Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2779 ทรัพย์มหาศาล
ตอนที่ 2779 ทรัพย์มหาศาล
ณ ยอดเมฆาเคลื่อนแห่งนิกายสวรรค์ยุทธมั่น
ณ ยอดเมฆาเคลื่อนแห่งนิกายสวรรค์ยุทธมั่น
เย่หยวนนั้นนั่งลอยตัวโดยมีสามพลังกฎวนรอบกาย
แต่ว่าพลังทั้งสามนั้นมันกลับแยกห่างจากกันชัดเจนไม่อาจเข้าใกล้กันได้
ฟู่!
พลังทั้งสามนั้นจางหายไปเย่หยวนจึงได้แต่ต้องมองดูมันด้วยสายตาที่เหม่อลอย
แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ผลจริงๆ!
“อาจารย์เย่ มันไม่ได้ผลหรือ?” ต้าหวงถามขึ้นมา
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “มันเหมือนว่าแต่ละกฎนั้นมีกำแพงอะไรขวางกั้นอยู่ นอกจากนั้นข้ายังไม่อาจสัมผัสถึงพลังแห่งกฎได้แล้วด้วย”
หากไม่สามารถสัมผัสพลังแห่งกฎได้แล้วมันย่อมจะหมายความว่าเขานั้นไม่อาจบ่มเพาะได้อีก!
ยอดอัจฉริยะแห่งยุคสมัยคนหนึ่งไม่อาจบ่มเพาะได้ต่อ มันย่อมจะต้องเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างมาก!
ต้าหวงได้แต่ต้องกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางรู้สึกผิด “อาจารย์เย่…มันเป็นต้าหวงเองที่ไร้ประโยชน์จนเกินไป!”
เย่หยวนมองหน้าต้าหวงด้วยรอยยิ้ม “ความแค้นนี้เดิมทีมันก็เป็นเรื่องของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นข้า ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาหมื่นอสูรแม้แต่น้อย แค่พวกเจ้ามาช่วยเหลือนี้เย่ผู้นี้ก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรแล้ว เรื่องครั้งนี้มันมิใช่ความผิดเจ้าหรอก”
“ต แต่อาจารย์เย่ ท่าน…” ต้าหวงนั้นเจ็บปวดไปทั้งใจ
เขานั้นคิดอยากก้าวตามร้อยเท้าของเย่หยวนแต่สุดท้ายแล้วเย่หยวนกลับเป็นคนปกป้องพวกเขาไว้จนต้องบาดเจ็บหนักเอง
หากมิใช่เพราะเรื่องนี้แล้วเย่หยวนก็คงไม่ต้องใช้ดาบสังหารสวรรค์ในการโจมตีหลี่ฉางเซิง
ศึกยุทธมั่นนี้มันทำให้ทั้งทวีปแตกตื่น!
เรื่องเย่หยวนสังหารหลี่ฉางเซิงด้วยดาบเดียวนี้มันถูกเล่ากันปากต่อปากจนทั่วทวีปพิรุณใส
เพราะว่าเรื่องนี้มันคือจุดจบของการปกครองของพันธมิตรโอสถ ทำให้นิกายสวรรค์ทั้งหลายกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง
เวลานี้นามของเย่หยวนจึงได้รับการสรรเสริญไม่มีหยุด
แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าหลังศึกครั้งนี้แล้วเย่หยวนไม่อาจจะบ่มเพาะได้อีก
ไม่ได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์นั้นมันก็เท่ากับความพิการ!
เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีหมดหวังใดๆ ยิ้มตอบกลับไป “ข้าเย่หยวนนั้นต่อต้านสวรรค์มาทั้งชีวิต! เต๋าของข้าไม่ต้องให้สวรรค์มายอมรับ!”
ต้าหวงนั้นได้แต่ต้องมองหน้าเย่หยวนอย่างมึนงงไปพักใหญ่ๆ
เพราะว่าท่าทางของเย่หยวนนั้นมันแตกต่างจากที่เขาคาดเดาไว้มาก
ยิ่งเป็นยอดอัจฉริยะแค่ไหนมันก็ยิ่งยากจะยอมรับความมืดมนไร้หนทางเช่นนี้
แต่เย่หยวนนั้นกลับทำท่าเหมือนมันไม่ใช่ปัญหา
นอกจากนั้นเขายังสัมผัสได้ด้วยว่าเย่หยวนนั้นมีท่าทางมั่นใจและมุ่งมั่นหนักกว่าเก่า!
หรือว่าเขาคนนี้จะไม่รู้ว่าตัวเองไม่อาจบ่มเพาะต่อไปได้แล้ว?
