Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1891 ไม่รู้จักรักษาโอกาส
ชายแก่คนนั้นย่อมรู้ดีว่าที่เย่หยวนถามนั่นมิใช่เหตุผลของเขา แต่เป็นเหตุผลของหวู่เทียน
เขานั้นเป็นแค่คนรับใช้ผู้หนึ่ง แม้ว่าจะมีพลังบ่มเพาะที่สูงส่งกว่าแต่สถานะนั้นแตกต่างจากหวู่เทียนอย่างสิ้นเชิง
“นายน้อยเทียนนั้นเป็นศิษย์จากหอยอดดอกแห่งเมืองหลวงจักรพรรดิเก้า อาจารย์ของเขานั้นคือปรมาจารย์แห่งหอยอดดอก…”
ชายแก่ยังพูดไม่ทันจบเย่หยวนก็ขัดขึ้น “ดูท่าคำเตือนของข้ามันจะไม่เข้าหูเจ้าสินะ!”
“อ้าก!”
เสียงกรีดร้องดังลั่นออกมาจากปากของหวู่เทียน
ตอนนี้ขาของเขาถูกเย่หยวนหักลงเป็นที่เรียบร้อย
ชายแก่หน้าถอดสีทันที เขานั้นพยายามพูดเรื่องอาจารย์ของหวู่เทียนขึ้นมาเพื่อข่มขู่เย่หยวนให้เกรงกลัว
แต่ใครจะไปรู้ว่าแทนที่อีกฝ่ายจะยอมแพ้ มันกลับกลายเป็นทำให้เขาลงมือจัดการหวู่เทียน
หวู่เทียนนั้นบาดเจ็บจนเหงื่อไหลท่วมกายแต่พลังจับของเย่หยวนนั้นมันก็ยังคงหนักแน่นรุนแรงไม่มีทางหลุดรอดไปได้
มีหรือที่ชายแก่จะยังมีความกล้าเปลี่ยนเรื่องใดๆ อีก? ตอนนี้เขาได้แต่ตอบกลับมา “นายน้อยเทียนนั้น…เขาชอบใจสาวนางหนึ่งจากเมืองจักรพรรดิหยกเมฆาเพราะฉะนั้นเขาจึง…ได้อยากจะได้ตำแหน่งผู้ตรวจการนี้”
เย่หยวนขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน “หากมันแค่มาเพื่อเป็นผู้ตรวจการ ทำไมเจียงยู่ถังถึงถูกจับเข้าคุกไป?”
ชายแก่ตอบ “เพราะ…มันไม่รู้จักถอย”
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาก็เย็นชาลงทันที “เจียงยู่ถังไม่ยอมยกตำแหน่งผู้ตรวจการให้พวกเจ้า พวกเจ้าทั้งหลายจึงได้วางแผนร้ายใส่ร้ายเขาทำให้เขาต้องรับโทษตาย เช่นนั้นใช่ไหม?”
ชายแก่เงียบลงไปทันที ดูท่าเย่หยวนคงคาดเดาได้ถูกแล้ว
เย่หยวนยิ้มออกมา “ดีมาก เช่นนั้นพวกเจ้าก็ตายตกไปตามกันเถอะ!”
พูดจบเย่หยวนก็ลงมือคิดสังหารหวู่เทียนทันที
หวู่เทียนและชายแก่หน้าถอดสีทันที ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะกล้าสังหารผู้คนลงทั้งที่รู้เบื้องหลังเช่นนี้
แต่เป็นโซชูเจียก็พูดขึ้นมาแทน “เย่หยวน อย่า!”
นั่นทำให้เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะยั้งมือไว้
โซชูเจียพยายามเดินเข้ามาหาเย่หยวนด้วยสีหน้าซีดเผือด “ผู้ตรวจการหวู่เทียนนั้นมีเทพถ่องแท้เป็นอาจารย์ แถมชื่อเสียงตระกูลหวู่ในเมืองเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นเองก็ยิ่งใหญ่ไม่น้อย สังหารเขาลงไปเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์คงได้ราบเป็นหน้ากลองแน่!”
