Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2504 ฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์
เหมือนทุกอย่างนั้นจะสงบลง
แต่ในเวลานั้นเองที่เทียนชิงกลับเคลื่อนไหวออกมา!
ยอดเต๋าบรรพกาลเผ่าเทวาทั้งห้านั้นต่างเข้ามาปิดล้อมเย่หยวนไว้รอบด้าน!
แต่แม้จะได้เห็นเช่นนั้นเย่หยวนก็ยังไม่คิดกังวลและถามกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “พวกเจ้าจับข้าไม่ได้หรอก!”
เทียนชิงนั้นจึงตอบกลับไปด้วยใบหน้าจริงจัง “ข้ารู้! แต่บรรพบุรุษผู้นี้ต้องการจะใช้ชีวิตนับล้านๆ ของเผ่าพันธุ์เจ้านั้นเป็นตัวประกันบังคับให้เจ้าต่อสู้กับเราห้าคนพร้อมๆ กัน! หากเจ้าไม่คิดสู้แล้วพวกเราทั้งห้าก็จะลงมือฆ่าสังหารทุกชีวิตลงทันที!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องหุบปากเงียบลงทันที!
เหล่ายอดฝีมือฝ่ายมนุษย์นั้นยังไม่ทันได้พักหายใจพวกเขาก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายอีกครั้ง
คำขู่ฆ่าของเทียนชิงนั้นมันมิใช่เรื่องล้อเล่นแน่!
หากเย่หยวนปฏิเสธไปแล้วเทียนชิงจะต้องลงมือสังหารแน่!
เมื่อเต๋าบรรพกาลทั้งห้าของเผ่าเทวาร่วมมือกันแล้ว มันย่อมจะเป็นขุมพลังที่ไร้ต้านทาน!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดฝีมือสิบลายทั้งสองคนนั้น!
“นี่… จะทำอย่างไรดีเล่า? หากเทียนชิงมาแค่คนเดียวนั้นยังพอว่าแต่นี่พวกเขากลับมีเต๋าบรรพกาลอาณาจักรสิบลายมาถึงสองคน!”
“ชั่วร้าย! ไร้ยางอาย! มัน… มันกล้าคิดจะใช้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ต่อท่านนักบุญฟ้าครามได้อย่างไรกัน?”
“มันจบแล้ว! ครั้งนี้มันจบแล้วแน่! สู้กันให้ตายไปข้างหรือไม่สู้ก็ยังตายสิ้นอยู่ดี!”
…
ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นเผ่าเทวาต่างรู้นั่งกดดันอยู่ไม่ไปไหน
ตัวตนระดับสิบลายถึงสองคนนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนทั้งหลายจะเมินไปได้
ยอดฝีมือของเผ่าเทวานั้นมันแข็งแกร่งจนเกินไป!
แต่ไม่มีใครคิดฝันว่าเผ่าเทวากลับคิดใช้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้บังคับให้เย่หยวนต่อสู้
เมื่อหลินเฉาเถียนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… เย่หยวน ครั้งนี้ข้าขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะยังโอหังได้หรือไม่! เจ้าโอหังนักมิใช่หรือ? เจ้าเก่งกาจนักมิใช่หรือ? เจ้าคือยอดคนอันดับหนึ่งชั่วนิรันดร์มิใช่หรือ? ฮ่าๆๆ…”
หลินเฉาเถียนนั้นเหมือนกลายเป็นคนเสียสติหัวเราะขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน
เย่หยวนนั้นทำลายการบ่มเพาะของเขาทำเขาพิการไร้อนาคตใดๆ อีกต่อไป!
เขานั้นชิงชังเย่หยวน!
หากทำได้เขาก็คงจะกลืนกินเย่หยวนลงไปทั้งตัวแล้ว!
เวลานี้เมื่อเย่หยวนถูกเผ่าเทวากดดันจนไร้ทางออก อีกฝ่ายใช้ชีวิตนับล้านๆ มาเป็นข้อต่อรองให้เย่หยวนต้องต่อสู้!
