Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2699 เขาแดนอนันต์!

ห้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวนั้นมันเป็นกองกำลังที่เกินกว่าจะรับมือจริงๆ

จะอย่างไรเสียในแดนสวรรค์ใต้นี้มันก็มีตัวตนระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวเพียงแค่คนเดียวคือเมิ่งฮั่นเฟิง

อีกฝ่ายนั้นเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวห้าคน มันคงนับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่เมืองสวรรค์ใต้ยังไม่แตกจนถึงวันนี้

“แดนสวรรค์ใต้และเขาหมื่นอสูรก็อยู่กันอย่างสงบมานานทำไมจู่ๆ พวกเจ้าถึงได้คิดเจ้าโจมตีแดนสวรรค์ใต้เช่นนี้เล่า?” เย่หยวนอดถามขึ้นมาไม่ได้

“อยู่กันอย่างสงบ? หึๆ! เมิ่งฮั่นเฟิงและห้าราชานั้นเข้าไปยังมิติวิเศษด้วยกันแต่สุดท้ายเมิ่งฮั่นเฟิงมันกลับวางแผนร้ายแย่งชิงเอาสมบัติไปจากมือห้าราชาในเวลาคับขัน เวลานี้มันก็หายตัวไปแล้วด้วย! ในเมื่อเราหาเจ้าตัวไม่เจอเราก็มีแต่ต้องมาถามหาความรับผิดชอบจากแดนสวรรค์ใต้เท่านั้น!” ลู่เหยียนกล่าวขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ที่แท้แล้วปัญหานั้นมันกลับเกิดขึ้นมาเพราะว่าเมิ่งฮั่นเฟิงนั่นเอง

จะว่าไปแล้วตั้งแต่ที่เย่หยวนมาถึงแดนสวรรค์ใต้นี้เขาก็ยังไม่เคยเจอเจ้าเมืองคนนี้มาก่อน ที่แท้แล้วตอนที่เย่หยวนมาถึงนั้นมันคงเป็นเวลาเดียวกับที่เขากำลังเตรียมตัวเข้ามิติวิเศษไป

แต่ว่าการทำให้แดนสวรรค์ใต้กลายเป็นที่รองรับปัญหาที่ตนสร้างอย่างไม่คิดรับผิดชอบเช่นนี้มันก็เกิดจะทนไปหน่อย

เวลานี้แม้จะไม่ต้องมองดูเย่หยวนก็รู้ได้ทันทีว่าคนของแดนสวรรค์ใต้นั้นจะต้องตกอยู่ในห้วงความทุกข์ทรมานแน่นอน

แต่เย่หยวนนั้นก็พอเดาได้ว่าสมบัติที่เมิ่งฮั่นเฟิงแย่งชิงเอาไปนั้นมันจะต้องเป็นอะไรที่ช่วยให้เขาบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอย่างแน่นอน

ไม่เช่นนั้นแล้วห้าราชาเองก็คงไม่ลงมือหนักถึงขั้นนี้

โอกาสที่จะได้ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันยิ่งใหญ่เกินปล่อยผ่านไปเฉยๆ

ตัวเมิ่งฮั่นเฟิงนั้นคงรู้ถึงผลที่จะตามมาจากการกระทำของตัวเองดีแต่เขาก็ยังลงมือทำมัน แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขานั้นมีนิสัยเป็นอย่างไร

แต่เวลานี้เมื่อตัวการมันไม่อยู่แล้วเย่หยวนจึงมีแต่ต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตรงหน้าให้ได้เสียก่อน

“เมิ่งฮั่นเฟิงมันเอาอะไรไป?” เย่หยวนถามขึ้น

ลู่เหยียนนั้นได้แต่กล่าวว่าอยู่ในใจแต่เมื่อคำพูดกำลังจะหลุดออกจากปากมาเขาก็ต้องกลืนมันกลับลงไป

“โอสถสวรรค์ระดับห้า โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์!” ลู่เหยียนตอบกลับไป

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องพยักหน้ารับทันที มันเป็นอย่างที่เขาคาดจริงๆ!

