Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2038 สุดยอดการประลอง เริ่ม!
ภายใต้สายตาทั้งหลายนั้นเทพสวรรค์เจาหยวนค่อยๆ ลุกขึ้นมาตอบรับ
เขานั้นยกมือขึ้นมาลูบเครายาวของตนก่อนจะยิ้มตอบ “ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งกาจและน่านับถือ! ข้านั้นคงไม่เก่งกาจพอจะสั่งสอนชี้แนะเจ้าได้ แต่หากแค่แลกเปลี่ยนความรู้คงพอได้”
เย่หยวนหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยิน “ฮ่าๆ กับพี่เจาหยวนเย่ผู้นี้ย่อมจะต้องเอาจริงเสีย!”
“หะ? หมายความว่านี่เย่หยวนยังไม่ได้เอาจริงแท้อย่างนั้นหรือ?”
คำพูดนี้มันย่อมทำให้คนทั้งหลายตื่นตะลึงอย่างมาก
อาณาจักรเต๋าขั้นสุดนั้นมันคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนทั้งหลายรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าไปทันที
แต่คำพูดของเย่หยวนนี้มันกลับแฝงความหมายว่าตัวเขานั้นยังไม่ได้เอาจริงในขณะที่ประลองกับเทพสวรรค์ออหยุนเมื่อสักครู่นี้!
นี่มัน… จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ชายหนุ่มคนนี้มีขีดจำกัดบ้างหรือไม่?
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ได้แต่ต้องจ้องมองดูเย่หยวนราวกับเป็นตัวประหลาด สายตาของพวกเขาทุกผู้คนต่างเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นดูท่าจะตื่นตกใจมากเช่นกันเมื่อได้ยิน เขาจึงหรี่ตาทั้งสองลงและตอบกลับมา “ได้สิ เฒ่าคนนี้จะรอดู”
เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นเดินกลับไปนั่งลงยังที่ของตน เทพสวรรค์ดันหยู่จึงได้ประกาศออกมาต่อ “อีกไม่นานพวกเจ้าทั้งหลายจงเบิกตามองให้ดี นี่คือศึกของสองยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นสุดที่ไม่อาจพบเจอได้ง่ายๆ หากพวกเจ้าคนใดพอจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้บ้างสักน้อยมันก็คงเป็นประโยชน์แก่เจ้าไปทั้งชีวิต!”
“หะ?! เทพสวรรค์เจาหยวนเขา… เองก็เป็นยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นสุดอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่มีทางหรอกใช่ไหม? หากเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นสุดแล้วมันย่อมจะหมายความว่าเขานั้นเก่งกาจกว่าปรมาจารย์บางท่านเสียด้วยซ้ำมิใช่หรือ? คนอย่างเขานี่ยังไม่ได้เป็นปรมาจารย์อีกหรือ?”
“เทพสวรรค์ดันหยู่นั่นพูดคำไหนคำนั่นย่อมจะไม่ผิดจากความจริงแล้ว! ข้าไม่นึกเลยว่าในเหล่าร้อยเทพสวรรค์จะยังมีคนที่เก่งกาจปานนี้อยู่ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเทพสวรรค์ซืออี้ถึงได้แค่ที่นั่งอันดับสอง”
เมื่อได้ยินถึงฝีมือที่แท้จริงของเทพสวรรค์เจาหยวนเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็จะตื่นตะลึงไปตามๆ กัน
เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นย่อมคิดจะใช้เทพสวรรค์เจาหยวนกำจัดเย่หยวนออกไปจากงานชุมนุมโอสถเมฆานี้!
ทุกผู้คนนั้นต่างพูดบอกว่าเทพสวรรค์ดันหยู่และเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นไม่ค่อยจะถูกกันมากนัก ดูท่ามันคงเป็นความจริงแล้ว
แต่แม้ว่าคนทั้งหลายจะตื่นตกใจปานใดพวกเขาก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอการประลองคู่นี้อย่างมาก
เพราะอย่างที่เทพสวรรค์ดันหยู่ว่ามา การปะทะของสองยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นสุดนั้นมันย่อมจะเป็นศึกของยอดคนที่เทียบเคียงกันได้
การประลองในระดับนั้นมันย่อมจะเป็นศึกที่หมื่นปีจะมีสักครั้ง!
