Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 479 แผนการต่อรอง !
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่กันคนละประเทศแต่ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความกดดันจากการเจรจาในครั้งนี้
ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณนี่? เซี่ยเหล่ยฉันมีแค่เงื่อนไขเดียวเท่านั้นที่ต้องการคือการปล่อยตัวพี่ชายของฉันและคุณก็เอาหลักฐานของเฉินตูเทียนหยินไป มันเป็นเงื่อนไขที่ง่ายมากดังนั้นฉันจะให้เวลาคุณคิดแค่เพียงสองนาที ถ้าคุณปฏิเสธฉันจะส่งมันให้กับสื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที หลังจากนั้นคุณจะได้เห็นเธอไปนอนอยู่ในคุกแน่นอน! กู๋เค่อเหวินพูดจบก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริมว่า อ้อใช่ ด้วยจำนวนเงินที่เธอยักยอกไปมันเพียงพอที่จะทำให้เธอโดนโทษประหารชีวิต ดังนั้นคิดให้ดีหล่ะ
เซี่ยเหล่ยกำลังคิดถึงวิธีการและวิธีอื่นๆที่พอจะเป็นไปได้สำหรับการแก้ปัญหานี้
เฉินตูเทียนหยินมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเซี่ยเหล่ยในตอนนี้เปลี่ยนเหมือนกับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเธอ
สองนาทีนั้นสั้นมาก เซี่ยเหล่ยจึงหมดเวลาคิดแล้ว!
หมดเวลา คุณตัดสินใจได้แล้วหรือยัง? กู๋เค่อเหวินถามด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง
ผมตกลงกับเงื่อนไขของคุณ เซี่ยเหล่ยตอบก่อนจะพูดต่อว่า แต่คุณต้องให้เวลาผมสองเดือน
ไม่ ฉันไม่สามารถให้เวลามากขนาดนั้นกับคุณได้ ฉันให้ได้มากที่สุดได้แค่สองสัปดาห์เท่านั้น กู๋เค่อเหวินพูด
กู๋เค่อเหวิน มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะที่จะเร่งรีบ คุณควรจะยินดีที่ผมตอบตกลงกับมันมากกว่า ผมรู้ว่าคุณมีหลักฐานที่จะเอาผิดกับภรรยาของผมได้ ในทางกลับกันคุณก็น่าจะรู้นะว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง ผมสามารถปกปิดข่าวก่อนที่ทุกอย่างจะถูกกระจายออกไปได้ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆผมก็จะใช้ทุกวิถีทางและอำนาจทั้งหมดที่มีเพื่อทำให้เธอปลอดภัย ซึ่งสุดท้ายแล้วคุณก็จะไม่ได้อะไรเลย!
กู๋เค่อเหวินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งว่า เอาหล่ะ ฉันจะให้เวลาคุณทั้งหมดหนึ่งเดือน ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้พาพี่ชายของฉันมาที่ญี่ปุ่น เราจะทำการแลกเปลี่ยนกันที่นี่
ตกลง อีกหนึ่งเดือนเราจะเจอกันที่ประเทศญี่ปุ่น เซี่ยเหล่ยพูดเสร็จก็วางสาย
คุณจะไปญี่ปุ่นจริงๆเหรอ? เฉินตูเทียนหยินถามอย่างประหม่า
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าพร้อมกับตอบว่า ใช่ กู๋เค่อเหวินในตอนนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของคุณ ผมไม่ยอมปล่อยเธอไว้หรอกนะ
มันเป็นคำพูดที่ชัดเจน เซี่ยเหล่ยจะไปที่ญี่ปุ่นเพื่อฆ่ากู๋เค่อเหวิน!
