Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1876 เป้าล่อพลัง
“เทพสวรรค์!”
แม้ว่าจะสามารถโชคดีรอดหายนะมาได้แต่เหล่าพวกจีคังทั้งหลายก็ไม่อาจจะดีใจได้แม้แต่น้อย
เพราะการปรากฏตัวอันไม่คาดฝันของเทพสวรรค์เผ่าปีศาจนี้มันทำให้แผนการใดๆ ของพวกเขาล่มไม่เป็นท่า
พวกเขาทั้งหลายนั้นคิดว่าเมื่อเป็นเทพสวรรค์เหมือนๆ กัน สมบัติของจอมเทพนิรันดร์มันก็คงไม่น่าดึงดูดสำหรับเทพสวรรค์คนอื่นๆ นัก
สถานที่แห่งนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยอันตราย ผลประโยชน์ที่ได้กลับออกไปมันอาจจะไม่คุ้มเสีย
เรื่องเช่นนี้มันเป็นเหมือนการขี่ช้างจับตั๊กแตนสำหรับเหล่าเทพสวรรค์คนอื่นๆ
เพราะฉะนั้นมันจึงไม่มีใครคาดคิดว่าเทพสวรรค์จะปรากฏตัวออกมาเช่นนี้
แต่ตอนนี้สองเทพสวรรค์กลับปรากฏตัวออกมาพร้อมๆ กัน
เมื่อผีเทพสวรรค์ขวังต้าวได้เห็นเทพสวรรค์เผ่าปีศาจทั้งสองเขาก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมออกมา
“ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวเรอะ? หินรุ้งเจ็ดสีนั้นเป็นของเราทั้งสอง เจ้าคงไม่มีอะไรจะโต้แย้งอีกแล้วใช่หรือไม่?” เทพสวรรค์เผ่าปีศาจร้องบอก
แต่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวกลับประกาศกร้าว “หินรุ้งเจ็ดสีนั้นมีเพียงแค่ผู้สืบทอดของจอมเทพนิรันดร์เท่านั้นที่จะได้รับมันไป! หากพวกเจ้าอยากได้ก็ต้องกำจัดข้าลงเสียก่อน!”
นั่นทำให้เทพสวรรค์เผ่าปีศาจทั้งสองหัวเราะขึ้น “เช่นนั้นก็คงไม่มีทางเลือก อายเมิงมาจัดการมันลงพร้อมๆ กันเถอะ”
เมื่อเทพสวรรค์ทั้งสองขยับร่างมิติรอบข้างก็เกิดสั่นสะเทือนขึ้นทันที
‘ปัง!’
‘ปัง!’
‘ปัง!’
ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวเองก็ไม่คิดเกรงกลัวแม้แต่น้อย เขารับมือกับเทพสวรรค์ทั้งสองได้อย่างไม่เป็นด้อยกว่า
และแน่นอนว่าการปะทะกันของเทพสวรรค์เช่นนี้มันย่อมทำให้มิติเริ่มแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ
เหล่านภาสวรรค์ที่อ่อนแอนั้นต่างถูกกระแสลมที่พัดออกมาทำลายจนสิ้นซาก
แล้วมีหรือที่พวกจีคังทั้งหลายจะยังคงอยู่เฉยได้? พวกเขาทั้งหลายต่างวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง
ตอนนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กำลังค่อยๆ แตกสลายลง รอยแตกที่เกิดขึ้นมาก็ค่อยๆ แผ่เป็นแสงกว้างมากขึ้นและมากขึ้น
ตอนนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กำลังเข้าสู่หายนะอย่างเต็มรูปแบบ!
ไกลออกไปจิตใจของเย่หยวนนั้นเหมือนมีเลือดหลั่งไหลออกมา
หญ้าทุกต้น ชีวิตทุกสิ่งบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ เขาสามารถสัมผัสถึงมันได้
และสภาพของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ ทั้งภูเขาแม่น้ำกำลังล่มสลาย สายเลือดหลั่งไหลดั่งธารน้ำ
มิติย่อยหลายต่อหลายแห่งต่างกำลังแตกสลายลงไปด้วยพลังของการปะทะที่แสนรุนแรงนี้
“ข้าจะให้พวกมันสู้กันต่อไปไม่ได้!”
เย่หยวนกัดฟันแน่นพร้อมพุ่งร่างออกไปกลางดงศึก
ตอนนี้เทพสวรรค์ทั้งสามกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปในถ้ำได้อีกเลย
แต่จู่ๆ เงาร่างหนึ่งที่ปรากฏออกมานี้มันก็ทำให้ทุกผู้คนตื่นตะลึง
จีคังหรี่ตามองด้วยความตื่นตกใจ “นั่นมันเย่หยวน! ไอ้เจ้าเด็กคนนี้มันรนหาที่ตายหรืออย่างไร? พวกเขานั้นคือเทพสวรรค์เชียวนะ!”
“หึ มดปลวกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง คงอยากได้หินรุ้งเจ็ดสีมาก ตายเสียเถอะ!”
