Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2828 เริ่มศึกตัดสินและสถานการณ์สิ้นหวังของสวรรค์แรก!
- Home
- Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ
- ตอนที่ 2828 เริ่มศึกตัดสินและสถานการณ์สิ้นหวังของสวรรค์แรก!
ตอนที่ 2828 เริ่มศึกตัดสินและสถานการณ์สิ้นหวังของสวรรค์แรก!
เวลานี้มีเงาร่างมากมายกำลังพุงตัวผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็ว ศึกใหญ่นี้ถึงเวลาปะทะแล้ว!
เวลานี้มีเงาร่างมากมายกำลังพุงตัวผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็ว ศึกใหญ่นี้ถึงเวลาปะทะแล้ว!
เหล่าคนทั้งหลายนั้นย่อมจะเป็นมหาจักรพรรดิทั้งสิบห้าของทวีปสวรรค์แรก
“นี่เราเอาความหวังไว้ฝากไว้กับเด็กน้อยจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งมันจะไม่เกินไปหน่อยหรือ?” หลู่เฟิงกล่าวขึ้นมา
หลู่เฟิงนั้นคือหนึ่งในสามสุดยอดฝีมือของทัพสวรรค์แรก เป็นรองแค่ตานเฟยและจั่วเฉินเท่านั้น
“แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะร่วมมือกันพันธมิตรมาได้ไม่นานนักแต่ว่าเขานั้นก็ได้สร้างคุณงามไว้มหาศาล! สภาพในตอนนี้นอกจากจะเสี่ยงดวงแล้วมันยังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?”
“หึๆ เว่ยเหลียงก่อนหน้ามาเจ้านั้นเอาแต่ดูถูกเย่หยวนมิใช่หรือ? ทำไมวันนี้ถึงได้กลับตัวขึ้นมาพูดแทนมันเสียแล้วเล่า?” ตานเฟยแทรกขึ้น
เว่ยเหลียงนั้นหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีพร้อมตอบตัดบทไป “ช่างเถอะน่า ข้าแค่เห็นความมั่นใจในดวงตาของไอ้หนูนั่นเท่านั้น!”
หลู่เฟิงที่ได้ยินต้องหัวเราะขึ้น “จักรพรรดิเซียนขั้นกลางคนหนึ่งมันจะทำลายเส้นทางมิติลงได้อย่างไร? คิดอยากทำลายเส้นทางมิติ? มันต้องเป็นกองทัพจักรพรรดิเซียนซักห้าพันกว่าถึงจะพอไหว!”
ตานเฟยพยักหน้ารับ “เรื่องของเย่หยวนนั้นมันก็แค่ความหวังที่เกิดขึ้นมาจากการเดิมพัน ข้าเองก็ไม่ได้หวังมากมายหรอก เพราะแต่แรกเหล่ากองทัพจักรพรรดิทั้งหลายมันก็คงเข้าไปไม่ถึงเป็นแน่ สิ่งที่สำคัญที่สุดมันก็ยังเป็นพวกเรานี้! หากถึงเวลาจริงๆ แล้วข้าจะถ่วงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ของฝ่ายมันไว้สองคน พวกเจ้าคนใดที่มือว่างก็จงรีบมุ่งหน้าไปทำลายเส้นทางมิติเสียเถอะ!”
ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องเงียบปากลง เพราะพวกเขาเข้าใจดีว่านี่ตานเฟยคิดจะแลกชีวิตเพื่อเปิดโอกาสชนะแล้ว!
แต่จู่ๆ มันก็มีเงาร่างมากมายพุ่งตัวขึ้นมาปิดทางคนทั้งสิบห้าไว้
ตานเฟยนั้นกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด “หลี่เหอศึกครั้งนี้ต้องได้ตายกันไปข้างหนึ่ง!”
ผู้ที่นำกลุ่มคนทั้งหลายมานั้นมันคือแม่ทัพสูงสุดของเผ่าเลือดในแดนเหนือหลี่เหอ!
“ตานเฟย เจ้ากับข้านั้นก็รู้จักกันมานานแล้ว จะยังไม่เข้าใจฝีมือของกันอีกหรือ? ด้วยกำลังของพวกเรานั้นอย่างมากก็คงได้แค่ตายตกไปด้วยกัน ติดแค่ว่าเจ้าตายไปจริงๆ แต่ข้านั้นยังคืนชีพกลับมาได้!” หลี่เหอกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
เพราะมหาจักรพรรดิของทั้งสองฝ่ายนั้นมันก็ไม่ได้มีมากมาย ตานเฟยและหลี่เหอเองก็ย่อมจะเป็นศัตรูกันมานานและสู้กันมาหลายครั้ง
หากมหาจักรพรรดิทั่วไปต้องเจอสภาพเช่นนั้นพวกเขาย่อมจะต้องกลัวกันไม่น้อย
แต่เผ่าเลือดนั้นไม่กลัวที่จะต้องสู้แลกชีวิตกับศัตรูเพราะว่าพวกเขานั้นตายไม่เป็น!
