Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 473 ลาก่อน อันซูฮยอน!
ภายในป่า บนต้นไม้ที่ใหญ่ขนาดหลายคนโอบ
แกตายแน่ รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนมุมปากของไฮยีน่า เขามองผ่านกล้องปืน ล็อคเป้าไปยังหินก้อนใหญ่บนยอดเขา
ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลบาร์เร็ตต์ของเขาถูกปรับแต่งมาแล้ว กล้องของเขาช่วยให้เขามองหาเป้าหมายได้ไกลถึง 3,000 เมตร แต่ระยะห่างระหว่างเขากับเซี่ยเหล่ยนั้นห่างเพียงแค่ 2,000 เมตรเท่านั้น ดังนั้นไฮยีน่าจึงมองเห็นเซี่ยเหล่ยยื่นปากกระบอกปืนออกมาจากหินได้อย่างง่ายดาย
ไฮยีน่า นอกจากจะมองเห็นเซี่ยเหล่ยแล้ว เขายังสามารถยิงปากกระบอกปืนของเซี่ยเหล่ยในระยะ2,000เมตรได้อีกด้วย
คุณหาผมเจองั้นเหรอ? เพราะผมปล่อยให้เจอต่างหาก รอยยิ้มบนใบหน้าของราชานักฆ่ายิ่งดูเหี้ยมโหดขึ้นไปอีก เขาวางนิ้วลงบนไกปืนอย่างนุ่มนวล รอเพียงแค่เซี่ยเหล่ยโผล่หัวออกมาเท่านั้น แล้วไฮยีน่าก็จะแสดงให้ดูว่าการไปนรกนั้นไปยังไง
คนของอันซูฮยอนต่างร่วมมือกันช่วยให้ไฮยีน่ามีโอกาสยิง ส่วนเซี่ยเหล่ยก็ไม่กล้าปล่อยให้พวกมือปืนเข้าใกล้มากกว่าเดิมเลย เขาไม่มีเวลามารอแต่ก็ยังรอในการต่อสู้ระหว่างมือปืนแนวหน้าแบบนี้มันไม่ใช่การแข่งขันความเป็นมือปืนหรือวัดประสบการณ์กันแต่อย่างใด มันคือความอดทน! เซี่ยเหล่ยจึงไม่ใช่ไม่มีเวลารอ แต่เขาไม่มีเวลาให้อดทนต่างหาก
โอกาสชนะของไฮยีน่ายิ่งเพิ่มขึ้นทุกที
บนหินก้อนใหญ่นั่น XL2500 กำลังยื่นออกมาจากหิน โดยที่ปากกระบอกปืนชี้ไปทางทะเล ไม่เพียงเท่านั้น ปากกระบอกยังค่อยๆขยับช้ามากจนสายตาคนมองไม่ออกว่าขยับอยู่
‘นั่นเขาคิดจะทำอะไร? ยิงสุ่มๆเหรอ?’ ไฮยีน่าเลิกคิ้วด้วยความไม่เชื่อสายตา ‘เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เราอยู่ห่างกันถึง 2,000 เมตรเลยนะ เขาจะยิงสุ่มๆให้โดนเราทั้งที่อยู่ไกลขนาดนี้น่ะเหรอ? หรือเขากำลังล่อให้เรายิงแล้วค่อยยิงเราทีหลังกัน? ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เราจะไม่มีทางยิงแน่นอนเว้นเสียแต่เซี่ยเหล่ยจะโผล่หัวออกมาเท่านั้น’
แต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้ยื่นส่วนใดของร่างกายออกไปเลย เขาค่อยๆหันปากกระบอกปืนไปยังไฮยีน่า ทั้งยังเล็งไปหาเป็นเส้นตรงเลยด้วยซ้ำ!
แต่โชคร้ายสำหรับไฮยีน่า แม้เขาจะมีกล้องมอง แต่ในระยะขนาดนี้แม้จะมองผ่านกล้องเขาก็ยังไม่เห็นรายละเอียดมากนัก มันเป็นแค่ภาพเล็กๆ เบลอๆ อยู่บนกล้อง ไฮยีน่าจึงเชื่อตามประสบการณ์ของตัวเองว่าที่เห็นนั่นคือสไนเปอร์ไรเฟิลของเซี่ยเหล่ย แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือปืนของอีกฝ่ายกำลังเล็งมาที่เขาแล้ว
‘ยังไม่โผล่หัวมาอีกเหรอ? หมอนี่มันอดทนดีจริงๆ แต่น่าเสียดายนะที่เขาหมดเวลาแล้ว’ ไฮยีน่ายังคงรอให้เซี่ยเหล่ยเผยตัวออกมาเพื่อให้เขายิงต่อไป
จู่ๆใบไม้ใกล้เขาก็สั่นไหว ก่อนจะหลุดร่วงไปจากกิ่งของมัน
แต่แค่ใบไม้ที่ไหวเล็กน้อยนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่มากพอให้ไฮยีน่าสนใจ เขาเพียงมองมันด้วยหางตาเท่านั้น จนกระทั่งได้เห็นรอยขูดสีขาวบนกิ่งเมื่อครู่ มันเป็นรอยกระสุนที่เฉี่ยวเปลือกไม้ไป!
