Umarekawatta nakama-tachi to i sekai o kaitaku shi ni ikou! – ได้เกิดใหม่กับของเพื่อนทั้งทีไปพัฒนาต่างโลกกันเถอะ! - ตอนที่ 7
ต้นตอของเสียงเท้าจำนวนมากก็คือ… ก็อบลินนับร้อยตัวอีกจำนวนหนึ่ง วิ่งโถมอย่างบ้าคลั่งและได้มีเวทมนตร์เพลิงยิงมาจากในป่าหน้าบ้านห่างประมาณ 2-3 ร้อยเมตร ระหว่างที่ทุกคนกำลังขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า… ผมได้ตะโกนขึ้นมาว่า”ทุกคนรีบเข้ามาใกล้ดิฉันเร็วเข้า!”พร้อมกับกวักมือ เรียกทุกคนยืนงง 1-2 วิและรีบวิ่งมาหาผมทันที… พวกเขาเข้ามาใกล้ผมก็ไม่รีรอการเขตเขตแดนทันที”สกิล Boundary Activate!”ผมได้สกิล Boundary สกิล Boundary หรือ สกิล เขตแดน เป็นสกิลที่จัดอยู่ในคลาสป้องกัน (DEF) มีสีทองเป็นเอกลักษณ์ สามารถป้องกันเวทย์มนต์แล้วก็การโจมตีทางกายภาพได้ด้วย เป็นสกิลที่ใช้ MP ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะใหญ่หรือเล็กก็ขึ้นอยู่กับขนาดของเขตแดน สามารถปรับรูปร่างมันได้ตามที่ต้องการ เช่นเป็นโดมขนาดใหญ่หรือกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ก็ได้ ซึ่งขนาดที่ผมใช้อยู่นั้นคือกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมถึงหลังบ้านของผม เคลเลน ได้เข้ามาถามผมทันทีเลยว่า”นี่เธอใช้เวทมนตร์อะไร?””นี่คือเวทมนต์ Boundary ค่ะ”ผมได้ตอบไป… ‘เวรเอ๊ยใช้ MP เยอะเป็นบ้าเลย’
–
–
–
หลายนาทีต่อมา ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกษาพวกก็อบลินทำไมถึงได้เยอะขนาดนี้ นาตาเลีย ได้เสนอขึ้นมาว่า”นี่อาจจะเป็นพวกฝูง ก็อบลิน ที่จะเข้าโจมตีเมืองละมั้ง”เคลเลน ได้พูดขึ้นทันทีว่า”อาจจะใช่ละมั้ง… จะว่าไปคุณหนูเวทเขตแดนอยู่ที่นานแค่ไหน?”เขาได้หันมาถามผมด้วยความจริงจัง”ไม่รู้ค่ะขึ้นอยู่กับ MP แล้ว”ผมได้ตอบออกไปด้วยความเหนื่อยล้า เพราะได้ใช้ MP ไปมากพอสมควรแล้วก็เลยรู้สึกเหนื่อยล้า… ระหว่างที่พวกเขากำลังปรึกษาอยู่นั้นผมก็แอบไปดูในมือถือว่ามีเวทอะไรพอจะโจมตีหมู่ได้บ้าง และได้ไปเจอเวทอันนึงเข้าผมก็เลยไม่รอช้าลองใช้ทันที”Fire From Hell Activate!”ไม่กี่วินาทีต่อมาได้มีไฟขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาจากดินและได้โดนก็อปลินที่อยู่รอบบริเวณเขตแดนไปจำนวนมาก’สำเร็จไหม?’ขณะที่ผมกำลังดูความสำเร็จอยู่นั้นได้มีเลือดค่อยๆไหลออกมาจากจมูกของผม’เลือดงั้นเหรอ…มาได้ยังไง’ผมค่อยๆทรุดลงไปแต่ว่ายังไม่สลบแค่สติเลือนลาง
–
–
–