ผลลัพธ์เช่นนี้แหละที่หลินเฉาเถียนต้องการจะเห็นมากที่สุด
เขานั้นมิใช่คู่มือของเย่หยวน แต่ยอดเต๋าบรรพกาลทั้งห้าของเผ่าเทวานั้นใช่!
กำลังของคนทั้งห้านี้เดิมทีมันก็เหนือล้ำเต๋าบรรพกาลมาก่อนแล้ว
เวลานี้เมื่อพวกเขาบรรลุเต๋าขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาล มีหรือที่จะยังเอาไปเทียบเคียงกับพวกเขาก่อนหน้าได้?
เย่หยวนต้องตายแน่!
“หนวกหู!” เทียนชิงร้องขึ้นมาก่อนจะส่งแรงฝ่ามือตบเข้าที่หน้าของหลินเฉาเถียนจนหันเลือดกบปาก
คนทั้งหลายนั้นอยากจะหัวเราะแต่ไม่อาจทำได้อีกต่อไป
ภาพตรงหน้านี้มันสุดแสนน่าขัน
แต่ไม่มีใครเหลืออารมณ์จะหัวเราะ
เพราะพวกเขานั้นกำลังถูกขู่เอาชีวิต
แรงกดดันจากเต๋าบรรพกาลทั้งห้านั้นมันเหนือล้ำจนเกินไป
ในเวลานี้หากเย่หยวนบอกว่าไม่ออกมาแล้วพวกเขาทั้งหลายในที่นี้คงได้ตายตกลงสิ้นแน่!
แต่แม้จะถูกคนทั้งห้ารุมล้อมรอบด้านเย่หยวนก็ยังตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “หลากเผ่าพันธุ์และเผ่าเทวาทั้งสองแบ่งโลกกันคนละครึ่งมันไม่ดีพอหรือ?”
เทียนชิงนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “เจ้านั้นทำให้บรรพบุรุษผู้นี้กังวล! แต่ละวันที่เจ้าเดินไปมาบนโลกนี้มันทำให้ข้าแทบไม่อาจจะกินได้เต็มอิ่มนอนได้เต็มตา!”
หลังก้าวขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาลคลื่นพลังที่เย้ยหยันโลกของเทียนชิงนั้นมันก็ยิ่งเหนือล้ำพุ่งทะยาน
เขานั้นมั่นใจอย่างมากว่าบนโลกนี้มันจะไม่มีใครที่สามารถทำอันตรายแก่เขาได้อีก
ต่อให้จะเป็นหลินเฉาเถียนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเต๋าบรรพกาลสองครั้งติดนั้นแต่เขาก็ยังเกรงเทียนชิงอยู่ไม่น้อย
แต่เวลานี้เทียนชิงกลับไม่อาจจะอยู่เฉยได้อีก!
กำลังที่เย่หยวนแสดงออกมานั้นมันเหนือล้ำการควบคุมไปไกล
เขานั้นไม่อาจเดาได้เลยว่าเย่หยวนจะยังเก่งกาจไปได้กว่านี้หรือไม่!
ถึงเวลานั้นเผ่าเทวาคงได้พบเจอความฉิบหายอย่างแท้จริงแน่!
เย่หยวนหันไปหาเยวี่ยเมิ่งลี่ก่อนจะถามขึ้น “เจ้าเองก็จะร่วมด้วย?”
เยวี่ยเมิ่งลี่ผงะไปเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้ารับออกมาในที่สุด
นางนั้นถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องไปด้วยแล้ว
แต่นางนั้นก็ยังเลือกจะต่อสู้
เย่หยวนถอนใจยาวก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วก็มาสู้เถอะ!”
เย่หยวนตอบรับคำท้าจนทำให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต้องถอนใจยาวด้วยความโล่งอก
นามของนักบุญฟ้าครามนั้นมันไม่ได้มีไว้ประดับจริงๆ
แต่การถอนใจครั้งนี้มันก็แค่โล่งอกชั่วคราวเท่านั้น
มันมิใช่ว่าพวกเขานั้นไม่มั่นใจในฝีมือของเย่หยวนแต่กำลังของคนทั้งห้านั้นมันแข็งแกร่งจนเกินจะจินตนาการได้!
