Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2218 หากเขาขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้วใครจะยังกล้าขัด?!
- Home
- Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ
- ตอนที่ 2218 หากเขาขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้วใครจะยังกล้าขัด?!
จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นคือผู้อยู่เหนือพิภพอย่างแท้จริง!
เป้าหมายของนักยุทธทุกผู้คนนั้นคือการก้าวขึ้นไปให้ถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์
แต่นักยุทธยอดอัจฉริยะมากมายอย่างนับไม่ถ้วนกลับไม่อาจก้าวผ่านมันไปได้
อย่างตัวเทพสวรรค์ดันหยู่นี้เองจะบอกว่าเขานั้นไร้พรสวรรค์หรือ?
เขานั้นครั้งหนึ่งเคยนั่งอยู่ในตำแหน่งอาณาจักรบรรพกาลเพียงหนึ่งเดียวในแดนใต้ พรสวรรค์ของเขาจะต้องล้ำฟ้าเหนือผู้คนปานใด?
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นสุดท้ายประตูสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังไม่ยอมเปิดออกให้แก่ตัวเขา
เช่นนั้นแล้วตัวเทพสวรรค์เจาหยวนเล่า? เขานั้นคือผู้ที่บ่มเพาะขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นสุดได้ด้วยตัวตนอย่างนักยุทธจรไร้ค่ายสังกัดดูแล มันจะต้องมีพรสวรรค์สูงล้ำฟ้าดินปานใด?
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังเป็นถึงจอมเทพโอสถเจ็ดดาว
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่อาจก้าวข้ามระดับนี้ไปได้
เขานั้นต้องอยู่ในจุดนี้มานับล้านๆ ปี!
และอีกสิ่งหนึ่งก็คือ… จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นไม่อาจจะถูกสร้างขึ้นด้วยโอสถได้!
แท้จริงแล้วมันมิใช่ว่าสร้างมิได้ แต่เป็นเพราะว่า… โอสถที่ใช้นั้นมันยากจนล้ำความสามารถผู้คน
แม้แต่เหล่าจอมเทพโอสถแปดดาวขั้นสุดทั้งหลายเอง คนที่จะหลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์นี้ขึ้นได้มันก็มีไม่มากนัก
แต่เวลานี้เย่หยวนกลับกำลังหลอมมัน!
จีโมมองดูเย่หยวนค่อยๆ วาดสร้างค่ายกลขึ้นมาเรื่อยๆ พร้อมใบหน้าของเขาเริ่มเจ็บปวดขึ้นมา
แม้ว่านี่จะเป็นแค่สมุนไพรวิญญาณระดับเจ็ดแต่สมุนไพรที่ใช้หลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้น แต่ละตัวสมุนไพรมันก็สุดแสนล้ำค่า
สมุนไพรแต่ละตัวที่ใช้นี้มีค่าเทียบเท่าเมืองทั้งเมือง!
ในมหาพิภพถงเทียนนี้มันมีไม่กี่ค่ายสำนักที่จะรวบรวมสมุนไพรสำหรับหลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์มาได้ครบ
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้เพราะตัวตนรองมหาปราชญ์ของเย่หยวนด้วย ไม่เช่นนั้นต่อให้คนอื่นอยากจะหลอมพวกเขาก็คงไม่มีปัญญาแม้แต่จะลอง
ครั้งนี้ค่ายกลที่เย่หยวนสร้างขึ้นมานั้นมันสุดแสนลึกล้ำซับซ้อน
การหลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันยากและซับซ้อนอย่างที่ทุกผู้คนคาดคิด
แต่ทว่าเย่หยวนกลับยังคงสร้างค่ายกลยักษ์นี้ไปได้อย่างราบรื่นไม่มีหยุด
ค่ายกลนั้นค่อยๆ ซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงระดับที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้อีก
พร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังที่ลงมาจากท้องฟ้านั้นมันก็ยิ่งรุนแรงและลึกล้ำ
แต่เหล่าเทพสวรรค์แห่งพันธมิตรแดนใต้นั้นต่างยิ่งกังวลใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะดูท่า… การพัฒนาของเมืองอินทรีสวรรค์นี้จะไม่อาจหยุดลงได้แล้ว!
“หรือว่า… เทพสวรรค์ผู้นี้จะได้เห็นปาฏิหาริย์จริงๆ? จอมเทพโอสถเจ็ดดาวจะหลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์ขึ้นได้? ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนั้นมาก่อนเลย!”
“เฮ้อ จะไปเทียบกับผู้คนก็ไม่ได้หรอก! เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นสัตว์ประหลาด!”
“หาก… หากเทพสวรรค์ผู้นี้ได้โอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์มาบ้าง มันจะดีปานใดกัน?”
…
โอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันคือโอสถที่สร้างจักรพรรดิเทพสวรรค์ขึ้นมาได้ มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่อยากได้?
ในเวลานี้ใมครจะยังมีอารมณ์ไปโมตีเมืองอินทรีสวรรค์ใด?
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ต้องคิดอิจฉาไป๋ตง!