อายเมิงหัวเราะเย้ยและต่อยหมัดหนึ่งออกมาด้วยคลื่นพลังสีดำสนิทพุ่งเข้าใส่เย่หยวนอย่างฉับพลัน
เย่หยวนรู้สึกราวกับว่าวันสิ้นโลกได้มาอยู่ตรงหน้า พลังอันรุนแรงนี้มันแทบจะทำให้ร่างของเขาแตกสลายออกเป็นชิ้นๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ปะทะ
เทพสวรรค์ช่างแข็งแกร่ง!
“ธงศึกดาวฤกษ์! มิติลายพระเจ้า!”
เย่หยวนร้องตะโกนบอกพร้อมปล่อยพลังเต๋าสวรรค์ใส่ธงศึกดาวฤกษ์อย่างบ้าคลั่ง
พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ได้เปิดมิติลายพระเจ้าขึ้น!
ดวงตาทั้งสองของเย่หยวนนั้นเย็นเยียบราวน้ำแข็ง ไม่หลงเหลืออารมณ์ใดๆ อยู่อีก
พลังของธงศึกดาวฤกษ์นั้นมันมากพอจะชนะเทพถ่องแท้ได้ทั้งสิ้น แต่เมื่อต้องมาเจอเทพสวรรค์เช่นนี้มันคงเป็นเรื่องที่เกินตัวไปหน่อย
แต่เย่หยวนนั้นเป็นได้แค่มดปลวกในสายตาของอายเมิง ทำให้เขาไม่ได้ใส่ใจจะโจมตีอย่างสุดตัว
ตอนนี้สติความรับรู้ส่วนมากของอายเมิงนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับผีเทพสวรรค์ขวังต้าว
ทำให้หมัดนี้มันมิใช่พลังทั้งหมดที่เขามี
‘ปัง!’
พลังงานสีดำสนิทนั้นพุ่งผ่านธงศึกดาวฤกษ์มาได้และพุ่งเข้าปะทะกับมิติลายพระเจ้าอย่างแรง
ทำให้ลายสีฟ้านับไม่ถ้วนนั้นต้องแตกสลายตัวออกจากกันไป
ร่างของเย่หยวนถูกหมัดนี้ซัดกระเด็นออกจากมิติลายพระเจ้าในทันที
‘อึก!’
เย่หยวนกระอักเลือดออกมาแต่เขาไม่คิดที่จะหยุดชะลอ รีบใช้โอกาสนี้ในการมุ่งหน้าเข้าสู่ถ้ำที่ด้านหลังทันที
“หืม? เด็กน้อยนภาสวรรค์กลับสามารถรับหมัดของข้าไว้แล้วรอดออกไปได้!” อายเมิงร้องขึ้นด้วยความตื่นตกใจ
ตอนนี้มิใช่แค่เขา ทั้งจีคัง หยางอี้เต่าและคนอื่นๆ เองก็มองภาพนั้นอย่างตื่นตะลึง
เย่หยวนสามารถรับหมัดของเทพสวรรค์ไว้ได้!
แม้ว่าอายเมิงจะไม่ได้โจมตีอย่างสุดตัว แต่หากเป็นพวกเขาทั้งหลายแล้ว แม้แต่ซากร่างมันก็คงไม่หลงเหลือ
แต่เย่หยวนกลับรับมันไว้ได้!
ไม่ใช่แค่รับไว้ได้ แต่เขายังเหลือแรงมากพอจะพุ่งร่างเข้าไปในถ้ำด้วย
พวกเขานั้นได้รับรู้ตั้งแต่ที่เริ่มเข้ามาในมิติวิเศษครั้งนี้แล้วว่าเย่หยวนนั้นมันทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงอยู่ตลอดๆ
จากนภาสวรรค์สามดาวที่เป็นขยะแสนอ่อนแอจนไม่รู้จะอ่อนแออย่างไรแล้ว แต่กลับสังหารซัวหาน จากนั้นท้าทายฉูชิง แถมยังรับมือเทพถ่องแท้ถึงสามคนพร้อมๆ กันได้
และตอนนี้เขายังสามารถรับหมัดของเทพสวรรค์ไว้ได้ มันช่างเป็นเรื่องที่เหนือกว่าที่ใครจะคาดคิด!
“เฉียวหยวน อายเมิง เจ้าโง่ ทำไมยังไม่ตามมันไปอีก?! เด็กคนนั้นมันมีพลังถึงขั้นเทพถ่องแท้เก้าดาว ผู้คนด้านในย่อมมิใช่คู่มือของมัน!” ตอนนี้จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางผู้คนที่อยู่ห่างออกไปร้องตะโกนด่าเทพสวรรค์เผ่าปีศาจทั้งสอง
เฉียวหยวนได้แต่ขมวดคิ้วหันไปมองคนผู้นั้น “เจ้ารู้จักข้า?”
คนผู้นั้นไม่คิดสนใจและตะโกนกลับมาอย่างเดือดดาล “พ่อเจ้าคนนี้คือโหมวหยู่! เลิกคิดสงสัยให้มากความแล้วตามมันไปเสีย! หากเจ้าเจอเด็กคนนั้นจงฆ่ามันอย่าให้รอดไปได้!”