เฉินตูเทียนหยินส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า ไม่ ฉันไม่ต้องการให้คุณไปที่ประเทศญี่ปุ่น มันอันตรายเกินไป คุณบอกว่ากู๋เค่อเหวินเข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งซีไอเอ นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ถ้าคุณไปคุณอาจจะไม่ได้กลับมาก็ได้นะ
เซี่ยเหล่ยหัวเราะเล็กน้อยอย่างผ่อนคลายก่อนจะพูดขึ้นว่า ถ้าเป็นเรื่องของคุณ ผมก็ยินดีที่จะเสี่ยงแต่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปหรอกนะ ผมจะจัดการทุกอย่างเอง ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
เฉินตูเทียนหยินกอดเซี่ยเหล่ย เธอรู้สึกประทับใจและดีใจไปพร้อมๆกัน เธอกระซิบข้างหูของเซี่ยเหล่ยอย่างแผ่วเบาว่า ฉันดีใจนะที่คุณยอมเสี่ยงเพื่อฉันขนาดนั้น แต่ฉันก็ไม่ต้องการให้คุณไปเสี่ยงชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ดี นอกจากนี้ฉันมองว่าเงื่อนไขของกู๋เค่อเหวินนั้นไม่มีเหตุผลและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย คุณจะพาคนที่ติดคุกออกมาและพาเขาไปที่ประเทศญี่ปุ่นได้ยังไงกัน เอาหล่ะ…ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง คุณทิ้งฉันและไปจากชีวิตของฉันซะ คุณจะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงอยู่กับฉัน
เซี่ยเหล่ยลูบผมสีดำของเธอเบาๆก่อนจะพูดว่า เด็กโง่ ทำไมผมถึงต้องทิ้งคุณด้วยหล่ะ ผมรับเงื่อนไขของกู๋เค่อเหวินมาแล้วเพราะผมมีวิธีที่จะจัดการเธอ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลหรอกนะ
Hubby คุณ…คุณเชื่อในสิ่งที่กู๋เค่อเหวินพูดหรือเปล่า? เฉินตูเทียนหยินถามพร้อมมองไปที่ดวงตาของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยมองตาเธอก่อนที่จะยิ้มพร้อมกับพูดว่า ผมรักคุณ ซึ่งการที่ผมรักคุณผมรักในด้านที่ดีของคุณและมันรวมถึงด้านที่ไม่ดีของคุณด้วย ผมยอมรับและรักในสิ่งที่คุณเป็นคุณ ยิ่งตอนนี้คุณเป็นภรรยาของผมถูกต้องตามกฏหมายแล้ว ผมไม่สนคำพูดของกู๋เค่อเหวินหรอกนะ
ยอมรับและรักในสิ่งที่คุณเป็นคุณ คำพูดนี้มันช่างมีความหมายและมีความหวานมากกว่าขนมหวานใดๆที่มีอยู่บนโลกนี้ ที่สำคัญที่สุดคือมันออกมาจากใจของเซี่ยเหล่ย ไม่ว่าเฉินตูเทียนหยินจะทำอะไรเขาจะคอยสนับสนุนเธอและแม้แต่ยอมเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อช่วยเธอ!
เฉินตูเทียนหยินมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้ เธอรู้สึกตื้นตันอยู่ในใจอย่างไรก็ตามมือของเธอก็จับไปที่หน้าอกพร้อมกับผลักเซี่ยเหล่ยให้นอนราบลงไปบนเตียงอีกครั้ง…
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกเพราะมันสามารถรับรู้ได้ทั้งทางใจและทางกาย
ในวันต่อมาหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย
ตรงทางเข้าประตูหน้าบ้าน เฉินตูเทียนหยินกำลังผูกเนคไทของเซี่ยเหล่ยพร้อมกับพูดว่า ขับรถอย่างระมัดระวังด้วย และก็เย็นนี้ฉันจะรอทานอาหารพร้อมคุณนะ
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าก่อนจะพูดว่า เมื่อเสร็จงานแล้วผมจะโทรหาและรีบกลับ
เซี่ยเสวียที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็หัวเราะคิกคักก่อนจะพูดขึ้นว่า ทั้งสองคนรักกันมากจริงๆฉันเองก็อยากจะรักใครซักคนเหมือนกับพวกพี่บ้าง
เซี่ยเหล่ยเหลือบไปมองเธอก่อนจะพูดว่า ความรักคืออะไร? ยังไม่ถึงเวลาที่น้องจะต้องเรียนรู้หรอกนะ หน้าที่ตอนนี้คือตั้งใจเรียนไปก่อน
