนของฉัน ดังนั้นฉันจะช่วยคุณเอง ฉันจะไปที่นั่นด้วย
นี่เป็นครั้งแรกของเจียงหยูยี่ที่พูดว่าเซี่ยเหล่ยเป็นคนของเธอ
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจก่อนจะมองนาฬิกาพร้อมกับพูดว่า คุณต้องการช่วยผมจริงๆใช่มั้ย?
ใช่! คุณเป็นคนของฉัน ฉันจะช่วยใครได้อีกหล่ะ? เจียงหยูยี่พูดครั้งนี้เธอแสดงท่าทางเขินอายเล็กน้อยในขณะที่พูด
ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยหาเรือให้ผมโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็กลับไปรอผมที่บ้านของคุณ เซี่ยเหล่ยพูด หน่วย SWAT มีสปีดโบ๊ทอยู่ที่ชายฝั่งทะเล ฉันสามารถยืมจากพวกเขาได้เอาหล่ะ…ฉันจะพาคุณไปที่นั่น เจียงหยูยี่พูดพร้อมดึงมือของเซี่ยเหล่ยให้ตามเธอไป
เซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่เดินไปขึ้นรถพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งทะเลทันที
ว่าแต่ว่า…. เจียงหยูยี่พูดพร้อมกับลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจพูดต่อว่า ถ้าสายที่โทรมาเมื่อกี้นี้เป็นของเฉินตูเทียนหยิน…คุณจะพูดยังไงกับเธอ?
เซี่ยเหล่ยหัวเราะเจื่อนๆก่อนจะพูดว่า ผมเองก็ไม่รู้ ไอรีนโนเวล
คุณนี่โง่จริงๆ มา…ฉันจะสอนคุณเอง เจียงหยูยี่พูดก่อนจะพูดต่อว่า คุณควรจะพูดกับเธออย่างธรรมชาติให้คิดว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน หากเธอถามว่าคุณอยู่ที่ไหน คุณก็ควรจะบอกเธอไปว่าทำกำลังทำงานล่วงเวลาอยู่ที่ทำงาน หากเธอได้ยินเสียงของฉัน คุณก็บอกเธอไปว่านั่นเป็นเสียงของเลขาคุณ แค่นี้เองไม่เห็นมีอะไรยากเลย ด้วยคำพูดของเธอ ทำเอาเซี่ยเหล่ยถึงกับพูดไม่ออก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เซี่ยเหล่ยก็มาถึงชายฝั่งทะเลเป็นที่เรียบร้อย เขาใส่รองเท้าให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบปินไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 แล้วเดินตามเจียงหยูยี่ไป
ก่อนหน้านี้เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะพกอาวุธเลยด้วยซ้ำแต่ตอนนี้มันต่างกันออกไป เขาสามารถพกพาอาวุธไปไหนมาไหนก็ได้นั่นก็เพราะเขาทำงานให้กับสำนักงานลับ101 มันเป็นการทำงานให้กับประเทศชาติ ดังนั้นเขาจึงได้รับอภิสิทธิ์นี้เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้ประเจิดประเจ้อก็เท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าเขาจะสามารถพกพาอาวุธไปไหนมาไหนได้แต่มันก็ไม่ใช่การอนุญาตอย่างเป็นทางการ เขาเพียงแค่ตกลงลับๆกับสำนักงานลับ101เพียงแค่นั้น
เจียงหยูยี่เดินเข้าไปคุยกับหน่วย SWAT ที่ประจำการอยู่ที่ชายฝั่งทะเล เธอคุยอยู่ครู่หนึ่งก็สามารถยืมสปีดโบ๊ทได้สำเร็จ
เซี่ยเหล่ยหยิบกุญแจสปีดโบ้ทและรีบขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเจียงหยูยี่ก็พยายามจะขึ้นเรือไปด้วยแต่ก็โดนเซี่ยเหล่ยกันเอาไว้พร้อมกับพูดว่า คุณกลับไปรอผมที่บ้านนะ ผมจะรีบกลับมา
ฉัน… เจียงหยูยี่จ้องไปที่เซี่ยเหล่ยพร้อมส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
กลับไป แล้วรอผมอยู่ที่บ้าน เซี่ยเหล่ยพูดจบก็ขับเรือออกไปทันที
เจียงหยูยี่ตะโกนทิ้งท้ายออกไปว่า ระวังตัวด้วยนะ
น่าเสียดายที่ตอนนั้นเซี่ยเหล่ยขับเรือออกไปไกลจนไม่ได้ยินเสียงของเธอแล้ว
อย่างไรก็ตามในขณะที่เซี่ยเหล่ยขับเรือหายไปในท้องทะเลที่มืดมิด เจียงหยูยี่ก็หยิบกุญแจอีกดอกหนึ่งออกมาก่อนจะยิ้มพร้อมกับพูดว่า คุณต้องการจะสลัดฉันทิ้งใช่มั้ย? มันไม่ง่ายหรอกนะ จะไม่ให้ฉันตามไปด้วยงั้นเหรอ? หึ…ฉันจะตามคุณไป! ฉันจะตามคุณไปตลอดชีวิต! เจียงหยูยี่เดินไปขึ้นสปีดโบ้ทอีกคันพร้อมกับออกเรือมุ่งหน้าไปยังเกาะซานเฉินทันที
ในท้องทะเลที่มืดมิด เซี่ยเหล่ยกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังเกาะซานเฉินโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเจียงหยูยี่กำลังตามเขาอยู่ในระหว่างที่กำลังขับเรืออยู่นี้ จู่ๆสมองของเขาก็ผุดเรื่องราวของเจียงหยูยี่ขึ้นมา เขาไม่สามารถสลัดภาพและคำพูดในช่วงสุดท้ายก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้นมาได้เลย
เฮ้อ… เซียเหล่ยถอนหายใจก่อนจะพูดต่อว่า เธอเป็นผู้หญิงยังไงกันแน่นะ?
