Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1844 ขุดหลุมฝังตัวเอง
“แข็งแกร่ง! นั่นมัน… แนวคิดแห่งห้วงมิติ?”
“พระเจ้าช่วย นภาสวรรค์หนึ่งดาวสามารถเตะนภาสวรรค์สามดาวจนปลิวได้ด้วย?”
“ไม่นึกเลยว่าหานเซี่ยวจะพลาดเรื่องง่ายๆ เช่นนี้”
…
เมื่อเย่หยวนลงมือ มันก็ทำให้ทุกผู้คนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
เพราะทุกผู้คนนั้นคิดว่าจะได้ดูเรื่องสนุก คิดกันอยู่ในหัวว่าเย่หยวนคงได้เจ็บตัวหนักแน่
เพียงแค่พวกเขาไม่นึกไม่ฝันว่าฝ่ายที่เจ็บหนักจะกลายเป็นหานเซี่ยวเสียเอง
ลูกเตะนี้ไม่ได้เบา มันทำให้หานเซี่ยวกระอักเลือดออกมาอย่างหยุดไม่ได้ไปนาน
“ไอ้เด็กเวร กล้ามาลอบโจมตีข้าเช่นนี้! อีกสามเดือนข้างหน้าข้าจะมาล้างแค้นความอับอายของลูกเตะนี้ให้เจ้าได้รู้ซึ้ง!” หานเซี่ยวยกมือขึ้นกุมอกพร้อมกล่าวลั่น
ทุกคนรับรู้ได้ทันทีว่าหานเซี่ยวนั้นโกรธแค้นแค่ไหน
ตัวตนของเขานั้นมิใช่จะเป็นคนทั่วๆ ไป เพราะเขาคือทายาทตระกูลหานแห่งเมืองหลวงจักรพรรดินี้
ตระกูหานนั้นคือหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงจักรพรรดินี้ พวกเขาย่อมมีพละกำลังที่เหนือล้ำกว่าใครๆ
…
หลายวันต่อมาชายชุดดำก็กลับมารายงานแก่เล้งห่าว
“นายน้อย ข้าได้ตรวจสอบเรื่องราวมาแล้ว เด็กคนนั้นมันมีนามว่าเย่หยวนที่เพิ่งเข้าเมืองหลวงจักรพรรดิมาได้ไม่นานนัก ส่วนเรื่องที่ว่ามันมาจากที่ไหนนั้น ข้าไม่อาจตรวจสอบได้เลย หรือก็คือก่อนหน้านี้เจ้าเด็กคนนี้มันไม่เคยสร้างชื่อใดๆ ไว้ที่ไหนเลย”
เล้งห่าวกล่าวถามขึ้นด้วยท่าทางตื่นตกใจทันที “ไม่มีทางน่า! ยอดฝีมือมากพรสวรรค์ระดับนี้มันย่อมต้องมาจากเมืองหลวงจักรพรรดิหรือยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสักแห่งแน่ มีหรือที่มันจะไร้ชื่อ? เจ้าพลาดอะไรไปหรือเปล่า?”
ชายชุดดำบอก “ผู้น้อยได้ทำการตรวจสอบยอดอัจฉริยะที่ฝีฝนแนวคิดแห่งห้วงมิติในเมืองหลวงจักรพรรดิและยอดเมืองหลวงจักรพรรดิภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซีหยูมาจนหมดแล้ว และก็ไม่ได้พบเลยว่าจะมีชื่อของเย่หยวนนี้อยู่ที่ใด ไม่น่าจะมีความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นได้แน่”
ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิและเมืองหลวงจักรพรรดิภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซีหยูนั้นมันไม่ได้มีจำนวนมากมายเหมือนเมืองจักรพรรดิ
ตราบเท่าที่มีช่องทางสื่อสาร การจะตรวจสอบใดๆ มันก็ย่อมเป็นไปได้ไม่ยาก
แต่พวกเขากลับไม่พบชื่อเสียงเรียงนามของเย่หยวนเลย
ได้ยินเช่นนั้นเล้งห่าวก็ถอนหายใจยาวออกมา “หากเป็นเช่นนั้นแล้วก็อย่าได้เก็บเด็กคนนี้ไว้อีกเลย ตอนนี้มันกำลังทำอะไรอยู่?”
