Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 477 ครั้งแรก !
เจ้าหญิงหยงเหม่ยค่อยๆเข้าใกล้กับคำว่าสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆเมื่อชิ้นส่วนอัลลอยโบราณถูกประกอบเข้ากันมากขึ้น มันทำให้เธอมีความสามารถมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นทั้งคำพูดและอารมณ์
แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเซี่ยเหล่ยพบว่าอุณหภูมิโดยรอบๆตัวเธอจะค่อยๆลดลงถ้าเธอโกรธหรือโมโห พลังประหลาดนี้ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับอารมณ์ของเธอ
เจ้าหญิงหยงเหม่ยที่กำลังโกรธนั้นทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เพราะเธอสามารถฆ่าใครก็ได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่น้อยแม้ว่าเธอจะเรียกเซี่ยเหล่ยว่า ‘เดอะวัน’ แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าเธอจะไม่ทำอะไรเขาเมื่อเธอโกรธ
โปรดใจเย็นๆก่อน เซี่ยเหล่ยพูดอย่างประหม่าพร้อมถอยหลังไปสองก้าว
คุณกลัวฉันเหรอ? เจ้าหญิงหยงเหม่ยถามทันทีที่เห็นท่าทางของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยพยายามสงบอารมณ์ก่อนจะตอบกลับไปว่า นิดหน่อย ผมยังไม่รู้ว่าตอนนี้คุณเป็นอะไรกันแน่ คุณทำให้ผมกลัว
ฉันจะไม่ทำร้ายคุณเพราะคุณคือเดอะวัน เจ้าหญิงหยงเหม่ยพูดก่อนจะพูดต่อว่า และคุณไม่รู้งั้นหรอ…ว่าฉันไม่มีทางฆ่าคุณได้
เซี่ยเหล่ยนึกออกทันที เขานึกถึงผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆที่ผ่านมาหากใครก็ตามได้เข้าใกล้กับอัลลอยโบราณจะทำให้พวกเขาเสียสติหรือไม่ก็เสียชีวิตแต่ทั้งสองอย่างที่ว่ามานี้ไม่เกิดขึ้นกับเซี่ยเหล่ยเลย ดูเหมือนเขาจะมีภูมิคุ้มกันอะไรบางอย่างอยู่
‘ว่าแต่…เราเองจะมีความสามารถแบบนี้ด้วยหรือเปล่านะ? มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าเราจะมีความสามารถแบบเดียวกับเธอ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงแสดงว่าตอนนี้มันยังไม่ถูกปลุกขึ้นมาให้ตื่นหรือเปล่า?’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ แม้ว่าจะเป็นความคิดที่น่าเหลือเชื่อแต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้!
หน้าผากของเซี่ยเหล่ยมีเหงื่อออกค่อนข้างมากหลังจากที่สมองของเขาคิดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาคิดย้อนกลับไปว่าถ้าเขามีความสามารถแบบเธอจริงๆ ถ้ามันเกิดขึ้นกับเขาตอนเขาหลับสนิทอยู่กับเฉินตูเทียนหยิน เฉินตูเทียนหยินจะกลายเป็นยังไงหล่ะ?
ขณะนี้เจ้าหญิงหยงเหม่ยได้มองเซี่ยเหล่ยอยู่เงียบๆ แววตาของเธอดูเหมือนจะเจาะเข้าไปลึกในจิตวิญญาณของเขา
เซี่ยเหล่ยยังคงไม่สังเกตเห็นว่าเธอกำลังมองอยู่ เขายังคงคิดต่อว่า ‘หากฉันมีความสามารถแบบเดียวกันกับเธอ ซึ่งการที่จะใช้ความสามารถได้ก็ต่อเมื่อกินแคปซูล AE เพิ่มหรือเปล่านะ? ถ้าแบบนั้นฉันจะเป็นเหมือนเธอใช่มั้ยนะ?’
ด้วยความคิดนี้ทำให้เขาชะงักไปทันทีเพราะนั่นหมายความว่าเขามีสิทธิที่จะกลายสภาพเป็นแบบเดียวกับเธอ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงเซี่ยเหล่ยก็ไม่อยากที่จะเป็นแบบเธอแม้ว่าเขาจะมีพลังเพิ่มมากขึ้นก็ตาม
คุณกำลังคิดอะไรอยู่? ในที่สุดเจ้าหญิงหยงเหม่ยก็ถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
เซี่ยเหล่ยกลับมาสู่ความเป็นจริง เขาหันไปตอบเธอว่า คุณอยากอยู่ข้างนอกนี่มากกว่างั้นเหรอ?