“พวกเขาว่าอย่างไรเกี่ยวกับข้อเสนอของข้าบ้าง?” เย่หยวนถามขึ้นมา
ต้าหวงที่ได้ยินต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวอย่างไม่พอใจทันที “ไอ้พวกเนรคุณทั้งหลายนั่น! หากมิได้อาจารย์เย่แล้วพวกมันคงตายลงสิ้น! เวลานี้แค่คำขอเล็กๆ นี้พวกมันกลับไม่ยอมรับเสียอย่างนั้น!”
เย่หยวนนั้นคาดเดาไว้แล้วว่าเรื่องต้องเป็นเช่นนี้จึงได้ถามขึ้น “แล้วพวกเขาว่าอย่างไร?”
ต้าหวงตอบกลับไป “พวกมันบอกว่าผู้บรรลุสวรรค์ก็คือผู้บรรลุสวรรค์! เวลานี้ห้ายอดนิกายสวรรค์นั้นมันเหลือแค่นามแล้วพวกเขาจะคืนที่ของนิกายให้ได้ แต่ดินแดนส่วนอื่นๆ นั้นต้องส่งมอบกลับไป! ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกมันยังบอกว่าจะเป็นคนควบคุมเหล่าผู้บรรลุสวรรค์เองด้วย!”
หลังจากศึกครั้งนั้นเย่หยวนได้เสนอไปว่าทวีปพิรุณใสนั้นไม่ควรจะแยกฝ่ายเป็นผู้บรรลุสวรรค์และคนถิ่นอีกต่อไป ผู้บรรลุสวรรค์นั้นควรจะได้รับการยอมรับเข้านิกายสวรรค์ต่างๆ ตามที่ต้องการ
เวลานี้จากห้านิกายสวรรค์ของดินแดนสวรรค์ห้าแสงนั้นมันเหลือเพียงแค่หลัวหยุนชิงเท่านั้นที่เป็นจักรพรรดิเซียน
ต่อให้จะนับจักรพรรดิเซียนที่เป็นผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหมดเองก็มีแค่สามคนเท่านั้น
แน่นอนว่าเสียงของจักรพรรดิเซียนถิ่นนั้นมันย่อมจะดังกว่าเป็นไหนๆ
เพราะฉะนั้นพวกเขาย่อมจะไม่คิดแบ่งทรัพยากรให้ผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหลายคิดอยากจะรีดเหล่าผู้บรรลุสวรรค์ให้แห้งหมดตัว
แต่ว่าจะอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็ยังเกรงใจเขาหมื่นอสูรที่อยู่หลังเย่หยวนทำให้พวกเขานั้นยังไม่กล้าลงมือใดๆ เกินเลย
ตั้งแต่หลี่ฉางเซิงตายลง พวกเขาต่างก็เสียศัตรูร่วมและต่างฝ่ายต่างก็ทำตามใจหาผลประโยชน์ใส่ตัวอีกครั้งหนึ่ง
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นก็คือเรื่องที่เย่หยวนเสียอนาคตไปแล้ว
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะยังมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนแต่ว่าเขาไม่อาจใช้แปลงยอดเต๋าได้อีก มันย่อมจะทำให้พลังของเขาตกฮวบลงไปมาก
พวกเขาไม่ต้องกลัวเย่หยวนให้มากมายอีก
ยอดอัจฉริยะที่ไร้อนาคตมันย่อมจะไม่น่ากลัว
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แล้วเจอฐานใหญ่ของพันธมิตรโอสถมันหรือยัง?”
ต้าหวงรับ “เจอแล้วครับ!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ไปเถอะ ไปดูกันหน่อย!”
…
คนมากมายนั้นเดินมาถึงขุนเขาที่เขียวชอุ่มมีแม่น้ำไหลยาวเป็นสาย
ต้าวหยุน เทียนลู่และมารกระทิงนั้นต่างอยู่กันพร้อมหน้า
ที่แห่งนี้คือช่องเขาซ้อมแดงอันห่างไกลความเจริญ
ไม่มีใครคิดว่าฝันหลี่ฉางเซิงนั้นกลับจะมาตั้งฐานใหญ่ไว้ที่นี่
แต่ว่าในเวลานี้สายตาของพวกต้าวหยุนที่มองดูเย่หยวนมันแปลกไป มันเปี่ยมไปด้วยความ…ดูถูก นั่นทำให้บรรยากาศตอนนี้แสนอึดอัด
“ชิๆ เจ้าหลี่ฉางเซิงนี้มันเก่งจริงๆ สร้างค่ายกลใหญ่ปานนี้ขึ้นมาได้ปิดบังทางขึ้นเขาสิ้น หากมิใช่เพราะความบังเอิญหลังแกะรอยค่ายกลเคลื่อนย้ายแล้วเราคงไม่อาจจะเจอที่แห่งนี้ได้เลย!” ต้าวหยุนกล่าว
ฝีมือของหลี่ฉางเซิงนั้นจนตอนนี้พวกเขาก็ยังตื่นตะลึงกันไม่เสื่อม
ไม่ว่าจะเป็นวิชาโอสถหรือแม่ทัพศึกแปดกองพลหรือว่าการปกปิดทางขึ้นเขานี้มันต่างแสดงถึงฝีมือของเขาได้อย่างชัดเจน
เทียนลู่กล่าวขึ้น “เรานั้นบุกทำลายพันธมิตรโอสถทั้งสิบสี่สาขาลงและได้ประโยชน์มหาศาลกลับมา! แต่ว่าเวลากว่าหมื่นปีนี้สมบัติที่หลี่ฉางเซิงเก็บไว้ส่วนมากมันคงอยู่ที่นี่…มันต้องเป็นขุมสมบัติแน่!”
