Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2166 ก็ยังคงอ่อนแอเกินไป
“หึๆ ข้าว่าอย่างไรเล่า? เย่หยวนจะจัดการมันลงด้วยมือเดียว!”
หลงเสี่ยวฉุนนั้นยืนหน้าออกมาล้อเลียนคนทั้งหลายจากด้านหลังเฉินซิง
เพราะตัวนางนี้ได้พบเห็นพลังที่แท้ของเย่หยวนมาก่อน
ในระดับเดียวกันแล้วเย่หยวนย่อมจะชนะทุกผู้คนได้อย่างไร้ข้อยกเว้นใด
ทั้งยังเรื่องที่ว่าหลงเจิงนี้เองไม่ได้นับเป็นยอดคนที่เก่งกาจที่สุดในหมู่ทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายด้วย
ทางเฉินซิงที่ได้เห็นก็ต้องหรี่ตาลงอย่างประหลาดใจ ดูท่าแล้วฝีมือนี้ของเย่หยวนมันจะเหนือล้ำที่เขาคาดไปมาก
ภายในม่านหมอกภายในนั้นหลงเจิงพยายามลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลด้วยสีหน้าโกรธแค้น
ตัวเขานั้นมีความคิดไม่ต่างจากหลงหยวน คิดว่าเจ้าเด็กคนนี้มันก็เป็นแค่ขยะ
แต่เวลานี้เจ้าขยะกลับต่อยเขาร่วงด้วยหมัดเปล่าๆ เพียงแค่หมัดเดียว
ยอดอัจฉริยะอย่างเขานี้ไม่อาจจะทนรับความอัปยศนั้นไว้ได้!
หลงเจิงกัดฟันแน่นร้องร่ำขึ้น “เด็กนรก เจ้าบังคับข้าเองแล้ว! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นพลังที่แท้ของข้าเอง!”
ที่หว่างคิ้วของเขานั้นตรามังกรสวรรค์ก็ได้ตอบสนองอย่างรุนแรงขึ้น
คลื่นพลังสายเลือดมังกรรุนแรงพร้อมด้วยเงาร่างมังกรใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของหลงเจิง
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องขมวดคิ้วแน่นด้วยสีหน้ากลั้นขำ “พิฆาตมังกรทรราชเลือนหาย! หึๆ น่าสนใจขึ้นมาหน่อย! แต่สุดท้ายวิชานี้ในมือเจ้ามันก็ยังอ่อนแอจนเกินไปอยู่ดี!”
วิชาเดียวกัน กระบวนท่าเดียวกัน แต่คนปล่อยใช้แตกต่าง มันก็ย่อมจะทำให้พลังที่ออกมาไม่เท่าเทียมกัน
ความแตกต่างของพลังสายเลือด ความแตกต่างของระดับตรามังกรสวรรค์ ความแตกต่างของพลังกายทั้งหลายนั้นมันย่อมจะส่งผลกับความรุนแรงของวิชา
สังหารมังกรทรราชเลือนหายที่เย่หยวนกล่าวถึงนี้มันคือหนึ่งในทักษะเทวะภายในของเผ่ามังกร มันเป็นการเรียกวิญญาณมังกรฟ้าลงมาฆ่าสังหารศัตรูด้วยพลังเหนือล้น
เพียงแค่ว่าการใช้ออกของหลงเจิงนี้ ไม่ว่าเย่หยวนจะมองดูอย่างไรมันก็มิใช่วิธีที่ดีงามนัก
หลงเจิงนั้นหลงตัวเองตลอดมา นอกจากตัวหลงหยวนหรือหลงเฉียนที่เป็นอันดับสองของปราการมังกรเทวะแล้วตัวเขาไม่เคยจะคิดสนใจคนอื่นๆ แม้แต่น้อย
แต่วันนี้คนที่หยิ่งยโสเช่นนั้นกลับต้องมาถูกศัตรูไม่รู้หัวนอนปลายเท้าดูถูก มีหรือที่เขาจะยังทนรับมันไว้ได้?
