Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1449
ภายใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ ปรากฏเหล่าศิษย์กลุ่มหนึ่งกำลังจับกลุ่มสนทนากันอย่างสนุกสนาน
พวกเขาสนทนาร่ำไปเรื่อยไร้จุดหมาย โดยส่วนใหญ่เป็นศิษย์ธรรมดาทั่วไปที่หาได้มีความโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ
“โอ้ใช่แล้ว อัจฉริยะอันดับหนึ่งของศิษย์ชั้นนอก เย่หยวนเขาไม่ได้กลับมากว่าสิบปีได้แล้ว ได้ยินมาว่าเขารับภารกิจระดับสูงและเดินทางไปยังพิภพยุทธจักร คงมิใช่ว่า…เขาไม่สามารถกลับมาได้แล้ว?”
“เหอะ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้! โดยปกติแล้ว การออกไปทำภารกิจภายนอกจะอยู่ระหว่างสามถึงห้าปี ซึ่งพวกเขาเหล่านี้มักจะกลับมาพร้อมผลงานน่าประทับใจเลยทีเดียว อย่างมากสุดก็แปดปี แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมาได้”
“ใช่แล้ว นี่หายไปนานกว่าสิบปีได้ ดูท่าจะเป็นลางร้ายกว่าลางดี!”
“น่าเสียดายนัก พรสวรรค์อย่างเขาคนนั้น น่าจะประสบความสำเร็จไปไกลถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าได้เลย นี่นับเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่!”
“ได้ยินมาว่า ศิษย์พี่อาวุโสฉินเทียนเองก็รับภารกิจออกไปดินแดนเดียวกับเย่หยวน นี่เป็นเรื่องบังเอิญเกินไป! อย่างไรก็ตาม…ศิษย์พี่อาวุโสฉิน จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่กลับมาเลย”
“ชู่ววว…เจ้าอยากตายรึไง! เรื่องนี้มีใครกล้าพูดกัน!”
“หื้ม? พวกเจ้า ดู…ดูนั้น…”
ทุกคนต่างทอดสายตามองตามออกไป แต่ละคนล้วนอดแปลกใจมิได้
เย่หยวนสาวเท้าก้าวแช่มเข้ามาอย่างแช่มช้า ดูสงบสำรวมยิ่ง
ทิศทางที่เขามุ่งหน้าไปคือ หอยุทธ์อย่างแม่นยำ
“นั้นมันเย่หยวน! เขา…นั้นเขาตัวจริงเสียงจริง!”
“สวรรค์! เขา…เขาทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าได้แล้ว! สัตว์ประหลาดชัดๆ!”
“ข้ายังจำได้ว่า ตอนที่เขาออกไป เย่หยวนยังไม่สำเร็จอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นปลายเลยมิใช่รึ? เวลาผ่านไปเพียงสิบปี ไม่เพียงสำเร็จอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าครึ่งขั้น แต่ยังทะลวงขึ้นไปยังอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นต้นได้โดยตรง!?”
“ความสามารถของสหายคนนี้ช่างน่ากลัวโดยแท้ เขาเพิ่งเข้ามาในสถานศึกษาได้ไม่ถึงสามสิบปี แต่ก้าวข้ามจากอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นกลางไปยังอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นต้นได้แล้ว ความเร็วในการฝึกปรือระดับนี้วิปลาสเกินไปแล้ว!”
…
รัศมีแรงกดดันที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างเย่หยวน ต่างทำให้ทุกคนประหลาดใจยิ่ง
แม้ว่าผู้ที่สามารถสอบเข้าสถานศึกษาหวูเมิ่งได้ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ แต่ผู้ที่มีพัฒนาการรวดเร็วปานนี้อย่างเย่หยวน นับเป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง
ที่สำคัญกว่านั้น ไม่เพียงอาณาจักรพลังของเย่หยวนจะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ความแกร่งกล้าของเย่หยวนเอง ยังสร้างความสะพรึงขวัญให้ในบรรดาเซียนในระดับชั้นเดียวกัน!
ตอนนี้เย่หยวนทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าได้แล้ว เท่ากับว่าเขาก็สามารถขึ้นกลายเป็นศิษย์ชั้นในได้แล้วเช่นกัน
คล้อยหลังจากนี้ ศิษย์ชั้นในทั้งหมดจำต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!
“ไปดูเถอะว่าเย่หยวนกำลังทำภารกิจอะไรอยู่กันแน่! มิใช่ว่าพลังวิญญาณภายในพิภพยุทธจักรเบาบางอย่างมากจนไม่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดได้ แล้วสหายคนนี้ทำได้อย่างไรกัน?”