เวลานี้พวกเขาอยากจะย้อนเวลากลับไปดูดเท้าเย่หยวนให้สะอาดเสียตั้งแต่ที่พบเจอหน้ากัน
ตราบเท่าที่พวกเขาได้รับการยอมรับจากเย่หยวน พวกเขาเองก็คงมีโอกาสได้โอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์มาไว้บ้าง วันหนึ่งพวกเขาอาจจะได้ก้าวขึ้นไปเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้อยู่เหนือล้ำฟ้าดินนั้น!
ภายในเมืองอินทรีสวรรค์นั้นหยุนยี่ได้แต่ต้องเงยหน้ามองฟ้าด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ
นี่คือเต๋าโอสถที่เขาต้องการ!
เทียบกับอาจารย์ขชองเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวใดๆ มันก็ช่างไร้ค่าเสียเหลือเกิน
ต่อหน้าอาจารย์เขานี้ อาณาจักรพลังบ่มเพาะมันมิใช่ปัญหา ไม่มีค่าใด!
ความเข้าใจต่อเต๋าโอสถของเขานั้นมันอยู่ในระดับต้นกำเนิดเต๋า
บางทีวันหนึ่งเขาเองก็จะมีความสามารถในการหลอมโอสถได้สูงล้ำถึงขั้นนั้นได้!
การเลือกจะอยู่ข้างเมืองอินทรีสวรรค์นั้นมิใช่สิ่งที่เขาเลือก แต่เป็นสิ่งที่เขาเชื่ออย่างสุดใจ
ตัวตนของเขานั้นมันสุดแสนจะแปลกประหลาด หากเป็นคนอื่นแล้วพวกเขาคงไม่คิดจะรับเขาเข้าเป็นศิษย์ ไม่ต้องพูดถึงการถ่ายทอดวิชาอย่างหมดเปลือกใดๆ
แต่หลังจากอยู่ในเมืองอินทรีสวรรค์มาหลายต่อหลายปี หยุนยี่ก็เข้าใจได้ทันทีว่าวิชาการโอสถของเขามันพัฒนาไปมากปานใด!
นี่มันไม่มีทางจะปลอมแปลงได้! ไอรีนโนเวล
ให้เขาต้องทรยศเมืองอินทรีสวรรค์นั้น เขาไม่อาจจะตัดใจทำลงจริงๆ
ในเวลาเดียวกันนี้ทางไป๋ตงก็ปล่อยคลื่นพลังสะท้านฟ้าดินออกมา
คลื่นพลังจากกายของเขาพุ่งทะยานจนถึงเหยียบที่อาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นสุด
เมื่อพลังทั้งหลายสงบลงไป๋ตงก็ลุกขึ้นมาด้วยคลื่นพลังเฉียบคมราวดาบที่พร้อมฟาดฟัน!
พร้อมกันนั้นทางด้านเย่หยวนเองก็ร้องกล่าว “ค่ายกลทำงาน โอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์ หลอม!”
ตูม!
คลื่นพลังจากค่ายกลยักษ์ทำงานขึ้นอีกครั้ง
ในที่สุดโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ถูกหลอมขึ้น!
โอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นเทวะวิญญาณมรณา!
เหล่าเทพสวรรค์แห่งพันธมิตรแดนใต้ต่างต้องอ้าปากค้างเบิกตากว้าง
เรื่องฝีมือของเย่หยวนนั้นพวกเขาย่อมรู้และเชื่อถือมาตั้งแต่เห็นโอสถแรกแล้ว
เวลานี้สิ่งเดียวที่ยังเผาจิตใจของพวกเขามันก็คือความอิจฉา!
เย่หยวนยื่นโอสถนั้นมาให้ไป๋ตง “พี่ไป๋ตง รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
ไป๋ตงยิ้มรับ “เยี่ยม! เยี่ยมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!”
โอสถคืนฝันแทนหทัยนั้นมันได้รักษาอาการบาดเจ็บสะสมที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเขาจนสิ้น สภาพของไป๋ตงในเวลานี้มันจึงเหนือล้ำกว่าตอนก่อนหน้าอย่างไม่อาจเทียบ
การจะบรรลุใดๆ เวลานี้เองก็คงเหมาะสมที่สุด!
เย่หยวนยิ้มออกมา “ดี! เช่นนั้นก็จงเอามันไปหลอมกลืนดูดซับต่อ!”
พูดไปเย่หยวนก็ยื่นโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์ให้ไป๋ตง
ไป๋ตงจึงรับมันไปพร้อมนั่งหลอมลงทันที
ครึ่งวันจากนั้นมันก็เกิดคลื่นพลังทะลุฟ้าดินขึ้น
ท้องฟ้าที่ดูแจ่มใสนั้นจู่ๆ มันก็ดูบิดเบี้ยวขึ้น
แผ่นดินสั่นไหว
ลมพัดหมุนราวอยู่ในพายุคลั่ง
พลังในระดับนี้ตัวเมืองอินทรีสวรรค์ย่อมไม่อาจจะทนทานรับมันไว้ได้จนแทบพังทลายลง
เหล่านักยุทธในเมื่อนั้นต่างต้องยึดเกาะสิ่งของใกล้ตัวไว้สุดชีวิต
ภาพนี้ทำให้จีโมต้องหรี่ตาลงก่อนจะยิงคลื่นพลังออกมา
พริบตานั้นเมืองอินทรีสวรรค์ก็กลับมาสงบอีกครั้ง
คลื่นพลังของการบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์นี้มันเกินกว่าที่นักยุทธทั่วไปจะรับ!