ใช่ ฉันไม่ต้องการกลับเข้าไปอีกแล้ว เจ้าหญิงหยงเหม่ยตอบ
ข้างในนั้นมีอะไรอยู่? เซี่ยเหล่ยถามกลับไปด้วยความอยากรู้
มันไม่มีอะไร มีแค่เพียงความมืดเท่านั้นเป็นความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด เจ้าหญิงหยงเหม่ยพูด ในขณะที่พูดเซี่ยเหล่ยก็สามารถสัมผัสได้ว่าเธอรู้สึกมืดมนและเจ็บปวดมากจริงที่ต้องอยู่ภายในนั้น
ความมืดที่ไม่สิ้นสุดงั้นเหรอ? หมายความว่าคุณไม่เห็นอะไรเลยใช่มั้ย? เซี่ยเหล่ยถามอีกครั้ง
เจ้าหญิงหยงเหม่ยส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า ฉันก็บอกไปแล้วว่ามันมีแค่ความมืด เป็นความมืดที่มองไม่เห็นอะไรเลย
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า คุณอธิบายได้ไหมว่ามันเป็นพื้นที่โล่งและว่างเปล่าหรือป่าว?
พื้นที่ว่างเปล่างั้นเหรอ? ก็อาจจะใช่นะ แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใช่หรือเปล่า ฉันไม่รู้อะไรเลย เจ้าหญิงหยงเหม่ยตอบ
เซี่ยเหล่ยกลับมาครุ่นคิดกับตัวเองอีกครั้ง เขาเดาว่ามันเป็นพื้นที่ที่ว่างเปล่า มันมืดและรู้สึกหนาวเย็นเมื่อยู่ที่นั่น เขามองกลับไปอัลลอยโบราณที่ประกอบกันแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ทันที ด้านภายในของกล่องก็มีรูปแบบเป็นซุ้มโค้ง นั่นเป็นพื้นที่ที่ว่างเปล่าหรือไม่นะ?
สัญญากับฉันว่าคุณจะไม่ส่งฉันกลับเข้าไปที่นั่นอีก เจ้าหญิงหยงเหม่ยพูดพร้อมมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่อ้อนวอน เซี่ยเหล่ยคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า เข้าใจแล้ว ผมจะไม่ส่งคุณกลับไปแต่อย่างไรก็ตามผมมีเงื่อนไขสองข้อที่คุณต้องยอมรับซะก่อน
มีอะไรบ้าง บอกมาเลย เจ้าหญิงหยงเหม่ยรีบถามทันที
ผมรู้ว่าคุณสามารถฆ่าผู้คนและทำให้พวกเขาเสียสติได้ ผมจะให้คุณอยู่ข้างนอกนี่แต่คุณต้องสัญญากับผมว่าจะไม่ทำร้ายใครอีก เซี่ยเหล่ยพูดอย่างจริงจัง
ถ้าเกิดว่ามีคนจะทำร้ายคุณหล่ะ ฉันจะช่วยคุณได้หรือไม่? เจ้าหญิงหยงเหม่ยถาม
ถ้าเป็นกรณีนั้นคุณสามารถช่วยผมได้ แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากผมก่อน เซี่ยเหล่ยพูด
ข้อนี้ไม่มีปัญหา ว่าแต่อีกข้อหล่ะคืออะไร? เจ้าหญิงหยงเหม่ยถามต่อ
เวลาที่คุณปรากฏตัว อุณหภูมิรอบข้างคุณจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเรื่องนี้คนอื่นจะสงสัยและทำให้ผมเดือดร้อนได้ นอกจากนี้บางเวลาผมก็ต้องการความเป็นส่วนตัว ยกตัวอย่างในขณะที่ผมกำลังอาบน้ำ คุณเห็นด้วยกับเงื่อนไขนี้หรือไม่?