นี่เป็นปัญหาที่ยากจะตอบ!
เมื่อขับเรือไปประมาณสามสิบนาที เกาะซานเฉินปรากฏขึ้นบนระบบนำทางของเรือเป็นที่เรียบร้อย เขาใกล้จะถึงเกาะแล้ว…..
เกาะนี้มีขนาดเล็กมาก มันมีเนื้อที่ไม่กี่ตารางกิโลเมตรเท่านั้น บนเกาะมีภูเขาทั้งหมดสามลูกแต่ละยอดและบริเวณโดยรอบจะมีป่าทึบปกคลุมอยู่ บนเกาะแห่งนี้ไม่มีแสงสว่างอยู่เลย มันแสดงให้เห็นว่าที่นี่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
เซี่ยเหล่ยดับไฟบนเรือทั้งหมดก่อนจะชะรอความเร็วในขณะที่กำลังเข้าใกล้เกาะ เขาค่อยๆลดความเร็วลงก่อนจะกระตุกตาซ้ายเล็กน้อยพร้อมกับใช้ความสามารถมองเพื่อมองไปรอบๆชายหาดของเกาะ
บริเวณชายหาดเงียบและไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต ส่วนป่าที่อยู่ถัดไปจากชายหาดนั้นมีความทึบและมืดมาก เขาจึงไม่สามารถมองเห็นได้ไกลกว่านี้
อันกวนและคนของเขาจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะหรือเปล่านะ? เซี่ยเหล่ยพูดกับตัวเอง
เมื่อคิดได้อย่างนั้น เขาก็เร่งสปีดก่อนจะมุ่งหน้าไปอีกฝั่งของเกาะทันทีแต่เมื่อไปถึงบริเวณอีกฝั่งหนึ่งของเกาะ ที่นั่นก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่ชายหาดเลยเช่นกัน มันไม่มีแม้แต่ร่องรอยของเรือที่ใช้ในการเดินทาง เซี่ยเหล่ยจึงแอบคิดในใจว่าโดนหลอกหรือเปล่า? แต่สุดท้ายความคิดนั้นก็ถูกสลัดทิ้งไปเพราะเขาสังเกตเห็นร่องรอยการลงจอดของเฮลิคอปเตอร์
เซี่ยเหล่ยหยุดเรือทันที เขามองขึ้นไปบนยอดเขาทั้งสามก่อนจะยิ้มที่มุมปกกพร้อมกับคิดว่า ’แลกเปลี่ยนงั้นเหรอ? ดูเหมือนคุณไม่ได้ต้องการที่จะแลกเปลี่ยนตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ หึ! ก็ได้…ในเมื่อคุณอยากที่จะฆ่าผมบนเกาะแห่งนี้ ผมเองก็จะฆ่าพวกคุณทุกคนที่อยู่บนเกาะแห่งนี้เช่นกัน!’
จากสถานการณ์และสภาพแวดล้อมโดยรอบทั้งหมด เซี่ยเหล่ยสามารถคาดเดาเจตนาที่แท้จริงของอันกวนได้ทันที!
เซี่ยเหล่ยทอดสมอเรือรอบนอกชายฝั่ง ก่อนจะหยิบปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 พร้อมกระสุนและอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นกระโดดลงไปในน้ำและว่ายไปขึ้นฝั่ง
และก็คืนนี้เป็นคืนที่ฟ้าปิด ทำให้มันมืดอย่างมาก……