เหงื่อเม็ดใหญ่หยดไหลลงมาจากใบหน้าของหวู่เทียนแต่เขาก็ยังกัดฟันตอบกลับมา “ใช่ๆ! ข้าจะตายไม่ได้! หากข้าตายไปทั้งหอยอดดอกต้องออกมาแน่! ตราบ…ตราบเท่าที่เจ้าปล่อยข้าไป เรื่องในวันนี้…ข้าจะถือว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น”
เย่หยวนหรี่ตาลงก่อนจะปล่อยกำลังออกจากนิ้ว
เขานั้นสามารถทำตัวดุร้ายไม่สนใจใครแค่ไหนก็ได้ตอนที่เขาเดินทาง แต่ตอนนี้มันมีชื่อเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มันย่อมทำให้ผู้คนทั้งหลายรู้สึกกังวลไม่สบายใจขึ้น
เมื่อเย่หยวนปล่อยแรงหวู่เทียนก็รีบพุ่งตัวหนีออกไปราวสายฟ้า กำลังของเย่หยวนนี้มันช่างน่ากลัวจนถึงที่สุด
“หวู่หยุน สังหารมันให้ข้า! แล้วพวกที่เหลือนั้นก็ด้วย!” หวู่เทียนสั่งออกมำพร้อมชี้ไปยังพวกโซชูเจีย หนิงจื่อหยวนคนทั้งหลายที่ยืนอยู่หลังเย่หยวนด้วยความโกรธแค้น
ใบหน้านั้นของโซชูเจียและพวกต่างซีดเผือดลงทันทีที่ได้ยิน เขาไม่คิดไม่ฝันว่าหวู่เทียนจะกล้าหันกลับมาทำร้ายอย่างรวดเร็วปานนี้
หากไม่ใช่เพราะพวกเขาทั้งหลายร้องขอ เย่หยวนคงได้สังหารหวู่เทียนไปแล้วแท้ๆ แต่ในพริบตาหวู่เทียนกลับสั่งการสังหารพวกเขาทิ้ง
นภาสวรรค์แปดดาวอย่างหวู่หยุน จะมีใครสามารถต้านทานเขาไว้ได้?
“หึ! เจ้าพวกคนโง่เง่ากล้ามาทำร้ายนายน้อยหวู่เทียน! วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าไม่ได้ตายดี!”
เมื่อพลังของนภาสวรรค์แปดดาวถูกปลดปล่อยออกมาสีหน้าของทุกผู้คนมันก็เปลี่ยนไปทันที
พลังโลกอันแสนน่าเกรงกลัวนี้มันทำให้พวกโซชูเจียสิ้นหวังในทันที
“ท่านผู้ตรวจการหวู่ เรื่องนี้… มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งสิ้น! หวังว่าท่านผู้ตรวจการจะไว้ชีวิตแสดงความเมตตาปล่อยเย่หยวนไป! เรื่องใดที่เขาล่วงเกินท่านไปโซชูเจียผู้นี้จะขอรับผิดไว้เอง!” โซชูเจียกล่าวขึ้น
หวู่เทียนหัวเราะลั่นออกมา “เด็กคนนี้มันกล้าหักขาผู้ตรวจการคนนี้ มันทำความผิดใหญ่หลวงแล้ว! แล้วคนอย่างเจ้า แค่นักยุทธนภาสวรรค์สองดาวคนหนึ่งจะเอาปัญหาที่ไหนมาชดใช้? วันนี้พวกเจ้าทั้งหลายต้องตาย!”
เย่หยวนหรี่ตาลงมองใบหน้าของหวู่เทียน “ข้าได้ให้โอกาสเจ้าไปแล้ว มันเป็นเจ้าเองนะที่ไม่รู้จักรักษา”
“ฮ่าๆ! โอกาส? เด็กน้อยหากเจ้าไม่ได้ลอบโจมตีข้าผู้นี้มีหรือที่ข้าผู้นี้จะพ่ายแพ้แก่เจ้า? เมื่อข้ามีหวู่หยุนอยู่ด้วยแล้วเจ้ายังคิดว่าตัวเองเก่งกาจล้ำฟ้าอีกหรือ? จัดการมัน!” หวู่เทียนหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนได้ฟังเรื่องตลก
ในพริบตาเดียวคลื่นดาบอันเย็นเยือกก็ได้เคลื่อนมาถึงตัวเย่หยวน
นี่คือพลังอันเหนือล้ำจนน่าตะลึงของนภาสวรรค์แปดดาว
ตอนนี้เหล่าโซชูเจียและพวกต่างยืนอยู่หลังเย่หยวน หากเย่หยวนคิดหลบดาบนี้พวกโซชูเจียทั้งหลายย่อมต้องถูกสังหารฆ่าลงอย่างแน่นอน
หวู่หยุนคนนี้ดูจะมีประสบการณ์ต่อสู้อย่างมากมายแค่การโจมตีเดียวมันก็แสดงถึงประสบการณ์ที่เหนือล้ำได้
ดาบนี้มันบังคับให้เย่หยวนต้องรับไว้เท่านั้น
เย่หยวนเองก็โกรธจนหน้าดำก่อนจะชักดาบฝ่าน้ำค้างแข็งออกมาทันที
ปัง!
เสียงระเบิดดังขึ้นระหว่างคนทั้งสอง คลื่นพลังอันแสนรุนแรงนี้มันส่งให้พวกโซชูเจียทั้งหลายลอยปลิวไปทันที
“พวกเจ้าถอยไป!” เย่หยวนร้องบอก
ดูท่าตอนนี้เขาคงโกรธจัดจริงๆ
หวู่หยุนได้แต่เบิกตากว้างมองตรงหน้าด้วยความตื่นตกใจ “ผสานแนวคิด! แนวคิดแห่งห้วงมิติ!”
เขานั้นไม่เคยนึกฝันเลยว่าเย่หยวนจะรับดาบนี้ไว้ได้
หวู่เทียนเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาเขานั้นเดิมทีย่อมคิดว่าเย่หยวนไม่มีทางรอดไปจากดาบแรกของหวู่หยุนได้ แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าฝีมือของอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งปานนี้
นภาสวรรค์ห้าดาวกลับสามารถเทียบเคียงกับนภาสวรรค์แปดดาวได้ เรื่องเช่นนั้นมันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยไหม?
