Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2045 ทางเลือก
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทั้งสองคนนี้กลับปฏิเสธเทพสวรรค์ดันหยู่ติดๆ กัน และที่แปลกที่สุดก็คือพวกเขาทั้งสองกลับเลือกจะไปกราบเย่หยวนแทนอย่างนั้นหรือ?”
“ในงานครั้งก่อนๆ มาทุกผู้คนต่างคิดหาสุดฝีมือที่จะเข้าไปอยู่ใต้ร่มเงาของเหล่าอาณาจักรบรรพกาล”
“เทพสวรรค์เปียวหยูชนะเทพสวรรค์ดันหยู่มาได้ แต่ทั้งสองคนนี้กลับไม่เลือกเขาด้วยซ้ำ?”
…
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากที่นั่งของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลาย
การกระทำนี้ของหลัวเทียนฉีและหลี่ชิงมันทำให้ทุกผู้คนตกตะลึง
ส่วนทางเทพสวรรค์ดันหยู่นั้น ในเวลานี้เขามีใบหน้าดำมืดราวก้นหม้อ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ยอดคนอันดับหนึ่งแห่งวงการโอสถแดนใต้ผู้นี้จะต้องลดตัวลงไปตามหารับศิษย์?
แต่วันนี้แม้เขาจะเปิดปากเรียกถึงสองครั้ง แต่มันกลับถูกปฏิเสธสองครั้งรวด!
ใบหน้าเฒ่าๆ ของเขานี้ถูกขยี้จนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้ว
แต่สิ่งที่คนทั้งหลายยังไม่รู้ก็คือเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้น
อันดับสาม!
อันดับสี่!
…
จนถึงอันดับแปดในเวลานี้พวกเขาทั้งหลายก็ยังก้าวเดินเข้าไปเลือกเย่หยวน!
ตอนนี้เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายนั้นไม่อาจจะทนนั่งเฉยอยู่ได้อีกต่อไป เมื่ออันดับที่เก้าเดินขึ้นมาถึงลานเลือกเทพสวรรค์ลี่หยางก็เปิดปากพูดขึ้นทันที “โจวหยุนห่าว มาหาเทพสวรรค์ผู้นี้แล้วข้าจะทำการสั่งสอนเจ้าอย่างดี”
เทพสวรรค์เฉิงเฟิงที่ได้ยินจึงกล่าวขึ้นตาม “โจวหยุนห่าว ศิษย์ผู้อยู่ใต้การดูแลของเทพสวรรค์ผู้นี้ต่างได้กลายเป็นยอดคนชื่อสะท้านแผ่นดินสิ้น หากเจ้าเลือกที่จะติดตามเทพสวรรค์ผู้นี้แล้วข้าสัญญาเลยว่าอนาคตของเจ้าจะต้องสดใสอย่างแน่นอน”
นอกจากคนทั้งสองแล้วแน่นอนว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายก็พูดชักชวนขึ้นมาตามๆ กัน
โจวหยุนห่าวได้แต่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าลังเลไม่น้อย แต่สายตาของเขาก็ยังไม่อาจจะละจากรูปภาพใบหน้าของเย่หยวนได้
ทุกผู้คนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกตื่นตะลึงไม่น้อย ดูท่าแล้วโจวหยุนห่าวคนนี้เองก็คงคิดจะเข้าไปกราบเย่หยวนเช่นกัน
แต่เย่หยวนคนนี้มันมียาวิเศษใดที่สามารถทำให้เหล่ายอดคนยอดอัจฉริยะทั้งหลายนี้หันหน้าหนีเหล่าอาณาจักรบรรพกาลและไปเลือกตัวเขาแทน?
