Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2239 หายกัน
เสียงกรีดร้องนั้นมันดังลั่นจนทำให้ตัวถ้ำต้องสั่นสะเทือน
น้ำลายตัวเขมือบวิญญาณมากขนาดนี้มันพอที่จะฆ่าสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้นับสิบ!
เขานั้นมีแรงพอจะต้านปัดน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณออกตอนที่อยู่ในค่ายกล แต่ด้วยสภาพของเขาในเวลานี้แล้วมีหรือที่จะยังต่อต้านเวลาชะงักของเย่หยวนได้?
เวลานี้ร่างของเขานั้นค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็หายไปพร้อมเสียงร้องที่เสียดแก้วหูผู้คน
เย่หยวนนั้นหยิบขวานดำของจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางและเก็บเจ้าสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ไป
แม้ว่าตัวเย่หยวนจะไม่ใช้ขวานเป็นอาวุธ แต่จะอย่างไรมันก็คือสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่มานี้ต่างก็ล้วนจะมีแผนการในใจสิ้น แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างการต่อสู้กับสามราชันค้างคาวปีกเลือด แต่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางก็ยังออมมือไว้มาก
แต่ในเวลานี้ทางตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเองก็ได้มาถึงจุดที่ไม่อาจทนรับยื้อร่างไว้ได้ไหวแล้ว
จักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวนั้นย่อมจะมีพลังชีวิตที่เหนือล้ำกว่าจะคาดเดา
เขานั้นแม้จะโดนพิษไปมากที่สุด แต่ก็ยังทนอยู่ได้นานที่สุด!
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างมองดูเย่หยวนพร้อมสูดหายใจเข้าอยากเย็นเยือก
เจ้าหมอนี่มันน่ากลัวจนเกินไป!
“เมื่อกี้มัน…. คำบัญชาเต๋าสวรรค์เรอะ?”
“จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางไม่ได้ตายเปล่า! เขานั้นได้ทำให้พวกเรารู้ถึงไม้ตายที่แท้ของเย่หยวน สิ่งที่เย่หยวนเคยใช้ออกมาก่อนหน้านี้มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของพลังเท่านั้น!”
“แค่พลิกฝ่ามือก็สังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปถึงห้าคน ส่วนอีกสองคนก็บาดเจ็บสาหัส! น-น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
…
เหล่าผีเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างเป็นผีเฒ่าอยู่บนโลกมานานนับหมื่นๆ แสนๆ ปี แต่ประสบการณ์ทั้งชีวิตของพวกเขามันก็ไม่อาจเทียบเรื่องที่ได้เจอในวันนี้
เป็นวันนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังไม่ได้เก่งกาจล้ำฟ้า
เย่หยวนค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง
“เด็กน้อย จักรพรรดิผู้นี้จะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งกล่าวออกมาด้วยสายตาเคียดแค้น
มุมปากของเย่หยวนขยับยิ้มขึ้นมาอย่างไม่คิดสนใจ
คำขู่ของคนใกล้ตายนั้นมันจะมีค่าใด?
แต่เป็นทางโคมผีผสานระกานี้ต่างหากที่เย่หยวนสนใจ
“ปล่อย!”
ในเวลานั้นเองจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็ได้เลิกที่จะดิ้นรนและจบชีวิตของตนลงด้วยอาวุธของตนเอง
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง ตายลง!
ทุกผู้คนในที่นั้นต่างสั่นสะท้านไปทั้งใจ แม้ว่าพวกเขาจะคาดเดาได้ตั้งแต่แรกที่เห็นเรื่องราวแต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วหลายคนก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้น
ไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็คือจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาว!
ตัวเย่หยวนเองนั้นไม่คิดสนใจการฆ่าตัวตายนี้มากมายและเดินตรงเข้าไปหาโคมผีผสานระกา
แต่ก่อนที่มือของเขานั้นจะจับถึงโคมผีผสานระกามันก็เกิดเสียงระฆังดังขึ้น!
พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีเสียงหนึ่งตะโกนร้องบอก “พี่เย่ระวัง! จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นยังไม่ตาย!”
เวลานี้ไม่เหลือเวลาให้คิดใด เย่หยวนรีบใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาจนถึงขีดสุดหายหลบไปในทันที
ตู้ม!
ที่ที่เย่หยวนยืนอยู่นั้นมันถูกคลื่นแสงสีแดงเลือดพุ่งปะทะเข้า
จากห้วงมิติก็ค่อยๆ กลับคืนสู่ความปกติ
“อ่อก!”
