Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1421
จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1421 สร้างตำนานบทใหม่!
ตอนที่ 1421 สร้างตำนานบทใหม่!
โดย
Ink Stone_Fantasy
“พวกท่านยังยืนฉงนใจเพื่ออันใด? เพิ่งลั่นวาจาสัตย์ไปก่อนหน้าหรือลืมกันไปหมดแล้ว?”เย่หยวนกล่าวเสียงเย็น
ไป๋ซิ่วและที่เหลือสะดุ้งเฮือกพร้อมตวาดลั่นดุเดือด “ฆ่ามันให้หมด! จงสู้จนตัวตายไม่มีถอยกลับ!”
พวกเขาทุกคนปลุกใจฮึดสู้ประดุจถูกกระตุ้นสุดใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน ทุกคนต่างเก็บงำความกลัวตายไว้ในใจเบื้องลึก แต่คาดไม่ถึงเช่นกันว่า เย่หยวนกลับมีไพ่ตายที่ไว้ใช้ต่อกรกับเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นสุดอย่างฮั่วเทียน หยางได้จริงๆ!
ยามนี้เลือดร้อนเดือดพล่านหยุดไม่อยู่ พวกเขาไม่จำต้องกลัวตายใดๆ อีกต่อไป
ในเวลานั้นเองกุ้ยหยุนเข้าสัประยุทธ์เดือดกับฮั่วเทียนหยางอย่างขับเคี่ยว กรงเล็บวิญญาณอาฆาตของกุ้ยหยุน ทรงอานุภาพมาก เมื่อจับคู่ปะทะกับฮั่นเทียนหยางกลับไม่เผยให้เห็นถึงความเสียเปรียบแม้แต่น้อย!
“ท่านอาจารย์เย่ ขอบพระคุณยิ่ง!” ไป๋เฉินกล่าวขอบคุณสุดซาบซึ้งใจอย่างสุดพรรณนา เหตุการณ์เมื่อครู่เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดออก
เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า “สิ่งที่เจ้าตัดสินใจและลงมือทำช่างน่าประทับใจนัก!”
ไป๋เฉินเสมือนกับเด็กน้อยถูกผู้ใหญ่ชื่นชม เขาตื่นเต้นจนไม่รู้ควรทำอย่างไร ได้แต่คลี่ยิ้มเก้อเขินอายและกล่าวว่า
“จะ จริงรึท่าน?”
เย่หยวนพยักหน้าตอบว่า “ให้ลูกท้อ…ตอบแทนกลับด้วยลูกพลัม! เจ้าปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยใจจริงเช่นนี้ จงส่งผลให้พวกเขาเลือกที่จะสนับสนุนช่วยเจ้าเช่นกัน!”
คู่สายตาที่จับจ้องของไป๋เฉินเผยสะท้อนความมุ่งมั่นทอประกาย เขาพยักหน้าขณะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอาจารย์เย่ ศิษย์คนนี้เข้าใจแล้ว! หากศึกครานี้เราสามารถเอาชนะวังเทวะพิรุณร่วงโรยได้ ศิษย์คนนี้จักต้องเพียรฝึกฝนให้หนัก!”
เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า “จงขยันหมั่นเพียรเป็นที่ตั้ง จักไม่มีสิ่งใดที่เราไม่สามารถเอาชนะได้!”
“คุยโม้โอ้อวดไม่อายฟ้าดิน! ข้าสงสัยเสียจริงว่า เด็กเหลือขออย่างเจ้าที่เก่งแต่ปาก สุดท้ายจะตายลงอย่างไร!”
ไป๋เฉินสะดุ้งโพล่งขึ้นในทันใด ปรากฏว่ามีเซียนจากวังเทวะพิรุณร่วงโรยโผล่มาจากไหนไม่ทราบ รุดตรงมาใกล้พวกเขาแล้ว
เย่หยวนหาได้แสดงสีหน้าท่าทีประหลาดใจใดๆ เพียงเหลือบมองปรายหางตาเล็กน้อยและกล่าวเสียงเรียบเย็นขึ้นว่า “คุยโม้โอ้อวด? เสียใจด้วย ข้าไม่เคยคุยโม้โอ้อวดแม้นสักครั้ง”
ไป๋เฉินถอดสีหน้าเล็กน้อยและกล่าวบอกเย่หยวนด้วยความเป็นห่วงว่า “ท่านอาจารย์เย่ เขาคือผู้อาวุโสเก้าแห่งวังเทวะพิรุณร่วงโรยนามหลานจื่อหยู เป็นเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นต้น! แต่ตอนนี้…เราไม่มีขุมกำลังอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าไว้รับมือเหลือแล้ว!”