“ไม่! เจ้าคิดจะรังแกเผ่าพันธุ์เราว่าไม่มียอดฝีมือหรือ? ในเมื่อเป็นศึกกลุ่มแล้วบรรพกาลผู้นี้ก็จะขอเข้าร่วมด้วย!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ร้องลั่นประกาศตัวขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปที่มุมหนึ่ง “พวกเจ้าเองก็จะยังทำตัวเป็นเต๋าหัวหดอีกหรือ?! หากเย่หยวนพ่ายลงแล้วพวกเจ้าคิดว่าตัวเองจะยังรอดหายนะไปได้?”
ทิศที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้หันหน้าไปกล่าวนั้นมันคือตำแหน่งที่เหล่าอดีตเต๋าบรรพกาลกำลังยืนกันอยู่!
พวกเขานั้นปกปิดคลื่นพลังของตนและซ่อนดูเรื่องราวอยู่ท่ามกลางหมู่ผู้คน
เหล่าเต๋าบรรพกาลรุ่นก่อนนั้นเต๋าบรรพกาลไฟตายลงไป เต๋าบรรพกาลน้ำเองก็ตายลงด้วยมือเย่หยวนส่วนเต๋าบรรพกาลชีวิตหลินเฉาเถียนนั้นก็พิการ
บนเขาแห่งถงเทียนนั้นเองมันก็เกิดการต่อสู้ดุเดือดขึ้นแย่งชิงผลึกแห่งกฎทำให้เต๋าบรรพกาลปฐพี เต๋าบรรพกาลแสงและเต๋าบรรพกาลมืดตายลงสิ้น
แต่มันก็ยังเหลืออดีตเต๋าบรรพกาลอยู่อีกสามคน
พวกเขานั้นไม่มีโชคมากพอที่จะได้ถูกแต่งตั้งเป็นเต๋าบรรพกาลอีกครา
แต่พวกเขานั้นจะอย่างไรก็เป็นอดีตเต๋าบรรพกาลที่ได้ฝึกฝนด้วยเขาน้อยแห่งถงเทียน แน่นอนว่ากำลังฝีมือของพวกเขานั้นมันคงไม่ได้ด้อยกว่าระดับมหาบรรพกาลแน่
แต่ในเวลานี้พวกเขากลับยังคิดจะไม่คิดยุ่งเกี่ยวเรื่องราว?
ในหมู่คนทั้งหลายนั้นเหล่าเต๋าบรรพกาลต่างก้มหน้าลงไม่ตอบกล่าวใด
แต่วินาทีต่อมาเต๋าบรรพกาลทำลายล้างก็ก้าวเดินขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “หากคิดอยากให้บรรพกาลผู้นี้ลงมือมันย่อมได้! แต่ข้านั้นมีเงื่อนไข! ผลึกแห่งกฎธาตุไฟนั้นมันต้องเป็นของข้า! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเจ้าต้องสาบานต่อเต๋าสวรรค์ว่าจะยกโทษให้แก่ความผิดที่ผ่านๆ มาของบรรพกาลผู้นี้!”
เต๋าบรรพกาลทำลายล้างนั้นไม่ได้โง่มากมายเขารู้ดีว่าต่อให้ได้ผลึกแห่งกฎธาตุไฟมากลายเป็นเต๋าบรรพกาลไฟ เขาก็คงไม่อาจจะเอาชนะเย่หยวนได้แม้แต่น้อยจึงได้เตรียมแผนการเช่นนี้ขึ้นมา
ได้ยินเช่นนั้นเต๋าบรรพกาลสายฟ้าและเต๋าบรรพกาลวายุก็ต้องหันหน้าไปมองเป็นตาเดียว
ส่วนด้านมนุษย์ทั้งหลายนั้นต่างร้องด่าออกมาอย่างสุดหัวใจ
“ไร้ยางอาย! หน้ามันทำด้วยอะไรกัน! เจ้าหมอนี่มันกลับยังคิดจะฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้หรือ!”