“หึ! จะตายหรือไม่มันก็ต้องลองสู้กันดูก่อนเถอะ!” ตานเฟยนั้นร้องขึ้นก่อนจะเตรียมตัวโจมตี
แต่หลี่เหอนั้นกลับยิ้มตอบไปอย่างไม่เร่งรีบ “ไม่ต้องรีบ ตานเฟยศัตรูของเจ้านั้นมิใช่ข้าคนเดียวหรอก! เพราะครั้งนี้ข้าได้พาคนมาช่วยจัดการเจ้าด้วย!”
พูดไปมันก็ปรากฏแรงสั่นสะเทือนในห้วงมิติก่อนจะเผยให้เห็นคนอีกผู้หนึ่งก้าวออกมา
ได้เห็นผู้มาถึงนั้นตานเฟยก็ต้องเบิกตาค้างร้องลั่นขึ้นมา “เหลียนยี่!”
เบื้องหน้าของเขานั้นมันมีหญิงในชุดคลุมแดงเลือดยืนอยู่ด้วยท่าทางเย้ยหยันโลก
นางหันมามองตานเฟยก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างดูถูก “ตานเฟย ข้ามาถึงแล้ววันนี้เจ้าย่อมไม่มีทางทำลายเส้นทางมิติลงได้แน่แล้ว ยอมแพ้ไปเถอะ! หากถอยไปตอนนี้ข้าจะไม่เอาชีวิตเจ้าก็ได้!”
ตานเฟยนั้นกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าเหยเก “ฝันไปเถอะ! ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเผ่าเลือดได้ทำอะไรตามอำเภอใจ!”
เหลียนยี่นั้นยิ้มเย้ยขึ้นกล่าวต่อ “ลืมบอกเจ้าไปว่าตอนนี้ท่านหวู่เยวี่ยกำลังเดินทางผ่านเส้นทางมิติมา คงมาถึงในเวลาไม่ถึงวันแน่!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของยอดฝีมือสวรรค์แรกก็ต้องซีดลง!
เพราะหวู่เยวี่ยนั้นคือหนึ่งในมหาจักรพรรดิพ้นสิบสวรรค์!
ในระดับจักรพรรดิเซียนนั้น ยอดฝีมือร้อยอันดับแรกจะถูกเรียกว่าร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน
ส่วนในระดับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นเองมันก็มีการจัดอันดับเรียกว่ามหาจักรพรรดิพ้นสิบสวรรค์!
มหาจักรพรรดิพ้นสิบสวรรค์นั้นคือมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ที่เก่งกาจที่สุดสิบคน!
และคนทั้งสิบนี้ก็คือเสาหลักของเผ่าเลือดเก่งกาจอย่างถึงที่สุด
หวู่เยวี่ยนั้นคืออันดับที่สิบ!
เขานั้นเป็นมือสังหารเลื่องชื่อเก่งกาจ จัดการมหาจักรพรรดิของสวรรค์แรกไปเกินกว่าจะนับ!
การที่หวู่เยวี่ยเข้าเส้นทางมิติมาได้เช่นนี้มันย่อมหมายความว่าสภาพของเส้นทางมิติตอนนี้มันเสถียรอย่างมากแล้ว
เผ่าเลือดส่งเขามาก็คงเพื่อจะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้ หากเขามาถึงแล้วจริงๆ มันก็คงไม่มีโอกาสจะชนะได้อีก!
“หากเจ้าคิดว่าสามารถทำลายเส้นทางมิติต่อหน้าข้าได้ในเวลาแค่วันเดียวแล้วเจ้าก็เข้ามาลองได้!” เหลียนยี่กล่าวขึ้น
แต่ตานเฟยนั้นกลับมีความกังวลสุมอยู่เต็มอก!
เรื่องนี้มันย่อมจะไม่มีทางเป็นไปได้
เหลียนยี่นั้นเก่งแค่ไหนเขาเข้าใจดี นางนั้นเหนือกว่าหลี่เหอไปถึงสามส่วน!
และหากสองคนนี้ร่วมมือกันแล้วตัวเขาย่อมจะไม่มีทางเอาชนะรับมืออีกฝ่ายได้เลย
เช่นนั้นแล้วมันคงต้องหวังพึ่งทัพจักรพรรดิเซียนทั้งหลาย?
แต่สภาพเส้นทางมิติในตอนนี้ ต่อให้จะมีคนหลุดไปถึงห้าพันมันก็คงไม่อาจทำลายลงได้ง่ายๆ แล้ว!
ต่อให้จะทำลายได้ แต่มันจะผ่านไปได้หรือ?
หรือว่าทวีปสวรรค์แรกนี้จะต้องแตกพ่ายลงจริงๆ แล้ว?
