Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 490 แผนการอันซับซ้อน !
คาโตะริวซุเกะได้หายตัวไป และไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้เลยรวมถึงเย่เสี่ยวฉี
แต่การหายตัวไปของคาโตะริวซุเกะนั้นไม่ได้ส่งผลต่อการผลิตอาวุธของบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นเลย ด้วยข้อตกลงที่พวกเขาตกลงกันไว้ แม้ว่าคาโตะริวซุเกะจะหายตัวไปหรือแม้แต่ถูกฆ่าตายโดยผู้ก่อการร้ายของตะวันออกกลางแล้วก็ตาม มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตเพราะเขาได้จ่ายเงินมัดจำให้แล้วจำนวน 5,000,000 ดอลล่าสหรัฐ นอกจากนี้ถ้าคาโตะริวซุเกะตายไปจริงๆ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะขายปืนไรเฟิลจู่โจมล็อตนี้ไม่ได้ เนื่องจากกองทัพมีความต้องการปืนไรเฟิลประเภทนี้มากอยู่แล้ว นี่จึงไม่ใช่ปัญหา เย่คุนไม่จำเป็นจะต้องกังวลอะไรเลยในเวลานี้
กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนผลิตชิ้นส่วนบางอย่างสำหรับปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นใหม่ของพวกเขา ส่วนบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นจะป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เหลือรวมถึงทำหน้าที่ประกอบปืนไรเฟิลจู่โจมให้เป็นรูปเป็นร่าง นี่เป็นข้อตกลงของเย่คุนและมู๋เจียนเฟิง ดังนั้นการผลิตของพวกเขาจึงทำได้อย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
สถานการณ์ที่คล้ายกันของโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยคือพวกเขาเริ่มต้นผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นใหม่เช่นกันแต่กำลังผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมของเซี่ยเหล่ยนั้นเทียบไม่ได้เลยกับกำลังการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมของบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน แม้ว่าเซี่ยเหล่ยเองจะมีบริษัทลูกข่ายช่วยผลิตชิ้นส่วนอื่นๆเหมือนกับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนแต่ยังไงกำลังการผลิตของเขาก็ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับพวกเขาได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะมีแผนภาพปืนไรเฟิลจู่โจมเหมือนกันแต่อาวุธที่ผลิตโดยบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนนั้นขาดคุณสมบัติที่สำคัญอย่างมากอยู่หนึ่งอย่างนั่นก็คือการดูดซับแรงกระแทก เรื่องนี้มีเพียงเซี่ยเหลี่ยและเฉินตูเทียนหยินเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในช่วงเวลากลางคืน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เซี่ยเหล่ยก็ยืนขึ้นพร้อมกับพูดว่า เทียนหยิน ผมจะออกไปข้างนอกหน่อยนะ
ดึกแล้ว คุณจะไปที่ไหนงั้นเหรอ? ถ้าจะไปที่โรงงาน…ให้ฉันไปกับคุณด้วยสิ เฉินตูเทียนหยินพูด
เฉินตูเทียนหยินต้องการใช้เวลาอยู่กับเซี่ยเหล่ยให้มากที่สุดดังนั้นเธอจึงอยากจะตามเขาไปด้วย