เจ้าหญิงหยงเหม่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบไปว่า เข้าใจแล้ว ฉันจะทำตามเงื่อนไขของคุณ ฉันสามารถซ่อนตัวในสิ่งที่ซ่อนอยู่ในสร้อยคอของคุณได้หากคุณไม่ต้องการให้ฉันปรากฏตัว
เซี่ยเหล่ยมองไปที่สร้อยคอที่อยู่บนคอของเขาทันที ภายในของมันมีแคปซูล AE เม็ดสุดท้ายซ่อนไว้อยู่ เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเจ้าหญิงหยงเหม่ยเกี่ยวกับแคปซูลอันสุดท้ายนี้เลย แต่เธอก็รู้เองได้น่าประหลาดจริงๆ
สิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในทำให้ฉันรู้สึกอุ่นขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของฉัน ฉันสามารถเข้าไปซ่อนที่นั่นได้ เจ้าหญิงหยงเหม่ยพูด
คุณจะเข้าไปซ่อนที่นี่ได้ยังไงหล่ะ? เซี่ยเหล่ยถาม เจ้าหญิงหยงเหม่ยยิ้มเล็กน้อย ไม่นานรอยยิ้มของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนไปและทันใดนั้นร่างของเธอก็อัดแน่นเข้าด้วยกันก่อนจะหดเล็กลงและเปลี่ยนรูปร่างอย่างรวดเร็ว เธอกลายเป็นเหมือนกับลูกบอลแสงขนาดเล็กๆมาก
บอลแสงขนาดเล็กมากค่อยๆลอยเข้าไปที่จี้สร้อยคอยก่อนจะหายไป
เซี่ยเหล่ยมองกลับไปที่แคปซูลก็พบว่ามันไม่ได้เสียหายอะไร
เซี่ยเหล่ยทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ มันคือการไม่ส่งเธอกลับไปที่นั่น!
รอยยิ้มสุดท้ายที่เจ้าหญิงหยงเหม่ยยิ้มให้นั้นมันทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจซักเท่าไหร่ ขณะเดียวกันเขาก็ตระหนักได้ว่ายิ่งเธอเข้าใกล้กับความสมบูรณ์มากขึ้นเท่าไหร่เธอก็จะมีอำนาจและพลังเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน หากเธอโกรธจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ใครจะเป็นคนหยุดเธอกันหล่ะ!
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยสงสัยอย่างมากว่าทำไมเจ้าหญิงถึงเลือกที่จะเข้าไปอยู่ในแคปซูล AE เนื่องจากเธอสามารถบีบตัวเองและไปซ่อนตัวอยู่กับสิ่งอื่นเช่นปากกาหรือกระเป๋าเงินก็ได้ ทำไมเธอถึงต้องไปซ่อนอยู่ในแคปซูล AEด้วย?
‘ใช่แล้ว เกือบจะตกหลุมพลางของเธอไปซะได้ เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการที่จะอยู่ข้างในอีกต่อไปแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เธอก็อยู่ได้มาตลอดนี่ เกือบลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท เอาหล่ะ…ถ้าอย่างนั้นเราจะไม่ปล่อยให้เธอออกมาก่อนที่ปริศนาทุกอย่างจะกระจ่างดีกว่า’ เซี่ยเหล่ยคิดพร้อมตัดสินใจ
เซี่ยเหล่ยออกจากห้องชั้นใต้ดินก่อนจะกลับไปที่ออฟฟิศของเขา เขานั่งลงที่โต๊ะทำงานก่อนจะเขียนบันทึกหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเขาก็พาเซี่ยเสวี่ยไปที่บ้านของเฉินตูเทียนหยินระหว่างทางเซี่ยก็ต้องแวะเพื่อหาของฝากเพราะทนต่อคำขอรบเร้าของเซี่ยเสวี่ยที่ต้องการมีของติดไม้ติดมือไปฝากพี่สะใภ้ไม่ได้ เฉินตูเทียนหยินกำลังรออยู่ที่ประตูทางเข้าเนื่องจากเซี่ยเหล่ยโทรไปบอกเธอก่อนว่าเขาจะมา
นี่เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างเซี่ยเสวี่ยและเฉินตูเทียนหยิน นี่คือเหตุผลที่เธอต้องการที่จะนำของฝากติดไม้ติดมือมาให้เธอด้วย
สวัสดีค่ะ พี่สะใภ้ เซี่ยเสวี่ยทักทายเฉินตูเทียนหยินอย่างสุภาพ
เฉินตูเทียนหยินยิ้มก่อนจะตอบกลับว่า น้องเสวี่ย เธอสวยมากสวยเหมือนกับตุ๊กตาเลย