หลังจากความตกตะลึงจางหายไปการประลองก็ได้ดำเนินต่อไป
เพียงแค่ว่าศึกทั้งหลายจากนั้นมันไม่ได้มีอะไรจะตื่นเต้นอีกต่อไป
เทพสวรรค์ต้าวเฉียน เทพสวรรค์เหวินหลาน แม้แต่เทพสวรรค์อันดับสามอย่างเหยาเย่ก็ยังได้แต่ต้องขึ้นสังเวียนไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ตำแหน่งสถานะของพวกเขาทั้งหลายนั้นยิ่งใหญ่ปานใด? แต่ตอนนี้กลับต้องมาขึ้นประลองศึกที่ไม่มีวันชนะภายใต้สายตาของผู้คนนับหมื่นๆ มันเป็นเรื่องที่หนักหนาเสียยิ่งกว่าการฆ่าสังหารพวกเขาลงอีก
คนทั้งหลายนี้ต่างเป็นเทพสวรรค์ผู้ยืนเหนือหัวผู้คน สิ่งที่พวกเขาถือไว้หนักแน่นมันย่อมจะเป็นชื่อเสียงหน้าตา ต่อให้พวกเขาจะต้องเสียหน้ามันก็ต้องมิใช่ภายใต้สายตาคนนับหมื่นเช่นนี้
ในตอนนี้ท้องไส้ของพวกเขาทั้งหลายปั่นป่วนไปด้วยความเสียใจ
แต่มีหรือที่ใครจะคาดคิดได้ว่าเย่หยวนนั้นจะเก่งกาจได้ถึงขั้นนี้?
พอนึกย้อนกลับไปคำว่ากล่าวท้าทายใดๆ ของพวกเขามันก็เป็นได้แค่เรื่องตลก
ยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นปลายกลับไปท้าทายยอดคนอาณาจักรเต๋าขั้นสุด?
ไม่ว่าจะมองมันอย่างไรก็ไม่มีทางเทียบเคียงได้แท้ๆ!
ผลลัพธ์เองก็ไม่ได้เกินคาดใดๆ แม้แต่เทพสวรรค์เหยาเย่เองก็ยังไม่อาจจะชิงเอาความได้เปรียบใดๆ มาจากมือของเย่หยวนได้และต้องพ่ายแพ้ลงในที่สุด
แต่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้ก็ยังสามารถหลอมโอสถขึ้นไปได้ถึงขั้นยอดเยี่ยม
ในเวลานี้ทุกผู้คนจึงได้เข้าใจทันทีว่านี่มันเป็นสิ่งที่เย่หยวนจงใจทำ!
แม้แต่เทพสวรรค์เหยาเย่ก็ยังถูกเย่หยวนกดดันอย่างไม่อาจขัดขืนจนหลอมโอสถออกมาได้แค่ขั้นยอดเยี่ยม เย่หยวนจะต้องมีวิชาควบคุมโอสถที่เหนือล้ำปานใด?
อาณาจักรเต๋าขั้นปลายและอาณาจักรเต๋าขั้นสุด แม้มันจะห่างกันเพียงเอื้อมแต่มันกลับมีฝีมือที่ห่างชั้นกันลิบลับ
หลังจากเทพสวรรค์เหยาเย่เดินจากไปแล้วทุกผู้คนต่างก็เริ่มเบิกตากว้างขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น
ของจริงมาถึงแล้ว!
ตอนนี้แม้แต่เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายก็ยังต้องเบิกตามองดูศึกครั้งนี้อย่างตั้งใจ
เพราะศึกครั้งนี้มันคือสุดยอดการประลองอย่างแท้จริง!