ไปด้วยกันสิ เฉินตูเหยิยนพูดขึ้นขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า โอเค ถ้างั้นก็ไปกัน ส่วนพ่อถ้ามีอะไรหล่ะก็โทรหาผมได้ตลอดเลยนะ
ไปกันเถอะ ไม่ต้องห่วงพ่อ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก เฉินตูเหยิยนพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็เดินออกไปพร้อมกับเฉินตูเทียนหยินขณะที่เฉินตูเทียนหยินกำลังจะเดินไปขึ้นรถนั้น เซี่ยเหล่ยก็หยุดเธอเอาไว้พร้อมกับพูดว่า ไม่จำเป็นต้องขับรถไปเอง เราไปแท็กซี่กันเถอะ
ทำไมต้องเรียกรถแท็กซี่หล่ะ? เฉินตูเทียนหยินถามด้วยความไม่เข้าใจ
เซี่ยเหล่ยโอบไหล่ของเฉินตูเทียนหยินก่อนจะพาเดินไปที่ประตูพร้อมกับพูดว่า ผมไม่ได้จะไปที่โรงงานผลิตอาวุธหรอกนะ ผมจะไปที่อื่นเพื่อทำอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่ว่านี้คืออะไร? แต่เอาเถอะ…ไม่ว่าจะทำอะไรและไปที่ไหนฉันก็จะไปด้วยอยู่ดี เฉินตูเทียนหยินพูด
ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่โรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยเริ่มผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ส่วนบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์เองก็เริ่มผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมเฉิงหวู่แล้วเช่นกัน ผมต้องจัดการอะไรบางอย่างเพื่อทำการตอบโต้พวกเขา เซี่ยเหล่ยพูด
คุณทำสัญญากับเย่คุณแล้วใช่มั้ย? เฉินตูเทียนหยินถาม
เราเซ็นสัญญากันแล้ว แต่นั่นเขาติดกับดักของผมเพียงแค่เท้าเดียวอยู่ ผมต้องการให้เท้าของเขาก้าวเข้ามาอยู่ในกับดักของผมทั้งสองข้าง ผมจึงต้องทำสิ่งนี้ เซี่ยเหล่ยตอบ
เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นว่า หึ คุณบอกแผนการกับฉันไม่ได้อย่างนั้นเหรอทำไมต้องพูดอ้อมค้อมด้วย
เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดว่า โอเค ผมจะเล่าให้ฟัง ปืนที่ผลิตเป็นปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นใหม่มันจำเป็นจะต้องทดสอบอยู่หลายครั้งเช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ และเวลาส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหนึ่งสัปดาห์หลังจากเริ่มการผลิต ซึ่งวันนี้ก็เป็นช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์พอดีที่บริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์นำแผนภาพปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นใหม่ของผมไปและผลิตมัน อย่างไรก็ตามแผนภาพที่พวกเขาได้ไปนั้นเป็นแผนภาพที่ขาดฟังก์ชั่นการดูดซับแรงกระแทกไปทำให้มันไม่เสถียร การทดสอบครั้งแรกและครั้งที่สองไม่น่าจะพบปัญหานี้ แต่ครั้งที่สามพวกเขาจะเริ่มเจอมันอย่างแน่นอน ผมเดาว่าฝ่ายผลิตได้ทำการทดลองครั้งที่สามไปแล้วและพวกเขาตระหนักได้ถึงปัญหานี้
เฉินตูเทียนหยินเป็นผู้หญิงฉลาด เธอจึงเดาในสิ่งที่เซี่ยเหล่ยคิดและพูดขึ้นว่า คุณกลัวว่าเย่คุนจะทราบถึงปัญหานี้และหยุดผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมใช่มั้ย?
