Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2752 พัฒนาล้ำ!
“ชนะจริง…ข้าไม่อยากจะเชื่อ!”
“จากรอดไม่ถึงยี่สิบกระบวนท่าจนตอกหน้ากลับจนหงาย หรือว่าเจ้าหมอนี่มันจะไม่มีขีดจำกัดกัน?”
“แล้วพวกเรายังมีหน้าไปดูถูกเขาก่อนหน้าอีก น่าอับอายเสียจริง!”
“บางทีนี่มันอาจจะเป็นความหมายของอัจฉริยะที่แท้จริง!”
จื่อหยางนั้นได้แต่ต้องถอนใจยาวออกมาพร้อมกล่าวยอมรับว่าตนเองมองผิดไป
พวกเขานั้นปกครองทวีปพิรุณใสมานับหมื่นๆ ปี ได้พบเจอเหล่ายอดอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วน
แต่เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นมันต่างเหมือนเป็นแค่หิ่งห้อยน้อยต่อหน้าแสงจันทร์หากเทียบกับเย่หยวนผู้นี้
การที่เย่หยวนเอาชนะซุนฉีไปเมื่อหลายเดือนก่อนมันยังไม่น่าตกตะลึงเท่าภาพตรงหน้านี้
เพราะว่าพวกเขานั้นเข้าใจว่าซุนฉีตอนมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นมันไม่เก่งกาจพอจะเป็นคนรับใช้ของชิวเฉินคนนี้ด้วยซ้ำ!
หนึ่งนั้นเป็นสุดยอดฝีมือในหมู่จักรพรรดิหยก แต่อีกหนึ่งนั้นเก่งกาจพอที่จะรับมือจักรพรรดิเซียนได้! ช่องว่างนี่มันห่างจนไม่อาจเทียบ แต่เย่หยวนนั้นกลับตอกกลับเอาชนะคนระดับนั้นได้ในเวลาสั้นๆ แค่สามเดือนครึ่ง!
ชิวเฉินนั้นมองหน้าเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “เอาชนะข้าตอนเป็นจักรพรรดิหยกมันไม่มีค่าอะไรหรอก! ระบบการฝึกของห้องนี้มันนับตั้งแต่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นไปเท่านั้น! จักรพรรดิหยกไปสู่จักรพรรดิเซียนนั้นมันเป็นช่องว่างที่กว้างใหญ่ เจ้าคิดว่าตัวเองเก่งมากหรือที่ชนะข้าตอนนี้ได้?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “วางใจเถอะ หลังข้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้แล้วข้าจะกลับมาแน่!”
พูดจบเย่หยวนก็เดินออกมาจากห้องและนั่งลงปรับลมหายใจ
แต่ว่าเขานั้นก็ไม่ได้คิดเลือกคนอื่นเป็นคู่ซ้อมใดๆ เขายังคงเลือกชิวเฉินต่อไป
แม้ว่าเขาจะชนะชิวเฉินมาได้แต่ชัยชนะนั้นมันก็ได้มาอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด
แน่นอนว่าหลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็ผลัดกันแพ้ชนะไปเรื่อยๆ
แต่ยิ่งผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่เย่หยวนก็มีความได้เปรียบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงตอนที่รูปแบบที่สี่ของเย่หยวนมันบรรลุขั้นกลางไปแล้ว ชิวเฉินก็ไม่อาจจะเอาชนะเขาได้อีก
เวลานี้การเอาชนะชิวเฉินนั้นมันเป็นเรื่องแสนง่ายสำหรับเย่หยวนแล้ว
นี่มันคือการพัฒนาอย่างเหนือล้ำ!
หลังจากเอาชนะชิวเฉินลงได้สิ้นเชิงแล้วเย่หยวนก็เริ่มขยับไปท้าทายยอดฝีมืออันดับสูงๆ ขึ้นไป
จื่อหยางนั้นได้พบว่าเย่หยวนกลับเอาชนะทุกคนได้สิ้น
จนไปถึงอันดับที่หกสิบสี่ที่เย่หยวนได้เจอคนที่มีฝีมือเทียบเคียงกัน
เป็นตอนนี้เองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจว่าตนคิดผิดไปเรื่องเย่หยวนข้ามอันดับ
เย่หยวนนั้นไม่ได้ข้ามอันดับใดๆ เลย เขานั้นแค่ท้าทายและเอาชนะได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น
พริบตาเดียวเวลามันก็ผ่านไปกว่าสามปี
เวลาสามปีนั้นสำหรับจักรพรรดิหยกและจักรพรรดิเซียนมันย่อมจะเป็นเวลาแค่อึดใจ
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายต่างมองดูเย่หยวนฝึกฝนจนลืมไปด้วยซ้ำว่าผ่านไปถึงอึดใจแล้ว
หลังจากชิวเฉินนั้นเย่หยวนก็เอาชนะมาได้เรื่อยจนถึงอันดับที่สี่สิบเจ็ด!
