Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1808 ไม่มีตามองของดี
ตอนที่ 1808 ไม่มีตามองของดี
เมื่อเทพถ่องแท้ชี้นิ้วออกมาเช่นนั้นแม้มันจะเป็นเพียงแค่การยกชี้ธรรมดาแต่พลังที่ปล่อยออกมากลับแสนสุดน่ากลัว
เย่หยวนรู้สึกราวกับว่ามิติรอบกายถูกปิดแน่น ตอนนี้เขาไม่สามารถจะใช้งานแนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาได้เลย
ยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้ ต่อให้พวกเขาจะไม่รู้แนวคิดแห่งห้วงมิติแต่พลังห้วงมิติของพวกเขามันก็เหนือล้ำจนทำให้ผู้คนต้องขนลุกชัน
นี่คือความห่างชั้นของอาณาจักร!
และนิ้วชี้นี้มันผ่านตัวไป่หลี่ชิงหยานที่ยืนบังหน้าและพุ่งเข้าหาเย่หยวนไปตรงๆ
“เย่หยวน!”
เมื่อไป่หลี่ชิงหยานเห็นภาพนี้นางจึงได้แต่ร้องออกมาด้วยสีหน้าซีดเผือด
เมื่อนางได้ยินว่าเย่หยวนยังไม่ตาย นางนั้นดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่ตอนนี้ทั้งที่ได้เจอกันอีกครั้งแล้ว สุดท้ายกลับจะถูกความตายพรากจากกันอีกแล้วหรือ?
นางไม่ยอมรับ!
เชียนเย่และพวกที่เหลือต่างมีใบหน้าแสนพึงพอใจ ไอ้เจ้าหมอนี่มันจะตายลงสักทีสินะ?
แต่ตอนนั้นเองมิติข้างๆ กายเย่หยวนกลับเปิดออกขึ้นมาบังหน้าเย่หยวนไว้
พร้อมๆ กับขวานเก่าๆ ที่ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า
พลังดัชนีนั้นจางหายไปในพริบตา
เทพถ่องแท้ผู้นั้นแสดงใบหน้าไม่พอใจออกมาทันที “เฉียวฟู เจ้าไม่ตัดไม้อยู่ที่ยอดผู้กล้าสวรรค์ของเจ้า มาทำอะไรที่ยอดดอกตูมสวรรค์ของข้ากัน?”
ได้ยินแบบนั้นก็ปรากฏร่างของคนตัดไม้ในชุดเสื้อผ้าเก่าๆ เดินออกมาจากความว่างเปล่านั้น “ที่นี่มิใช่ยอดผู้กล้าสวรรค์แต่เย่หยวนนั้นคือคนของยอดผู้กล้าสวรรค์ข้า เจียงหง หากเจ้าคิดอยากสังหารศิษย์จากยอดผู้กล้าสวรรค์ข้าแล้ว มีหรือที่ข้าจะปล่อยมันผ่านเลยไปง่ายๆ?”
เจียงหงตอบกลับมา “เขาทำผิดกฎนิกายและสมควรรับโทษตาย!”
คนตัดไม้คนนั้นใส่เสื้อแบบถกแขนขึ้นทั้งยังถกขากางเกงขึ้นด้วย สภาพเสื้อผ้าหน้าตาของเขานั้นแสนธรรมดามันดูไม่เหมือนผู้คนยอดฝีมือเลยแม้แต่น้อย
แต่การโจมตีเมื่อครู่นี้มันยังสดใหม่ในความทรงจำของทุกผู้คน
ชายคนนี้สามารถรับมันไว้ได้ง่ายๆ เขาต้องอยู่ในระดับเดียวกับเจียงหงแน่!
ได้ยินคำของเจียงหงทางเฉียวฟูก็ตอบกลับไป “กฎของนิกาย? หึๆ นิกายเงาจันทร์ของข้ามีกฎปล่อยให้ศิษย์มากพรสวรรค์ตายไปต่อหน้าหรือ?”
เจียงหงตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “เฉียวฟู เจ้านึกถึงฐานะตัวเองบ้าง! พูดจาอะไรระมัดระวังหน่อย!”
แต่เฉียวฟูกลับยกมือขึ้นมาโบกปัดตอบไปอย่างไม่ใยดี “ไม่ต้องมาพูดเรื่องตัวตนฐานะใดๆ กับเฒ่าคนนี้ ข้าคือคนตัดไม้เฉียวฟู! หากเจ้าคิดอยากสังหารคนจากยอดผู้กล้าสวรรค์ข้าเจ้าย่อมต้องถามขวานในมือข้าเสียก่อน!”