ในเวลานี้ทั้งสองฝ่ายกำลังก่อศึกสัประยุทธ์ชุลมุนวุ่นวายไม่รู้หัวหาง แต่กลับมีเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าของวังเทวะพิรุณร่วงโรยหลุดรอดออกมาคนหนึ่ง! หลานจื่อหยูไม่คิดจะหาคู่ต่อสู้อยู่แล้ว และพยายามหลบเลี่ยงศึกรอบตัวเพื่อชิงจังหวะฆ่าไป๋เฉินและเย่หยวนตั้งแต่ต้นแล้ว
เย่หยวนเอ่ยกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “เจ้าถอยไปก่อน”
ไป๋เฉินปั้นหน้าเครียดก่อนเร่งโพล่งเข้าเตือนทันทีว่า “ท่านอาจารย์เย่ ท่านคิดจะต่อกรกับเขาเพียงลำพังรึ? แต่…แต่อีกฝ่ายเป็นถึงเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้า! เร็วเข้า พวกเจ้ามานี่เร็ว! ช่วยกันผนึกกำลังโค่นหลานจื่อหยู!”
เย่หยวนยกมือขึ้นหยุดไป๋เฉินมิให้ทำเช่นนั้นและเอ่ยขึ้นว่า “ไม่จำเป็น แค่ข้าคนเดียวก็พอแล้ว!”
สีหน้าการแสดงออกของไป๋เฉินแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน เขามิอาจทราบเลยว่า เย่หยวนไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าปะทะกับเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าแบบตัวต่อตัว นี่หาใช่เรื่องเกินจริงหรือไม่?
หลานจื่อหยูแหงนมองช้อนสายตาไปยังเย่หยวนและกล่าวด้วยท่าทีสุดหยามเหยียดว่า “สหายน้อยช่าลำพองตนนัก คิดหรือว่าการที่เจ้านำภูตเซียนมาเป็นองครักษ์ข้างกายเฉกเช่นนี้ จะทำให้เจ้าไร้เทียมทานเหนือสรรพสิ่ง?” จากที่เขาสังเกตเห็นปฏิกิริยาของไป๋เฉินเมื่อครู่ นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เด็กเหลือขอนามเย่หยวนคนนี้เป็นแค่เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าเท่านั้น สันนิษฐานได้ว่า เด็กเหลือขอคนนี้คงกำลังใช้เครื่องรางของวิเศษบางอย่างเพื่อปกปิดขุมพลังเอาไว้ จึงเป็นเหตุให้เขาไม่สามารถมองผ่านสัมผัสระดับพลังอีกฝ่ายออกได้ เว้นเสียแต่ว่ายามนี้หลายจื่อหยูทราบชัดเห็นกระจ่างแล้ว ก็แค่ขุมพลังอาณาจักรปฐมพระเจ้าคนหนึ่ง แต่ริอาจเผชิญหน้ากับเขาแบบตัวต่อตัว ช่างน่าขันสิ้นดี!
เย่หยวนเรียกดาบพิชิตมารฟ้าออกมาและกล่าวท่าทีสงบจิตสงบใจว่า “แล้วอย่างไร?”
หลานจื่อหยูระเบิดเสียงหัวเราะลั่นและกล่าวว่า “แล้วอย่างไรงั้นรึ? ต่อหน้าเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้า เหล่าเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้ากลับไม่ต่างจากมดปลวก! ตั้งแต่สมัยโบราณกาล เคยมีหรือไม่ เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าปราบปรามเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าสิ้นท่า? เหอะ เหอะ แล้วน้ำหน้าอย่างเจ้า…หรือคิดว่าตนถือผู้เขียนตำนานบทใหม่?”
เย่หยวนคลี่ยิ่มบางกล่าวตอบไปพลางว่า “เช่นนั้นรึ? งั้นข้า…จะเป็นผู้เขียนตำนานบทนั้นขึ้นมาเอง!”
ยังไม่ทันที่หลานจื่อหยูจะได้เปิดปากเอ่ยกล่าวอันใดต่อ เย่หยวนก็เริ่มเคลื่อนไหวเสียแล้ว!
สยบดารา!