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายตรงหน้านี้เองต่างก็ต้องเบิกตากว้างใช้ปราณเทวะทั้งกายออกมารับพลังแรงกระแทกนี้ไว้
แต่มันไม่มีใครคิดจากไปไหน!
เพราะการบรรลุของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจะมียอดเต๋าลงจุติเสมอ
โอกาสเช่นนั้นมันเป็นโชคที่หลายๆ คนเฝ้าใฝ่หา
บางทีการได้อาบพลังของมันนี้อาจจะทำให้พวกเขาได้ประโยชน์กลับไปบ้าง?
แกรก แกรก แกรก…
คลื่นพลังของไป๋ตงมันมีแต่จะรุนแรงขึ้นรุนแรงขึ้นจนทำให้คนโดยรอบเริ่มทนไม่ไหว
ความยากลำบากคอขวดใดๆ ของอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์มันไม่อาจหยุดยั้งเขาได้
ท่ามกลางสายตาของทุกผู้คนนั้นโซ่ตรวนแห่งเทพสวรรค์ได้ถูกตัดขาดสิ้นในคราเดียว ทำให้เขาผ่านขึ้นอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปทันที!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก็สามารถเกิดขึ้นมาได้อย่างเหนือล้ำฟ้าดินเช่นนี้!
ทุกผู้คนต่างอ้าปากค้างมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึงจนเกินจะบรรยาย
เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นยิ้มแห้งๆ ออกมา “นี่มัน… มันคือพลังของโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นเทวะวิญญาณมรณาหรือ! สมชื่อ หากเขาขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้แล้วใครจะยังกล้าขัดคนเช่นนี้?!”
เทพสวรรค์เฉินเฟิงเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ขึ้นตาม “บรรลุผ่านไปได้ด้วยเต๋าโอสถ เต๋าสวรรค์ใดๆ ก็ไม่อาจขัดขวางได้! เจ้าเด็กคนนี้มันมิใช่ตัวตนที่เราจะไปหาเรื่องใดๆ ได้อีกแล้ว!”
เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องก้มหน้านิ่ง เขารู้ดีว่าสิ่งที่เทพสวรรค์เฉิงเฟิงกล่าวนั้นมันเป็นความจริง
แม้ว่าพวกเขาเหล่ายอดฝีมือด้านโอสถทั้งหลายนี้จะไม่เคยได้เห็นการบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์มากับตาแต่พวกเขาก็พอจะเข้าใจมันบ้าง
หากคิดบรรลุ คนผู้นั้นต้องทำลายถอนโซ่ตรวนแห่งเทพสวรรค์ออกอย่างนับครั้งไม่ถ้วนกว่าที่จะดันตัวเองให้ขึ้นไปพ้นอาณาจักรเทพสวรรค์ได้
การบรรลุนั้นมันคือการต่อต้านสวรรค์ ต่อสู้กับแผ่นดิน ต่อสู้กับตนเอง!
แต่ไป๋ตงกลับบรรลุขึ้นไปอย่างหนักแน่นเหนือล้ำ
มีสิ่งใดขวาง ทำลายสิ้น!
มีโซ่ตรวนใด ตัดขาดสิ้น!
การขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ตรงหน้านี้มันไม่อาจจะถูกขัดขวางได้ด้วยพลังของฟ้าดินใด!
การบรรลุเช่นนี้มันเหนือล้ำจนทำให้เกิดคลื่นพลังรุนแรงล้ำ
ไป๋ตงนั้นยืนอยู่กลางอากาศพร้อมก้มลงมองโลกหล้าเบื้องล่างราวกับว่าโลกใบนี้มันได้เปลี่ยนไปถนัดตา
“ที่แท้โลกหล้ามันเป็นเช่นนี้!” ไป๋ตงร้องกล่าวขึ้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ปล่อยคลื่นพลังออกมาจากร่างและก้มลงมองเหล่าคนจากพันธมิตรแดนใต้ทั้งหลาย
นี่คือแรงกดดันของจักรพรรดิเทพสวรรค์!
ไป๋ตงหรี่ตาลงพร้อมกล่าวอย่างเย็นเยือก “จากวันนี้ไปจักรพรรดิผู้นี้จะพำนักอยู่ที่เมืองอินทรีสวรรค์นี้ จากวันนี้ไปมันจะกลายเป็นวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์! เรื่องราวการโอสถในแดนใต้นี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของหอโอสถแห่งอินทรีสวรรค์! ใครที่ไม่คิดยอมรับก็มาทวงถามเรื่องราวกับจักรพรรดิผู้นี้ได้!”
……………………..