การปรากฏตัวของเย่หยวนทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นทันที
มีเหล่าศิษย์จำนวนมากที่ติดตามเย่หยวนไปยังหอยุทธ
สำหรับเรื่องราวที่เย่หยวนเข้าระบบภารกิจระดับสูงในวันนั้น แม้จะเป็นเวลาสิบปีแล้ว แต่ศิษย์ชั้นในคนนั้นยังคงจำได้เสมอมา
อัจฉริยะอย่างเย่หยวนผู้ถูกลิขิตให้สร้างความสั่นสะเทือนแก่เมืองหลวงหวู่เมิ่ง หรือแม้กระทั่งคนที่กำลังจะเข้าสู่เมืองราชวงศ์อินทรีสวรรค์ก็ตามที
เย่หยวนต้องเก่งกาจมากพรสวรรค์เพียงใดถึงสามารถสร้างชื่อให้แก่เมืองหลวงหวู่เมิ่งได้ โดยการเอาชนะจิ้งอวี้?
แต่ตอนนี้เขากำลังจะตายโดยเงื้อมมือของพวกเจตนาร้าย
อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ได้ผลประโยชน์ไม่น้อยเช่นกันกับเรื่องนี้
เพื่อปิดปากเป็นความลับ ฉินเทียนหนิงได้มอบค่าตอบแทนให้แก่ศิษย์ชั้นในคนนั้นเป็นจำนวนมาก
ขณะนี้เองเขากำลังหลับตาเข้าฌานอยู่ ยามนี้สัมผัสได้ว่า มีคนตรงเข้ามาทางนี้ ด้วยความหงุดหงิดรำคาญ จึงกล่าวไล่อย่างหมดความอดทนไปว่า
“ไปที่เสาหยกเพื่อเลือกภารกิจก่อน แล้วค่อยมาลงทะเบียนกับข้า!”
“ศิษย์พี่ ข้ามาที่นี่เพื่อส่งมอบภารกิจ”
ด้วยความฉงนใจ ศิษย์ชั้นในคนนั้นค่อยๆลืมตาขึ้นเล็กน้อย เงยจับจ้องผู้มาถึงท่าทีคร้านใส่ใจ แต่ทันใดนั้น เขาพลันเร่งลุกขึ้นพรวดด้วยความตกตะลึงยิ่ง
“ยะ-ยะ-เย่หยวน! เจ้า…เจ้า…เจ้ากลับมาแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าเป็นเย่หยวน ศิษย์ชั้นในคนนั้นสะดุ้งโหย่งกระโดดขึ้นทันทีด้วยความเหลือเชื่อ คู่สายตาจับจ้องพลางอ้าปากขากรรไกรค้างเติ่ง
เย่หยวนมิได้กลับมาเป็นเวลากว่าสิบปี เขาคิดว่าเย่หยวนคงสิ้นใจตายลงนานแล้วภายใต้เงื้อมมือของฉินเทียน
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับมาพร้อมสภาพร่างการสมบูรณ์ดีไร้รอยขีดข่วน เช่นนี้จะมิให้เขาตกใจได้อย่างไร?
เย่หยวนช้อนสายตามองศิษย์ชั้นในคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่มิใช่รอยยิ้มและกล่าวว่า
“ศิษย์พี่ดูเหมือนจะประหลาดใจมิใช่น้อยที่เห็นข้ากลับมา!”
ขณะที่ธารฝูงชนจำนวนมากจับกลุ่มอยู่ด้านนอกหอยุทธ์ ศิษย์พี่คนนั้นสะดุ้งเฮือกโดยไว สีหน้าการแสดงออกดูแปรเปลี่ยนรวนเรอย่างบอกไม่ถูก
“นะ-แน่นอน! ข้าประหลาดใจอย่างยิ่งที่ศิษย์น้องเล็กเย่หลับมาอย่างปลอดภัย นั้นเป็นถึงภารกิจสามดาว แล้วเจ้าทำสำเร็จหรือไม่? เจ้า…เจ้าสำเร็จอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าแล้ว?!”
ฮือฮา!
ศิษย์พี่ชั้นในที่หาเหตุผลขึ้นมายกอ้างอันนั้น แต่ในขณะเดียวกัน นั้นกลับจุดไฟโกลาหลให้แก่ธารฝูงชนด้านนอกในทันที
“ภารกิจสามดาว! เขารีบภารกิจครั้งแรกเริ่มจากสามดาวเลยงั้นรึ?!”
“ต้องล้อเล่นแล้ว! ภารกิจระดับสามดาวที่ง่ายที่สุดก็มีโอกาสเสียงตายถึงห้าในห้าส่วน แต่เย่หยวนสามารถทำภารกิจได้สำเร็จและกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”
“สหายคนนี้…ไม่สามารถประเมินได้ด้วยจิตสำนึกจริงๆ! สัตว์ประหลาด! นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!”
……………………….
