Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2452 ให้ตายเถอะ ถูกหลอกแล้ว!
รูปปั้นเทพเจ้าทั้งแปดตรงหน้านั้นมันเหมือนแฝงไปด้วยพลังเวทมนตร์บางอย่าง
เย่หยวนนั้นมองดูพวกมันและสัมผัสได้ราวกับตัวเองกำลังยืนอยู่หน้าเขาแห่งถงเทียน
รุนแรง!
เป็นพลังที่แสนหนักหน่วงรุนแรง!
แล้วรูปปั้นทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นมาจากสิ่งใดกันแน่?
หากมิใช่เพราะเย่หยวนมีเขาน้อยแห่งถงเทียนติดตัวแล้วตัวเขาคงไม่อาจจะทนทานรับแรงพลังของรูปปั้นทั้งแปดไว้ได้ต้องกก้มหัวลงสุดตัวแน่นอน!
เพราะแม้แต่ตัวที่เย่หยวนปะทะกับเก้าเต๋าบรรพกาลนั้นตัวเขาก็ยังไม่ได้ใช้พลังของเขาน้อยแห่งถงเทียนออกมาแม้แต่น้อย!
รูปปั้นทั้งแปดนี้มันช่างลึกล้ำจนเกินกว่าจะเข้าใจ
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจใดๆ เทียนชิงและเดินเข้าไปมองดูรูปปั้นทั้งแปดนั้นในระยะใกล้ขึ้น
รูปปั้นทั้งหลายนี้มันต้องเป็นกุญแจในการแก้ไขเรื่องของลี่เอ๋ออย่างแน่นอน!
จากนั้นเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปด้านหน้าของรูปปั้นที่หนึ่ง
รูปปั้นนี้มันมีท่าทางรูปร่างดุร้ายแยกเขี้ยวกางเล็บพร้อมถือสามง่ามไว้ราวกับเป็นมารจากนรกขุมใด
เย่หยวนค่อยๆ เดินก้าวเข้าไปเรื่อยๆ จนสัมผัสถึงพลังของรูปปั้นได้หนักแน่นขึ้นกว่าเก่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีหน้าของรูปปั้นนั้นที่มันดูเหมือนว่ากำลังไม่พอใจอย่างมาก
มันเหมือนว่าตัวรูปปั้นนั้นกกำลังเดือดดาลที่เจ้ามดปลวกตัวนี้กลับกล้าทำตัวโอหังต่อหน้ามัน!
เทียนชิงเองก็มองดูเรื่องราวอยู่ห่างๆ อย่างไม่คิดไปห้าม
เยวี่ยเมิ่งลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านเทียนชิง เขา…”
เทียนชิงยกมือขึ้นมากั้นตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ไว้ “ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไรและข้าก็รู้ด้วยว่าเจ้ายังรักมันไม่น้อย แต่นี่มันคือสิ่งที่ตัวมันเลือกเอง! ที่สำคัญไปกว่านั้นแม้ว่าบรรพกาลผู้นี้จะไม่เกรงกลัวมันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าอยากให้ฝ่ายมนุษย์มีตัวตนระดับข้าขึ้นมา! เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
เยวี่ยเมิ่งลี่กัดฟันแน่นหลับตาลง
แม้ว่านางจะเป็นชาวเผ่าเทวาอย่างแท้จริงไปแล้ว มีความภักดีต่อเผ่าเทวามากมายปานใดแต่นิสัยและความทรงจำของนางมันก็ไม่ได้หายไปไหน
นางนั้นยังเป็นเยวี่ยเมิ่งลี่!
นางนั้นยังคงรักเย่หยวนสุดใจ
แต่ก็เพราะว่านางรู้จักเย่หยวนดีและรู้ว่าเขาจะไม่มีทางทิ้งเผ่ามนุษย์เพียงแค่เพราะตัวนาง
ตัวนางเองก็ไม่อาจจะกลับไปอยู่กับเย่หยวนและทิ้งเผ่าเทวาไปเช่นกัน
นั่นจึงทำให้นางตัดสินใจกดความรู้สึกที่มีไว้ในใจ
แต่เมื่อความเป็นความตายมาอยู่ตรงหน้าเย่หยวน ตัวนางก็ยังอดห่วงไม่ได้
เย่หยวนนั้นยังคงก้าวเดินเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวจนทำให้โถงถ้ำเริ่มสั่นสะเทือน
ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งเขาก้าวเข้าไป แรงสั่นมันก็ยิ่งรุนแรง!