เพราะว่ายอดคนอาณาจักรบรรพกาลอย่างเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นมันย่อมจะไม่มีใครเทียบเคียงเขาได้ สุดยอดการประลองที่แท้จริงมันจึงจะเป็นการประลองระหว่างอาณาจักรเต๋าขั้นสุดทั้งหลาย
แต่เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้นก็ต่อสู้พร้อมรักษาหน้าตาชื่อเสียง ไม่ยอมประลองต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้แน่
หากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของเย่หยวนในวันนี้ พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่มีทางได้เห็นสุดการประลองเช่นนี้
เทพสวรรค์เจาหยวนหันมามองเย่หยวนด้วยรอยยิ้มชื่นชม “เฒ่าคนนี้ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งจะได้มาประลองกับคนเช่นเจ้า”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ในโลกนี้เรื่องไม่คาดฝันมันเกิดขึ้นทุกวี่วัน เรื่องที่เราคาดเดาได้นั้นมันจึงเป็นได้แค่ส่วนน้อยนิดของโลก”
เทพสวรรค์เจาหยวนหัวเราะลั่นขึ้นมา “ดี เป็นเด็กที่ฉลาดเสียจริงๆ! เฒ่าคนนี้ไม่ได้รู้สึกเดือดพล่านเช่นนี้มานานแสนนานแล้วจริงๆ ได้เจอเจ้าวันนี้มันทำให้เฒ่าคนนี้รู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นหนุ่มอีกครา!”
พูดไปเขาก็หยิบหม้อหลอมหนึ่งออกมาเพียงแค่ว่ามันมิใช่หม้อหลอมตะวันขาว มันเป็นแค่สมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำชิ้นหนึ่ง
“นี่คือหม้อหลอมที่เฒ่าคนนี้เคยใช้สมัยยังอยู่อาณาจักรเทพถ่องแท้ เฒ่าคนนี้จะไม่ขอถือเอาเปรียบเจ้าเด็ดขาด” เทพสวรรค์เจาหยวนร้องบอก
แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อเห็นเช่นนั้น “การประลองของเรานั้นมันย่อมจะต้องใช้สิ่งที่มีทั้งหมดออกมาทั้งวิชาและสิ่งของ หม้อหลอมตะวันขาวนั้นเป็นของดีที่สุดที่พี่เจาหยวนมี หากเย่ผู้นี้เองมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์บ้างข้าก็คงไม่ลังเลที่จะใช้มันออกมาทันที”
เมื่อเทพสวรรค์ออหยุนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะออกมา “ช่างอวดเก่งอย่างไม่มีจบสิ้น! ต่อหน้าพี่เจาหยวนมันก็ยังจะกล้าทำตัวอวดดีเช่นนี้อยู่!”
เทพสวรรค์เหวินหลานหัวเราะขึ้นตาม “โอหัง! มันคิดว่ามันนั้นขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดก็เก่งกาจเหนือฟ้าดินแล้วหรือ? ด้วยพลังของพี่เจาหยวนแล้วต่อให้เป็นเหล่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังต้องระวังตัว แต่เจ้ากลับดูถูกเขา!”
คนทั้งหลายนั้นแพ้พ่ายแก่เย่หยวนและย่อมจะไม่พอใจอย่างมากจึงรีบหาโอกาสว่ากล่าวเท่าที่จะทำได้
ตอนนี้เมื่อได้โอกาสพวกเขาย่อมยิงคำพูดเข้าไปทันทีอย่างไม่รอช้า
เย่หยวนที่กำลังยิ้มอยู่เมื่อได้ยินก็ต้องหันกลับมาขมวดคิ้วแน่นใส่คนทั้งหลายนั้น “คนอย่างพวกเจ้าจะไปรู้อะไร? นี่มันมิใช่การดูถูกใดๆ แต่เป็นการให้เกียรติ เพราะตอนรับมือพวกเจ้านั้นเย่ผู้นี้ย่อมจะไม่ต้องใช้พลังฝีมือที่แท้จริงๆ ใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย!”