ธารฝูงชนที่ยืนล้อมรอบประตูหอยุทธด้านนอกชุลมุนหนัก ศิษย์อาณาจักรปฐมพระเจ้ากล้ารับภารกิจสาวดาว!
โดยไม่ต้องสนใจสิ่งอื่นใด แค่เย่หยวนกลับมาได้โดยปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนก็ว่าสุดยอดแล้ว แต่นี่ระหว่างทางยังก้าวขึ้นขีดจำกัดจนสำเร็จอาณาปัจฉิมพระเจ้า!
แล้วแบบนี้…ยังมีใครอยากอยู่ร่วมโลกเดียวกับเขาอีก?
ในตอนนี้คนที่ตกใจที่สุดหาใช่ผู้คนภายนอก แต่เป็นศิษย์ชั้นในคนนี้!
คลื่นยักษ์มหึมากำลังถาโถมเข้าใส่หัวใจของเขา!
เขาทราบดีวาฉินเทียนตามเย่หยวนไปยังดินแดนนภาบรรพตไปด้วย เพื่อตามล่าสังหารอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้เย่หยวนทำภารกิจสำเร็จและกลับมาได้ ถ้าเช่นนั้นแล้ว…ฉินเทียนล่ะ?
ทันใดนั้นปรากฏหนึ่งความคิดโฉบแล่นเข้าสู่ห้วงสมองของศิษย์ชั้นในคนนั้น
ไม่! เป็นไปไม่ได้!
แม้เย่หยวนจะสำเร็จอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางเป็นคู่มือต่อกรฉินเทียนได้เลย ตราบใดที่เขาต้องการ ฉินเทียนสามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรบรรพชนชั้นต้นได้ทุกเมื่อ!
ในไม่ช้า ศิษย์ชั้นในคงนั้นยังตงปฏิเสธปัดความคิดนี้ลงท้ายที่สุด
หัวใจของศิษย์ชั้นในคนนั้นเต้นระรัวเร็ว
“หรือเป็นไปได้ไหมว่า…เย่หยวนวิ่งไปเจอฉินเทียนแล้วจริงๆ และค่อยมาทราบทีหลังว่า ข้าเป็นตัวการณ์ที่เปิดเผยข้อมูลภารกิจของเขาออกไป”
แต่หากเย่หยวนเจอฉินเทียนแล้วจริงๆ เขาจะกลับมาได้อย่างไร?
ฉินเทียนไปอยู่ที่ไหนกันแน่?
คำถามต่างๆ มากมายหลั่งไหลเข้ามาภายในใจของศิษย์ชั้นในคนนั้น แต่ยิ่งคิดเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งคิดไม่ออก
เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในดินแดนนภาบรรพต
“ฮะ-ฮ่าๆ เดี๋ยวข้าจะรีบไปหยิบของรางวัลก่อนสักครู่ บันทึกข้อมูลภารกิจลงในป้ายตราประจำตัวของเจ้าด้วย”
ศิษย์ชั้นในคนนั้นไม่กล้าสบตาเย่หยวน ได้แต่หัวเราะขำแห้งไป พลางประทับป้ายตราประจำตัวของเย่หยวนลงไปเพื่อบันทึกข้อมูลภารกิจที่ทำสำเร็จ
“ศิษย์น้องเย่ รับไป ข้าลงข้อมูลภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าก็น่าเหลือเชื่อจริงๆ เป็นเพียงเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้า กลับทำภารกิจระดับสูงสำเร็จได้!”
ศิษย์ชั้นในคนนั้นกล่าวขึ้นพรางร่วนหัวเราะแก้ความเก้อเขิน
เย่หยวนยิ้มตอบว่า
“แค่โชคดีเท่านั้น”
ในขณะที่เขาจากไป ก็แหวกกลางธารฝูงชนเดินกลับโดยไม่แยแสผู้ใด
เวลาเดียวกัน เหล่าผู้คนโดยรอบต่างวิ่งตรงเข้ามาห้อมล้อมศิษย์ชั้นในผู้นั้นทันที
“ศิษย์พี่อาวุโส บอกพวกเราทีว่าเย่หยวนทำภารกิจสามดาวอันไหน?”
“ใช่ๆ! บอกพวกเราที!”
ตามกฎของสถานศึกษาแล้ว ศิษย์จะอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลได้ก็ต่อเมื่อทำสำเร็จแล้วเท่านั้น
แน่นอนบอกได้ทุกอย่างนอกจากพิกัดดินแดนเหล่านั้น
ศิษย์ชั้นในคนนั้นถูกรบเร้าต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เขาเพียงคลี่ยิ้มขื่นกล่าวตอบว่า
“เป็นภารกิจลำดับที่แปด! เย่หยวนรับภารกิจสาวดาวลำดับที่แปด!”
ทุกคนต่างปิดปากเงียบสงัดในทันใด!
………………………………………………………………