ไฮยีน่านิ่งอึ้ง ตัวแข็งทื่อ
ช่วงเวลาแค่อึดใจเดียว กระสุนอีกนัดก็พุ่งมา มันเจาะผ่านกล้องบนปืนและตรงเข้าฝังในตาขวาของไฮยีน่าอย่างรวดเร็วก่อนที่กล้องจะแตกเป็นเสี่ยงเสียอีก ทิ้งไว้เพียงรอยแผลขนาดเท่ากำปั้นบนศีรษะของเขาเท่านั้น
แล้วทุกอย่างก็หยุดลง ร่างของไฮยีน่าร่วงลงจากคาคบไม้ไปอีกศพ
ก่อนที่เขาจะตาย เขาเชื่อว่าเซี่ยเหล่ยยังอยู่ในสายตาเขา และเขายังกดดันเซี่ยเหล่ยได้ดีอีกด้วย ไฮยีน่าเชื่อว่าเขาฆ่าเซี่ยเหล่ยได้เพียงแค่รอเวลา……
แต่น่าเสียดายที่คนถูกฆ่าเป็นเขาเสียเอง
ถ้านรกมีจริง ตอนนี้ไฮยีน่าคงอยู่ที่นั่นกำลังนั่งครุ่นคิดว่าเซี่ยเหล่ยฆ่าเขาได้ยังไง
ด้านบนหินเซี่ยเหล่ยยกยิ้มมุมปาก เขาฆ่าไฮยีน่าได้อย่างง่ายดายเนื่องจากใช้สายตามองทะลุเล็งเป้าและยิงโดยที่ไม่ต้องโผล่ศีรษะออกไปแม้แต่น้อยแม้ระยะห่างจะค่อนข้างไกลแถมลมยังมีผลต่อวิถีกระสุนนัดแรกจึงไม่โดนไฮยีน่าแต่ตาซ้ายของเซี่ยเหล่ยมองเห็นรอยกระสุนบนเปลือกไม้ เขาจึงปรับการยิงใหม่และยิงเข้าเป้าได้เร็วกว่าที่อีกฝ่ายจะทำได้เสียอีก!
แล้วไฮยีน่าก็ตายในนัดที่สอง
บนโลกนี้ไม่มีใครเทียบเคียงเซี่ยเหล่ยได้อีกแล้ว
เมื่อเซี่ยเหล่ยอยู่กับปืน XL2500 ก็นับว่าไร้เทียมทานถ้าไฮยีน่ารู้เรื่องนี้ก่อน เขาคงไม่รับงานนี้แน่ๆ โอ้ไม่! เจียงหยูยี่ร้องอย่างวิตก ระเบิดหมดแล้ว! ทำไงดีล่ะเหล่ย?
นอนลงกับพื้น เดี๋ยวผมจัดการที่เหลือต่อเอง เซี่ยเหล่ยพูดพลางกดเธอให้นอนลง
ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว
ครั้งนี้เซี่ยเหล่ยยื่นหน้าออกไปจากหิน เขาเล็ง แล้วยิง เล็ง แล้วยิง มีคนล้มลงทุกครั้งที่เขาเหนี่ยวไก และทุกนัดล้วนยิงตรงเข้าศีรษะทั้งสิ้น
ไม่กี่นาทีต่อมา คนของอันซูฮยอนทั้งหมดก็นอนกองอยู่บนพื้น
ควันไฟในลานต่อสู้ค่อยๆจางลงเรื่อยๆ ป่าด้านล่างถูกไฟกลืนไปจนเกือบหมด
เจียงหยูยี่พูดขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อเซี่ยเหล่ยหยุดยิง เกิดอะไรขึ้น? พวกเขาถอนกำลังไปแล้วเหรอ?
ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น เซี่ยเหล่ยกล่าว คุณอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวผมจะลงไปดูข้างล่างหน่อย และจำไว้นะ อย่าโผล่หัวออกไปเด็ดขาด
ฉันให้คุณไปคนเดียวไม่ได้หรอก เจียงหยูยี่พูดด้วยความกังวล
เซี่ยเหล่ยมองเธอนิ่งๆ ฟังผมแล้วเราจะรอด ถ้าไม่ฟังเราก็จะตายกันอยู่ที่นี่ คิดถึงพ่อกับแม่ของคุณแล้วก็วันดีๆที่กำลังจะมาถึงสิ จำไว้นะ อย่าโผล่หัวออกไป
ดูเหมือนว่าคำพูดนี้จะได้ผล เธอหลบอยู่ใต้ที่กันฝนทั้งคิดถึงพ่อแม่และอนาคตที่เธออาจมีตามที่เขาบอก เธอจะได้เป็นผู้หญิงของเขาแม้จะออกไปไหนด้วยกันอย่างเปิดเผยไม่ได้ก็ตามแต่สำหรับคนที่รักเซี่ยเหล่ยอย่างสุดหัวใจแล้ว เธอคือคนที่มีความสุขที่สุดในที่สุดเธอก็สมหวังหลังจากผ่านเรื่องยากลำบากมามากมายแล้วแบบนี้เธอจะไม่มองว่ามันมีค่าได้ยังไง?
เซี่ยเหล่ยเดินลงมาจนถึงลานต่อสู้และไม่ช้าก็พบเข้ากับอันซูฮยอนที่ขาหักทั้งสองข้าง
แผลของเขายังคงเลือดออก จนกระทั่งมันกลายเป็นแอ่งเลือดขนาดใหญ่ล้อมตัวเขาอยู่บนพื้น
เซี่ยเหล่ยนั่งยองๆลงข้างเขา และจี้จุดเหรินจงของอันซูฮยอน
ทันใดนั้นอันซูฮยอนก็กลับมาได้สติอีกครั้งแต่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกแล้ว เขามองเซี่ยเหล่ยด้วยความกลัวสุดขีด ค คุณ… ฆ่าผมไม่ได้นะ
เซี่ยเหล่ยตอบเรียบๆ ผมไม่ได้บอกนี่ว่าผมจะฆ่าคุณ คุณน่ะเป็นคนใหญ่คนโตของเกาหลี ผมไม่กล้าฆ่าคุณหรอกนะ
คำพูดนี้ดูเหมือนจะเป็นคำชมแต่มันกลับทิ่มแทงอันซูฮยอนราวกับหนามแหลม ช่วย ช่วยผมด้วย แล้วผมจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ
ผมช่วยห้ามเลือดให้คุณได้นะ ผมทำแผลให้คุณได้ด้วย ผมรู้วิธีปฐมพยาบาลแถมทักษะการรักษาผมน่ะไม่เลวเลย คุณจะมีชีวิตต่อไปแน่นอนถ้าผมช่วย เซี่ยเหล่ยกล่าว
งั้นรออะไรอยู่ล่ะ? ห้ามเลือดสิ! อันซูฮยอนโวยวายอย่างตื่นตระหนก
เซี่ยเหล่ยตอบเสียงเย็นเฉียบ ผมทำได้นะ แต่บอกมาก่อนว่ากู๋เค่อเหวินอยู่ที่ไหน
ญี่ปุ่น ในโตเกียว เธอให้ข้อมูลผม แล้วผมก็ให้เงินเธอไปก้อนใหญ่ เธอไปญี่ปุ่นแล้ว
อยู่ส่วนไหนของโตเกียว?
ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ผมไม่มีเหตุผลอะไรจะโกหกด้วย น้ำเสียงอันซูฮยอนบ่งบอกว่าเขากำลังอ้อนวอน
แล้วของอยู่ไหน? เซี่ยเหล่ยถามต่อ
อยู่ที่ผม มันเป็น USB ข้างในมีหลักฐานการครอบครองทรัพย์สินรัฐบาลของเฉินตูเทียนหยินอยู่ เธอมีปัญหาแน่นอนถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ช่วยผมเถอะนะ แล้วผมจะเอามันให้คุณ
เซี่ยเหล่ยคลายชุดเกราะบนตัวอันซูฮยอนออกและพบ USB อยู่ในเสื้อผ้าของเขา เซี่ยเหล่ยหยิบ USBไป ก่อนจะยืนขึ้น
แก… แกโกหกเหรอ? ในที่สุดอันซูฮยอนก็รู้ตัว
เซี่ยเหล่ยหัวเราะ ไม่ต้องกังวลไป ผมไม่โกหกหรอกนะ แต่ผมจะกลับไปที่ห่ายจูแล้วก็โทรเรียกรถพยาบาลให้คุณบนเกาะนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ คุณก็รู้ใช่มั้ย? ตอนนี้ผมก็เลยยังโทรไม่ได้ จริงๆก็เป็นเพราะคุณเลือกที่ที่ไม่มีสัญญาณเองด้วยนี่นา
ไปตายซะ!! อันซูฮยอนตวาดลั่นด้วยความเกรี้ยวกราด
คุณล้อเล่นรึเปล่า? นี่คุณอยู่ในจุดที่บอกให้ผมไปตายได้ด้วยเหรอ? เซี่ยเหล่ยกล่าว
แก… อันซูฮยอนโกรธจัดจนพูดอะไรไม่ออก
เซี่ยเหล่ยพูดต่ออย่างไร้ความรู้สึก ให้ผมบอกนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น อันซูฮยอน คุณจะตายเพราะเสียเลือด มันจะช้าและทรมานมากแต่พ่อของคุณคงเจ็บปวดยิ่งกว่าแน่ๆ เพราะผมวางแผนไว้ว่าจะเอาของที่ผมมีไปให้สื่อเกาหลีใต้และคู่แข่งทางการเมืองของพ่อคุณ ทุกสิ่งที่พ่อคุณทำจะต้องถูกเปิดโปง เขาจะเสียทุกอย่าง และไปใช้ชีวิตที่เหลือต่อในคุกไงล่ะ
ไม่ ไม่… อันซูฮยอนเริ่มร้องไห้อย่างคนสิ้นสติ เซี่ยเหล่ย! คุณเซี่ยเหล่ย ผมยอมรับความผิดแล้ว ผมจะให้สมบัติทุกอย่างกับคุณได้โปรดช่วยผมด้วย! ผมไม่อยากตาย ผมยังไม่อยากตาย!
เซี่ยเหล่ยส่ายหน้าก่อนจะหันหลังเดินไป
คุณเซี่ย ผมขอร้องล่ะ ฮืออ… อันซูฮยอนร้องไห้ต่อไปเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเสียใจ ความหวาดกลัวก็เช่นกัน
แต่เซี่ยเหล่ยไม่แม้จะหันไปมอง เขาไร้ซึ่งความปรานีต่อศัตรู อันซูฮยอนพามือปืนเป็นสิบๆและนักฆ่าระดับพระกาฬมาที่เกาะนี้เพื่อฆ่าเขา ถ้าเซี่ยเหล่ยปกป้องตัวเองไม่ได้ ป่านนี้เขาคงโดนอันซูฮยอนฆ่าตายไปนานแล้ว ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนเป็นเซี่ยเหล่ยนอนร้องขอชีวิตแทน ปฏิกิริยาของอันซูฮยอนก็คงเป็นยิงเขาซ้ำอีกแน่นอน
ควันไฟจางหายไปแล้ว เผยให้เห็นศพมากมายบนพื้น
เซี่ยเหล่ยกวาดสายตามองไปยังร่างไร้วิญญาณและคิดในใจ ‘เราควรรายงานเรื่องนี้กับสำนักงานลับ 101 มั้ยนะ? ถ้ารายงาน พวกเขาคงมาสืบดูและขุดข้อมูลเรื่องสมบัติของกู๋เค่อเหวินและเทียนหยินแน่ๆงั้นช่างมันแล้วกัน เราค่อยจัดการศพแล้วบอกให้หยูยี่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับดีกว่า เรื่องนี้น่าจะเก็บเงียบได้อยู่’
ทางเลือกแรกของเซี่ยเหล่ยเกือบจะเป็นการรายงานไปยังสำนักงานลับ 101 แล้ว ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่จะทำให้เฉินตูเทียนหยินมีปัญหาแต่เพราะว่ามันเกี่ยว เซี่ยเหล่ยจึงต้องรับความเสี่ยงที่จะปิดเรื่องนี้ไว้กับสำนักงานลับแทน
จากนั้นเซี่ยเหล่ยจึงลากศพทีละศพจนครบทุกคนเข้าไปในป่าและโยนศพเข้าไปในคูน้ำธรรมชาติ ศพของอันซูฮยอนนี่แหละที่ควรทิ้งมากที่สุด
เซี่ยเหล่ยขว้างระเบิดที่เอามาจากศพมือปืนคนหนึ่งลงไปในคูน้ำนั้น
ตู้ม! เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น กำแพงดินที่อยู่ข้างคูน้ำนั้นก็ถล่มลงมาฝังศพทั้งหมดจนมิดชิด
ลาก่อน อันซูฮยอน เซี่ยเหล่ยกล่าว