คนทั้งหลายเมื่อได้ยินก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาก่อนจะร้องตอบ “เจ้า! อวดดี! โอหัง! เมื่อใดที่เจ้าพ่ายแพ้แก่พี่เจาหยวนและต้องออกจากงานชุมนุมโอสถเมฆาไปด้วยท่าทางน่าสมเพชข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะยังเอาอะไรมาอวดดีได้อีก!”
แต่เย่หยวนกลับตอบไปด้วยท่าทางเฉยชา “คู่ต่อสู้เช่นนี้ชีวิตนี้จะได้พบเจอสักกี่ครั้ง พี่เจาหยวนนั้นคือคู่ต่อสู้ที่เย่หยวนผู้นี้ยอมรับ! และกับคู่ต่อสู้ที่ข้ายอมรับ เย่ผู้นี้ย่อมจะไม่ออมมือใดๆ ต่อให้ข้าจะแพ้พ่ายแล้วมันทำไมเล่า?”
คำพูดทั้งหลายนี้ถูกกล่าวออกมาทำให้เหล่าเด็กหนุ่มสาวทั้งหลายต้องรู้สึกตื่นเต้นเลือดพล่านทั้งกาย
พวกเขานั้นได้เข้าใจแล้วว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจตำแหน่งปรมาจารย์ใดๆ
เย่หยวนนั้นแสดงหาความสุขจากการประลองโอสถ นั่นคือการเดินตามเส้นทางสู่ยอดเต๋าโอสถอย่างแท้จริง
ส่วนเหรียญปรมาจารย์ใดๆ นั้นมันย่อมจะเป็นแค่สิ่งของนอกกาย!
นักยุทธผู้บ่มเพาะตัวควรจะคิดให้ได้เช่นนี้!
ในวินาทีนี้พวกเขาทั้งหลายต่างชื่นชมเย่หยวนไปหมดทั้งใจ
“ฮ่าๆ! ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่หาได้ยากยิ่งแท้! ดีมาก เฒ่าคนนี้จะเอาจริงอย่างไม่ปิดซ่อนพลังใดๆ เช่นกัน! เย่หยวน ไม่ว่าวันนี้ใครจะแพ้หรือชนะ เฒ่าคนนี้ก็จะนับเจ้าเป็นสหายข้ามรุ่นของข้า!” เทพสวรรค์เจาหยวนหัวเราะลั่น
พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดเสียงดังลั่นขึ้นเพราะเขาได้หยิบหม้อหลอมตะวันขาวออกมาวางกลางสังเวียน
หม้อหลอมตะวันขาวนี้มันส่งคลื่นพลังอันหนักหน่วงออกมามากกว่าหม้อหลอมลวงแท้ที่เทพสวรรค์ออหยุนใช้อย่างมาก
“เฒ่าคนนี้เองก็อยู่ในอาณาจักรเต๋าขั้นสุดมาถึงสามหมื่นปี ข้าได้ศึกษาขั้นนี้มาอย่างมากแล้ว เมื่อมีพลังของหม้อหลอมตะวันขาวช่วย สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ขั้นสุดชิ้นนี้ เจ้าคงต้องระวังให้มากแล้ว!” เทพสวรรค์เจาหยวนร้องเตือน
แต่เย่หยวนนั้ย่อมไม่คิดเกรงกลัวและตอบกลับไปอย่างมั่นใจ “เชิญ!”
เทพสวรรค์เจาหยวนพยักหน้ารับก่อนจะวาดตราขึ้นมาในมือ “เคล็ดแท้พันลวงมหาสวรรค์เมฆาฝัน ปลดปล่อย!”
เมื่อเทพสวรรค์เจาหยวนเริ่มลงมือสีหน้าของทุกผู้คนก็เปลี่ยนสีไปทันที
…………………………