Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1736
“ถอยแล้ว! พวกมันถอยแล้ว!”
คนทั้งหลายต่างกำลังวิ่งหนีมาเรื่อยๆ จนจู่ๆ เหล่าแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงที่ตามมาราวกับคลื่นทะเลรวมไปถึงตัวราชาแมลงก็กลับหนีหายไป ไม่กล้าตามพวกเขาเข้ามาอีก
ได้เห็นแบบนั้นคนทั้งหลายก็ถอนหายใจยาวออกมาแทบจะพร้อมกัน
เพราะทะเลแมลงนั้นมันน่าสยดสยองมาก ทำให้พวกเขาทั้งหลายรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวนรกมาก็ไม่ปาน
“อ่อก!”
เมื่อหยุดเท้าลงในที่สุดอาการบาดเจ็บภายในของเย่หยวนก็แสดงออกมาจนเขาต้องกระอักเลือดออกมาคำโต
หยูจิงหน้าถอดสีทันทีที่เห็นและเข้าไปช่วยประคองเย่หยวนทันที “เย่หยวน เจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่?”
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัด “ข้าไม่เป็นไร ยังไม่ตายหรอก!”
หยูจิงนั้นมีท่าทางเศร้าเสียใจ นางรู้ดีแก่ใจว่าอาการบาดเจ็บของเย่หยวนนี้มันเกิดขึ้นเพราะเขาต้องการปกป้องตัวนาง
ไม่เช่นนั้นด้วยพลังฝีมือของเย่หยวน มีหรือที่ราชาแมลงนั้นจะหยุดเขาไว้ได้
“หึๆ พระเอกที่คิดช่วยสาวงามต้องสูญเสียอะไรไปเสมอ!” ลัวยองพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อหยูจิงได้ยินนางจึงตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธแค้นทันที “ไอ้ลัว เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เมื่อกี้ข้าขอให้พวกเจ้าช่วยกลับไม่มีหมาไหนสักตัวกล้าขยับ ตอนนี้ยังมาซ้ำเติมกันอีก เจ้าจะหน้าไม่อายไปถึงไหนกัน?”
ลัวยองนั้นคิดชอบพอใจหยูจิงจริงๆ แต่ดูสภาพตอนนี้แล้วเขาย่อมรู้ตัวดีว่าไม่มีหวัง
เพราะฉะนั้นความชอบพอในทีแรกจึงกลายเป็นความเกลียดชัง
อย่างที่เขาว่า ความเกลียดชังนั้นเกิดมาจากความรัก
ลัวยองยิ้มตอบ “หยูจิง เจ้าอย่าได้ไปโดนไอ้เด็กคนนี้หลอกอีกเลย! มันปิดบังฝีมือตนไว้ แอบเข้ามาในกลุ่มเรา ใครจะรู้ว่าจริงๆ มันวางแผนอะไร? หากมันเป็นคนที่ทำตัวเปิดเผยแล้วเหตุใดมันจะไม่บอกเรามาตั้งแต่ก่อนหน้า?”
หยูจิงตอบกลับไปอย่างเย็นชา “เจ้าอย่าได้คิดว่าคนอื่นจะชั่วช้าเหมือนตัวเองสิ!”
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัด “เลิกเถียงกันได้แล้ว ข้าขอนั่งรักษาตัวหน่อย!”
เขาหยิบเม็ดโอสถออกมาและกลืนกินมันลงไปก่อนจะนั่งลงทำสมาธิในทันที
ไม่นานเขาก็มีพลังกลับมาได้มากกว่าครึ่ง
เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนี้พวกเขาต่างเบิกตาโพลงด้วยความตื่นตกใจ
โอสถนี้มันจะมีฤทธิ์ที่ดีเกินไปหน่อยหรือไม่?
“ที่นี่เป็นศูนย์กลางของแก๊สแล้ว หากข้าเดาไม่ผิด ยาต้านพิษใดๆ นั้นย่อมต้องอยู่ที่นี่แน่” เย่หยวนค่อยๆ ลุกขึ้นบอกทุกคน
ด้วนเผิงจึงถาม “แต่ว่านะ เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าของสิ่งไหนที่จะแก้พิษได้?”
เย่หยวนยิ้มและยื่นมือออกมา เมื่อเขาเปิดออกมันก็มีแมลงสีขาวปรากฏตัวอยู่บนฝ่ามือนั้น และแน่นอนว่ามันย่อมเป็นแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิง
เจ้าแมลงอันดุร้ายนี้กำลังอ้าปากแสดงเขี้ยวกางกรงเล็บ แต่มันถูกกั้นไว้ในฝ่ามือของเย่หยวนและไม่มีทางจะหลุดออกมาด้านนอกได้เลย
“ใช้เจ้านี่!”
