Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1767
“ยินดีด้วยท่านอาจารย์! หลังจากผ่านไปกว่าแปดล้านปี ในที่สุดก็มีคนผ่าน ‘อย่าถาม’ มาได้อีกครั้ง! ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าศิษย์น้องคนนี้มันจะมีความสามารถที่เหนือล้ำแค่ไหน!”
เบื้องหน้ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นมีร่างของชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้นอย่างอ่อนน้อม
แต่ใบหน้าของเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความยินดี
การผ่าน ‘อย่าถาม’ ได้นั้นมันเป็นเรื่องที่แสนน่ายินดีในอาณาจักรเทพอสูร
เพราะทุกคนรู้ดีว่าการผ่าน ‘อย่าถาม’ ได้นั้นมันหมายความว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจะรับคนผู้นั้นเข้าเป็นศิษย์!
นี่มันคือเกียรติอันสูงสุดในโลกโอสถแห่งเผ่าอสูร!
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลค่อยเปิดปากพูดขึ้น “เจ้าคงยังมิได้ประกาศเรื่องราวนี้ออกไปใช่หรือไม่?”
ชายวัยกลางคนในชุดฟ้านิ่งเงียบไป เพราะท่าทางของอาจารย์เขามันดูแปลกๆ!
“ไม่ขอรับ เมื่อจีโมรู้เรื่องก็มารายงานอาจารย์ทันที โดยที่ยังไม่ได้บอกใครออกไปเลย”
ยี่กล่าวตอบ “เรื่องครั้งนี้ เจ้าอย่าได้ประกาศออกไป แค่ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็พอ”
จีโมได้แต่มึนงงหลังจากได้ยินเช่นนั้นและถามออกมาอย่างสงสัย “ท่านอาจารย์ ทำไม… ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?”
ยี่ยิ้มตอบ “เขาต่างจากพวกเจ้า!”
จีโมนิ่งเงียบไปทันทีและถามขึ้นด้วยท่าทางไม่เข้าใจ “ต่าง?”
เขานั้นไม่เข้าใจเลย พวกเขาทั้งหลายนั้นผ่าน ‘อย่าถาม’ มาได้ทั้งสิ้น ทำไมถึงแตกต่างกัน?
อาจารย์ของเขานั้นเลือกศิษย์จาก ‘อย่าถาม’ เพื่อที่จะฝึกฝนบ่มเพาะยอดคนไปเทียบเคียงกับโอสถบรรพกาลให้ได้สักวัน
เรื่องนี้ทั้งอาณาจักรเทพอสูรต่างรู้ดี
ตอนนี้เมื่อมียอดคนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ทำไมอาจารย์ของเขาจึงไม่คิดที่จะรับยอดคนผู้นี้เป็นศิษย์
เรื่องนี้มันทำเอาเขามึนหัว
ยี่ค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินไปยังกระดานหมากล้อมใกล้ๆ “จีโม เจ้าคิดว่าข้าทำ ‘อย่าถาม’ ฉบับง่ายนี้ขึ้นมาเพื่อจะหาคนมีพรสวรรค์สินะ แล้วเจ้าเคยคิดไหมว่าข้าเจอเขาหรือยัง?”
จีโมสะดุ้งทันทีที่ได้ยิน
จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนสีหน้าไปอย่างมาก “ท่านอาจารย์หมายความว่า… เราศิษย์ทั้งสิบเอ็ดนั้น… ไม่นับว่าผ่านการทดสอบของท่านหรือ?”
ยี่ค่อยๆ หันหน้ามามองจีโมด้วยรอยยิ้ม “พวกเจ้าทั้งสิบเอ็ดนั้นเป็นยอดอัจฉริยะแห่งเผ่าอสูรที่ล้านปีจะมีมาสักคนจริงๆ น่าเสียดายแค่ว่าด้วยพรสวรรค์ของพวกเจ้า พวกเจ้าทั้งหลายคงก้าวข้ามอาจารย์คนนี้ไปได้ยาก!”
จีโมตื่นตกใจขึ้นมาทันที ความเข้าใจในช่วงหลายล้านปีที่ผ่านมานี้ของเขามันกลับไม่ตรงความเป็นจริง
พวกเขาศิษย์พี่น้องทั้งสิบเอ็ดนั้นต่างมองอาจารย์ของตนเป็นเป้าหมาย
แต่กว่าห้าสิบล้านไปผ่านไป แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ก็ยังไม่สามารถก้าวไปจนถึงระดับที่อาจารย์ยืนอยู่ได้!