แต่ว่าเขานั้นเองก็ตกตะลึงไม่น้อยเพราะไม่นึกฝันว่ามิติวิเศษของทวีปพิรุณใสนี้มันกลับจะมีโอสถสวรรค์ระดับห้าอยู่ด้วย!

เขานั้นเคยเห็นถึงสูตรโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์นี้มาก่อนในแผ่นหยกบันทึกของจงเจียนโชว โอสถนี้มันคือโอสถสวรรค์ระดับห้าที่จะช่วยเพิ่มโอกาสบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้อย่างมาก ไม่แปลกใจที่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งหลายจะอยากได้มันไปใช้

ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวนั้นมันคือคนที่อยู่ห่างจากชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนจริงๆ แค่ครึ่งก้าว

ด้วยความช่วยเหลือของโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์นี้โอกาสจะบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนจริงๆ มันย่อมจะเพิ่มขึ้นมากแน่

เย่หยวนนั้นเก็บดาบมังกรวสันต์ลงก่อนจะสั่งออกมา “นำทางข้าไป”

ลู่เหยียนที่ได้ยินต้องผงะกลับไป “ไป? ไปที่ใดกัน”

เย่หยวนกล่าว “ข้าอยากเจอตัวห้าราชา”

ลู่เหยียนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปทันทีก่อนจะหัวเราะเย้ยขึ้น “เจ้าคิดจะไปสะสางหนี้ของเมิ่งฮั่นเฟิงแทนเจ้าตัวหรือ? เจ้าจะชดใช้มันได้หรือ? ก็จริงว่าเจ้านั้นเก่งกาจล้ำแต่มันจะมีอะไรมาแทนที่โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์ได้กันเล่า? ห้าราชาท่านนั้นไม่ต้องการอะไรมากมาย พวกเขานั้นต้องการแค่โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น!”

เย่หยวนตอบกลับไป “มันไม่ใช่เรื่องให้เจ้าต้องกังวล นำทางไปก็พอ”

สงครามใหญ่เช่นนี้เหล่าค่ายกลเคลื่อนย้ายมันย่อมจะถูกภูติแท้ตัดเส้นทางไปสิ้นแล้ว

เพราะฉะนั้นหากจะเดินทางไปด้วยเท้าเย่หยวนจะต้องเจอศัตรูมากมายแน่ การมีคนนำทางย่อมจะดีกว่า

ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องสังหารภูติแท้ไปอีกนับไม่ถ้วนกว่าจะถึงเป้าหมาย

ลู่เหยียนตอบกลับไปด้วยเสียงหัวเราะ “ในเมื่อเจ้าคิดรนหาที่ตายแล้วแม่ทัพผู้นี้ก็จะช่วยไปส่งเจ้าถึงปากประตูนรกเอง!”

…

เย่หยวนนั้นไม่ติดแวะเข้าไปในเมืองสงบทักษิณใดๆ และพาตัวลู่เหยียนออกเดินทางไปทันที

การเดินทางนี้มันย่อมจะต้องเดินเท้าไป

แต่เย่หยวนนั้นใช้ความเร็วออกมาจนถึงที่สุดและมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองสวรรค์ใต้

ลู่เหยียนนั้นตามหลังเย่หยวนไปด้วยความตกตะลึงอย่างสุดหัวใจ

เพราะแม้ว่าเขานั้นจะเร่งความเร็วจนถึงที่สุดแล้วมันก็ยังตามเย่หยวนได้ไม่ค่อยทัน!

จะอย่างไรเสียเย่หยวนนั้นก็ไม่ได้มีสมบัติที่ช่วยในเรื่องความเร็วใดๆ เขานั้นใช้เพียงแค่กำลังของตัวเองในการเดินทาง

เขานั้นรู้สึกได้เลยว่าหากเย่หยวนไม่ชะลอความเร็วลงรอเขาตัว เย่หยวนคงไปไกลลิบไม่เห็นฝุ่นแล้วแน่

เจ้าหมอนี่มันสัตว์ประหลาดโดยแท้!