เซี่ยเสวียแสดงสีหน้าไม่พอใจทันที แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้พูดอะไรต่อ
เฉินตูเทียนหยินจัดเนคไทเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปหาเซี่ยเสวียก่อนจะโอบเอวของเธอพร้อมกับพูดว่า ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ เซี่ยเสวียเองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงเวลาที่เธอจะหาใครซักคนไว้ข้างกายได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นความรักก็เป็นสิ่งสวยงาม ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ถ้าเธอจะมีความรัก
คุณกำลังให้ท้ายเธอมากไปนะ เซี่ยเหล่ยพูด
เซี่ยเสวียเองก็โอบเอวของเฉินตูเทียนหยินก่อนจะพูดว่า พี่สะใภ้เข้าใจฉันที่สุด ถ้าพี่ชายของฉันรังแกอะไรบอกฉันได้เลย ฉันจะจัดการเขาให้เอง
เซี่ยเหล่ยยิ้มเจื่อนๆ อย่างไรก็ตามเขามีความสุขมากเพราะมันทำให้เขารู้สึกถึงการใช้ชีวิตแบบครอบครัวจริงๆ
เซี่ยเหล่ยขับรถไปส่งเซี่ยเสวี่ยที่มหาวิทยาลัยก่อนจะวนรถกลับและมุ่งหน้าไปยังสำนักงานลับ101
ระหว่างทางที่กำลังจะไปสำนักงานลับ101 เขาได้รับโทรศัพท์จากอเลน่า
ลูคัส ฉันเห็นข้อความที่คุณทิ้งไว้ให้แล้ว ทำไมคุณถึงไม่ปลุกฉันหล่ะ อเลน่าถามพร้อมกับถามต่ออีกว่า หรือคุณไม่ต้องการคุยกับฉันเรื่องปืนไรเฟิลจู่โจมแล้วงั้นเหรอ?
ผมจะไปที่โรงงานผลิตอาวุธในช่วงบ่าย ตอนนี้ผมมีเรื่องที่ต้องจัดการก่อน เซี่ยเหล่ยตอบ
เข้าใจแล้ว ฉันจะรอคุณอยู่ที่โรงงานผลิตอาวุธก็แล้วกัน อเลน่าพูด
อย่าโหมงานหนักมากนัก คุณควรจะหาเวลาในการพักผ่อนบ้างนะ เซี่ยเหล่ยพูดด้วยความเป็นห่วง
เฮ้ เฮ้ อเลน่าหัวเราะก่อนจะพูดว่า ขอบคุณนะ เข้าใจแล้วว่าแต่คุณพอจะช่วยซื้อของเล่นให้ฉันหน่อยได้มั้ย?
ของเล่นงั้นเหรอ? ของเล่นอะไร? เซี่ยเหล่ยถามด้วยความสับสน
อเลน่าพูดกระซิบทันทีว่า ก็ของเล่นผู้ใหญ่สำหรับผู้หญิงยังไงหล่ะ ฉันออกไปข้างนอกไม่ได้และก็ไม่รู้ด้วยว่าของเล่นเหล่านี้สามารถซื้อได้ที่ไหน คุณช่วยจัดการหามาให้ฉันซักสองสามอันได้หรือไม่?
คำพูดของเธอเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมายังร่างกายของเขา เขาตกใจครู่หนึ่งและไม่รู้ว่าจะตอบเธอไปว่ายังไงดี
คุณซื้อให้ฉันไม่ได้งั้นเหรอ? อเลน่าพูดเมื่อเห็นว่าเซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบตกลง อย่างไรก็ตามเธอยังพูดต่ออีกว่า ถ้าอย่างนั้นก็มาทำจริงๆกับฉันก็แล้วกัน เซี่ยเหล่ยถึงกับพูดไม่ออกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้ปฏิเสธเธอ เพราะมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ที่สำนักงานลับ 101 เซี่ยเหล่ยเดินชนกับถ่างหยู่เหยี่ยบริเวณหน้าประตูลิฟต์แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาเข้าลิฟต์ไปพร้อมๆกัน
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้บรรยากาศในลิฟต์ตอนนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
เอ่อ…เซี่ยเหล่ย ฉันขอถามอะไรคุณได้ไหม ถ่างหยูเหยี่ยพูดพร้อมกับทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดก่อนหน้านี้ลง
อะไรงั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยถาม
ฉันรู้ว่าคุณจดทะเบียนสมรสกับเฉินตูเทียนหยินแล้ว ซึ่งตอนนี้คุณเป็นสามีของเธอ ฉันอยากจะถามคุณว่าตอนนี้คุณมีความสุขดีมั้ย? ถ่างหยูเหยี่ยถามพร้อมมองไปที่เซี่ยเหล่ยเพื่อรอฟังคำตอบจากปากของเขา
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและตอบว่า ทำไมจู่ๆก็ถามผมด้วยคำถามแปลกๆแบบนี้หล่ะ?