อย่างที่อาจารย์ของเขาว่ามา การที่จะให้พวกเขาศิษย์ทั้งหลายก้าวข้ามอาจารย์นั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะยอมทำหรือไม่ทำ แต่มันอยู่ที่ว่าจะทำได้หรือไม่ได้
ไม่มีปัญญาจะก้าวข้ามอาจารย์ก็อย่าไปพูดถึงเรื่องก้าวข้ามโอสถบรรพกาลที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งเลย
“อาจารย์ ท่านหมายความว่า… เขาจะก้าวข้ามท่านได้?”
ยี่ยิ้มตอบ “ก้าวข้ามได้หรือไม่นั้นย่อมเป็นเรื่องที่ข้าไม่รู้แน่ เพราะยังไงเสียก็ไม่มีใครรู้อนาคตได้ แต่จนถึงจุดนี้ข้ามั่นใจได้ว่าเขานั้นเก่งกาจกว่าพวกเจ้าแน่ๆ”
เรื่องนี้มันทำให้จีโมตกตะลึงมาก
สายตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความไม่ยอมแพ้
เพราะยังไงเสียพวกเขาทั้งสิบเอ็ดนั้นก็เป็นคนที่มีความสามารถพรสวรรค์จะควบคุมโลกได้
เพราะยังไงในห้าสิบล้านปีมานี้ ก็มีคนอย่างพวกเขาเกิดมาแค่สิบเอ็ดคน
แต่น้ำเสียงของอาจารย์ในตอนนี้มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่มีค่าใดเมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กคนนี้
ศักดิ์ศรีของยอดอัจฉริยะในตัวเขามันไม่ยอมรับ
“ท่านอาจารย์ เขาเก่งกาจด้านใดกัน?” จีโมถาม
ยี่ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “ข้ารู้ดีว่าเจ้าคงไม่ยอมรับในใจ แต่เขานั้นได้ทำสิ่งที่ไม่มีพวกเจ้าคนใดสามารถทำได้!”
จีโมหน้าถอดสี “หรือว่าเขาจะรับจิตของท่านอาจารย์ไว้ได้ทั้งหมด?”
ยี่หัวเราะพร้อมกับส่ายหัวออกมาเป็นท่าทางปฏิเสธ “จิตทั้งหมดของข้า? นั่นมันไม่ใช่การทดสอบที่แท้จริงที่ข้าทิ้งไว้ให้เสียด้วยซ้ำ! ในคนทั้งสิบเอ็ดเจ้านั้นนับว่ามีพรสวรรค์มากที่สุด รับจิตของข้าไว้ได้กว่าเก้าในสิบและผ่าน ‘อย่าถาม’ มาได้! แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นมันก็ยังมิใช่สิ่งที่ข้าต้องการ! เพราะสิ่งที่ข้าต้องการนั้นคือ… ล้างจิตของข้าและแทนที่มัน!”
“ล้างจิตของท่านอาจารย์? ใน… ในโลกหล้านอกจากโอสถบรรพกาลแล้วจะยังมีใครที่ทำเช่นนั้นได้อีกกัน?”
จีโมหน้าถอดสีจนขาวซีด เพราะคำพูดของอาจารย์นี้มันทำให้เขาใจสั่นรัว!
อาจารย์ของเขาคนนี้คือยอดนักหลอมโอสถอันดับหนึ่งแห่งเผ่าอสูร
การที่จะทำลายเสี้ยวจิตของเขาลงได้ คนผู้นั้นมันต้องมีพลังที่เหนือฟ้าระดับไหน?
นอกจากตัวโอสถบรรพกาลในวัยหนุ่มแล้ว ยังจะมีใครที่ทำเช่นนั้นได้อีก?
แต่ยี่กลับบอกขึ้น “หากเขาไม่สามารถจะล้างจิตของข้าได้ เขาจะมีปัญญาใดไปท้าทายโอสถบรรพกาลกัน? ในมหาพิภพถงเทียนนี้ตั้งแต่บรรพกาลมา มีเพียงแค่โอสถบรรพกาลปกครองมาจนทุกวันนี้ ข้าที่เก่งกาจเหนือนักหลอมโอสถมนุษย์คนใดก็ยังไม่สามารถที่จะก้าวผ่านโอสถบรรพกาลไปได้!”
คลื่นยักษ์ซัดถล่มจิตใจของจีโม!