ตอนที่พันธมิตรโอสถถูกทำลายนั้นสาขาทั้งสิบสี่มันย่อมจะไม่มีหัวหน้าดูแลและย่อมไม่อาจต้านทานกำลังของเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายได้
เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นต่างไม่เกรงใจปล้นชิงเอาสมบัติของทั้งสิบสี่สาขามาสิ้น แต่พวกเขานั้นรู้ดีว่าสมบัติที่แท้จริงมันอยู่ที่นี่!
เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นเก่งกาจกล้าหาญบุกเข้าผ่านประตูขึ้นเขาทันที
เวลานี้เมื่อไม่เหลือจักรพรรดิเซียนคุ้มหัวอีกต่อไปแล้วเหล่าคนของพันธมิตรโอสถต่างหนีหายไปสิ้น
เวลานี้บนเขามันจึงเป็นดั่งดินแดนรกร้างไร้ผู้คน
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นค้นหาฐานใหญ่ของพันธมิตรโอสถทุกซอกมุมจนสุดท้ายก็มาถึงถ้ำด้านหลัง
ค่ายกลปิดกั้นในถ้ำนี้มันรุนแรงกว่าจุดใด
แต่การทำลายค่ายกลนี้ลงแล้วสำหรับเหล่าจักรพรรดิเซียนที่มานั้นมันย่อมไม่ยากเกินมือ
เมื่อเข้ามาถึงในถ้ำนั้นเหล่าคนทั้งหลายต่างก็ต้องผงะไปตามๆ กัน
เพราะสุดระยะสายตานั้นมันมีสมบัติกองอยู่เป็นภูเขา!
ผลึกสวรรค์นับไม่ถ้วนนั้นกองเรียงรายสุดลูกหูลูกตา!
ทรัพย์สมบัติระดับนี้มันคงเรียกได้ว่ามหาศาลเกินนับ!
เมื่อเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายได้เห็นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง
พวกเขานั้นไม่เคยจะได้เห็นสมบัติมากมายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
“หลี่ฉางเซิงนั้นมันช่างร้ายเสียจริง เก็บเกี่ยวสมบัติไว้ได้มากมายปานนี้!” ต้าวหยุนกล่าวขึ้น
คนทั้งหลายต่างพยักหน้ารับตามๆ กันเพราะว่าสมบัติตรงหน้านี้มันเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาได้มาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเสียด้วยซ้ำ!
หากใช้สมบัติทั้งหลายนี้ไปมันคงจะสร้างจักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้อีกหลายคนทีเดียว!
“เอาล่ะ มาคุยกันเรื่องแบ่งสมบัติเลยไหม?” เทียนลู่กล่าวขึ้น
ต้าวหยุนนั้นหันไปมองเย่หยวนก่อนจะยิ้มขึ้น “สมบัตินี่ของหลี่ฉางเซิงนั้นเดิมทีมันก็ขูดรีดมาจากนิกายสวรรค์ทั้งหลายของเรา! เพราะฉะนั้นข้าจึงข้อเสนอว่าให้แบ่งกันไปตามแต่กำลังของนิกาย!”
เทียนลู่ที่ได้ยินนั้นยิ้มตอบกลับไป “หึๆ ต้าวหยุน เจ้าคำนวณมาดีจริงๆ ในที่นี้นิกายสวรรค์เจ็ดดาวของเจ้ามันยิ่งใหญ่ที่สุด เจ้าหมายความว่าเจ้าจะเอาส่วนแบ่งไปมากที่สุดแล้ว?”
นอกจากต้าวหยุนคนนี้แล้วนิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นยังมีจักรพรรดิเซียนอยู่อีกคนหนึ่ง!
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงแข็งแกร่งที่สุด!
หากแบ่งสมบัติกันตามที่ต้าวหยุนเสนอนี้นิกายสวรรค์เจ็ดดาวย่อมจะเป็นคนที่ได้สมบัติไปมากที่สุด มีหรือที่คนอื่นจะยอมรับง่ายๆ
………………