คมดาบลมกรดทรงจันทร์เสี้ยวงามยักษ์กวาดล้างสะบั้นฉีกห้วงอากาศปราดพุ่งไปทางหลานจื่อหยู!
คมดาบกระบวนนี้เร็วสุดขีด แต่นี่ก็มิได้ทำให้หลานจื่อหยูรู้สึกตื่นกลัวใดๆ เขายังคงยืนนิ่งรอรับกระบวนดาบนั้นอย่างใจเย็น เพียงกระบวนดาบของเด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้า มันจะแกร่งกล้าสักแค่ไหนเชียว?
แต่เมื่อแสงคมดาบรุดถึงตรงหน้า กลิ่นอายหายนะหอบใหญ่พลันล้นทะลักจากคมดาบ ถาโถมเข้าใส่ร่างหลานจื่อหยูจนท่วมท้นแทบมิดร่าง!
เกร๊งงง!
ร่างของหลานจื่อหยูปลิวกระเด็นลอยลิ่วดุจกระสุนลูกปืนใหญ่ โดยที่เย่หยวนอัดดินระเบิดเข้าเต็มสูบ
บูมมม!!
ร่างสภาพรอมร่อของหลานจื่อหยูอัดกระแทกทุบพื้นอย่างแรง ผืนดินแตกระแหงเป็นหลากสาย ก่อนยุบตัวฮวบกลายเป็นหลุมลึก!
เมื่อไป๋เฉินเห็นภาพฉากนี้ ลูกตาของเขาแทบถลนหลุดจากเบ้า
นี่…นี่ไม่ทรงพลังเกินไปแล้ว? ท่านอาจารย์เย่ผู้นี้…เขาเป็นแค่เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าจริงๆงั้นรึ?
ทันทีทันใดไป๋เฉินก็รู้สึกว่า ขอบเขตความเข้าใจเก่าๆที่เคยมีมายามนี้กลับถูกล้มล้างโดยสิ้นไม่เหลือ!
“สายตาข้ามีปัญหาแล้วกระมัง!? ท่านเย่หยวนเป็นเซียนอณาจักรปฐมพระเจ้าตัวจริงเสียงจริง แต่ไฉนถึงบดขยี้จนหลานจื่อหยูสิ้นท่าได้ภายในกระบวนดาบเดียว!”
“เจ้าเห็นไม่ผิด กระบวนดาบของท่านเย่หยวนเมื่อครู่ยังอยู่ในขอบเขตพลังอาณาจักรปฐมพระเจ้าจริงๆ และมิได้เกินเลยไปกว่านั้นเลย!”
“เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าสามารถเอาชนะเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าได้ในกระบวนท่าเดียว นี่…นี่ช่างน่าทึ่งเกินไปแล้ว!”
“เขาคือตำนาน! นี่จะกลายเป็นตำนานแน่นอน! แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยมีเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าคนใดสามารถสู้ข้ามระดับ สัประยุทธ์กับเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าได้มาก่อน! ยิ่งไปกว่านั้นยังล้มอีกฝ่ายได้ในหนึ่งกระบวนท่า… ท่านเย่หยวนช่างน่าเหลือเชื่อนัก! เขาสามารถทำได้จริงๆ!”
…
ภาพฉากนี้น่าตื่นตะลึงเกินไป แม้ยามนี้จะอยู่ระหว่างศึกสงครามความโกลาหลไร้สิ้นสุด ทว่าฝูงชนไม่ว่าฝ่ายใดกลับต้องหยุดมือไปโดยพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าของฝ่ายวังเทวะรัตติกาลฉาย เห็นดังนี้ยิ่งมีกำลังใจสู้เป็นหลายทวีเท่า
เหตุการณ์นี้เป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงความแกร่งกล้าของเย่หยวนแล้วว่า ไร้เทียมทานถึงขั้นบดขยี้เซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าได้ภายในกระบวนดาบเดียว!
มิใช่แค่ดินแดนนภาบรรพตเท่านั้น แม้แต่บนมหาพิภพถงเทียนเอง ก็ไม่เคยมีประวัติศาสตร์หน้าไหนบันทึกไว้ว่า เคยมีเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าสามารถเอาชนะเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าได้มาก่อนเช่นกัน!