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า ใช่ ดังนั้นผมจึงต้องจัดการเรื่องนี้ซะก่อน
ถ้าอย่างนั้นคุณจะแก้ปัญหายังไง? แน่นอนตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ามันเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นในช่วงทดสอบ เฉินตูเทียนหยินพูดก่อนจะพูดต่อว่า เย่คุนเป็นคนเจ้าเล่ห์ นอกจากนี้มู๋เจียนเฟิงที่เป็นอาจารย์ของเขาก็มีประสบการณ์อย่างมากในวงการนี้ คุณจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงต่อ? คุณรอดูก็แล้วกัน ผมจะทำให้พวกเขาติดกับดักของผมอย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาจะไม่มีทางรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน เซี่ยเหล่ยพูด
เฉินตูเทียนหยินไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้ เธอบีบเอวของเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า คุณไม่บอกฉันอีกแล้วนะ
เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะเดินโอบไหล่ของเฉินตูเทียนหยินออกจากบ้านไป
ไม่นานทั้งคู่ก็เรียกแท๊กซี่ เมื่อขึ้นรถไปแล้วเฉินตูเทียนหยินก็วางคางของเธอเอาไว้บนไหล่ของเซี่ยเหล่ยพร้อมกับมองหน้าของเขาอยู่เงียบๆ ขณะที่มองก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยตลอดเวลา มันแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังมีความสุขมากในช่วงเวลานี้เพราะนี่เป็นสิ่งแรกที่เซี่ยเหล่ยพาเธอไปทำในเรื่องที่ไม่ดี เธอรู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก นอกจากนี้เธอไม่ได้กังวลถึงความอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นเลยเพราะเธอรู้สึกปลอดภัยอย่างมากเมื่อเซี่ยเหล่ยอยู่ข้างๆเธอ ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมารถแท็กซี่ก็หยุดจอดบริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง เซี่ยเหล่ยจ่ายค่าโดยสารพร้อมกับลงจากรถ
ขณะที่เซี่ยเหล่ยลงจากรถแล้วนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถจักรยานยนต์ขับพุ่งตรงเข้ามาหาเซี่ยเหล่ยก่อนที่จะเบรคอย่างแรง รถจักรยานยนต์คันนั้นเกือบจะพุ่งชนเซี่ยเหล่ยแล้วเพราะมันห่างจากขาของเซี่ยเหล่ยเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น
ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันนี้จอดรถก่อนจะถอดหมวกกันน็อคออกเผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามของเธอ
ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันนี้คือฉินเซียง
ฉินเซียงถอดกระเป๋าเป้สะพายหลังที่กำลังสะพายอยู่ออกมาจากนั้นก็โยนให้กับเซี่ยเหล่ยพร้อมกับหันไปทักทายเฉินตูเทียนหยินว่า สวัสดี พี่สะใภ้
สวัสดีฉิงเสวียง เฉินตูเทียนหยินก็ทักทายเธอกลับเช่นกัน เธอรู้สถานะของฉิงเสวียงดี ฉิงเสวียงเหลียวมองที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า คุณนี่จริงๆเลยนะ ทำไมถึงพาภรรยาตัวเองมาทำอะไรแบบนี้กันหล่ะ?
เธออยากจะมาด้วย ผมก็เห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไร เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะพูดต่อว่า ว่าแต่มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย?
พวกเขาเพิ่งเข้าไปข้างใน ฉิงเสวียงพูดพร้อมกับแสดงรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย
โอเค คุณคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกก็แล้วกัน ผมจะเข้าไปกับเทียนหยินเอง เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมเดินนำเฉินตูเทียนหยินไปในโรงแรม
ฉิงเสวียงมองพวกเขาทั้งคู่ในขณะที่กำลังเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมพูดกับตัวเองว่า ฉันควรจะเป็นคนที่ไปกับเขา แต่ตอนนี้กลายเป็นเฉินตูเทียนหยินไปซะแล้ว เขาทำแบบนี้เพราะต้องการจะฝึกเธอหรือเปล่านะ?