เมื่อหยูจิงเห็นเช่นนั้นนางก็ได้แต่ถามขึ้นอย่างตื่นตกใจ “ในสถานการณ์แบบนั้นเจ้ายังจะมีเวลาไปจับแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงมาได้อีกหรือ?”
เย่หยวนยิ้มตอบ “แค่จับง่ายๆ เจ้าพวกนี้มันอ่อนแอจะตาย”
ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก!
อ่อนแอ? สัตว์อสูรระดับสี่นี่หรืออ่อนแอ!
เย่หยวนเปิดฝ่ามือและค่อยๆ เดินวนไปรอบๆ พื้นที่
จู่ๆ เจ้าแมลงในมือเย่หยวนก็เริ่มสั่นขยับตัวไปมา นั่นทำให้เย่หยวนเบิกตากว้างและเดินไปตามต้นทางที่มันเริ่มแสดงอาการนั้น
เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนี้ พวกเขาต่างได้แต่ร้องออกมาในลำคออย่างประหลาดใจ
ที่แท้มันก็ยังมีวิธีการเช่นนี้ในการหายาแก้พิษอยู่ ช่างเป็นการเปิดหูเปิดตานัก
เย่หยวนค่อยๆ เดินไปยังเส้นทางนั้นเรื่อยๆ และเจ้าแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงก็ยิ่งอยู่ไม่นิ่งเข้าไปทุกที
ในที่สุดเขาก็ได้เห็นภาพของดอกไม้สีแดงดำปรากฏขึ้นตรงหน้า
แมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงนั้นเริ่มแสดงอาการขยับตัวไปมาอย่างไม่มีหยุด พยายามดิ้นอยู่ในมิติปิดกั้นนั้นจนในที่สุดมันก็ไม่ขยับตัวอีกต่อไป
เมื่อทุกคนหันไปมองดู พวกเขาก็ได้พบว่าเจ้าแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงตัวนั้นได้ตายลงแล้ว!
หยูจิงพยายามกลั้นใจถามออกมาด้วยความหวังอย่างสูงสุด “เย่หยวน หรือว่าดอกไม้เหล่านี้…”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว ไม่ผิดแน่!”
ด้วนเผิงและพวกต่างมีท่าทางไม่ค่อยอยากเชื่อ “ดอกอะไรกัน? ทำไมข้าไม่เห็นเคยได้ยินได้เห็นมาก่อน!”
ในสายงานอย่างพวกเขาทั้งหลายนี้ สมุนไพรต่างๆ นาๆ ย่อมเห็นผ่านตามามากมายไม่แพ้นักหลอมโอสถ สมุนไพรส่วนมากแล้วพวกเขาต่างมองออกได้ในปราดเดียว
แต่เจ้าดอกไม้สีแดงดำนี้ แม้จะมีพลังวิญญาณที่อัดแน่น ดูท่าคงไม่ใช่สมุนไพรระดับต่ำๆ แน่แต่พวกเขากลับไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นมันมาก่อนเลย
เย่หยวนยิ้ม “ไม่ได้ยินมาก่อน ก็น่าจะไม่แปลก เพราะหากมันเป็นดอกที่ทุกผู้คนเคยได้ยินมีหรือที่จอมเทพโอสถห้าดาวจะหมดปัญญารักษาพิษแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิง? เพราะอย่างไรเสียเจ้าแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงนี้มันก็หายากมากแล้ว สมุนไพรที่จะใช้รักษาพิษของมันย่อมต้องยิ่งหายากเสียยิ่งกว่า”
เมื่อคิดตามแบบนั้น ด้วนเผิงก็เชื่ออย่างสนิทใจ เพราะหากมันเป็นสมุนไพรที่ทุกคนรู้จัก พิษนี้ก็คงไม่ใช่พิษที่ร้ายแรงใดๆ แล้ว
เย่หยวนนั้นไม่รอช้ารีบเก็บดอกไม้เหล่านั้นในทันทีโดยไม่มีทางที่คิดหยุดพัก
แต่ลัวหยองกลับพูดขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจนัก “เด็กน้อย เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? อย่างไรเสียนี่มันก็น่าจะเป็นถึงสมุนไพรระดับสี่ เจ้าคิดที่จะเก็บมันไว้คนเดียวหรือ?”
แต่เย่หยวนกลับพูดออกมาอย่างไม่คิดหยุดมือ “สมุนไพรที่ชื่อยังไม่รู้จัก เจ้าคิดจะเอามันออกไปขายหาเงินเรอะ? อย่าได้ทำเสียของเลยนะ? ของเช่นนี้หากเจ้าได้ไปมันก็เหมือนไก่ได้พลอย แต่หากมันอยู่ในมือข้ามันย่อมสามารถผลิตผลที่คาดไม่ถึงได้ ที่สำคัญเจ้ามีปัญญาจะมาต่อรองกับข้า? อย่าได้ลืมเชียวว่าขากลับเราก็ยังต้องผ่านเขตแดนของแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงกลับออกไปด้วย!”