“เด็กนรก ผลลัพธ์ของการดูถูกทายาทมังกรสวรรค์แห่งปราการมังกรเทวะมันคือความตาย!” หลงเจิงร้องลั่นขึ้นอย่างโกรธแค้น
เย่หยวนหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยินก่อนจะก้าวออกมาพร้อมด้วยภาพเงามังกรที่ด้านหลังตนเองเช่นกัน
และวิชากระบวนท่าที่เขากำลังใช้ออกมานี้มันก็คือเทพมังกรเหยียบสวรรค์ กระบวนท่าเดียวกับที่หลงเจิงใช้ออกมาก่อนหน้า
“ทักษะเทวะภายในแล้วทำไมเล่า? วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่ากระบวนท่าเดียวกันแต่คนใช้แตกต่างมันจะส่งผลให้พลังที่ออกมาแตกต่างกันได้ปานใด!”
เย่หยวนหัวเราะพร้อมยกมือฟาดซัดออกไป
เงามังกรที่ด้านหลังของเขาก็กลายเป็นดั่งหัวกระสุนพุ่งทะยานเข้าหาหลงเจิงพร้อมเสียงคำรามลั่น
เงาร่างมังกรของเย่หยวนนี้มันมีพื้นฐานแตกต่างจากพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายของหลงเจิง
ทักษะเทวะภายในนั้นมันเป็นพรที่มาจากมังกรฟ้าทั้งหลาย มันเป็นการดึงพลังมังกรจากต้นกำเนิดออกมาใช้ต่อสู้
ส่วนเงามังกรของเทพมังกรเหยียบสวรรค์ที่เย่หยวนใช้นี้มันเกิดขึ้นมาจากพลังกายและสายเลือดของเย่หยวนล้วนๆ
สองสิ่งนี้ย่อมไม่อาจเอามาเทียบเคียงกันได้ในด้านคุณภาพ
พิฆาตมังกรทรราชเลือนหายที่หลงเจิงใช้นั้นมันย่อมจะทรงคุณภาพมากพลังกว่าเย่หยวนเป็นแน่
แต่เมื่อเงามังกรทั้งสองเข้าปะทะกับตัวหลงเจิงกลับรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังหนักหน่วงเหมือนดั่งฟ้าดินจะพลิกกลับตรงหน้านี้
ปัง!
เงามังกรของเย่หยวนกัดทำลายพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายลงอย่างง่ายดายจากนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปหาร่างของหลงเจิงต่ออย่างไม่หยุดยั้ง
หลงเจิงที่โดนเข้าไปอย่างแรงจึงต้องกระอักเลือดคำโต ร่างกายถูกทุบจมหายไปในแผ่นดิน
ที่ด้านนอกเมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายได้เห็นภาพนั้นพวกเขาต่างก็หน้าซีดขาวลง
“เทพมังกรเหยียบสวรรค์กลับเอาชนะพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายได้? ข้า…ตาข้าไม่ได้ฝาดไปใช่หรือไม่?”
“นี่มันจะหลุดโลกจนเกินไปแล้ว! ไม่ว่าเทพมังกรเหยียบสวรรค์จะรุนแรงได้ปานใดมันก็ย่อมจะไม่อาจเอาชนะพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายไปได้มิใช่หรือ?”
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร? เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้!”