เย่หยวนนั้นใช้พลังของเขาน้อยแห่งถงเทียนจึงไม่ได้เกรงกลัวใดๆ รูปปั้นทั้งหลายนี้
แม้จะเผชิญพลังกดดันจากรูปปั้นทั้งแปดแต่ตราหยินหยางมันก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมต่อสู้ขัดขืนกับพลังทั้งหลายนั้น!
แต่ยิ่งขัดขืนแรงกดดันของแปดรูปปั้นมันก็ยิ่งเพิ่มพูน
เวลานี้แม้แต่ตัวเทียนชิงก็ยังต้องขมวดคิ้วแน่น “เจ้าเด็กคนนี้มันกลับยังมีพลังพอที่จะต่อต้านแปดจอมเทพ! แต่ที่มันกล้าไปท้าทายแปดจอมเทพนี้ก็เท่ากับว่ามันรนหาที่ตายให้ตัวเองแล้ว!”
ใช่แล้ว เย่หยวนนั้นกำลังท้าทายรูปปั้นทั้งแปดอยู่!
เพราะหากคิดอยากรู้ความลับของรูปปั้นเทพเจ้านี้ วิธีตรวจสอบทั่วๆ ไปมันคงไม่ได้ผลใด
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงอยากจะเห็นว่าพลังของรูปปั้นทั้งแปดนี้มันมีที่มาจากนรกขุมใด!
เพียงแค่ว่าสำหรับพวกเทียนชิงแล้วภาพการเล่นไฟตรงหน้านี้มันมีแต่จะทำให้ตัวของเขามอดไหม้
ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าใดเย่หยวนก็ยิ่งต้องแบกรับแรงกดดันมากเท่านั้น
รูปปั้นทั้งแปดนี้เริ่มไม่พอใจจนถึงขีดสุด
จนทำให้ทั้งโถงถ้ำนั้นสั่นไหวแทบไม่อาจยืนตรงได้อีก
ครืน…
วินาทีนั้นเองที่รูปปั้นทั้งแปดได้ส่องแสงขึ้นมาส่องสว่างทำให้โถงถ้ำนี้มันแทบกลายเป็นกลางวันไป
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ได้ปรากฏคลื่นพลังรุนแรงขึ้นด้านบนโถง
คลื่นพลังดึงดูดนี้มันสุดแสนที่จะรุนแรง
ร่างกายของเย่หยวนนั้นไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นกลับกำลังจะไหลหลุดออกจากร่างไป
เย่หยวนตกตะลึงไปทั้งกายใจคิดอยากจะมุดห้วงมิติหลบเลี่ยงไป
แต่ว่าพลังดึงดูดจากด้านบนนั้นมันกลับรุนแรงจนเขาไม่อาจจะไปที่ใดได้
เขาได้มาแหย่รังแตนอย่างแท้จริงแล้ว!
พลังของรูปปั้นทั้งแปดนั้นมันรุนแรงกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก
เมื่อเทียนชิงได้เห็นเรื่องราวตัวเขาก็ยังต้องอ้าปากค้าง
เพราะนี่เองก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นรูปปั้นเทพเจ้าโกรธเคืองปานนี้
ส่วนตัวพวกเขาทั้งสามนั้นไม่ได้สัมผัสพลังดูดกลืนใดๆ มากมาย
เผ่าเทวานั้นผสานกายและใจเป็นหนึ่ง แรงดึงดูดนี้จึงไม่อาจจะเล็งเป้าพวกเขาได้
แต่ว่าสีหน้าของเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันแทบจะพุ่งเข้าไปดึงร่างของเย่หยวนออกมา
เพราะก่อนหน้านี้ที่นางยังไม่ทำอะไรมันเป็นเพราะว่านางรู้ว่าเย่หยวนเอาตัวเองรอดเสมอ
แต่เวลานี้นางกลับไม่อาจทนดูมันได้อีกต่อไป
แต่ว่าพลังรุนแรงสายหนึ่งได้เกิดขึ้นมาจากด้านหลังทำให้ตัวนางไม่อาจจะขยับตัวใดๆ ได้
เทียนชิงนั้นย่อมจะไม่ปล่อยให้นางเข้าไปขวาง!
“ท่านเทียนชิง!” เยวี่ยเมิ่งลี่หันมาร้อง
เทียนชิงตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เจ้าคิดจะต่อต้านแปดจอมเทพหรือ?”
แปดจอมเทพนั้นคือนามของรูปปั้นทั้งแปดนี้
เยวี่ยเมิ่งลี่ที่ได้ยินก็เกิดลังเลขึ้นมาได้แต่หันมองดูเย่หยวนอย่างร้าวใจ
ส่วนอีกด้านตัวเย่หยวนเองก็ได้เห็นเรื่องราวทั้งหมดจนต้องยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก
ลี่เอ๋อนั้นยังคงเป็นลี่เอ๋อจริงๆ!