ชายชุดดำตอบกลับมา “ขอรายงานนายน้อย มันกำลังเข้าสู่การเก็บตัว ณ หอรวมแก่นแท้พลัง ได้ยินว่ามันจ่ายผลึกปราณเทวะเป็นจำนวนเท่าเวลาสามเดือนในคราเดียว ที่สำคัญมันยังไปทำร้ายหานเซี่ยวแห่งตระกูลหานจนบาดเจ็บด้วย”
เล้งห่าวผงะไปนิดหน่อยก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “หานเซี่ยว? เจ้าลูกเก็บมาเลี้ยงสุดน่าสมเพชของตระกูลหานน่ะเหรอ? แต่แบบนี้เองก็ดี ด้วยนิสัยของมันแล้วมันคงไม่ปล่อยเจ้าเย่หยวนนั้นไว้แน่ แต่อย่างไรเสียก็จงส่งเถี่ยยิงไปจัดการปิดฉากเผื่อเรื่องราวมันผิดคาดเสียเถอะ”
เมื่อชายชุดดำได้ยินเขาก็ตอบขึ้นด้วยท่าทางตื่นตกใจ “นายน้อย นี่มัน… จะไม่เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนเกินไปหรือ? เถี่ยยิงนั้นเป็นถึงนภาสวรรค์สี่ดาวเลยนะ!”
อาณาจักรนภาสวรรค์นั้นมันแตกต่างจากอาณาจักรระดับต่ำๆ อย่างสิ้นเชิง ช่องว่างของแต่ละดาวนั้นมันมากมายมหาศาล
นภาสวรรค์สี่ดาวนั้นคือตัวตนในอีกระดับที่ไม่อาจเทียบเคียงได้
นี่คือพลังฝีมือที่พอจะเป็นผู้ตรวจการของเมืองจักรพรรดิระดับต่ำๆ ได้แล้ว
เพราะอย่างไรเสียผู้ตรวจการของสิบเมืองสันเขาใต้เองก็เป็นแค่นภาสวรรค์สี่ดาวเช่นกัน
ตอนนี้เล้งห่าวกลับสั่งให้คนระดับนั้นไปจัดการกับนภาสวรรค์หนึ่งดาวคนหนึ่ง มันจะไม่เป็นการใช้คนใหญ่เกินงานไปหน่อยหรือ?
เล้งห่าวยกมือขึ้นมาโบกปัด “สิงโตนั้นเข้าขย่ำเหยื่อด้วยทุกสิ่งที่มี เด็กคนนั้นมันมีฝีมือที่ไม่อ่อนแอ ปลอดภัยไว้ก่อนย่อมดีกว่า เจ้าเองก็เห็นใช่ไหมว่านภาสวรรค์สามดาวไม่อาจโค่นมันลงได้”
ชายชุดดำรีบพยักหน้าออกมาในทันทีที่ได้ยิน “ขอรับ ผู้น้อยจะรีบไปจัดการเรื่องราวให้แล้วเสร็จ”
…
สามเดือนต่อมาภายในห้องบ่มเพาะของเย่หยวน เย่หยวนกำลังค่อยๆ ลืมตาเปิดขึ้น
คลื่นพลังของเขาในตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าเก่าอย่างมาก
วายุศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นเล็กลงไปอีกครั้งเมื่อเทียบกับตอนที่เขาขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาใหม่ๆ แต่เจ้าลายศักดิ์สิทธิ์มันกลับเด่นชัดมากขึ้น
อาณาจักรลายพระเจ้าสองดาว!