แม้แต่จินอวี้ยอดอัจฉริยะระดับนั้นที่มีความเข้าใจต่อศาสตร์แห่งดาบอันล้ำลึก เขาเองก็ไม่สามารถข้ามขีดจำกัดทำเรื่องแบบนี้ได้เช่นกัน ระหว่างอาณาจักรปฐมพระเจ้าและอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้า ทั้งสองระดับชั้นพลังนี้กล่าวได้ว่ากว้างใหญ่ไพศาล ปราศจากสิ่งเข้าช่วยเข้ามาเติมเต็มหรือทดแทนได้ ต่อให้เป็นเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจาที่เพิ่งเลื่อนระดับมาสดๆร้อนๆ ก็สามารถบดขยี้เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดได้อย่างง่ายดาย กระทั่งบนมหาพิภพถงเทียนยังไม่มีเรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้ แล้วจะประสาอะไรกับในดินแดนนภาบรรพต?
แต่ตอนนี้กลับมีผู้เป็นตำนานคนแรกจุติขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขาแล้วจริงๆ!
วูบบบ!
หลานจื่อหยูพุ่งทะยานขึ้นจากหลุมลึกใต้พื้นดิน และเหาะเหินลอยเคว้งกลางเวหาเข้าเผชิญหน้ากับเย่หยวนอีกคราว
“บัดซบ! เด็กเหลือขอไร้ยางอาย! เจ้ากล้าลอบโจมตีข้า?!” หลานจื่ออยูก่นด่าสาปแช่งไม่หยดปาก
มุมปากเย่หยวนกระตุกขึ้นเล็กน้อยพร้อมแสยะยิ้มเย็นแสนเหยียดหยาม เขาเอ่ยขึ้นว่า “ลอบโจมตีงั้นรึ?”
สีหน้าการแสดงออกของหลานจื่ออยูบิดเบี้ยวน่าเกลียดอย่างหาที่เปรียบไม่ มิว่าจะเต็มใจยอมรับหรือไม่ก็ตาม ทว่าคมดาบก่อนหน้านี้ก็สามารถแรงคุกคามให้แก่เขาเป็นอย่างมาก!
หากมิใช่เพราะความต่างของระดับพลังที่มาช่วยไว้ คมดาบนั้นอาจคร่าชีวิตของเขาไปนานแล้ว!
จนถึงตอนนี้แขนขาของเขายังสั่นเทารู้สึกชาไม่หาย อานุภาพการทำลายล้างของคมดาบนี้น่าสะเทือนขวัญเกินไป!เขาคาดไม่ถึงเลยแม้สักนิดว่า เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าจะสามารถปลดปล่อยกระบวนดาบที่น่ากลัวขนาดนี้ได้จริงๆ! ถึงภายนอกดูเหมือนอีกฝ่ายจะฟาดฟันออกมาส่งเดชและหาได้แฝงนัยยะสำคัญอันใด ทว่าแรงคุกคามที่ส่งผ่านออกจากคมดาบกลับสร้างพลังทำลายล้างปริมาณมหาศาลเกินคาดคิด เต๋าแห่งดาบของไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ไร้ผู้ใดสามารถทัดเทียมได้ และความเข้าใจต่อศาสตร์แห่งดาบของเขาเองก็บรรลุถึงจุดสูงสุดแล้วเช่นกัน!
“หึ! อย่าลำพองใจจเกินไปนัก! ข้าผู้นี้ขอยอมรับตามตรงว่า ความแข็งแกร่งของเจ้าค่อนข้างดีเยี่ยม แต่น่าเสียดายนัก ที่ยังเป็นเพียงเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าในท้ายที่สุด! ต่อให้มีกระบวนดาบที่น่ากลัวปานนี้ แต่ด้วยขีดจำกัดของระดับพลัง อย่างมากเจ้าคงปลดปล่อยได้อีกแค่สองสามกระบวนเท่านั้น! คล้ายหลังหมดสิ้นเรี่ยวแรง จุดจบของเจ้าคือความตาย!” หลานจื่อหยูตะโกนเอ่ยลั่นเดือดสุดโกรธเกรี้ยว พร้อมกระชับดาบสะบั้นโจมตีออกไปทันที!
“เก้าปราณดาบกลืนวิญญาณ!”
“สยบดารา!”
สองสุดขั้วพลังระหว่างอาณาจักรปฐมพระเจ้ากับอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าเข้าปะทะสุดแรง ภาพฉากสุดสะเทือนฟ้าดินนี้เป็นประจักษ์ท่ามกลางสายตาอันตื่นตะลึงของทุกคน
…………………………………