ถ่างหยูเหยี่ยเหยียดขาไปข้างหลังก่อนที่จะเตะที่ขาเซี่ยเหล่ยหนึ่งครั้งพร้อมกับพูดว่า จะถามฉันกลับทำไม แค่ตอบคำถามของฉันมันยากงั้นเหรอ แล้วฉันถามอะไรคุณไม่ได้เลยหรือไง อย่าลืมสิว่าก่อนหน้านี้เราร่วมเป็นร่วมตายกันมาตั้งหลายครั้ง
เซี่ยเหล่ยรู้สึกปวดหัวกับเธอทันที เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
ไม่พูดอะไรเลยเหรอ? ตอนนี้เราไม่ใช่เพื่อนกันแล้วใช่มั้ย? ถ่างหยู่เหยี่ยพูด
เซี่ยเหล่ยหัวเราะเจื่อนๆก่อนจะพูดว่า โอเค โอเค ผมจะบอกก็แล้วกัน อันที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเลย ผมแค่รู้สึกว่าต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น และแน่นอนว่าผมมีความสุขดี
สิ้นเสียงของเซี่ยเหล่ยก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูลิฟต์เปิดออก ถ่างหยูเหยี่ยเดินออกจากลิฟต์เป็นคนแรกพร้อมกับหันกลับไปมองเซี่ยเหล่ยที่ยังอยู่ในลิฟตและพูดกับเขาไปว่า ไม่ต้องเชิญฉันไปงานแต่งงานของคุณ และยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณหย่ากับเธอเมื่อไหร่ชวนฉันไปดื่มได้นะ
ยังไม่ทันไรคุณก็พูดแบบนี้แล้วงั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับเดินไปเตะขาของเธอ
ถ่างหยู่เหยี่ยไม่ได้ตอบโต้อะไร เธอยิ้มให้กับเซี่ยเหล่ยหนึ่งครั้งก่อนจะเดินจากไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะยิ้มออกมาแต่ในใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากแต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
เซี่ยเหล่ยออกจากลิฟต์ก็ตรงไปยังออฟฟิศของฉือโบเหยิยนทันที
ฉือโบเหยิยนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเซี่ยเหล่ยมาหาเขา เขาจึงถามออกไปว่า ทำไมคุณถึงมาที่นี่หล่ะ? มีธุระอะไรงั้นเหรอ?
เซี่ยเหล่ยพูดเข้าประเด็นทันทีว่า ผู้บริหารฉือ คุณไม่ได้ให้ผมไปเตรียมตัวเพื่อไปที่ประเทศญี่ปุ่นงั้นเหรอ? ตอนนี้ผมมีแผนแล้ว
หืม? ทำไมเร็วอย่างนี้หล่ะ? ไหนลองว่ามา ฉือโบเหยิยนพูดด้วยความสนใจ
ก่อนอื่นเลย คุณรู้อะไรเกี่ยวกับกู๋เค่อเหวินบ้าง? เซี่ยเหล่ยเกริ่นนำ
ฉือโบเหยิยนพยักหน้าก่อนจะพูดว่า ผมรู้มาบ้าง เพราะเป้าหมายสูงสุดของถ่างหยู่เหยี่ยในตอนนี้คือกู๋เค่อเหวิน เธอจะไม่มีทางรอดชีวิตอย่างแน่นอนถ้าเธอกลับมาเหยียบประเทศจีน แต่การไปญี่ปุ่นของคุณในครั้งนี้ เกี่ยวกับอะไรกับเธองั้นเหรอ?