ต่อให้เย่หยวนจะเร็วปานใด แต่เขาก็ยังได้รับความเสียหายจากการโจมตีนี้
เขานั้นหรี่ตาลงมองตรงไปยังโคมผีผสานระกานั้น
จากนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งค่อยๆ ลอยออกมาจากโคมผีผสานระกา แล้วจะเป็นใครไปได้นอกจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง?
เขานั้นมองดูเย่หยวนด้วยสายตาอาฆาต “ที่แท้นี่คือพลังของเจ้า เราทั้งหลายถูกเจ้าหลอกสิ้น!”
พลังแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เย่หยวนใช้ออกมานี้มันคือพลังของระดับหกขั้นสุด
แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายก็คงไม่อาจเทียบเคียงกับมันได้
การโจมตีลอบสังหารนี้กลับถูกเย่หยวนหลบไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นได้แต่ต้องเดือดดาลอยู่ในใจ!
เย่หยวนมองดูที่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งด้วยสีหน้ามืดดำ
เจ้าหมอนี่มันกลับลุกขึ้นมาจากความตายได้!
แต่เวลานี้พลังของเขานั้นมันอ่อนแอลงกว่าแต่ก่อนมาก มีพลังเหลือเพียงระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวเท่านั้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นยังคงยืนนิ่งไม่ลงมือใด ดูท่าเขาเองก็คงกังวลเรื่องของเย่หยวนอยู่ไม่น้อย
น้ำลายตัวเขมือบวิญญาณนั้นมันถูกหลอมจนสุดรุนแรง หากเขาถูกมันอีกครั้งแล้วเขาคงไม่อาจจะสู้ต่อไปได้แน่
“จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง (เก้าชีวิต)! หึๆ ดูท่าข้าจะประเมินนามของเจ้าต่ำไป!” เย่หยวนหัวเราะขึ้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเองก็หัวเราะขึ้นมา “โคมผีผสานระกานี้มันเก็บวิญญาณได้ถึงแปดส่วน! แต่ละส่วนนั้นก็คือหนึ่งชีวิตของข้า จักรพรรดิผู้นี้ย่อมมีชีวิตรวมเก้าชีวิต ไม่เช่นนั้นแล้วจักรพรรดิผู้นี้จะไปเอานามเช่นนั้นมาจากที่ใดเล่า?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เป็นเช่นนั้น! ข้าฆ่าเจ้าไปหนึ่งชีวิตแล้ว ถือว่าเราหายกัน หากเจ้ายังคิดหาเรื่องเย่ผู้นี้อีก เย่ผู้นี้ขอรับรองเลยว่าไม่ว่าจะกี่ชีวิตมันก็ไม่พอ!”
คำขู่!
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งหรี่ตาลงมองเงียบปากไปพักใหญ่ก่อนจะหันไปหาตัวหวู่เจียง
“เจ้ารู้ไม้ตายของจักรพรรดิผู้นี้?”
คนที่เตือนเย่หยวนออกมานั้นมันย่อมจะเป็นตัวหวู่เจียงนี้แล้ว
หวู่เจียงหน้าซีดลงเล็กน้อยก่อนจะตอบไป “ก่อนนั้นท่านและจักรพรรดิเทพสวรรค์หลิงโหย่วได้ต่อสู้เพื่อแย่งข่ายเงินแก่นโลหิต สุดท้ายก็ตายลงทั้งคู่ เรื่องนั้นหวู่ผู้นี้ได้เห็นมันกับตา! แต่ทว่าสุดท้ายท่านกลับลุกขึ้นมาเอาข่ายเงินแก่นโลหิตไปและบรรลุขึ้นอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวได้ในที่สุด!”
เมื่อทุกผู้คนได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องเบิกตากว้าง
จักรพรรดิเทพสวรรค์หลิงโหย่วนั้นเป็นสุดยอดฝีมือไร้ต้านที่สามารถออกมาจากบ่อโลหิตอสุราได้แต่สุดท้ายก็ต้องมาตายลงที่ด้านนอก
พวกเขาก็ไม่นึกไม่ฝันว่าเหตุที่ทำให้ยอดคนเช่นนั้นตายลงมันจะเป็นเพราะตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง
โคมผีผสานระกานี้มันเป็นสุดยอดสมบัติอย่างไม่ต้องสงสัย!
