Umarekawatta nakama-tachi to i sekai o kaitaku shi ni ikou! – ได้เกิดใหม่กับของเพื่อนทั้งทีไปพัฒนาต่างโลกกันเถอะ! - ตอนที่ 5
ระหว่างที่ผมเดินอยู่ในป่านั้นอยู่ดีๆก็หน้ามืดซะงั้น ผมตื่นขึ้นมาและดูรอบๆและพบว่า”นี่มันบ้านกูนี่หว่า?!?(บ้านที่ญี่ปุ่น)”และก็มีเสียงที่คุ้นเคยพูดขึ้นมาว่า”ในที่สุดก็ตื่นสักที”ผมหันไปมอง”คุณ ยูเมเลีย (นางฟ้า)นี่ฉันตายอีกแล้วหรอ?”ผมถามด้วยความตกใจ
“ใจเย็นก่อน จริงๆเรื่องที่เธอหน้ามืดน่ะมันไม่ใช่เหตุบังเอิญ”ยูเมเลีย บอกผม เธออธิบายให้ผมฟังว่าสาเหตุที่ผมหน้ามืดก็เพราะพลังเวทย์ที่สะสมในร่างกายมากเกินไปจนทำให้ร่างกายรับไม่ไหว นี่แหละสาเหตุที่ไม่ยอมอ่านข้อเสียของ Unique Skill
“ก็ประมาณนี้แหละ”เธอได้อธิบายให้ผมเข้าใจ ผมได้บอกเธอว่า”ก็แค่เอา Unique Skill ก็จบแล้วนี่”ผมได้บอกเธอไป”ฉันก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้วค่ะ จริงๆแล้วมันมีอีกสาเหตุหนึ่ง”เธอบอกผม”อะไรเหรอครับ?”ผมถามด้วยความสงสัย
“คือพวกเราได้ทำการประชุมกันแล้วว่าพลังของเธอมัน Op เกินไปจนอาจจะทำให้สมดุลของโลก(ต่างโลก)พังทลายเลยก็ได้”เอาง่ายๆก็คือผมโดนเนิฟ”แล้วยังไงต่อครับ?”ผมถามด้วยความหงุดหงิด”งั้นเธออยากได้อะไรอีกไหมล่ะ?””สิ่งที่อยากได้เหรอ?”
“เช่นพวก Unique skill ใหม่อะไรก็ได้”ผมคิดอยู่สักพักผมก็เลยหยิบกระดาษกับดินสอขึ้นมาเขียน… ผมเขียนไปสักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงแปลกๆ (แจ้งเตือนของ Line ตั้งขึ้น)”ขอเวลานอกแป๊บนึง”ยูเมเลีย บอกผม พร้อมกับเดินไปที่อื่น
จะว่าไปเมื่อกี้เสียงมันก็คุ้นๆนะช่างมันแล้วกัน… หลายนาทีต่อมา “กลับมาแล้วเขียนเสร็จหรือยัง?”ยูเมเลีย ถามผม ผมยื่นกระดาษให้คุณ ยูเมเลีย พร้อมกับถามไปว่า”พระเจ้าเขาเล่น Line ด้วยเหรอครับ?”ผมถามไปเพื่อเอาฮา
“คิดว่าพระเจ้าอย่างพวกเราไม่มีเทคโนโลยีกันหรือไง”และเธอก็โชว์ให้ผมดู เธอได้อธิบายว่าโทรศัพท์ที่พระเจ้าใช้กันแบตเตอรี่จะไม่มีวันหมดแล้วก็สามารถดูสื่อบันเทิงต่างๆจากโลกปกติได้ ผมดูจากรูปทรงแล้วก็เหมือน USPhone 14 ดีนะ
“คำขอที่เธอให้ฉันมารู้สึกจะมีอันนึงแปลกๆนะ”ถามผมด้วยความงงงๆ”อันไหนเหรอครับ?”เธอได้ยื่นและชี้ให้ผมดู”บ้านที่ญี่ปุ่น จะเอาไปทำไมและบ้านของเธอก็ไม่ใช่หลังเล็กๆนะแต่ก็ช่างมันเถอะ”เธอน่าจะงงเพราะผมเป็นชายโสดที่มีบ้าน 2 ชั้น หลังโตอยู่ที่ญี่ปุ่น
ส่วนคำขอที่ผมขอไปก็ดังนี้
1.สกิลเฉพาะตัว สร้างสรรค์ Version Upgrade (สามารถสร้างโดยไม่ต้องใช้วัสดุ)
2.Guide Book Version Upgrade (จากหนังสือมาเป็นโทรศัพท์แทน)
3.บ้านที่ญี่ปุ่น (อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านจะเปลี่ยนไปใช้พลังเวทย์แทน และสื่อบันเทิงต่างๆจะอัพเดทตลอดเวลา เช่น TV)
