Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1649
ตอนที่ 1649 สู่ความโกลาหล
ทุกผู้คนเว้นระยะออกมาจากซูถิงปล่อยให้นางได้ทำการดูดซับโอสถอย่างสะดวก
ซูถิงนั้นไม่ได้หวังอะไรมากมาย โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะนั้นหาใช่ผักปลาที่จะมาหาซื้อได้ง่ายๆ ตามตลาดแบบนี้
หากเย่หยวนบอกว่าตนเองมีโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะอยู่สักเม็ด มันคงพอทำใจเชื่อได้บ้าง
แต่เย่หยวนกลับบอกว่าโอสถทั้งหมดของเขาเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะ เรื่องนั้นมันเกินกว่าที่จะรับได้ไปหน่อย
“เด็กคนนี้มันใจเย็นจริงๆ ขนาดคนเขาจะลองโอสถแล้วแท้ๆ แต่มันกลับยังใจเย็นได้ขนาดนี้”
“ฮ่าฮ่า ไม่ยอมจบจนกว่าจะจบจริงๆ”
“ข้าจำได้ว่า สิบกว่าปีก่อนมีคนมาขายโอสถปลอมในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์จนโดนจับได้ หลังจากนั้นมันก็โดนกระทืบจนเละด้วยน้ำมือของ สามขั้วอำนาจ”
“เด็กคนนี้มันมีฝีมืออยู่บ้าง แต่หากไปเทียบกับ สามขั้วอำนาจแล้วมันคงยังไม่พอ”
…
เหล่านักยุทธรอบๆ ต่างรอคอยที่จะได้เห็นเรื่องตลกกัน เรื่องในวันนี้มันใหญ่จนเกินกว่าที่จะมีใครมาปกปิดไว้ให้ไหวแล้ว
กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นเป็นตลาดย่านการค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง สามขั้วอำนาจเองก็ใส่ใจในเรื่องของชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
หากมีการค้นพบว่าเกิดการต้มตุ๋นขึ้น รับรองได้เลยว่าเรื่องมันคงจบไม่สวย
ก่อนอื่นพวกเขาก็จะแสดงตัวอย่าง แล้วค่อยทำลายชื่อพวกนั้นทิ้ง
เมื่อผลึกโอสถถูกเปิดออกมา กลิ่นของโอสถอันรุนแรงก็ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่อย่างห้ามไม่ได้
“ช่างเป็นกลิ่นโอสถที่รุนแรงนัก!”
“พลังโอสถจะแรงกล้าอะไรขนาดนี้!”
“โอสถมหาปราณเม็ดนี้คงไม่ได้เห็นขั้นเทวะโมฆะจริงๆ หรอกใช่ไหม?”
…
ทุกคนหน้าถอดสีทันที เพราะยิ่งเป็นโอสถที่มีคุณภาพสูง มันก็จะยิ่งส่งกลิ่นโอสถที่รุนแรงพร้อมๆ กับปล่อยพลังโอสถที่แข็งแกร่งออกมาด้วย
โอสถมหาปราณในมือซูถิงเม็ดนี้มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“จะตื่นตกใจอะไรกันไปเล่า! ทั้งกลิ่นและพลังของโอสถนั้นมันสามารถปลอมแปลงกันได้ แต่ผลของมันจริงๆ ต้องรอให้ผู้คนได้ดูดซับมันไปก่อนถึงจะรู้แน่!” แม้ว่าเจาเจี้ยนจะตื่นตกใจอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็ยังคงรักษาท่าทางนั้นไว้ได้ไม่คลาย
เพราะสิ่งที่เขาพูดมาเองมันก็มีเหตุผล หากมิได้ลองดูดซับโอสถตรงนั้น เรื่องราวอื่นใดมันก็สามารถปลอมแปลงได้
แต่เย่หยวนก็พูดออกมาอย่างไม่แยแสใดๆ “รีบๆ ดูดซับมันเสียที ยิ่งเจ้าชักช้าโอสถมันก็จะยิ่งเสียคุณภาพ”
ซูถิงเองก็ตื่นตระหนกไม่น้อย ก่อนจะรีบยกโอสถเม็ดนั้นเข้าใส่ปากไป
เป็นตอนนั้นเองที่ซูถิงได้รู้สึกถึงคลื่นพลังจากโอสถระเบิดออกมาภายในร่างตั้งแต่ปากไปจนถึงท้อง
คลื่นพลังปราณเทวะอันหนักหน่วงไหลไปตามแขนขาของนางราวกับแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ทำให้ร่างกายของนางรู้สึกสดชื่นขึ้นทันทีที่กลืนโอสถลงไป
ซูถิงรู้สึกราวกับว่าเส้นเอ็นจุดชีพจรในร่างต่างผ่อนคลายขึ้น
ครื้น!