สามปีมานี้เย่หยวนไม่หลับไม่พักใดๆ และเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง
ศัตรูที่เขาได้เจอนั้นมันมิใช่ว่าจะมีแต่คนอ่อนแอ
กลับกันเลย เขานั้นได้เจอแต่สุดยอดฝีมือที่ไม่มีวันได้พบในทวีปพิรุณใส!
คนที่เข้ามาเป็นศิษย์วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้นั้นมันล้วนเป็นยอดคนมาตั้งแต่สมัยเป็นจักรพรรดิหยก
พวกเขาแต่ละคนนั้นคืออัจฉริยะของสามสิบสามสวรรค์!
หลายคนนั้นเป็นเหมือนชิวเฉิน เอาชนะเย่หยวนได้ขาดลอยในตอนแรก
แต่เย่หยวนนั้นไม่คิดกลัวความพ่ายแพ้และเข้าไปฝึกฝนเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็เอาชนะอีกฝ่ายลงได้ในที่สุด!
ไม่ว่าอีกฝ่ายนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่ว่าเขานั้นจะพ่ายแพ้อย่างหนักหนาเช่นไร แต่เขานั้นก็จะยอมแพ้
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขานั้นยังเข้าต่อสู้เสี่ยงตายทุกครั้ง
ตอนที่เขาต่อสู้กับอันดับห้าสิบเอ็ดจ้าวเยว่เซิงนั้นเย่หยวนต่อสู้กับอีกฝ่ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสติดๆ กันถึงสิบครั้งแต่ละครั้งนั้นเขาบาดเจ็บจนจวนตาย
แต่เมื่อรักษาตัวหายดีแล้วเขาก็จะกระโดดลงไปรนหาที่ตายใหม่อีกครั้ง
ศึกนี้มันทำให้คนทั้งหลายใจหายใจสั่นไปตามๆ กัน
แต่สุดท้ายแล้วเย่หยวนก็สามารถบรรลุรูปแบบที่สี่ขั้นปลายได้ระหว่างต่อสู้และพัฒนาตัวไปจนถึงระดับเหนือล้ำ!
แปลงยอดเต๋ารูปแบบที่สี่นั้นหากคิดจะพัฒนามันย่อมยากเย็นยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงคอขวดของแต่ละขั้นนั้น หากคิดบรรลุสามกฎขึ้นพร้อมกันมันย่อมจะยากเกินจินตนาการ
แต่เย่หยวนนั้นกลับยังคงพัฒนาได้ระหว่างที่ต่อสู้เสี่ยงชีวิตนั้น
สามปีต่อมาการฝึกฝนมันก็หยุดลง
มันมิใช่ว่าเย่หยวนไม่อยากฝึกต่อแล้ว เพียงแค่ว่าผลึกสวรรค์ที่มีมันหมดสิ้นลง
แม้ว่าการฝึกฝนเช่นนี้มันจะเร็วแค่ไหนแต่การให้พลังงานแก่ห้องฝึกที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังเช่นนี้มันก็ต้องใช้ผลึกสวรรค์มากมายด้วย
ตั้งแต่เริ่มบ่มเพาะมาจนถึงวันนี้ เย่หยวนไม่เคยต้องกังวลของผลึกมาก่อนเลย
หลายร้อยปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนเองก็ได้รับผลึกสวรรค์มามากมาย
แต่ผลึกสวรรค์ทั้งหลายนั้นมันหมดลงตั้งแต่ปีก่อน
ปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนจึงได้รีดไถผลึกสวรรค์จากเหล่ายอดฝีมือที่มากจนหมดเกลี้ยง
เท่านี้เขาก็ไม่มีทางจะฝึกฝนได้ต่อแล้ว
เมื่อได้เห็นแสงไฟห้องฝึกฝนดับลงนั้นจื่อหยางก็กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางโล่งใจ “หมดจนได้! หากผลึกสวรรค์มีพอนั้นเขาจะไม่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้เลยหรือ?”
เทียนลู่พยักหน้ากล่าวขึ้นตาม “เป็นไปได้! หรือว่าเจ้าหมอนี่มันจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย? มันต้องมีความตั้งมั่นแค่ไหนกันถึงจะไม่หลับนอนพักผ่อนได้ติดกันนานถึงสามปี?”
“มันหลับแล้ว! มิใช่ว่าเขาไม่เหนื่อย เพียงแค่ว่าเขาฝืนทนไว้เท่านั้น!”