แน่นอนว่าคนผู้นี้มิใช่ใครที่ไหน เขาคือจี้ฉุนที่ถูกเย่หยวนเลิกงานจนบาดเจ็บสาหัสนั่นเอง
เฉียวหยวนและอายเมิงหรี่ตาลงพร้อมๆ กัน แต่ไม่นานพวกเขาก็ได้เข้าใจเรื่องราว
เทพสวรรค์โหมวหยู่นั้นคือหนึ่งในลูกน้องของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชาง
ตอนนั้นเขาได้รับมอบหมายจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางให้ไปตามล่าจอมเทพนิรันดร์ แต่เขาก็ไม่เคยจะได้กลับมา ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วเขาคนนี้จะยังไม่ตาย
คนทั้งสองย่อมไม่คิดจะสงสัยในตัวโหมวหยู่ เพราะการที่สามารถเรียกเชื่อของพวกเขาออกมาได้อย่างแม่นยำเช่นนี้แถมยังรู้ชื่อโหมวหยู่ มันย่อมมิใช่เรื่องที่ใครๆ จะรู้ได้
คนทั้งสองหันมามองหน้ากันก่อนที่เฉียวหยวนจะบอกขึ้น “ตามไป!”
ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวเองก็ร้องขึ้นตาม พร้อมยกดาบสูง “พวกเจ้าคิดจะหนีไปที่ไหน!”
ทำให้สุดท้ายแล้วเทพสวรรค์ทั้งสามจึงตามติดกันเข้าถ้ำไป
ตอนนี้หายนะที่เกิดขึ้นกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จึงสงบลงชั่วคราว
มิติค่อยๆ กลับคืนสภาพคืนทุกอย่างสู่ความสงบ
แต่ตอนนั้นเองเหล่าคนที่อยู่ในโถงบังคับกฎนั้นได้แต่ยืนหน้าซีดเผือด
เมื่อต้องเผชิญกับหายนะเช่นนี้ พลังฝีมือใดๆ ของพวกเขาย่อมไม่มีประโยชน์
เมื่อต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้พวกเขาก็ได้แต่ยืนรู้สึกถึงความไร้พลังของตน
สิ่งเดียวที่พวกเขาจะทำได้ตอนนี้คือรอเงียบๆ
“หายนะนี้…ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เราจะสามารถผ่านมันไปได้หรือ” ฟางเทียนได้แต่พูดบ่นขึ้นมาด้วยสีหน้าซีดเซียว
…
เมื่อสัมผัสได้ว่าคลื่นพลังอันรุนแรงนั้นสงบลงแล้วเย่หยวนก็ถอนหายใจยาวออกมา
‘อึก!’
เย่หยวนกระอักเลือดออกมาอีกครั้งเพราะตอนนี้ร่างกายของเขากำลังบาดเจ็บอย่างมาก
แม้ว่ามิติลายพระเจ้ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ต่อหน้าเทพสวรรค์แล้วมันก็เป็นได้แค่มิติบางๆ แสนอ่อนแอ
“ข้ายังอ่อนหัดนัก! เฒ่าจอมเทพนิรันดร์กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?” เย่หยวนร้องขึ้น
ภายในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาในตอนนี้หวู่เฉินได้แต่นิ่งเงียบ
เพราะเขารู้ดีถึงความรู้สึกของเย่หยวนต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ที่นี่มีผู้คนมากมายที่เขาห่วงใย และยังเป็นสถานที่ที่เขาเติบโตมา
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีทางมองดูโลกใบนี้ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตาอย่างไร้อารมณ์ได้
เพราะฉะนั้นความโกรธที่เขามีต่อจอมเทพนิรันดร์มันจึงพุ่งสูงจนถึงขีดจำกัด
จอมเทพนิรันดร์นั้นมีพลังมากพอที่จะกดพลังของพวกเทพสวรรค์ทั้งหลายได้ แต่หลังจากมาถึงเขากลับปลดปล่อยพลังกดดันนั้นทิ้งเสีย
เมื่อพลังของเทพสวรรค์ถูกปลดปล่อย แน่นอนว่าโลกใบนี้มันคงต้องแตกสลายแน่แล้ว
การต้องปะทะกับเทพสวรรค์ด้วยพลังฝีมือของเย่หยวนในตอนนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
‘ปัง!’
‘ปัง!’
‘ปัง!’
ระหว่างที่เย่หยวนกำลังร่ำร้องด้วยความโกรธเคืองเขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้เกิดขึ้นไม่ไกล
จู่ๆ ดวงตาของเขาก็พบกับแสงเพราะภาพตรงหน้านี้คือถ้ำหลุมยุบขนานใหญ่
ภายในถ้ำหลุมยุบนี้มันมีแสงสาดส่องลงมาจากเบื้องบนเป็นภาพที่สุดแสนสวยงามอย่างเหลือเชื่อ
…………………………