แต่ว่าระหว่างทางไปนั้นตัวเย่หยวนก็ต้องพบเจอความลับอันน่าตกตะลึงอย่างเหนือคาดเช่นกัน

เพราะเขานั้นได้ฟังเรื่องราวของเขาแห่งถงเทียนจากปากของหมี่เทียน

ที่แท้แล้วเขาแห่งถงเทียนในมือของเขานั้นมันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสุดยอดสมบัติ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเขาแห่งถงเทียนมันยังได้รับความเสียหายอย่างมากห่างไกลจากสภาพสมบูรณ์สิ้นเชิงจนเหลือแค่พลังระดับสมบัติวิญญาณสวรรค์

สุดยอดสมบัติที่ว่านั้นมันคือสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ทั้งสามสิบสามสวรรค์ต้องสั่นคลอน นามว่าเขาแดนอนันต์!

ความหมายของมันก็คือเขาที่ควบคุมทุกดินแดนไว้สิ้นพลังของมันนั้นรุนแรงพอจะเผาฟ้าทำลายดินได้จริงและเหนือกว่าสมบัติวิญญาณสวรรค์ไปนั้นคือสมบัติยอดหมอก

และเจ้าสมบัติยอดหมอกนั้นมันได้แบ่งออกเป็นห้าระดับด้วยกัน

ระดับหนึ่งอ่อนแอที่สุด ระดับห้าแข็งแกร่งที่สุด

ดาบมังกรวสันต์ที่เย่หยวนใช้ก่อนหน้านั้นมันเป็นสมบัติยอดหมอกระดับหนึ่ง ส่วนสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นเป็นสมบัติยอดหมอกระดับสอง

ความแตกต่างของแค่ระดับหนึ่งกับสองนั้นมันก็แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวแล้ว

พลังของสมบัติยอดหมอกระดับห้ามันจะเป็นเช่นใดคงไม่ต้องถามถึง

และเหนือกว่าสมบัติยอดหมอกไปมันคือสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์!

เขาแดนอนันต์นั้นมันเป็นสิ่งที่เจ้าโกลาหลได้สร้างขึ้นมาจนทำให้ทั้งสามสิบสามสวรรค์ต้องแตกตื่น

เขานั้นเดินทางผ่านสวรรค์ต่างๆ ไปยังโลกมากมายเพื่อตามหาวัสดุล้ำค่ามาใช้ในการตีสร้างเขายักษ์ทั้งเจ็ด!

และเขายักษ์ทั้งเจ็ดนั้นต่างก็ล้วนเป็นสมบัติยอดหมอกระดับห้าสิ้น

เมื่อเอามันทั้งเจ็ดมารวมกันแล้ว มันก็จะกลายเป็นสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์!

ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแสนทรงพลัง!

เจ้าโกลาหลนั้นเป็นตัวตนที่สุดแสนแข็งแกร่งอยู่แล้ว ด้วยพลังของสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์ในมือคนที่จะเทียบเคียงเขาได้ในสามสิบสามสวรรค์มันจึงมีแค่หยิบมือ

เพียงแค่ไม่รู้ว่าทำไมหลังจากนั้นตัวของเจ้าโกลาหลก็ได้หายไปจนทำให้ที่อยู่ของเขาแดนอนันต์เองก็สาบสูญไปเช่นกัน

หมี่เทียนนั้นไม่นึกฝันว่ามันกลับจะตกมาอยู่ในมือเย่หยวนเช่นนี้

หลังจากผ่านมือของคนมากมายไปเรื่อยๆ เขาแห่งถงเทียนนั้นมันก็ตกระดับลงมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายกลายเป็นแค่สมบัติวิญญาณสวรรค์เช่นนี้

เจ้าโกลาหลคนนั้นเก่งกาจแค่ไหนตัวเย่หยวนไม่อาจจะจินตนาการได้เลย

เพราะสำหรับตัวเขาในตอนนี้แค่ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันก็แข็งแกร่งล้ำฟ้าแล้ว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเบื้องหลังของเขาแห่งถงเทียนนี้มันยิ่งใหญ่ล้ำ!