ในขณะเดียวกัน”นั่นมันอะไรน่ะ!?!”เคลเลน ได้อุทานขึ้นมาพร้อมกับรีบวิ่งออกไปดู”พระเจ้าช่วย…”สิ่งที่เขาเห็นก็คือกำแพงไฟขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ขณะที่พวกเขากำลังตกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าอยู่นั้น นาตาเลีย ได้สังเกตเห็นว่า รูฟีน่า ที่ค่อยๆทรุดลงไปกับพื้นเธอจะรีบเข้าไปเพื่อพยุงตัว รูฟีน่า ขึ้นมา”เธอเป็นอะไรไหม!? รูฟีน่าตอบด้วย!” ผมในตอนนั้นแทบไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นเลยด้วยซ้ำ ผมได้พูดออกไปเบาๆว่า”มานาไม่เหลือแล้ว…”นาตาเลีย ที่เห็นเธอก็เลยวางตัว รูฟีน่า อย่างระมัดระวังนาตาเลียได้หันไปแล้วก็เห็นว่า เขตแดน เริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ ในขณะนั้น เคลเลน ได้ตะโกนขึ้นมาว่า”พวกก็อบบิ้นมันเริ่มเหลือน้อยแล้ว! สิ่งแรกที่พวกเราจะทำก็คือรีบพุ่งเข้าไปฆ่า ก็อบลินคิง ซะแล้วค่อยจัดการตัวกันน็อคที่เหลือ อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดพ้นไปได้ละ เข้าใจนะ!””ครับ/ค่ะท่าน!”ทุกคนได้ตอบรับอย่างสุดเสียง ทุกคนได้ไปรวมตัวแล้วตั้งแนวรบกันใหม่ ตอนนี้ ก็อบลิน มันเหลือกันไม่ถึง 30 ตัวแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมาเขตแดนได้ดับลงและพวกนักผจญภัยก็ได้ผู้เข้าไปต่อสู้อย่างกล้าหาญ…ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาสามารถชนะพวกก็อบลินมาได้ โดยไม่สูญเสียนักผจญภัยเลยแม้แต่คนเดียว
–
–
–
หลายวันต่อมา รูฟีน่า ได้ฟื้นขึ้นมาจากอาการ ขาดมานาอย่างรุนแรงและได้พักฟื้นอยู่ในห้องนอนของเธอ(บ้าน) ขณะที่เธอกำลังพักฟื้นอยู่นั้น นาตาเลีย ได้เล่าให้เธอฟังทุกอย่างว่าจริงๆแล้วพวกเธอไม่ใช่นักผจญภัยแต่เป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงลำดับที่ 2 ของอาณาจักรบูเบเชีย มีชื่อว่า เลย์ล่า รูน โอลินเทีย องค์หญิงลำดับที่ 2 แห่งอาณาจักรบูเบเชีย หรือก็คือน้องที่อยู่หน้าตู้เย็นตอนที่ 6 นั่นเอง รูฟีน่า ได้ถามว่า องค์หญิงลำดับที่ 2 มาทำอะไรที่ห่างไกลจากเมืองขนาดนี้ นาตาเลีย ตอบว่า ที่จริงแล้วพวกเรามาตามหาคนที่ชื่อว่า เมอร์ฟี่ คาร์สัน ข้อมูลล่าสุดที่เรารู้เกี่ยวกับเขาก็คือ เขาเพิ่งจบโรงเรียนแพทย์ในเมืองหลวงได้แค่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว สาเหตุที่ออกตามหาคุณหมอเมอร์ฟี่ก็เพราะว่าขอเป็นผู้มีพระคุณของ องค์หญิงลำดับที่ 2 นั่นเอง รูฟีน่า บอกเขาว่า คุณหมอเมอร์ฟี่อยู่ที่เมือง ไฮเมล ที่ห่างจากที่นี่ไม่มากนัก จากที่พวกเขารู้ว่าคุณหมออยู่ที่ไหน พวกเขาก็รีบขอบคุณผมแล้วก็ออกไปทันทีเลย