…
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างต้องร่ำร้องขึ้นอย่างไม่อาจเข้าใจภาพตรงหน้า ทักษะเทวะภายในนั้นแข็งแกร่งรุนแรงกว่าวรยุทธทั่วไปมันเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้ดี
ไม่ว่าจะอย่างไรเสียวรยุทธนั้นมันก็คือสิ่งที่บ่มเพาะฝึกฝน สั่งสอนกันขึ้นได้ ส่วนทักษะเทวะภายในนั้นมันเป็นสิ่งที่คนผู้นั้นต้องทำความเข้าใจเรียนรู้ด้วยตนเองแต่ต้น
มังกรที่อ่อนแอนั้นจะไม่อาจเรียนรู้ทักษะเทวะภายในได้แม้แต่วิชาเดียว
มีเพียงแค่เหล่าทายาทมังกรสวรรค์เท่านั้นที่จะพอเรียนรู้ได้หนึ่งหรือสองวิชา
ในความเข้าใจของทุกผู้คนแล้วทักษะเทวะภายในมันย่อมจะถูกต่อต้านได้ด้วยทักษะเทวะภายในเท่านั้น
หากไม่อาจใช้ออกได้ มันก็มีแต่ต้องพ่ายแพ้
แต่เวลานี้ทักษะเทวะภายในที่ว่าเหนือล้ำมันกลับถูกเย่หยวนนี้ใช้วรยุทธธรรมดาๆ ทำลายจนย่อยยับ
เทพมังกรเหยียบสวรรค์นั้นรุนแรงล้น แต่ต่อหน้าทักษะเทวะภายในแล้วมันย่อมจะไม่อาจต่อต้านใดๆ ได้
แต่เย่หยวนนั้นกลับใช้วรยุทธธรรมดาเอาชนะทักษะเทวะภายในอย่างพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายลงได้!
ผลลัพธ์เช่นนี้มันเหนือล้ำจนเกินจะทำใจเชื่อ
เฉินซิงที่เห็นต้องหรี่ตาลงหันไปถามหลงเสี่ยวฉุน “เด็กน้อย เจ้าหนุ่มคนนี้…มีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด?”
หลงเสี่ยวฉุนหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยิน “ปู่เฉินซิงยังคงตาดีไม่เปลี่ยน! เป็นอย่างไรเล่า? เขาเก่งกาจมากใช่ไหมเล่า?”
“หะ? ก-กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด!” หลงจื่อเฟิงกล่าวขึ้นด้วยตาถลนอย่างไม่อยากเชื่อ
กายทองคำสัมบูรณ์ระดับหกนั้นก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สุดแสนหายากแล้ว แต่ทางกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนั้นมันนับได้ว่าเป็นสิ่งที่สาบสูญ!
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างต้องเบิกตากว้างไม่อาจหุบปากที่อ้าค้างลงได้ ได้แต่หันมองดูภาพบนจอแสงนั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ทางเฉินซิงเองก็ตื่นตะลึงไม่น้อยก่อนจะพยักหน้าออกมารับ “ไม่แปลกใจเลย! ไม่ว่าวรยุทธนั้นมันจะอ่อนแอปานใดหากใช้คู่กับพลังของกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดแล้วมันก็ย่อมจะมีพลังล้นฟ้า ไหนจะเรื่องที่ว่าวรยุทธนี้มันคือสุดยอดวรยุทธของเผ่ามังกรเราอย่างกรงเล็บมังกรเอกภพอีกด้วย!”
“กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด! กี่ปีมาแล้วที่กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดไม่ได้ปรากฏขึ้นในเผ่ามังกรเรา? เจ้าเด็กคนนี้มันกลับสามารถบรรลุกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้!” หลงเทียนยู่ร้องกล่าวขึ้น
“หลงเทียนยู่ ดูท่าปราการมังกรเทวะของเจ้าจะมาเจอของแข็งเสียแล้ว!” ผู้อาวุโสจากปราการมังกรดำกล่าวขึ้น
หลงเทียนยู่ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “อีกไม่นานพวกเจ้าจะได้เห็นพลังของหลงหยวนเอง ต่อให้จะเป็น…กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดแล้วทำไมเล่า?”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายก็ต่างแสดงสีหน้าแปลกประหลาดออกมา
ดูท่าแล้วพลังต่อสู้ของหลงหยวนผู้นี้มันจะเก่งกาจเหนือล้ำกว่าที่คาด!