4.สกิล Create Character (เป็นสกิลที่สามารถสร้าง NPC ได้ตามที่ต้องการ)
ถ้ามีอะไรสงสัยอะไรก็ตามทักมาทาง Line ฉันให้ไว้ในมือถือแล้วคุณ ยูเมเลีย บอกผม เธอก็ถามอีกเรื่องหนึ่ง”จะว่าไปเธอจะไม่ไปตามหาเพื่อนหน่อยเหรอ?หรือว่านายจะรู้อยู่แล้ว”ผมพยักหน้าตอบ”พวกเขาไปเป็นคนใหญ่คนโตในเมืองหลวงกันแล้วผมก็เลยไม่รีบมาก”
คุณ ยูเมเลีย ใช้เวทมนตร์เทเลพอตกลับไปที่ต่างโลกเหมือนเดิม ส่วนเรื่องสกิลเฉพาะตัวพลังเวทย์ไร้ขีดจำกัด เธอบอกว่า”ได้ลบความทรงจำคนในต่างโลกที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หมดแล้วหายห่วงได้เลย”
เราได้มาถึงต่างโลก”ทำเลที่ไหนเลือกก็ใช้ได้เลยนี่”คุณ ยูเมเลีย กล่าวชมผม”ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”เพราะทำเลที่ผมเลือกป่ามันก็ไม่ได้รกอะไรมากออกจะเป็นที่โล่งๆด้วยซ้ำ”งั้นไว้เจอกัน”ผมได้บอกลาคุณ ยูเมเลียและเธอก็หายไป
“ต่อไปก็ไปทำเควสนักผจญภัยต่อ”ส่วนเรื่องบ้านผมค่อยกลับมาเช็คที่หลัง
(ตัดกลับมาที่เมือง)”ไม่เกินช่วงบ่ายนี้พวกมันจะบุกแน่ รีบทำแนวป้องกันซะ!”ในเมืองทุกคนกำลังทำแนวป้องกันป้องกันสัตว์ประหลาดที่กำลังจะบุกเมือง(กิลด์นักผจญภัย)”พวกเราเรียกนักผจญภัยได้ประมาณ 530 คนค่ะและจะมีกำลังเสริมจากเมืองข้างๆมาช่วยอีกแรงนึงค่ะ”
“ไม่พอหรอกนะ 530 คนน่ะ”จนกระทั่งมีคนเปิดประตูเข้ามา”จดหมายมาถึงแล้วครับ!เขาบอกว่าจะมีอัศวินจากเมืองหลวงมาช่วยในการสู้ครั้งนี้ด้วยครับ”หน่วยอัศวินหลวงพวกเขามาทำอะไรที่นี่แต่ก็ช่างมันเถอะพวกเขาน่าจะมาทำภารกิจสำรวจความเป็นอยู่ของประชาชนละมั้ง
(ตัดกลับมาที่ตัวละครหลัก)เดินมาสักพักก็ยังไม่เจอพวกก็อปลินสักที ผมเดินไปเรื่อยๆจนได้ยินเสียงคนกรีดร้องออกมา”เสียงอะไร!?!”ผมวิ่งตามหาต้นตอของเสียง ผมวิ่งไปถึงต้นตอของเสียงจะได้เจอรถม้าประมาณ 3-4 คันจอดไม่เป็นระเบียบ
และเหมือนจะมีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่กำลังไล่ทุบตีผู้คนอยู่”เข้าไปช่วยก็แล้วกัน”ผมได้พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วแทงเข้าไปที่หลังคอทะลุถึงคอหอยตายทันที ผมหันกลับไปมองพวกยักษ์ที่เหลือแต่พวกมันกลับไม่ทำร้ายผมแล้วก็วิ่งหนีไปแทน”กลัวจนหัวหดเลยสิท่า”ผมเก็บดาบเข้าฝัก
ผมหันกลับไปมองพวกผู้คนที่โดนยักษ์ทำร้าย”ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”ดูเหมือนพวกเขายังช็อกกับเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่”ม-ไม่เป็นไรครับ”พวกเขาได้กล่าวขอบคุณผมที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ผมถามพวกเขาว่า”ไม่เป็นไรหรอกค่ะว่าแต่ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม?”