ไม่นานนักนอกจากเทพสวรรค์อาณาจักรบรรพกาลทั้งสองคนแล้วเหล่าปรมาจารย์ทั้งสิบเอ็ดก็ได้แสดงท่าทีต้อนรับออกมาสิ้น พยายามที่จะชักชวนโจวหยุนห่าวเข้าไปหาตน
มีเพียงเย่หยวนเท่านั้นที่ปิดปากเงียบไม่พูดใดๆ ราวกับว่าเรื่องราวในวันนี้มันไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับตัวเขา
เย่หยวนนั้นเข้าใจอยู่เต็มอกว่าที่เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายมีท่าทางเช่นนี้มันคงเป็นเพราะฝีมืออันเหนือล้ำของหนิงซืออวี๋แน่แล้ว
ตราบเท่าที่คนผู้นั้นยังพอมีสมองบ้าง พวกเขาก็ย่อมจะเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นมีศาสตร์การสอนที่ยอดเยี่ยม สามารถสั่งสอนผู้คนได้เก่งกาจกว่าเหล่ายอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลทั้งหลายมาก
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งโจวหยุนห่าวก็ยังหันไปเลือกเย่หยวนตามคนอื่นๆ
เท่านี้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยิ่งตื่นตะลึง
ตอนนี้มันถึงขนาดที่ว่าปรมาจารย์บางคนได้สัญญาต่างๆ ไว้เป็นมั่นเหมาะ แต่โจวหยุนห่าวกลับยังเลือกเย่หยวน!
ตอนนี้อันดับที่เก้าก็ยังไปทางนั้น!
อันดับที่สิบ!
…
อันดับที่ยี่สิบ!
เหล่าจอมเทพโอสถห้าดาวทั้งยี่สิบคนนั้นได้เลือกเย่หยวนจนสิ้น
นั่นมันทำให้เหล่าปรมาจารย์และเทพสวรรค์ทั้งหลายตื่นตะลึงจนตาแทบถลนออกจากเบ้า
เรื่องราวเช่นนี้มันเพิ่งจะเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในงานชุมนุมโอสถเมฆา
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียต่อให้เทพสวรรค์ดันหยู่ที่เป็นถึงยอดคนอาณาจักรบรรพกาล ในงานครั้งก่อนๆ เหล่ายอดอัจฉริยะอันดับล่างๆ ก็ยังไม่กล้าที่จะเลือกตัวเขา จึงได้หันไปเลือกเหล่าปรมาจารย์ที่มีฝีมือรองๆ ลงไป
แต่ครั้งนี้คนทั้งยี่สิบกลับเลือกเข้าหาเย่หยวนอย่างไม่มีข้อยกเว้น!
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมน่าตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ
เทพสวรรค์เปียวหยูเองก็ได้แต่หันมามองเย่หยวนอย่างมึนงง สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย
มันมิใช่ว่าเขาจะอิจฉาใดๆ เพียงแค่ว่าสงสัย
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขาที่ชนะยอดคนอันดับหนึ่งแห่งเดนใต้มานี้กลับไม่มียอดอัจฉริยะคนใดคิดเลือกเขาแม้แต่คนเดียว
“นี่มัน… มันเพราะอะไรกันแน่?”
“ไม่เข้าใจ! ไม่สามารถจะเข้าใจได้เลยจริงๆ! ต่อให้ตัวเขาจะเป็นยอดคนอัจฉริยะล้ำฟ้าปานใดแต่สุดท้ายตัวเขาในตอนนี้ก็ยังเป็นแค่จอมเทพโอสถหกดาว ทั้งยังมีเต๋าโอสถไม่ถึงอาณาจักรบรรพกาลด้วย แต่ทำไมเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายถึงไม่คิดเลือกพี่ดันหยู่หรือพี่เปียวหยูสองยอดเทพสวรรค์นี้กัน?”
“หรือว่าเจ้าเด็กน้อยทั้งหลายนี้มันจะสมองเพี้ยนกันไปหมดแล้ว?”