เซี่ยเสวี่ยหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจก่อนจะพูดต่อว่า ไม่เลย พี่สะใภ้สิถึงจะคู่ควรกับคำว่าสวย พี่สวยมากจริงๆ พี่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย
เฉินตูเทียนหยินพอใจกับคำเยินยอของเซี่ยเสวี่ยมากๆ เธอนึกย้อนกลับไปถึงหลางซือเหยาที่เป็นแฟนคนแรกของเซี่ยเหล่ย เซี่ยเสวี่ยจะต้องเคยเห็นเธอมาก่อนแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเสวี่ยก็ยังบอกว่าเฉินตูเทียนหยินเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดตั้งแต่ที่เธอเคยเจอมา นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงไปเสียทั้งหมดแต่เฉินตูเทียนหยินก็พอใจกับคำชมนี้มาก
เสวี่ย นี่ถือเป็นบ้านของเธอเช่นกันดังนั้นไม่จำเป็นจะต้องซื้อของติดไม้ติดมือมาฝากหรอกนะ เฉินตูเทียนหยินพูด
เข้าใจแล้วค่ะ พี่สะใภ้ เซี่ยเสวี่ยพูด
พวกเขาเข้าไปพูดคุยกันข้างในบ้างอย่างสนุกสนานและมีความสุขก่อนที่เซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินจะปลีกตัวออกมามุมหนึ่ง เซี่ยเหล่ยหยิบแฟลชไดรฟ์ที่ได้มาจากศพของอันซูฮยอนก่อนจะส่งให้กับเฉินตูเทียนหยิน
นี่คือสิ่งที่อันซูฮยอนใช้ข่มขู่คุณ ถึงเราจะได้มันมาแล้วแต่ผมก็มั่นใจว่ากู๋เค่อเหวินน่าจะมีสำเนาทุกอย่างเก็บไว้ด้วย เซี่ยเหล่ยพูด
Hubby ฉัน… เฉินตูเทียนหยินพูดพร้อมโผเข้าไปกอดเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดต่อว่า ในตอนนั้น ฉันควรจะฟังที่คุณเตือน ฉันไม่น่าทำเลยจริงๆ เซี่ยเหล่ยเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า เทียนหยิน บอกผมมาตามตรงว่าทรัพย์สินทั้งหมดของกู๋เค่อเหวินมีกี่แห่งและมีมูลค่าทั้งหมดเท่าไหร่?
ยี่สิบแห่ง…มูลค่ากว่าสองหมื่นล้านหยวน เฉินตูเทียนหยินตอบ
คุณ! อ๊า..! เซี่ยเหล่ยถึงกับพูดไม่ออก เขาขมวดคิ้วพร้อมกับถอนหายใจเพราะมันเป็นจำนวนที่เกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก
การได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เป็นของรัฐบาลโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย มีโทษไม่ต่างจากการยักยอกเงิน มันถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงมากในประเทศจีน มีการลงโทษอย่างหนักสำหรับคนที่ยักยอกแค่จำนวนเงินสิบล้านหยวน แต่นี่มันมากถึงสองหมื่นล้านหยวน ซึ่งโทษอาจจะรุนแรงไปถึงขั้นประหารชีวิตเลยก็ได้!
เฉินตูเทียนหยินพูดอย่างกังวลว่า Hubby อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ต้องการมันหรอกนะ แต่ฉันก็อดไม่ได้จริงๆ นอกจากนี้ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่ากู๋เค่อเหวินจะมีหลักฐานนี้อยู่กับตัวด้วย ฉันควรจะทำยังไงดี?
ขอเวลาผมหน่อยก็แล้วกัน แต่อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับพ่อนะ มันจะทำให้พ่อคิดมากซะเปล่าๆ เซี่ยเหล่ยพูด เขาในตอนนี้ยังคิดหาทางออกไม่ได้
เซี่ยเสวี่ยที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมได้หัวเราะคิกคักก่อนจะพูดแซวว่า นี่พวกพี่แอบไปคุยกุ๊กกิ๊กกันสองคนแล้วปล่อยฉันให้นั่งเหงาอยู่คนเดียวงั้นหรอ? ฉันที่ตัวคนเดียวจะทำยังไงดีหล่ะ?
เซี่ยเหล่ยมองกลับไปที่เธอก่อนจะพูดว่า ถ้างั้นก็ออกไปเที่ยวกับพี่สะใภ้สักพัก เดี๋ยวพี่จะทำอาหารเย็นให้รับประทานเอง
โอเค! พี่นี่เป็นสามีที่ดีจริงๆเลยนะ เซี่ยเสวี่ยพูดแซวอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม
เฉินตูเทียนหยินเองก็ยิ้มด้วยเช่นกัน แต่มันก็เป็นรอยยิ้มที่ปนกับความไม่สบายใจ