เพราะเรื่องเช่นนี้เขานั้นไม่เคยคาดคิดถึงมันมาก่อน
จริงๆ ยิ่งเขาบ่มเพาะฝึกฝนตัว เขายิ่งรู้สึกว่าตัวตนของอาจารย์นั้นมันช่างห่างไกลเกินจะเอื้อม
แต่เรื่องที่ว่าอาจารย์ของเขาด้อยกว่าโอสถบรรพกาลนั้นมันก็เป็นความจริง
แล้วพลังฝีมือของโอสถบรรพกาลมันจะเหนือล้ำถึงขั้นใด?
หรือว่าในโลกใบนี้มันจะยังมีคนที่สามารถล้างทำลายเสี้ยวจิตของอาจารย์ลงได้?
“งั้นท่านอาจารย์จะหมายความว่า… เขาทำได้?” จีโมหายใจเข้าลึกก่อนถามออกมา
ยี่หรี่ตาลงทันทีด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่แค่ทำได้ แต่เขาถึงกับชนะโอสถบรรพกาลลงได้ด้วย! แม้ว่าโอสถบรรพกาลใน ‘อย่าถาม’ ฉบับง่ายนั้นมันจะเทียบเคียงใดๆ กับตัวจริงไม่ได้ แต่ในเรื่องของพลังแล้วเขาก็ยังเป็นตัวตนที่เหนือล้ำ! แต่เขาคนนั้นกลับชนะมาได้!”
ยี่ไม่สนใจท่าทางตื่นตะลึงของจีโมและพูดขึ้นต่อ “สิ่งที่ข้าคอยตามหามานั้นไม่ใช่ศิษย์ แต่เป็น… คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากพอจะยืนในระดับเดียวกับข้าได้! มีพลังเหนือฟ้าดูถูกคนทั้งโลกได้ แต่คนที่มาถึงระดับข้าได้นั้นมันกลับต้องพบแต่ความเจ็บใจ! ทำไมโอสถบรรพกาลถึงพูดว่า ‘อย่าถาม’ กับข้า? เพราะว่าคำพูดสองคำนี้มันคือช่องว่างระหว่างข้ากับตัวเขายังไงล่ะ! หากข้าสามารถเข้าใจ ‘อย่าถาม’ สองคำนี้ได้ ข้าก็อาจจะเป็นคู่มือให้เขาได้! แต่เรื่องนั้นพูดมันง่าย การลงมือทำกลับยากแสนยาก”
พูดถึงตรงนี้ยี่ก็เบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น มันเป็นวินาทีที่แสนเจิดจ้า!
“ความแข็งแกร่งคือความโดดเดี่ยวอย่างถึงที่สุด! ข้าคิดว่าโอสถบรรพกาลเองก็คงคิดเช่นเดียวกับข้าจริงไหม? เพราะฉะนั้นข้าจึงอยากเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่ง! มีแค่ศัตรูที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำให้ข้าพัฒนาตัวไปได้มากกว่านี้ เข้าใจไหม?”
จีโมไม่รู้ว่าต้องอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ออกมายังไง เพราะสถานที่แห่งนี้มันแสนจะบ้าคลั่ง!
โลกทั้งใบกำลังอิจฉาพวกเขาทั้งสิบเอ็ด แต่ใครจะไปคิดว่าพวกเขาทั้งสิบเอ็ดนั้นเป็นได้แค่หมากที่อาจารย์วางทิ้งขว้าง!
พวกเขาแค่พอจะมีปัญญาขึ้นมาเป็นศิษย์ของอาจารย์ได้
แต่สิ่งที่อาจารย์เขาต้องการนั้นคือคู่ต่อสู้!
จีโมนิ่งเงียบงันไปนาน ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่นออกมา “ท่านอาจารย์ แล้วท่านเคยคิดถึงไหมว่า… หากท่านแพ้ล่ะ?”
ยี่ยิ้มออกมาอย่างเจิดจ้า “ข้าผู้นี้จะไม่มีวันแพ้อีก!”
จีโมมองดูยี่ด้วยความตื่นตกใจอย่างมาก เพราะอาจารย์ที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้มันแตกต่างจากอาจารย์ที่เขาคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง
อาจารย์ของเขานั้นเป็นตัวตนที่สูงส่งและยิ่งใหญ่เหนือสวรรค์
ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาขยับ
แต่ตอนนี้เขากลับทำตัวเหมือนเด็กหนุ่มเลือดร้อนผู้เปี่ยมไปด้วยพลังงาน
ตอนนี้จิตวิญญาณของอาจารย์เขากำลังลุกเป็นไฟ!
…………………………