ช่วงคอขวดสู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นปลายเปิดออกทันทีด้วยคลื่นโอสถอันรุนแรงนี้
“ช่างเป็นพลังปราณเทวะที่รุนแรงอะไรเช่นนี้! นางกำลังจะบรรลุแล้ว!”
“เป็นพลังโอสถที่รุนแรงเสียจริงๆ นี่มัน… นี่มันโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะของจริง?”
“แค่โอสถมหาปราณเม็ดเดียวแต่กลับทำให้นางบรรลุเข้าสู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นปลายได้ นี่มัน… ราคาแค่พันล้านนี้มันจะคุ้มค่าเกินไปแล้ว!”
…
เสียงร้องอันตื่นตระหนกดังขึ้นจากทุกทิศทาง
เพราะโอสถมหาปราณนั้นมันเป็นแค่โอสถที่ช่วยเพิ่มระดับปราณเทวะ หาได้ช่วยในการบรรลุผ่านช่วงคอขวดไม่
สำหรับซูถิงแล้วแม้จะกินโอสถมหาปราณเข้าไปอีกนับร้อยนับพันเม็ดมันก็ไม่น่าจะช่วยการในบรรลุขั้นได้รวดเร็วปานนั้น
แต่ว่าผลของโอสถที่เย่หยวนขายมันกลับรุนแรงมาก ทำให้ซูถิงที่เดิมทีติดคอขวดอยู่ได้พลังของโอสถอันรุนแรงนี้ช่วยให้สามารถบรรลุขึ้นสู่ขั้นปลายได้ในทันที
พลังวิญญาณในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ถูกดูดกลืนเข้ามารวมกันยังที่เดียว มันจึงทำให้เหล่านักยุทธคนอื่นๆ เริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติมากขึ้น
การมาบรรลุที่กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้น ในสถานที่แบบนี้มันเป็นเรื่องแปลกมากที่จะมีใครมาบรรลุ ทุกผู้คนจึงอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เพราะฉะนั้นตอนนี้เหล่านักยุทธที่สนใจใคร่รู้จึงมุ่งหน้ามาหาต้นทางที่พลังวิญญาณถูกดูดไปอย่างไม่หยุดหย่อน
ฝูงชนเหล่านี้มันทำให้เขตแผงระดับสุดท้ายยิ่งมีคนมากขึ้น และมากขึ้น
ไม่นานนักมันก็เต็มไปด้วยผู้คนจนไม่มีแม้แต่ที่จะหายใจ
แต่ยิ่งเป็นแบบนั้น ผู้คนที่ผ่านไปมาก็ยิ่งสนใจใคร่รู้หนักกว่าเก่า
เหล่าคนที่ไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปได้แล้วต่างก็พยายามถามเรื่องราวจากคนใกล้ๆ อยากรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
นั่นทำให้สภาพของกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ในตอนนี้มันยุ่งเหยิงไปหมด
เรื่องราวสุดแปลกประหลาดนี้มันทำให้แม้แต่ สามขั้วอำนาจใหญ่ยังต้องหันมาสนใจ
กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นตั้งอยู่มานานหลายต่อหลายปีอย่างที่ไม่เคยมีเรื่องใดๆ แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน
สามขั้วอำนาจนั้นกลัวว่าจะเกิดการจลาจลขึ้นจึงรีบส่งยอดฝีมือออกมาจัดการเรื่องราวตามๆ กัน
“อย่าเบียดกันเข้าไป! หากพวกเจ้ายังคิดจะเบียดกันเข้าไปด้านในอีกข้าจะนับว่ามันเป็นการก่อเรื่อง! ผู้ก่อเรื่องต้องโทษประหารสถานเดียว!”
ยอดฝีมืออาณาจักรบรรพชนพระเจ้าหกดาวคนหนึ่งตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมปล่อยพลังกดดันที่มหาศาลออกมา ทำให้ผู้คนเริ่มกลับมาตั้งสติได้
สุดท้ายด้วยการจัดการของ สามขั้วอำนาจใหญ่ เหล่านักยุทธที่อยากรู้อยากเห็นจึงได้ถอยกลับไป
แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นพื้นที่ในเขตแผงระดับสุดท้ายมันก็ยังอัดแน่นไปด้วยผู้คนจนไม่มีที่จะหายใจ
ซูถิงค่อยๆ เปิดตาขึ้น ดวงตานั้นของนางเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวารู้สึกราวกับว่าตนเองมีพลังปราณเทวะใช้อย่างไม่มีหมด
นางรู้ได้เลยว่าตอนนี้โอสถที่นางได้รับไปยังไม่ถูกดูดซับจนหมด
ซูถิงอยากจะรีบไปหาที่เก็บตัวต่อทันทีเพื่อจะได้ดูดซับพลังที่เหลือของโอสถ
เจาเจี้ยนมองดูซูถิงด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เขาตื่นตกใจจนไม่สามารถที่จะคิดอะไรใดๆ ได้อีก
“ศ-ศิษย์น้องหญิง?” เจาเจี้ยนพูดขึ้นอย่างติดๆ ขัดๆ
ซูถิงหายใจเข้าลึกและกล่าว “ใช่ นี่คือโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะของจริง!”