จักรพรรดิเทพสวรรค์หลิงโหย่วตายลงแต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งกลับได้ข่ายเงินแก่นโลหิตไปและก้าวขึ้นมาอยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาว
น่าเสียดายที่ว่าครั้งนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งไม่ได้ประโยชน์ใดจากความตายและยังต้องเสียพลังบ่มเพาะลงไปถึงหนึ่งดาว
เพราะสุดท้ายแล้วบัวดอกโลหิตมันก็ตกเป็นของเย่หยวน
คงพูดได้แค่ว่ามันเป็นการเสียค่าโง่อย่างไร้ประโยชน์ใด!
เย่หยวนเดินเข้ามาหาตัวหวู่เจียงก่อนจะกล่าว “ก่อนหน้านี้ต้องขอบคุณพี่หวู่มาก เย่ผู้นี้ติดค้างเจ้าแล้ว”
พูดจบเย่หยวนก็หยิบเอาบัวดอกโลหิตออกมาใช้ดาบฝ่าลงตรงกลางเป็นมันเป็นสองส่วน
จากนั้นเขาก็ยกครึ่งหนึ่งของมันขึ้นมาให้แก่หวู่เจียง “บัวดอกโลหิตครึ่งหนึ่งนี้ข้าขอมอบมันให้แทนคำขอบคุณ”
เหล่าเทพสวรรค์รอบๆ ต่างเบิกตากว้างขึ้นอย่างอิจฉา
แค่คำพูดเดียวก็แลกบัวดอกโลหิตได้ถึงครึ่งดอก มันจะสบายเกินไปแล้ว
หวู่เจียงนั้นได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “แท้จริงแล้วต่อให้ข้าไม่เตือน พี่เย่เองก็คงปลอดภัยดี บัวดอกโลหิตนี้ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก!”
มันมิใช่ว่าตัวหวู่เจียงนั้นเป็นสุภาพบุรุษทำดีไม่หวังผลใด แต่มันเป็นเพราะว่าตัวเขานั้นได้เห็นวิชาที่เย่หยวนแสดงออกมาอย่างมากมาย ไม้ตายที่ไร้สิ้นสุดทำให้เขาไม่กล้าจะประมาทเย่หยวนใดๆ อีก
ในตอนแรกๆ นั้นเขาแค่รู้สึกว่าเย่หยวนไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้นจึงได้คิดอยากร่วมมือด้วย
แต่ระหว่างทางมาเย่หยวนกลับได้ผ่านความยากลำบากทุกสิ่งอย่าง ภายใต้อาณาจักรเทพสวรรค์นี้คงไม่มีใครต้านเขาได้!
เวลานี้เขายังก้าวออกมากำจัดเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปได้ถึงห้าคนในคราเดียว!
ความเก่งกาจในขนาดนี้มันทำให้ตัวเขาต้องมองโลกหล้าด้วยมุมใหม่
ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นแล้วว่าเย่หยวนนั้นปล่อยพลังแนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาป้องกันตัวเองไว้
เพราะฉะนั้นต่อให้จะไม่มีคำเตือนของเขา เย่หยวนก็คงไม่เป็นอะไรไปมากมาย
อย่างมากก็คงบาดเจ็บหนักกว่านี้หน่อย
เพราะฉะนั้นมันมิใช่ว่าเขาไม่อยากได้บัวดอกโลหิตครึ่งดอกนี้ แต่เขาไม่กล้าจะรับมันไว้
หากได้บัวดอกโลหิตครึ่งดอกนี้ไปแล้วด้วยความสามารถพรสวรรค์ของเขานั้นมันคงช่วยเพิ่มโอกาสให้เขาบรรลุขึ้นระดับแปดได้
แต่เย่หยวนกลับยัดบัวดอกโลหิตเข้าใส่มือของหวู่เจียง “เย่ผู้นี้มองเรื่องราวที่กระบวนการ ไม่ได้มองแค่ที่ผลลัพธ์ เจ้าสมควรได้มันไปแล้ว!”
ระหว่างทางนั้นเย่หยวนยังไม่ค่อยจะไว้ใจหวู่เจียงมากมาย
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรตั้งแต่ที่ร่วมมือกันมาตัวหวู่เจียงก็ยังไม่ได้ลงมือต่อสู้ใดๆ
แต่ด้วยคำเตือนของเขานั้น มันก็มากพอที่จะมอบบัวดอกโลหิตครึ่งดอกนี้ให้แล้ว!
…………………………