“หากข้าสามารถหาเขาทั้งเจ็ดมาได้ครบข้าก็จะได้สมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์มาครองหรือ?” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“ฮ่าๆ แค่คิดมันก็ง่ายสิ! เขาทั้งเจ็ดนั้นมันหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของทั้งสามสิบสามสวรรค์แล้ว เจ้าคิดว่ามันต้องเดินทางผ่านห้วงมิติไปอีกกี่โลกเล่า? ที่สำคัญไปแค่เขาที่อยู่ในมือเจ้านี้มันจะต้องใช้พลังงานของสมบัติยอดหมอกอีกกี่ชิ้นกว่าที่จะกลับมาฟื้นสภาพเป็นสมบัติยอดหมอกระดับห้าได้ ด้วยกำลังของเจ้าในตอนนี้อย่าเพิ่งฝันถึงมันเลยจะดีกว่า!” หมี่เทียนตัดบทเย่หยวนทันที

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดยอมแพ้และยิ้มตอบกลับไปแทน “หึ โชคนี่แหละคือสิ่งที่ข้ามั่นใจมากอย่างหนึ่ง!”

…

คนทั้งสองนั้นเดินทางกันต่อเนื่องอย่างไม่มีหยุดจนสุดท้ายการเดินทางที่ควรจะกินเวลาหนึ่งเดือน มันก็มาถึงที่หมายได้ด้วยเวลาแค่ครึ่งเดือน

ลู่เหยียนนั้นแม้จะเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกแต่เขาก็ยังต้องเหนื่อยอ่อนอย่างมาก

โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นพาลู่เหยียนมาด้วยไม่เช่นนั้นระหว่างทางคงต้องเสียเวลาต่อสู้ไปอีกมาก ได้เห็นเมืองสวรรค์ใต้ตรงหน้านั้นเย่หยวนก็ต้องผงะไปทันที เพราะนอกเมืองสวรรค์ใต้นั้นมันมีกองทัพภูติแท้ล้อมอยู่ทุกด้านมีจำนวนมากเกินกว่าจะนับได้เทียบกับสภาพของเมืองสวรรค์ใต้นี้แล้วทัพที่ล้อมเมืองสงบทักษิณอยู่มันคงเป็นได้แค่กลุ่มเด็กเล่นไปเลย

น่ากลัว! คนทั้งห้านั้นมันคงพาภูติแท้ลงมาจากเขาหมื่นอสูรจนหมดสิ้นเลยมิใช่หรือนี่?

แต่ได้เห็นว่าเมืองสวรรค์ใต้ยังไม่แตกลงนั้นเย่หยวนก็รู้สึกโล่งขึ้นมาไม่น้อย

“หยุดก่อน! ลู่เหยียน เจ้าไปโจมตีเมืองสงบทักษิณมิใช่หรือ? ทำไมถึงรีบกลับมานัก?” เมื่อเดินผ่านหน้ากองทหารคนทั้งสองก็ถูกยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกคนหนึ่งมาขวางทางเรียกทักไว้

ลู่เหยียนนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าดำมืด “จั่วชิง เขาผู้นี้คือเจ้าหอสามแห่งหอโอสถสวรรค์ใต้ เขานั้นบอกว่ามีเรื่องอยากไปพูดคุยกับราชาทั้งห้าท่าน!”

จั่วชิงนั้นหันมามองเย่หยวนและอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำก็คิดจะเข้าพบห้าราชาหรือ? ลู่เหยียน เจ้าไม่ได้กินยาผิดมาใช่หรือไม่?”

“ห้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวร่วมมือกันก็ยังไม่สามารถบุกเข้าเมืองสวรรค์ใต้ได้อีกหรือ?” เย่หยวนนั้นไม่ได้โกรธเคืองใดๆ แต่ถามกลับมาด้วยความสงสัย

หากจะพูดแล้วด้วยพลังของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวถึงห้าคนที่นำกองทัพระดับนี้ออกมา ค่ายกลป้องกันเมืองสวรรค์ใต้มันย่อมจะไม่อาจทนทานได้ยาวนานปานนี้แน่

เพราะจะอย่างไรเสียในเมืองสวรรค์ใต้ตอนนี้มันก็ไม่มียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวคอยดูแลอยู่แล้ว