โอ้!
เหล่านักยุทธรอบๆ ต่างส่งเสียงร้องออกมาพร้อมๆ กัน!
เพราะแม้ในใจของพวกเขาจะพอรู้อยู่แล้ว แต่การได้ยินมันซ้ำจากปากซูถิงอย่างชัดเจนแบบนี้มันยิ่งทำให้เรื่องราวแน่นอนเข้าไปใหญ่
“โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะจริงๆ ด้วย!”
“พระเจ้า ข้าอยู่มาตั้งนานนมแต่ไม่เคยจะได้เห็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมาก่อนเลย!”
“แค่โอสถมหาปราณแต่กลับช่วยให้นางบรรลุอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นปลายได้ นี่สิถึงจะสมเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะ!”
…
ซูถิงค่อยๆ เดินเข้าไปหาเย่หยวนพร้อมยกมือขึ้นคารวะ “เถ้าแก่ เมื่อสักครู่เราสองศิษย์พี่น้องกล่าวหาท่านไปมาก ขอให้ท่านช่วยอภัยให้พวกเราด้วย!”
เย่หยวนตอบ “ไม่ต้องคิดมาก”
เย่หยวนรู้ดีว่าโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมันน่าเหลือเชื่อแค่ไหน เพราะฉะนั้นท่าทางของคนทั้งสองจึงไม่ได้ผิดแปลกไปจากที่เย่หยวนคาดเดานัก เขาจึงไม่คิดจะสนใจอะไรให้มากความ
ซูถิงถาม “ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าโอสถที่เถ้าแก่มีทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะหรือ?”
เย่หยวนพยักหน้า “ก็ประมาณนั้น มันก็มีบ้างที่ไม่ได้ขั้นสูงขนาดนั้น แต่หากมีใครอยากได้ข้าจะขายให้ถูกๆ สัก ห้าสิบล้านต่อเม็ดก็แล้วกัน”
“…”
ทุกคนพูดไม่ออก ที่เขาว่าขั้นไม่สูง… หรือเขาจะหมายถึงขั้นเทวะ?
เพราะมันไม่มีทางเลยที่ขั้นสวรรค์จะขายในราคา ห้าสิบล้าน!
แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญอีกแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโอสถที่เย่หยวนมี… มันเป็นขั้นเทวะโมฆะทั้งสิ้น!
นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“เถ้าแก่ ข้าเองก็อยากได้โอสถมหาปราณเช่นกัน! นี่หนึ่งพันล้านผลึกปราณเทวะ!”
“เถ้าแก่ ข้ามีอยู่ ห้าร้อยล้าน ข้าอยากได้โอสถวิญญาณเหิน!”
“เถ้าแก่ ข้ามีอยู่ เจ็ดร้อยล้าน! ข้าขอโอสถสมบัติสวรรค์จันทร์ขาว!”
…
ในเวลาชั่วพริบตานั้นเจาเจี้ยนและซูถิงได้ถูกฝูงชนกลืนกินไปแล้วเรียบร้อย
ตอนนี้ยังจะมีใครสนใจหน้าพันธมิตรดาบดวงดาวอีก? การซื้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะให้ได้นั้นคือเรื่องสำคัญที่สุดแล้ว!
เย่หยวนเห็นว่าที่ด้านหน้าตนเองมีมือจำนวนมากมายยื่นเข้ามาจนไม่เห็นอะไรอย่างอื่นเลย
มือเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ถือแหวนเก็บของไว้ แหวนที่ด้านในเปี่ยมล้นไปด้วยผลึกปราณเทวะ!
ในจำนวนเหล่านั้น มีหลายต่อหลายคนที่เป็นถึงนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้า
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นนักยุทธในค่ายสำนักใหญ่โตแค่ไหน จะมีใครบ้างที่ไม่มีเด็กๆ ในการดูแลเลย?
หนึ่งพันล้านผลึกปราณเทวะเพื่อซื้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะ หากพลาดโอกาสนี้ไปมันคงไม่มีโอกาสแบบนี้ย้อนกลับมาอีกแล้ว!
“หยุด!”
จู่ๆ เย่หยวนก็ใช้พลังปราณเทวะของตัวเองตะโกนลั่น ทำให้ทุกผู้คนต้องเงียบฟังทันที
เมื่อได้เห็นว่าทุกคนตรงหน้าเงียบปากลงแล้วเย่หยวนจึงกล่าวขึ้นต่อ “อยากซื้อโอสถข้าพวกเจ้าต้องต่อแถวเข้ามา! หากยังทำตัวแบบนี้ข้าจะไม่ขายให้ใครทั้งสิ้น!”