โซชูเจียเองก็มองดูเงาร่างที่คุ้นเคยตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่คุ้นชิน
พลังของเย่หยวนนั้นมันยังคงแข็งแกร่งไม่เสื่อม
แต่มันจะแข็งแกร่งจนมากเกินไป!
หลายร้อยปีก่อนเย่หยวนนั้นเป็นแค่เด็กหนุ่มระดับรองๆ ในสายตาของพวกเขา
แต่เวลามันผ่านไปได้แค่กี่ร้อยปี?
ด้วยพลังฝีมือของเย่หยวนในตอนนี้ต่อให้เดินทางไปทั่วสิบเมืองสันเขาใต้มันก็ไม่มีใครจะต้านทานพลังของเขาได้!
ฟุบ!
ร่างของเย่หยวนขยับพร้อมดึงดาบเข้าและแทงออกมาทำให้มิติรอบข้างเกิดความปั่นป่วนขึ้น
หวู่หยุนเองก็ได้แต่จำใจรับดาบนั้นไว้
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
กลายอากาศนั้นมีคลื่นพลังกระจายออกมาเป็นรอบๆ
พร้อมด้วยแสงเย็นเหยียบที่ถูกส่งออกมารอบๆ ไปทุกทิศทุกทาง
เมื่อหวู่เทียนเห็นเช่นนั้นใบหน้าของเขาก็ขาวซีดไปทันที
“นายน้อยเทียน เด็กคนนี้มันแข็งแกร่งเกินไป ท่านหวู่หยุนอาจจะไม่สามารถชนะมันได้ ทำไมเรา… ไม่หนีกันไปก่อนเล่า?” โม่ซินร้องบอก
“หุบปากไป! เจ้าคิดอยากให้นายน้อยคนนี้ต้องหนีหางจุกตูดไปอย่างนั้นหรือ? หากเรื่องนี้แพร่กระจายไปในเมืองหลวงจักรพรรดิแล้วนายน้อยคนนี้จะยังมีหน้าไปพบผู้คนอีกหรือ?” หวู่เทียนร้องบอกด้วยความไม่พอใจ
โม่ซินตอบกลับมาอย่างกังวล “ตราบเท่าที่ขุนเขายังตั้งตระหง่าน สายน้ำยังไหลเชี่ยวทุกสิ่งอย่างย่อมแก้ไขได้! หากเจ้าเด็กคนนี้มันชนะขึ้นมาจริงๆ เราคงไม่มีโอกาสได้หนีอีกต่อไปแล้ว!”
หวู่เทียนหน้าเปลี่ยนสีไปมาด้วยความคิดไม่ตจกก่อนจะกัดฟันพูดขึ้นในที่สุด “ไปกัน!”
เขานั้นไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันแรกที่มาถึงสิบเมืองสันเขาใต้ในฐานะผู้ตรวจการ เขาก็ต้องหนีหางจุกตูดเช่นนี้เสียแล้ว
คนทั้งสองกำลังคิดจะหนีแต่ยังไม่ทันไปถึงไหนก็มีสามงามนางหนึ่งเดินเข้ามาขวางไว้ก่อน
ใบหน้าแสนงดงามนี้ปรากฏขึ้นต่อหน้าหวู่เทียน แต่ตัวเขานั้นไม่มีเวลามาชื่นชมแม้แต่น้อย
เพราะหญิงงามคนนี้เองก็มีพลังที่สุดแสนแข็งแกร่ง!
เล้งชิวหลิงนั้นตอนนี้เป็นถึงนภาสวรรค์หกดาว
“พวกเจ้าห้ามไปไหนทั้งนั้น!” เล้งชิวหลิงบอก
“ให้ตายสิ!” หวู่เทียนกัดฟันแน่นก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีเล้งชิวหลิงทันที
เล้งชิวหลิงนั้นเตรียมรับมือมาแสนนานแล้ว ด้วยพลังของสองแนวคิดน้ำแข็งและไฟที่ถูกปล่อยออกมามันทำให้ใบหน้าของหวู่เทียนถอดสี
แม้ว่าหวู่เทียนจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ยังไม่อาจเทียบกับเล้งชิวหลิงที่หลอมเลือดแท้วิหคชาดได้
คนทั้งสองนั้นมีพลังบ่มเพาะระดับเดียวกัน แต่เล้งชิวหลิงนั้นกลับสามารถกดดันหวู่เทียนได้อย่างขาดลอย
ในเวลานั้นเองที่เกิดคลื่นพลังสะท้านโลกาขึ้นบนท้องฟ้าก่อนจะเห็นว่าร่างของหวู่หยุนตกร่วงลงมาจากด้านบน ลงสู่พื้นอย่างไม่มีชิ้นดี
ตอนนี้ทั้งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นเต็มไปด้วยความเงียบงัน
…………………………