ระหว่างที่คนทั้งหลายพูดกันไปนั้นเย่หยวนก็ฟุบหน้าลงกับพื้น
เมื่อเขาหยุดลงร่างกายของเขาก็ไม่อาจทนรับความเครียดที่สะสมมาได้เช่นกัน
เทียนลู่นั้นได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา “น่ากลัวเสียจริง! พันธมิตรโอสถมันสร้างศัตรูผิดคนแล้ว!”
คนทั้งหลายหันมองหน้ากันด้วยความตกตะลึงสุดหัวใจ
เจ้าหมอนี่มันบ้า!
ฝึกฝนติดกันถึงสามปีอย่างไม่พักไม่นอน มันย่อมจะไม่ได้เหนือกว่าร่างกายของเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์
แต่ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์พลังของพวกเขามันก็มีจำกัด
ภายใต้การฝึกฝนที่หนักหน่วงเช่นนี้ หากต้องฝึกติดกันถึงสามปีแล้วคนส่วนมากคงบ้าไปก่อน
คนที่จะยังมีสติมั่นได้มันคงมีไม่มาก
แต่เย่หยวนนั้นกลับเป็นหนึ่งในนั้น!
สามปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้พัฒนาพลังบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลางสุดแล้วภายใต้การต่อสู้นี้ เขานั้นขาดอีกแค่นิดเดียวก็จะพัฒนาไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นปลายได้
แน่นอนว่าสิ่งที่พัฒนามากที่สุดมันย่อมจะเป็นพลังกฎของเขา
แปลยอดเต๋านั้นมันพัฒนาถึงรูปแบบที่สี่
เวลานี้ต่อให้จะไม่ใช้สมบัติยอดหมอกเขาก็คงเอาชนะจักรพรรดิหยกคนอื่นๆ ได้สิ้นเชิง
เว้นเสียแต่ว่าเขาจะไปเจอยอดอัจฉริยะไร้เปรียบอย่างศิษย์วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตทั้งหลายนี้
แต่หากเขาเอาสมบัติยอดหมอกออกมาใช้แล้ว ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิเซียนเขาก็ยังพอต้านทานไหว!
เย่หยวนหลับไปนานถึงสิบวันเต็ม
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาก็พบว่าคนทั้งหลายได้มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องหมายเลขหนึ่งนี้ครบแล้ว
ต้าหวงเองก็กำลังนั่งเฝ้าเขาอยู่
เย่หยวนมองดูต้าหวงด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลว ดูเหมือนเจ้าจะพัฒนาไปไม่น้อย!”
ต้าหวงยิ้มตอบกลับมา “เทียบกับอาจารย์เย่แล้ว มันยังห่างไกลกันนัก!”
เย่หยวนถามขึ้น “ไปถึงอันดับที่เท่าไหร่?”
“เก้าร้อยเก้าสิบแปด!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ไม่เลว! คนทั้งหลายนี้ต่างเป็นยอดอัจฉริยะของสวรรค์ กำลังฝีมือของพวกเขานั้นมันวัดกันตอนจักรพรรดิหยกไม่ได้มากมายแต่ตอนเป็นจักรพรรดิเซียนแล้วนั้นคือของจริง การที่เจ้าเอาชนะไปได้ถึงสามคนนั้นมันย่อมจะสุดยอดมากแล้ว!”
ต้าหวงหัวเราะขึ้นมาด้วยความพึงพอใจเช่นกัน
สามปีมานี้ต้าหวงเองก็แทบคลั่งไปเช่นกัน
หลายครั้งที่เขานั้นท้อหมดแรงฝึกต่อ
แต่ทุกครั้งที่เขารู้สึกเช่นนั้นเขาก็จะกลับมานั่งมองเย่หยวนที่ห้องหมายเลขหนึ่ง
ได้เห็นความบ้าคลั่งของเย่หยวนนั้น เขาเองก็เริ่มมีไฟกลับขึ้นมาทุกครั้ง
สามปีที่ผ่านมานี้เขามีความคิดแค่อย่างเดียวคือการตามรอยเท้าเย่หยวนให้ได้แม้สักนิดก็ยังดี
ไม่เช่นนั้นแล้ววันหนึ่งเขาคงไม่มีสิทธิ์จะติดตามเย่หยวนไป
และวันนั้นมันก็คงอยู่ไม่ไกลแล้ว
ห้องฝึกฝนนั้นมันจะบันทึกยอดฝีมือผู้เอาชนะไว้ได้และดันคนแพ้ลงอันดับไป
เวลานี้ในห้องฝึกฝนหมายเลขสิบนั้น อันดับที่เก้าร้อยเก้าสิบแปดมันปรากฏชื่อของต้าหวงขึ้นมาชัดเจน
…..