แม้ว่ามันจะเป็นแค่อาณาจักรลายพระเจ้าสองดาวขั้นต้น แต่หากเอาแค่เรื่องความหนาแน่นของปราณเทวะแล้ว เย่หยวนนั้นมีปราณเทวะที่หนาแน่นเสียยิ่งกว่าอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวขั้นสุดเสียด้วยซ้ำ
และเจ้าสิ่งนี้นี่เองคือเคล็ดลับที่ทำให้เย่หยวนสามารถกระโดดข้ามขั้นต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งกว่าได้
ตุบ!
ประตูห้องบ่มเพาะค่อยๆ เปิดออกปล่อยให้เย่หยวนได้เดินออกมาด้านนอก
จู่ๆ ก็มีแสงสำขาวพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของเย่หยวนในวินาทีที่เขาออกมา
ลอบโจมตี!
การโจมตีนี้มันลงมืออย่างพอเหมาะพอดี ดูท่าแล้วอีกฝ่ายคงเตรียมตัวลงมือมานานพอสมควรโดยไม่คิดที่จะให้เย่หยวนได้มีโอกาสตอบโต้ใดๆ เลย
แต่ว่าเย่หยวนกลับใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาได้อย่างรวดเร็วกว่าอีกฝ่าย!
เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัว ดาบของเขามันก็ถูกเย่หยวนดูดเข้าสู่ห้วงมิติไปแล้ว
จากนั้นเย่หยวนก็ยกมือทั้งสองขึ้นมาประกบจับดาบเล่มนั้นไว้ในทันที
และเรื่องราวทั้งหมดนี้มันก็เกิดขึ้นในเวลาแค่เสี้ยวพริบตา รวดเร็วจนมองไม่ทัน
ในสายตาของทุกผู้คนนั้นเรื่องราวยังไม่ทันเริ่มมันก็จบลงเสียแล้ว
“เจ้าเองรึ? สวรรค์มีทางแต่เจ้ากลับเลือกที่จะฝ่าลงนรก! ข้าอุตส่าห์ไว้ชีวิตแล้วไปแล้วแต่ตอนนี้เจ้ากลับเปลี่ยนจากแย่เป็นเลวร้าย”
เย่หยวนกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา
ชายคนตรงหน้านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหานเซี่ยว
เขากลับไปรักษาตัวเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนถึงจะหายจากแผลในครานั้น
แต่ในใจของเขานั้น ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเขาก็ยิ่งไม่อาจอดทนต่อไปได้ เพราะฉะนั้นหลายวันมานี้เขาจึงได้มานั่งรออยู่ในหอหน้าห้องบ่มเพาะของเย่หยวนและคิดที่จะสังหารเย่หยวนในวินาทีที่เขาออกมา
เขารู้สึกว่าการที่เย่หยวนเตะถูกเขาได้ในวันนั้นมันเป็นเพราะเขาไม่ระวังตัวเอง
ด้วยพลังอาณาจักรนภาสวรรค์สามดาวอย่างเขา หากเขาคิดลอบโจมตีแล้วเย่หยวนที่เป็นแค่นักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์หนึ่งดาวย่อมไม่มีทางที่จะหลบรอดไปได้!
น่าเสียดายที่เรื่องราวมันกลับผิดคาดไป
หานเซี่ยวรู้สึกว่าการลอบโจมตีนี้ของเขามันสมบูรณ์แบบ แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังทำพลาดลงอีกจนได้
วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าการเตะของเย่หยวนนั้นมันไม่ใช่การลอบโจมตีใดๆ
แต่พลังฝีมือของอีกฝ่ายนั้นเป็นของจริง!