เจียงหงพ่นลมออกมาแรง “ไอ้คนเถื่อนที่พูดจาไม่ได้ด้วยเหตุผล! ไม่ว่าอย่างไรเด็กคนนั้นก็ต้องตาย! ไม่เช่นนั้นยอดดอกตูมสวรรค์ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
เฉียวฟูไม่คิดสนใจคำขู่ของเจียงหงและหัวเราะลั่นขึ้น “มิใช่ว่าเย่หยวนนั้นกำลังคิดท้าทายเจ้าเด็กชื่อเชียนเย่คนนั้นหรือ? เรื่องของคนหนุ่มสาวก็ปล่อยให้คนหนุ่มสาวจัดการ คนเฒ่าอย่างเราย่อมไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว”
คำพูดนี้ของเฉียวฟูทำให้ทุกคนแสดงท่าทีมึนงงออกมา
ไม่ใช่ว่าเขามาเพื่อช่วยเย่หยวนหรือ? ทำไมเขาถึงส่งเย่หยวนไปตายเช่นนั้นกัน?
บังคับให้เย่หยวนต้องไปปะทะกับยอดฝีมือนภาสวรรค์ เรื่องนี้มันเท่ากับส่งเขาไปตายชัดๆ
เจียงหงหัวเราะขึ้น “หากเจ้าอยากส่งมันลงนรกขนาดนั้นข้าก็ย่อมไม่คิดค้าน! เชียนเย่ เจ้าจัดการเสีย!”
นั่นทำให้เชียนเย่สั่นสะท้านขึ้นทันทีก่อนจะกัดฟันตอบรับไป “ขอรับผู้อาวุโสเจียงหง!”
เจียงหงมองดูเชียนเย่ด้วยความตกใจไม่น้อยและเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจขึ้นมา
เพราะเชียนเย่คนนี้กลับดูไม่มั่นใจว่าจะชนะเย่หยวนได้!
หรือว่าเจ้าเย่หยวนคนนี้มันจะมีอะไรผิดแปลกไป?
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหรือถามเชียนเย่ใดๆ เพราะเรื่องนั้นมันคงไม่ฉลาดนักที่จะทำ
ถึงเวลานี้แล้วทุกคนต่างพอเข้าใจได้ว่ายอดเทพถ่องแท้ทั้งสองนี้คือใครมาจากไหน
เก้าผู้อาวุโสถ่ายทอดนั้นไปไหนมาไหนไม่เคยมีใครได้เห็นเงา
แต่เรื่องราวในวันนี้มันแสนจะยิ่งใหญ่จนทำให้สองจากเก้าผู้อาวุโสถ่ายทอดต้องลงมาจัดการเรื่องเอง!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสถ่ายทอดของยอดผู้กล้าสวรรค์คนนี้ยิ่งเป็นตัวตนที่แสนลึกลับ
เพราะเรื่องราวในยอดผู้กล้าสวรรค์นั้นเขาไม่เคยคิดจะสนใจใดๆ มาก่อน
ไม่มีใครนึกใครฝันว่าวันนี้เพื่อเย่หยวนแล้วยอดคนท่านนั้นถึงกับปรากฏตัวออกมาเช่นนี้
ทุกคนต่างไม่คิดไม่ฝันเช่นกันว่าแท้จริงแล้วผู้อาวุโสถ่ายทอดของยอดผู้กล้าสวรรค์จะเป็นแค่คนตัดไม้!
แม้แต่เจียงหงยังดูถูกดูแคลนเฉียวฟูผู้นี้เพราะเขานั้นมีท่าทางป่าเถื่อนเกินไป
เพราะหากให้พูดตามตรง หากไม่เห็นว่าเฉียวฟูทำการป้องกันการโจมตีของเจียงหงไว้ได้เมื่อสักครู่ มันก็คงไม่มีใครคิดว่าคนตัดไม้คนนี้จะเป็นยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้ไปได้
ชายคนนี้มันดูธรรมดาเกินไป!
ธรรมดาจนถึงขั้นที่ว่าเดินเข้าฝูงชนแล้วจะหายไปอย่างแนบเนียนไม่มีใครแยกแยะเขาออกได้
แต่เย่หยวนนั้นกลับมองเห็นพลังของเฉียวฟูผู้นี้!
เจียงหงนั้นระแวงพลังของเฉียวฟูผู้นี้อย่างมาก
ตอนนี้จู่ๆ เฉียวฟูก็หันมาหาเย่หยวนและมองดูอย่างใกล้ชิด ใบหน้าของเขานั้นมันไม่ได้ต่างอะไรจากคนตัดไม้ที่พบเจอได้ตามป่าเขาทั่วๆ ไปเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าท่าทางแบบนี้มันทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้คนไม่มีทางเชื่อว่าเขาคือยอดฝีมือไปได้เลย
เย่หยวนมองดูที่เฉียวฟูด้วยความตื่นตกใจอย่างมาก
แต่ความรู้สึกนั้นมันไม่ได้มาจากความธรรมดาของเฉียวฟูคนนี้ แต่เป็นเพราะเขาผิดธรรมดาไปมากต่างหาก
นี่คือจุดสุดยอดที่ความเหนือล้ำกลับกลายเป็นความธรรมดา สูงสุดคืนสู่สามัญระดับที่คนทั่วๆ ไปไม่มีทางเข้าถึงได้!