แค่นี้มันก็พอแล้ว!
แม้ว่าเขาจะต้องเจอเรื่องอันตรายปานใด เย่หยวนก็ไม่เสียใจ
เขานั้นไม่คิดถึงความปลอดภัยใดๆ ของตัวเองเพื่อจะช่วยเหลือมู่หลินเสวีย แน่นอนว่าตัวเขาก็ย่อมพร้อมจะทิ้งชีวิตเพื่อลี่เอ๋อเช่นกัน
ไม่นานนักจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนมันก็ถูกดึงออกไปจากร่างเหมือนผักที่ถูกดึงออกจากดิน
ฟุบ!
จิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นพุ่งหายเข้าไปในหลุมดูดนั้นอย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาที
จากนั้นทุกสิ่งอย่างมันก็กลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง
ร่างของเย่หยวนนั้นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างไร้การเคลื่อนไหว
เรื่องนี้ทำให้มีน้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของเยวี่ยเมิ่งลี่
นางนั้นล้มลงกับพื้นราวกับว่าไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ อีกต่อไป
“ฮ่าๆๆ… ตายจริง! เจ้าเด็กคนนี้มันตายจนได้! คิดท้าทายเหล่าจอมเทพ? สมน้ำหน้ามัน!” แต่เมื่อเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วได้เห็นภาพตรงหน้านั้นเขากลับหัวเราะลั่นขึ้นมาอย่างสะใจ
เดิมทีเขานั้นถูกเย่หยวนปั่นหัวจนแทบสิ้นสติ
ความคับแค้นนับหมื่นๆ ล้านปีนั้นมันกลับมาถูกย้ำแค้นในวันนี้
แต่เวลานี้อีกฝ่ายนั้นกลับถูกแปดจอมเทพจัดการลงไป มีหรือที่เขาจะไม่ดีใจ?
เวลานี้แม้แต่เทียนชิงเองก็ต้องถอนใจยาวเหมือนได้ปลดเปลื้องจากภาระหนักอึ้ง
ดูท่าแล้วเย่หยวนคงเป้นตัวตนที่กดดันเขาได้ไม่น้อย
เวลานี้เมื่อเย่หยวนตายลงแล้ว เขาย่อมจะทำอะไรต่อเผ่ามนุษย์ได้อย่างไร้กังวลใด
“หมี่ลั่ว ทำลายร่างของมันเสีย จะได้ถือเป็นการปิดฉากความอับอายหมื่นล้านปีของเจ้าไปเสียด้วย” เทียนชิงสั่ง
“หึๆ ได้!” เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย
หมื่นล้านปีแห่งความคับแค้นทำให้เขานั้นแทบเสียสติ
เวลานี้เมื่อได้มีโอกาสสะสางเขาย่อมจะรับอย่างเต็มใจ
เขานั้นค่อยๆ เดินเข้าไปหาเย่หยวนพร้อมด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
เย่หยวนนั้นยังคงยืนตรงท่าเดิมก่อนที่จิตศักดิ์สิทธิ์จะหลุดจากร่างไป
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วค่อยๆ เข้าไปใกล้ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นมาโจมตีไปอย่างรุนแรง
หากฝ่ามือนี้กระทบลงแล้วร่างกายของเย่หยวนนั้นคงแหลกเละเป็นแน่
“ฮี่ๆ เด็กน้อย ใครสั่งสอนให้เจ้ามาอวดอ้างตัวเล่า! นักบุญฟ้าครามมันเก่งกาจมาก? เผ่าเทวานั้นคือเผ่าที่ได้รับเลือกจากสวรรค์! เจ้าไปท้าทายแปดจอมเทพมันก็เท่ากับท้าทายสวรรค์! มีหรือที่สวรรค์จะปล่อยตัวเจ้าไว้? ไปตายเสียเถอะ!”
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วตบฝ่ามือลงด้วยเสียงหัวเราะมุ่งหมายทำลายหัวเย่หยวน
แต่ในวินาทีนั้นเองที่เย่หยวนกลับเอียงคอหลบ
พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างเป็นสีขาวขุ่น!
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วที่มาถึงอย่างผู้มีชัยนั้นเวลานี้ต้องกระโดดสะดุ้งตัวขึ้นทันที
เขานั้นกระโดดขึ้นจริงๆ!
“ให้ตายเถอะ ถูกหลอกเสียแล้ว!” เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วร้องขึ้นมาด้วยเสียงหลงก่อนจะพลิกตัวถอยมา
เทียนชิงเองก็เปลี่ยนสีหน้ามองดูเย่หยวนด้วยความตกตะลึง “นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
.