กู๋เค่อเหวินตามผม ถ่างหยูหยี่ยและหลงบิง เราเจอกันที่เมืองเยรูซาเล็มตอนนี้เธอไปที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วยิ่งไปกว่านั้นสถานะของเธอตอนนี้ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อผม โครงการ Alloy X และผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างมาก เราจำเป็นจะต้องกำจัดเธอ
อันที่จริงการฆ่าเธอก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ตอนนี้เธออยู่ที่ญี่ปุ่นนี่แหละที่เป็นปัญหา ฉือโบเหยิยนพูดก่อนจะพูดต่อว่า แต่การที่คุณมาที่นี่เพื่อคุยกับผม แสดงว่าคุณมีแผนอยู่แล้วใช่มั้ย? คุณว่าแผนของคุณมาเลย?
แผนของผมก็ง่ายมาก มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เราจะใช้กู๋เค่อหวู่เป็นตัวล่อเธอ จากนั้นก็หาจังหวะฆ่าเธอซะ เซี่ยเหล่ยพูด
ฉือโบเหยิยนมองไปที่เซี่ยเหล่ยเงียบๆโดยที่ไม่ได้ตอบหรือพูดอะไรในทันที
เซี่ยเหล่ยเห็นปฏิกิริยาของฉือโบเหยิยนก็รู้สึกไม่สบายใจซักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็พูดต่อว่า ผมรู้ว่าแผนของผมมันไปขัดกับข้อกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามผมยินดีที่จะทำงานสกปรกทุกอย่างเพื่อให้โครงการ Alloy X ปลอดภัยและคืบหน้าต่อไปได้ ผู้บริหารฉือ…นี่เป็นข้อเสนอแนะของผม คุณจะเป็นคนตัดสินใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผมมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรกับประเทศหรอกนะ แต่ถ้าเป็นโครงการ Alloy X หล่ะ? มันจะส่งผลอย่างมากกับประเทศของเราแน่นอน
ฉือโบเหยิยนยังคงเงียบอยู่แต่ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นว่า ผมสามารถส่งตัวกู๋เค่อหวู่ให้กับคุณได้ แต่…
แต่อะไร? เซี่ยเหล่ยพูดแทรกทันที
แต่คุณจะต้องฆ่าทั้งกู๋เค่อเหวินและกู๋เค่อหวู่เลย ฉือโบเหยิยนพูดและพูดต่ออีกว่า นอกจากนี้จะต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้และไม่ทิ้งร่อยรอยให้สามารถสืบสวนได้ด้วย
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะตอบทันทีว่า ไม่มีปัญหา ถือว่าเราตกลงกันแล้วนะ ผมจะพากู๋เค่อหวู่ไป
ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ฉือโบเหยิยนพูดกำชับ
มั่นใจได้เลยผู้บริหารฉือ ผมจะไม่พูดเรื่องนี้กับใครแม้ว่าจะเป็นภรรยาของผมเองก็ตาม เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ภรรยาของคุณ ภรรยาของคุณ คำๆนี้ทำให้ผมรู้สึกโกรธจริงๆ ฉือโบเหยิยนพูดพร้อมกับขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่ออีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ผมเจอกับถ่างหยู่เหยี่ย เธออารมณ์ไม่ดีและแปรปรวนบ่อยมาก เธอเคยเป็นคนที่มีชีวิตชีวาแต่ตอนนี้เธอดูเศร้าและหม่นหมองอย่างมาก คุณควรให้เวลากับเธอและคุยกับเธอบ้างนะ
อ๋อ….! ผมเพิ่งจำได้ว่ามีการประชุมด่วน! ผมต้องไปแล้วผู้บริหารฉือ! ขอตัวก่อนนะ…ลาก่อน เซี่ยเหล่ยรีบพูดทันที และพูดเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องไปเลยโดยไม่รอให้ฉือโบเหยินพูดอะไรต่อ