เขาพยายามอย่างมากที่จะดึงดาบกลับออกมา แต่แรงบีบของเย่หยวนนั้นมันเหมือนคีมเหล็กไม่ปล่อยให้ดาบขยับได้แม้แต่น้อย
“เด็กน้อย เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าเป็นคนตระกูลหาน หากเจ้ากล้าลงมือต่อข้าเจ้าไม่ได้ตายดีแน่!” เมื่อหานเซี่ยวได้เห็นว่าตัวเองไม่อาจต้านทานได้แล้วเขาจึงยกชื่อตระกูลมาขู่แทน
เย่หยวนกล่าวขึ้น “ตระกูลหาน? คนตระกูลหานมันมีนิสัยเหลือทนชอบทำตัวเลวทรามเสียยิ่งกว่ามนุษย์เช่นนี้หรือ? หากเจ้าคิดสังหารผู้คนก็เตรียมตัวถูกสังหารกลับด้วยสิ”
หานเซี่ยวหรี่ตามองพร้อมปล่อยดาบออกจากมือ พยายามที่จะวิ่งหนีออกไปทันที
เย่หยวนทำแค่หัวเราะออกมาก่อนจะขวางดาบนั้นออกจากมือ
‘ฟุบ!’
เมื่อลำแสงดาบนั้นพุ่งผ่านตัวเขาไป หัวใจของหานเซี่ยวก็กลายเป็นรูโบ๋เสียแล้ว
“แข็งแกร่ง! เขาเพิ่งบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวมาได้แท้ๆ แต่กลับแข็งแกร่งได้ปานนี้เลยหรือ?”
“การลอบโจมตีเมื่อสักครู่นี้ต่อให้เป็นนภาสวรรค์สี่ดาวก็ใช่ว่าจะรับมือได้ง่ายๆ ใช่ไหม? แต่เจ้าหมอนี่มันกลับรับไว้ได้ง่ายๆ เลย!”
…
คนทั้งหลายต่างรู้และเห็นว่าหานเซี่ยวคิดมาแก้แค้นในวันนี้ พวกเขาจึงคิดว่าเย่หยวนจะต้องตายและมามุงดูเรื่องราวกัน
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าฝ่ายที่ตายจะเป็นหานเซี่ยว ไม่ใช่เย่หยวน!
แต่ว่าการที่เย่หยวนกล้าสังหารคนตระกูลหานนี้มันก็ทำให้ผู้คนตื่นตกใจในความกล้าของเขามาก!
ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงนั้นเย่หยวนค่อยๆ เดินออกมาจากหอรวมแก่นแท้พลังและเดินไปยังเส้นทางของร้านสุรา
หลังจากเลี้ยวไปมาอยู่นิดหน่อยเย่หยวนก็มาหยุดอยู่ในตรอกเปลี่ยวๆ แห่งหนึ่ง
“ตามมาถึงขนาดนี้ เจ้าไม่คิดที่จะลงมือใดๆ เลยจริงหรือ?” จู่ๆ เย่หยวนก็พูดขึ้น
นั่นทำให้ชายชุดเทาคนหนึ่งเดินออกมาจากความว่างเปล่าพร้อมดาบยาวในมือ
ชายชุดเทาคนนี้มีสายตาที่เย็นชาพร้อมด้วยจิตสังหารที่แรงกล้า แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
“เด็กน้อย เจ้านั้นเก่งกาจเสียจริงถึงขั้นจับรอยข้าได้!” เถี่ยยิงกล่าว
เย่หยวนยืนนิ่งไปนิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้น “เจ้ามาสังหารข้า เจ้าไม่รู้เลยหรือว่าข้านั้นสำเร็จแนวคิดแห่งห้วงมิติ? เจ้าคิดจะเอาทักษะห่วยๆ ของเจ้ามาแสดงใดๆ ต่อหน้าข้ากัน? หากข้าเดาไม่ผิดเจ้าคงมาจากบ้านตระกูลเล้งสินะ?”
เถี่ยยิงหรี่ตาลงมองทันที “เจ้าฉลาดจริงๆ น่าเสียดายที่จะต้องตายในไม่ช้าเสียแล้ว!”
……………………….