…
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นย่อมไม่อาจจะทนความสงสัยได้เริ่มตั้งคำถามกันออกมาอย่างไม่ลดละ
เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนั้นย่อมไม่ได้คิดสนใจการรับศิษย์ใดๆ มากมาย สิ่งที่สำคัญจริงๆ ของพวกเขามันคือการประชุมยอดโอสถ
ส่วนเรื่องของการแข่งงานชุมนุมโอสถเมฆานั้น พวกเขาทั้งหลายย่อมจะเข้าใจกันมาแต่แรกว่าใครเก่งกาจโดดเด่น
แต่มีหรือที่พวกเขาจะคาดฝันว่าเหล่ายอดอัจฉริยะหนุ่มสาวทั้งหลายจะเปลี่ยนไปได้เพราะเด็กสาวแค่คนหนึ่งนั้น?
เทพสวรรค์ผู้ทำหน้าที่ดำเนินงานนั้นตื่นตะลึงอย่างมากเพราะเรื่องราวเช่นนี้มันไม่เคยจะเกิดขึ้นมาก่อน
เขานั้นได้แต่หายใจเข้าลึกและพยายามกดความตกตะลึงใดๆ ไว้และเริ่มเรียกชื่อต่อไปออกมา “ต่อไป สายหกดาว หยุนยี่”
สายหกดาว หยุนยี่ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาบนลาน
ทุกผู้คนรู้ดีว่างานเลือกที่แท้จริงมันจะเริ่มขึ้นในเวลานี้แล้ว
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเหล่ายอดอัจฉริยะจากสายห้าดาวมันก็เป็นแค่ได้จอมเทพโอสถห้าดาว ยังต้องใช้เวลาบ่มเพาะเลี้ยงดูอีกนานแสนนาน
แต่สายหกดาวนั้นแตกต่างไปคนละขั้ว เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนี้คือผู้คนที่สามารถลงงานสนามจริงได้ในทันที
ตราบเท่าที่พวกเขาถูกเลี้ยงดูดีพอ มันก็อาจจะให้กำเนิดจอมเทพโอสถเจ็ดดาวขึ้นมาได้ไม่ยาก
ตอนนี้แม้แต่เหล่าปรมาจารย์ทั้งก็ยังพยายามหันมาตั้งหลักกันใหม่ เตรียมตัวพูดชักชวนเต็มแรง
แต่เรื่องของหยุนยี่นั้นมันย่อมไม่มีใครคิดจะชักชวนใดๆ
เพราะเขาผู้นี้คือเหลนของเทพสวรรค์ดันหยู่ หากยังพอมีสมองเหลือติดหัวอยู่บ้างก็น่าจะรู้ได้ไม่ยากว่าเขาต้องเลือกเทพสวรรค์ดันหยู่ เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่แน่นอนอย่างไม่ต้องไปเสียแรงคิดใดๆ
“ยี่เอ๋อ มานี่” เทพสวรรค์ดันหยู่ร้องบอก
พูดไปเขาก็หันไปเชิดหน้าใส่เย่หยวนไปด้วย
แค่เด็กน้อยห้าดาว ไม่มีใครเลือกแล้วมันจะทำไม?
ตัวเขา ดันหยู่ผู้นี้มีแค่หยุนยี่ เหลนผู้นี้มันก็มากพอแล้ว
หยุนยี่นั้นเป็นเด็กหนุ่มที่เขาเอ็นดูมากที่สุด มีพรสวรรค์เหนือล้ำผู้คนในรุ่นเดียวกันไปอย่างมาก
แน่นอนว่าหากไม่นับสัตว์ประหลาดอย่างเย่หยวนผู้นี้
แต่หยุนยี่นั้นไม่ได้เดินเข้าไปหาภาพของเทพสวรรค์ดันหยู่แต่อย่างใด เวลานี้เขาได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างไม่กล้าจะก้าวเดิน
เทพสวรรค์ดันหยู่ที่เห็นจึงขมวดคิ้วแน่นทันทีก่อนจะถามขึ้น “ยี่เอ๋อ?”