เฉินซิงจ้องมองภาพบนจอนั้นอย่างไร้อารมณ์ใดๆ “หลงเจิงนั้นบาดเจ็บสาหัสหมดสภาพต่อสู้ เพิกถอนตรามังกรสวรรค์และดึงตัวเขากลับออกมาจากลานศึกหมอก”
พูดจบเขาก็วาดตราขึ้นบนอากาศส่งลำแสงเข้าไปในห้วงมิติก่อนที่จะเชื่อมลานศึกหมอกเข้ากับลานกว้างนี้อีกครั้ง
หลงเจิงที่บาดเจ็บสาหัสถูกดึงกลับออกมาอย่างไร้สติใดๆ
พร้อมๆ กับตอนที่ออกมานั้นตรามังกรสวรรค์บนหน้าผากของเขามันก็จากหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ศึกทายาทมังกรนี้มันจะคัดให้เหลือผู้มีตรามังกรสวรรค์เพียงแค่สิบคนในที่สุดเมื่อจบงานลง
คนอื่นๆ ทั้งหลายนั้นจะถูกยึดเพิกถอนตรามังกรสวรรค์อย่างไร้ข้ออ้างใดๆ กลายเป็นแค่นักยุทธธรรมดาทั่วๆ ไป
ศึกทายาทมังกรนี้มันเป็นโอกาสใหญ่ล้ำ แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นศึกชี้เป็นชี้ตายอันดุเดือด
เหล่าคนอ่อนแอได้แต่ต้องกลับไปอยู่ในฝูงชน
ภายในลานศึกหมอกนั้นเย่หยวนได้ออกเดินตามหาผลึกต้นมังกรไปเรื่อยๆ ตามที่ตรามังกรสวรรค์ของเขาบอกทิศ
เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เจอกับตัวเขาไม่เคยมีใครอยู่รอดเกินหนึ่งกระบวนท่า
ไม่นานนักเย่หยวนก็ได้ครอบครองผลึกต้นมังกรอย่างมากมาย
ส่วนอีกด้านทางอ่าวหยูนั้นก็กำลังนั่งสมาธิดูดกลืนพลังจากผลึกต้นมังกรอยู่เช่นกัน แต่ไม่นานนักเขาก็ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างตื่นเต้นดีใจ
อ่าวหยูกัดฟันแน่นร้องขึ้นอย่างเคียดแค้น “ฮ่าๆๆ… ลานศึกหมอกนี้มันช่างเป็นที่ที่เหมาะแก่การเพิ่มพลังเสียจริงๆ! ตรามังกรสวรรค์ของข้าได้ตื่นขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้วทั้งข้ายังสามารถปลุกทักษะเทวะภายในที่สองขึ้นมาได้ด้วย เวลานี้ฝีมือของข้ามันเพิ่มพูนจากก่อนอย่างไม่อาจเทียบเคียงได้! เวลานี้ฝีมือของข้าคงอยู่ติดหนึ่งในสิบได้ไม่ยาก หรืออาจจะถึงหนึ่งในห้า! เย่หยวน เจ้าอย่าให้ข้าได้ไปเจอเจ้าเข้าแล้วกัน ไม่เช่นนั้น…วันตายของเจ้าต้องมาถึงแน่! หนี้แค้นเลือดมันต้องถูกล้างด้วยเลือดเท่านั้น!”
ตรามังกรสวรรค์นั้นมันสามารถถูกปลุกพัฒนาขึ้นได้หลายครั้งด้วยกัน
และในแต่ละการตื่นนั้นมันก็จะช่วยเพิ่มเสริมพลังของเผ่ามังกรไปอย่างก้าวกระโดด
เพราะเช่นนั้นเองที่เหล่าทายาทมังกรสวรรค์จึงได้ถูกยกย่องเหนือล้ำและมีคนนับหน้าถือตากันทั่วหล้า
เพราะพวกเขานั้นคือคนที่ถูกเขามังกรสวรรค์เลือก เป็นอนาคตของเผ่ามังกร
อ่าวหยูนั้นหลอมซึมซับผลึกต้นมังกรมาไม่น้อยทำให้เวลานี้เขาสามารถปลุกตรามังกรขึ้นเป็นครั้งที่สองได้
สภาพจิตใจของเขาในเวลานี้มันเปี่ยมล้นความมั่นใจคิดอยากจะเจอเย่หยวนเสียให้ได้
……………..