อย่างไรก็ตามทั้งเซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาเดินไปไกลแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมาเซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินก็ขึ้นลิฟท์เพื่อไปยังชั้นที่แปด ในมือของเขามีคีย์การ์ดที่หยิบมาจากกระเป๋าสะพาย ดังนั้นเขาจึงสามารถเปิดล็อคของห้องที่จองไว้ได้ในทันที
ห้องนี้ถูกจองเอาไว้ล่วงหน้าด้วยฝีมือของฉิงเสวียง
เซี่ยเหล่ยเปิดโน๊ตบุคที่วางอยู่ข้างเตียง เขาเพียงแค่กดปุ่มแค่ปุ่มเดียวเท่านั้นหน้าจอก็ปรากฏภาพขึ้นมาเนื่องจาก่อนหน้านี้โน๊ตบุคถูกเปิดเอาไว้อยู่แล้วมันเคียงแค่สลีปอยู่เท่านั้น
หน้าจอแสดงภาพของห้องๆหนึ่งมันดูคล้ายกับห้องในโรงแรมแห่งนี้
แก้มของเฉินตูเทียนหยินเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีที่เธอเห็นหน้าจอของโน๊ตบุค เธอมองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้าหนี
ในขณะนี้หน้าจอกำลังแสดงภาพเคลื่อนไหว เป็นชายรูปร่างอ้วนคนหนึ่งกำลังทำกิจกรรมอย่างว่ากับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ชายคนนี้เป็นเป้าหมายของเซี่ยเหล่ย เขาคือ เจิ้งฉี ผู้รับผิดชอบการทดสอบปืนในแผนกเทคนิคของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ เขาเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์
หญิงสาวคนนั้นสวยและมีรูปร่างที่งดงามเย้ายวนอย่างมากชื่อของเธอคือ เจิ่งหยินหยิน ด้วยรูปร่างที่เย้ายวนบวกกับใบหน้าที่งดงามทำให้เธอเป็นที่ถูกใจของผู้ชายเกือบทุกคนที่พบเห็น ฉิงเสวียงเป็นคนพบเธอและเป็นผู้บงการให้เธอทำแบบนี้
เจิ่งหยินหยินพบกับเจิ้งฉีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอเริ่มแผนการทันทีบทบาทของเธอนั้นง่ายมาก เธอเพียงแค่แสร้งทำเป็นมีใจให้เขาและชวนเขามาที่โรงแรมแห่งนี้ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฉิงเสวียงจัดฉากไว้ ดังนั้นภายในห้องของพวกเขาจึงมีกล้องแอบซ่อนเอาไว้อยู่
คุณ… เฉินตูเทียนหยินพูดก่อนจะหันไปมองเซี่ยเหล่ยพร้อมพูดอย่างประหลาดใจว่า คุณวางแผนเรื่องนี้เอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเลยอย่างนั้นเหรอ?
ไม่ใช่สัปดาห์ที่แล้ว แต่เป็นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว เซี่ยเหล่ยพูด
สองสัปดาห์ก่อนเป็นช่วงเวลาที่เซี่ยเหล่ยค้นพบสายลับที่บริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์และกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนที่ติดสินบนพนักงานของเขา เซี่ยเหล่ยที่ไม่ยอมอยู่เฉยๆอีกต่อไปจึงได้เริ่มแผนการตอบโต้กลับ เขาเริ่มจากสร้างบริษัทในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซื้อใจของเย่เสี่ยวฉีสำหรับแผนการนี้ นอกจากนี้เขาก็ยังใช้ผู้หญิงที่งดงามอย่าง เจิ่งหยินหยิน เพื่อวางกับดักให้ เจิ้งฉี ผู้ที่เป็นผู้อำนวยการในการทดสอบปืนรุ่นใหม่นี้ให้ตกหลุมพลางอีกด้วย เขาคาดการณ์และวางแผนทุกอย่างเอาไว้ตั้งแต่ต้น นี่เป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อนซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะอ่านเกมมาได้จนถึงขั้นนี้
เฉินตูเทียนหยินมองไปที่เซี่ยเหล่ยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะพร้อมกับพูดว่า คุณฉลาดมากจริงๆ มันจะดีมากเลยถ้าลูกของเราจะฉลาดเหมือนกับคุณ
คงเป็นไปไม่ได้ เซี่ยเหล่ยหลุดปากพูดโดยไม่รู้ตัว
ห๊ะ? เฉินตูเทียนหยินถามด้วยความแปลกใจก่อนจะพูดต่อว่า คุณหมายความว่ายังไง?