ตอนนี้เย่หยวนเริ่มแสดงท่าทีไม่ยอมออกมาบ้าง ถึงขั้นปล่อยคำขู่ออกมาทำให้ลัวยองไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาตรงๆ
เพราะเดิมทีเขาแค่ไม่อยากจะเสียเวลาไปต่อล้อต่อเถียงกับคนเช่นนี้
แต่เขาไม่คิดว่ายิ่งปล่อยไว้อีกฝ่ายมันกลับยิ่งได้ใจ จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้สถานะของตัวเอง เย่หยวนจึงไม่คิดที่จะทนอีกต่อไป
คนเหล่านี้เป็นได้อย่างมากก็แค่คนนำทางให้เย่หยวน
ลัวยองหน้าชาไปในทันทีที่ได้ยิน เขานั้นตระหนกกับคลื่นพลังอันน่ากลัวของเย่หยวนและไม่กล้าที่จะมองตาเย่หยวนอีกต่อไปแล้วเสียด้วยซ้ำ
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ลัวยอง แม้แต่ด้วนเผิงก็ยังทนทานไม่ไหวจนต้องเปิดปากพูดออกมาเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องราว “ฮ-ฮ่าๆ การเดินทางนี้ย่อมล้วนแต่เป็นผลงานน้องเย่ ของพวกนี้มันย่อมสมควรเป็นของน้องเย่อยู่แล้ว ที่สำคัญดอกไม้นี้มันมีประโยชน์แค่รักษาพิษแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิง ความต้องการของมันคงมีไม่มาก ราคาเองก็คงไม่สูงนัก เฒ่าลัวเจ้าปล่อยไปเถอะ!”
เมื่อลัวยองได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถือโอกาสถอยทันที พ่นลมออกมาหนึ่งครั้งและไม่คิดจะพูดอะไรอีก
เย่หยวนตอบกลับไป “รีบๆ เข้า เราจะอยู่ที่นี่นานไปคงไม่ดีนัก!”
“โฮ่ก!”
พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงคำรามร้องดังมาแต่ไกล
นั่นทำให้ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีและรีบออกวิ่งทันที!
เย่หยวนเองก็วิ่งตามพวกไปด้วยท่าทางที่ดูเยือกเย็น ในจริงๆ แล้วในใจของเขาแทบจะลุกขึ้นมาเต้นรำแล้ว
เพราะคนเหล่านี้ไม่รู้จักดอกไม้สีแดงดำนี้ แต่เย่หยวนรู้!
ดอกไม้น้อยนี้มีนามว่าดอกสุคนธรสดำยมโลก เป็นสมุนไพรระดับสี่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังวิญญาณมหาศาล
หากใช้มันทำโอสถเพื่อการบ่มเพาะ มันจะส่งผลให้โอสถนั้นมีฤทธิ์มากกว่าโอสถธรรมดาๆ ทั่วไปเป็นสิบเท่า
มันแค่ว่าดอกไม้นี้นั้นเป็นของหายาก แม้แต่จอมเทพนิรันดร์เองก็ยังแทบไม่เคยจะได้เห็นมัน
เขาไม่นึกไม่ฝันว่าจริงๆ แล้วเจ้าดอกไม้นี้มันจะมีฤทธิ์ช่วยต้านพิษแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงด้วย
หากนำออกไปขายแล้ว โอสถที่หลอมมาจากมันคงมีราคาอย่างน้อยๆ แสนล้าน!
และดอกสุคนธรสดำยมโลกจำนวนมากขนาดนี้ มันล้วนเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้เลย!
แต่อย่างที่เย่หยวนว่า สมุนไพรนี้มันจะมีค่าได้จริงๆ ก็ต่อเมื่อมันอยู่ในมือของเขาเท่านั้น
หากเอาไปให้คนอื่นแล้ว มันก็จะเป็นเหมือนไก่ได้พลอยจริงๆ
แต่ว่าโอสถที่เย่หยวนใช้บ่มเพาะช่วงนี้เองก็ใกล้หมดแล้ว มันจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมมากที่เขาได้เก็บเกี่ยวพวกมันมาเพิ่ม
ตอนนี้หลังเจอดอกสุคนธรสดำยมโลกมากขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการบ่มเพาะพลังไปอีกนานแสนนานเลย
สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ เย่หยวนย่อมไม่ปล่อยให้มันตกไปอยู่ในมือคนอื่นแน่ๆ
…………………………