“หึ เป็นเต๋าบรรพกาลที่เยี่ยมยอดจริงๆ! ทำไมทั้งมันทั้งหลินเฉาเถียนไม่ตายๆ ไปให้พ้นๆ เสียนะ?”
“ดูสภาพเต๋าบรรพกาลมันแล้ว ครั้งนี้ปล่อยให้ท่านนักบุญฟ้าครามได้จัดการมอบตำแหน่งเต๋าบรรพกาลแหละดีแล้ว! เพราะจะอย่างไรคนที่ติดตามท่านไปนั้นมันก็มีแต่คนดีๆ ไม่คิดอะไรหน้าไม่อายเช่นนี้แน่!”
…
การกระทำของเต๋าบรรพกาลทำลายล้างนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องร้องด่าขึ้นตามๆ กัน
เพียงแค่ว่าเขานั้นไม่คิดสนใจ!
ตราบเท่าที่เขาได้รับตำแหน่งเต๋าบรรพกาลอีกครั้งหนึ่ง เขาย่อมจะไม่คิดสนใจใดๆ ทั้งสิ้น!
ส่วนตัวเต๋าบรรพกาลสายฟ้าและเต๋าบรรพกาลวายุนั้นดูจะลังเลไม่น้อย
เพราะอย่างไรเสียมันก็มีผลึกแห่งกฎแค่ชิ้นเดียว
ทางจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นร้องลั่นขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “โหวเซิง เจ้ามารร้าย! มาถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังคิดจะปล้นบ้านที่ไฟไหม้อีกหรือ?”
เต๋าบรรพกาลทำลายล้างตอบสวนไป “คนเราล้วนเห็นแก่ตัวสิ้น! ที่สำคัญการที่บรรพกาลผู้นี้ยอมจะช่วยบลงมือนั้นมันก็ถือเป็นการช่วยเหลือคนหลากเผ่าพันธุ์แล้ว! ทำไมเจ้าไม่ลองคิดถึงจุดนั้นบ้างเล่า?!”
โหวเซิงนั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้มีความติดขัดเขินอายใดๆ สิ้นราวกับว่าเรื่องที่เขาทำนั้นมันถูกต้องแล้วจริง
เพราะมุมมองต่อโลกของเขานั้นมันแตกต่างจากเย่หยวนและคนทั้งหลายมาเป็นทุน
หากคิดเห็นไม่ตรงกันแล้วคุยไปเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์!
เขานั้นมั่นใจมากว่าเย่หยวนจะต้องยอม เขาจึงได้กล้าเสนอเรื่องนี้ออกมา
เพราะจะอย่างไรเสียไม่ว่าจะเป็นใครหากต้องเผชิญหน้ากับห้าเต๋าบรรพกาลเผ่าเทวา มันก็คงมีแต่ต้องพ่าย
มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ในการต่อสู้นี้!
“ไม่ต้อง! พวกเจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่งใดๆ หรอก!”
ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนกล่าวตอบสวนมาท่ามกลางวงล้อมของคนทั้งห้า
จากนั้นร่างของเขาก็หายวับลงไปก่อนจะไปปรากฏที่ด้านหน้าของโหวเซิง
เขานั้นมองดูโหวเซิงด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าคิดอยากได้ผลึกแห่งกฎธาตุไฟ?”
โหวเซิงผงะไปด้วยใบหน้าขาวซีดก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ห-หากเจ้ากล้าทำร้ายบรรพกาลผู้นี้แล้วเจ้าจะไม่มีทางรับมือคนทั้งห้านั้นมันได้แน่!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? การพูดเรื่องราวชั่วร้ายให้มันดูสมเหตุสมผลเหมือนเป็นคนดีเช่นนี้ ข้าล่ะต้องขอชมเจ้าจริงๆ! เพราะฉะนั้นเมื่อได้รับคำชมแล้วก็ตายไปเสียเถอะ!”
ดาบแสงพุ่งผ่านตัดคอของเขาลงทันที!