“หึๆ เด็กน้อย เจ้าอย่าได้ทำให้ยอดผู้กล้าสวรรค์เราเสียหน้า! ไปจัดการมันให้เละเลย!” เฉียวฟูบอกเย่หยวน
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่ช่วยเหลือ เย่หยวนผู้นี้จะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง!”
เฉียวฟูนั้นตบบ่าของเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “ตั้งแต่วันที่เจ้าเดินขึ้นยอดผู้กล้าสวรรค์มาข้าก็เฝ้าดูเจ้ามาตลอด ไอ้พวกโง่เง่าที่มันรู้จักแต่จับพรรคจับพวกมีตาไม่รู้จักมองของดี! ยอดฝีมือท้ายสุดแล้วก็คือคนที่มีฝีมือเก่งกาจ! ไม่ว่าพรรคพวกฝ่ายไหนจะแข็งแกร่งปานใด มันก็มิใช่พลังของตน! ตอนนี้จงแสดงพลังของเจ้าออกมาและทำให้เจ้าโง่พวกนี้มันได้นึกเสียใจบ้างเถอะ!”
เย่หยวนเบิกตากว้าง เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเฉียวฟูจะสนใจเฝ้าดูเขามานานแสนนานแล้ว
ดูท่าเขาคงเฝ้าจับตาและรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเย่หยวนเป็นแน่
เพราะฉะนั้นเขาจึงมั่นใจในตัวเย่หยวนมาก
ที่สำคัญคำพูดของเขานั้นมันยังตรงกับความคิดของเย่หยวนอีกด้วย
การที่มีพรรคพวกนิกายแข็งแกร่งคอยหนุนหลังมันย่อมช่วยอะไรได้หลายๆ อย่าง แต่มันก็ทำให้ขาดอะไรไปมาก
จะบอกว่าใครดีกว่าใคร ฝั่งไหนดีกว่ากันมันคงเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก
แต่สิ่งหนึ่งที่นักยุทธต่างทำคือการที่พวกเขาต้องพึ่งพากำลังของตัวเอง
สักวันหนึ่งมันต้องมีเวลาที่ค่ายนิกายพรรคพวกไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเขาได้
…
เดินขึ้นมากลางสังเวียนเย่หยวนก็ยืนเอามือไขว้หลังไว้อย่างสง่างาม
เชียนเย่ได้แต่ยิ้มออกมา “ไอ้โง่เอ้ย เจ้าคิดว่าแค่บรรลุขึ้นมาเป็นราชันพระเจ้าเก้าดาวแล้วจะพอสู้กับอาณาจักรนภาสวรรค์ได้หรือ? ข้าจะแสดงให้เห็นเองว่าความแตกต่างของอาณาจักรราชันพระเจ้าและอาณาจักรนภาสวรรค์มันห่างชั้นกันเพียงใด!”
เชียนเย่ในตอนนี้เองก็ไม่ใช่เชียนเย่คนก่อนแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่อาจบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวได้แต่เขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อสองร้อยปีก่อนอย่างมาก
ต่อให้เชียนเย่จะไม่อาจเทียบเคียงพรสวรรค์กับสัตว์ประหลาดอย่างไป่หลี่ชิงหยานได้แต่เขาเองก็ไม่มีทางแพ้ให้กับใครหน้าไหนง่ายๆ
เพราะในความเป็นจริงแล้วเขาเองก็เป็นยอดคนของรุ่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้นในสายตาของทุกผู้คนแล้วการกระทำของเย่หยวนมันจึงเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
ต่อให้เฉียวฟูคนนั้นจะดูท่ามั่นใจในเย่หยวนมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ความแตกต่างระหว่างอาณาจักรนภาสวรรค์และอาณาจักรราชันพระเจ้ามันก็แตกต่างกัยจนเกินไป แม้แต่ยอดอัจฉริยะอย่างไป่หลี่ชิงหยานก็ไม่มีทางจะกระโดดข้ามไปต่อสู้ได้
อย่าว่าแต่ราชันพระเจ้าเก้าดาว ต่อให้เป็นไป่หลี่ชิงหยานตอนที่ยังอยู่อาณาจักรนภาสวรรค์ครึ่งก้าวนางเองก็ไม่อาจจะทำได้เช่นกัน!
อาณาจักรนภาสวรรค์นั้นคือช่วงที่โลกภายในของพวกเขาเริ่มให้กำเนิดชีวิตนับไม่ถ้วน พลังโลกของพวกเขาทั้งหลายนั้นมันจึงเหนือล้ำกว่าราชันพระเจ้าไปอย่างมากมายมหาศาล
เมื่อผสานกับปราณเทวะที่มากมายแล้ว ต่อให้เป็นการโจมตีเบาๆ มันก็มากพอที่จะสังหารราชันพระเจ้าได้ง่ายๆ
แล้วเย่หยวนจะเอาอะไรมาชนะ?
…………………………