ในเวลานี้สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่หยุนยี่
เพราะในงานชุมนุมโอสถเมฆานี้ เหล่าผู้ชนะจากสายหกดาวนั้นล้วนย่อมจะกลายเป็นเป้าหมายตาของเหล่าค่ายสำนักต่างๆ ทั้งหลาย
ในตอนนี้เพราะท่าทางของหยุนยี่มันจึงทำให้พื้นที่รอบๆ ปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัด
แต่ดูท่าแล้ว บางอย่างมันไม่ถูกต้อง!
จู่ๆ หยุนยี่ก็สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเทพสวรรค์ดันหยู่และกล่าว “ท่านทวด ขออภัยด้วย ยี่เอ๋อหวังที่จะเข้ากราบเย่หยวนเป็นอาจารย์ หวังว่าท่านทวดจะปล่อยให้เหลนได้ทำตามต้องการ!”
“หา?!”
เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นแทบลุกกระโดดขึ้นพร้อมดวงตาที่เบิกกว้าง
คนอื่นใดจะเลือกเย่หยวนมันก็ไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้แม้แต่เหลนแท้ๆ ของเขายังหันไปเลือกเย่หยวนด้วยอีกคน มีหรือที่ตัวเขาจะไม่ตื่นตกใจได้?
ตอนนี้มันมิใช่เพียงแค่เทพสวรรค์ดันหยู่เท่านั้น ทุกผู้คนต่างเบิกตากว้างมองดูหยุนยี่อย่างไม่คิดอยากเชื่อหูของตน
เหลนแท้ๆ ของเทพสวรรค์ดันหยู่กลับหันไปเลือกศัตรูของทวดอย่างเย่หยวน มีหรือที่ผู้คนทั้งหลายจะไม่แปลกประหลาดใจ?
“เจ้า… เจ้าเหลนไม่รักดี!” เทพสวรรค์ดันหยู่ยกมือขึ้นมาชี้ว่าหยุนยี่พร้อมร่างกายที่สั่นเทาโกรธเคืองจนถึงขีดสุด
หยุนยี่นั้นยังคงมีใบหน้าใจเย็นไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา “ท่านทวด เหลนนั้นไม่รักดีก็จริง แต่หวังว่าท่านทวดจะเข้าใจถึงความรักที่เหลนมีต่อเต๋าโอสถ”
พูดจบหยุนยี่ก็ได้เดินเข้าไปที่แถวของเย่หยวนอย่างไม่ลังเลใดๆ อีก
ไม่มีคำดูถูก ไม่มีคำกล่าวว่าใดๆ แต่การกระทำนี้ของหยุนยี่มันทำให้ทุกผู้คนตื่นตะลึง
ด้วยท่าทางเช่นนี้ของหยุนยี่แล้วตัวเลือกของคนต่อๆ ไปเองมันจึงไม่มีใครคิดประหลาดใจอีก
ตอนนี้ยี่สิบอันดับแรกของสายห้าดาวและหกดาว รวมสี่สิบคนกลับไปยืนอยู่ต่อหน้ารูปของเย่หยวนจนสิ้น
ส่วนปรมาจารย์ทั้งหลายอีกสิบสามคนนั้นกลับไม่มีแม้แต่เงาของศิษย์ใดๆ
มันทำให้ทั้งลานกว้างปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน
ทุกสายตาในเวลานี้ต่างจ้องมองไปที่เย่หยวนอย่างพร้อมเพรียง
ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้ลุกขึ้นท่ามกลางสายตาผู้คนและเปิดปากกล่าวขึ้น “ซืออวี๋”
หนิงซืออวี๋ที่ได้ยินก็แสดงท่าทางตื่นเต้นดีใจออกมาก่อนจะก้าวขึ้นไปคุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวน
“นายท่าน!”
เย่หยวนพยักหน้ารับและกล่าว “พันปีมานี้เจ้าได้ติดตามข้า ช่วยข้าในการหลอมโอสถมามากมาย วันนี้ข้าจะขอรับเจ้าเข้าเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการแล้ว เจ้าจะยอมรับหรือไม่?”
……………………