เซี่ยเหล่ยหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะรีบแก้ตัวว่า ผมเป็นคนฉลาด คุณก็เป็นคนฉลาด ดังนั้นลูกของเราจะต้องฉลาดกว่าพวกเราแน่นอน
บนหน้าจอโน๊ตบุคตอนนี้ พวกเขาทั้งคู่ทำกิจกรรมกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
เจิ่งหยินหยินเองก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเธอพร้อมกับนอนนิ่งๆด้วยความเหนื่อยล้า
เจิ่งหยินหยินพูดอย่างอ่อนโยนขึ้นว่า ที่รัก คุณจะหย่ากับภรรยาของคุณเมื่อไหร่? คุณไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ยที่บอกว่าจะหย่ากับเธอ เพราะถ้าคุณโกหกฉัน ฉันจะไปที่บ้านของคุณและตายต่อหน้าคุณให้ดู
เจิ้งฉีพูดอย่างเหนื่อยล้าว่า ผมหย่าแน่ แต่ไม่ใช่ในเร็วๆนี้ คุณต้องให้เวลากับผมหน่อย แต่ผมรับปากคุณได้เลยว่าผมจะหย่ากับเธอแน่นอน
คุณเขียนสัญญาว่าจะหย่ากับเธอได้มั้ย? เจิ่งหยินหยินพูด
คุณหมายความว่ายังไง? เจิ้งฉี ถามด้วยความสงสัย
คุณจะไม่เขียนงั้นเหรอ? ถ้าคุณไม่เขียนฉันจะตายให้คุณดูเดี๋ยวนี้เลย เจิ่งหยินหยินพูดอย่างจริงจังก่อนจะหยิบปากกาพร้อมกระดาษเอสี่ขึ้นมา
ผมหมายถึง…ทำไมต้องเขียนสัญญาหล่ะ? เอางี้ก็แล้วกัน รอเงินเดือนของผมออกก่อน ผมจะซื้อสร้อยคอเป็นหลักประกันให้คุณก็แล้วกัน คุณคิดว่ายังไง?
ฮือ … เจิ่งหยินหยินเริ่มร้องไห้ก่อนจะพูดต่อว่า ตอนที่คุณยังไม่ได้ฉันคุณก็พูดอย่างนู้นอย่างนี้ แต่พอคุณได้ฉันแล้วคุณก็ไม่มีแม้แต่หลักประกันให้ฉันเลยอย่างนั้นเหรอ? โอเค ฉันไม่ต้องการอยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว ฉันจะตายให้คุณดู!
เจิ่งหยินหยินกำลังจะลุกออกจากเตียง
เจิ้งฉี รีบกอดเธอก่อนจะพูดขึ้นว่า โอเค โอเค ผมจะเขียนสัญญาให้
เจิ่งหยินหยินเช็ดน้ำตาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระดาษสัญญาที่เตรียมเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้นว่า เขียนมัน
เจิ่งหยินหยินบังคับเจิ้งฉีเขียนสัญญารับรองว่าเขาจะขอหย่ากับภรรยาของเขาเอง
เมื่อเขียนเสร็จเจิ่งหยินหยินก็จูบที่หน้าผากของเจิ้งฉีพร้อมกับพูดขึ้นว่า น่ารักที่สุดเลย คุณสามี
ผมขอพักซักหน่อยก่อนจะกินยาอีกเม็ด เจิ้งฉีพูด เขายังมีความต้องการต่อ อย่างไรก็ตามเขาพูดต่อว่า หลังจากที่พักและผมกินยาแล้ว เราจะมาต่อกันอีกรอบนะ
ในอีกห้องหนึ่ง เซี่ยเหล่ยเปิดกระเป๋าสะพายพร้อมกับหยิบหน้ากากซิลิโคนขึ้นมาและสวมมัน…
และในตอนนี้เขากลายเป็นคนอื่นไปแล้ว!��