ขณะที่เขาจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผมฟังก็มีเสียงคนขอความช่วยเหลือ”มาช่วยทางนี้หน่อย!”ผมรีบวิ่งไปหาพวกเขาทันทีแล้วก็พบว่า มีเด็กคนนึงเหมือนโดนของมีคมบางอย่างแทงที่ขาซ้ายเลือดไหลไม่หยุด”ไปเอาผ้ามาเพิ่ม”ผมได้ก้มลงแล้วบอกพวกเขาว่า”เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
ผมได้เวทย์รักษาขั้นสูงให้กับเด็ก… หลายนาทีต่อมาแผลสมานเรียบร้อยแต่เด็กยังสลบอยู่”ขอบคุณที่ช่วยเธอไว้นะ”พ่อค้าขอบคุณผม”จะว่าไปที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”เขาเล่าให้ฟังว่าอยู่ดีๆก็มีฝูงก็อบบิ้นนับสิบตัวมาล้อมกองคาราวานของเขา
พวกมันมาทำให้ม้าของพวกเราไปต่อไม่ได้อยู่ดีๆพวกมันก็ถอยกลับไปในป่า แต่พวกเราชะล่าใจไปหน่อยคิดว่าพวกมันถอยกลับไปแล้วอยู่ดีๆก็มีพวกโอเกอร์ออกมาพวกเราตั้งรับกันไม่ทันแนวป้องกันแตกกระเจิง แต่นักผจญภัยแต่ละคนที่เขาจ้างมาดูท่าทางแต่ละคนจะเก่งกันมากเลยนะ
ระหว่างที่ผมช่วยรักษาคนที่บาดเจ็บอยู่นะ”ขอคุยด้วยหน่อยสิ”มีนักผจญภัยคนหนึ่งขึ้นมา”มีอะไรหรือเปล่าคะ?””โทษทีฉันลืมแนะนำตัว ฉันชื่อ นาตาเลีย แม็กดาลีน ยินดีที่ได้รู้จัก””ดิฉันชื่อ รูฟีน่า โนบุยูกิ ค่ะ”คุณ นาตาเลีย เธอได้ถามผมว่า”เธอเป็นนักผจญภัยเเรงค์ A ใช่ไหม?”
เธอถามอะไรน่ะ”เปล่าค่ะฉันเป็นนักผจญภัยแรงค์ D ค่ะ”เธอดูตกใจเอามากๆ”จริงหรอ?””จริงค่ะ”พร้อมกับยื่นบัตรนักผจญภัยให้”พอดีหัวหน้าฝากถามมาว่าที่นี่ห่างจากเมืองกี่กิโลเมตร?””ประมาณ 10 กิโลเมตรได้””ขอบคุณนะ”แล้วเธอก็เดินจากไป
พอผมรักษาคนเสร็จผมก็ไปปรึกษากับคุณ อีสตัน ส่วนพ่อค้าคนนี้มีชื่อว่า อีสตัน ไวแอตต์ เป็นหัวหน้ากองคาราวาน พวกเรากำลังประชุมกันอยู่ว่าจะทำยังไงกับคนเจ็บดี”ผมดูแล้วว่าคนเจ็บแต่ละคนน่าจะเดินได้ไม่ไกลนักเราจะทำยังไงดีล่ะทีนี้”คุณ อีสตัน ถามทุกคน
เพราะรถม้าแต่ละคันได้รับความเสียหายอย่างหนักจนไม่สามารถขยับได้ส่วนมาก็ตายเกือบทั้งหมด ขณะที่พวกเขากำลังคิดกันอยู่ ผมได้เสนอไปว่า”ลองไปบ้านฉันดูไหมคะไม่ห่างจากที่นี่มากนัก”พวกเขาหันมามองผม”ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก””ขอโทษค่ะ”
ดังนั้นพวกเรา 40 คนกับนักผจญภัยอีกประมาณ 15 คนและคนเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ได้ออกเดินทางไปที่บ้านของผมที่ห่างจากที่นี่ประมาณ 1 ถึง 2 กิโลเมตร