คลื่นความสิ้นหวังซัดเข้ากลางใจตานเฟย!
แต่จู่ๆ มันก็มีคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นในความคิดเขา
เย่หยวน!
เขานั้นบอกว่าสามารถทำลายเส้นทางมิติลงได้
มันจะจริงหรือไม่?
ไม่ ไม่มีทางเลย!
จักรพรรดิเซียนน้อยแค่คนเดียวมันย่อมจะไม่มีทางทำลายเส้นทางมิติลงได้เด็ดขาด!
แต่เด็กคนนี้มันสร้างปาฏิหาริย์มานับครั้งไม่ถ้วน
บางทีครั้งนี้เขาก็อาจจะทำได้?
ไม่รู้ว่าทำไมมันจึงเกิดประกายความหวังขึ้นในใจตานเฟย
เขานั้นกลับหวังว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาอีกครั้ง!
จากนั้นเขาก็หรี่ตาลงร้องอย่างหนักแน่น “พวกเราตามข้ามาสังหารศัตรู! เพื่อความยิ่งใหญ่ของสวรรค์แรกแล้วจะตายเราก็ไม่เสียดาย!”
“จะตายก็ไม่เสียดาย!”
เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นต่างร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันก่อนจะพุ่งเข้าใส่เหล่าเผ่าเลือดทั้งหลาย!
…
“ฮ่าๆๆ…ไอ้พวกเผ่าเลือดขยะ! ปู่หยางเจ้าบอกแล้วไงว่าหลังข้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้ข้าจะกลับมาฆ่าสังหารพวกเจ้าให้ต้องร้องหาพ่อแม่! อ่อนแอ! อ่อนจริงโว้ย!”
บนท้องฟ้านั้นมันมีการปะทะรุนแรงเกิดขึ้น
กองทัพสวรรค์แรกนั้นเข้าปะทะกับกองทัพเผ่าเลือดและเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด
ในศึกนี้ต่างฝ่ายต่างไม่อาจถอยได้ทำให้ต้องสู้กันโดยเดิมพันด้วยชีวิต!
หยางชิงนั้นถือหอกยาวในมือแทงทะลวงเหล่าจักรพรรดิเที่ยงเผ่าเลือดสามคนจนพวกเขาเริ่มจะเสียท่า
เพราะฉะนั้นเขาจึงเริ่มปากดีขึ้นมาอีกครั้ง
ก่อนหน้าตอนที่เย่หยวนรักษาเขาไปนั้นหยางชิงมีโชคดีแฝงมาในความทุกข์ บรรลุขึ้นมาสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้ในที่สุด
หลังจากขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงมาได้แล้ว หยางชิงก็ย่อมจะเก่งกาจขึ้นอย่างมากมายจนสามารถสู้ได้แม้แต่จักรพรรดิเที่ยงขั้นกลาง
ตอนนี้ศัตรูตรงหน้าเขานั้นคือจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดสามคนแต่เขานั้นกลับได้เปรียบจนอีกฝ่ายนั้นแทบไม่มีเวลาพักหายใจ
ระหว่างที่เขากำลังหลงตัวเองอยู่นั้น ก็มีเสียงคำรามร้องมาจากขอบฟ้าพร้อมด้วยพลังหมัดที่ซัดจักรพรรดิเที่ยงคนหนึ่งจนแตกสลายลง
ตูม!
ร่างของจักรพรรดิเที่ยงขั้นต้นสุดคนนั้นหายไปกลายเป็นเพียงแค่หมอกเลือด!
“แม่ทัพสูงเย่หยวนเก่งกาจล้ำฟ้า!”
“แม่ทัพสูงเย่หยวนมากฝีมือไร้เทียมทานในโลกหล้า!”
“ฆ่าๆๆ พวกเผ่าเลือดมันก็แค่ยุงตัวหนึ่ง ฆ่ามันให้หมด!”
…
หลังจากหมัดนั้นถูกต่อยออกมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องลั่นทั้งทัพสวรรค์แรกอีกครั้ง
เพราะตอนนี้เย่หยวนได้กลายเป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของทัพสวรรค์แรกไปแล้ว
ทุกการกระทำของเขานั้นทำให้ทหารฮึกเหิมขึ้น
หมัดก่อนหน้านี้เย่หยวนสามารถสังหารจักรพรรดิเที่ยงลงได้ด้วยพลังของจักรพรรดิเซียน ซึ่งมันจะต้องเหนือล้ำความเข้าใจไปแค่ไหน?
เพราะฉะนั้นมันจึงยิ่งทำให้ทัพสวรรค์แรกเดือดดาลขึ้น!
“อ๊าก! เย่หยวนเจ้าแย่งความเด่นของจักรพรรดิฟ้าครามไปอีกแล้ว! ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ แน่!” หยางชิงร้องขึ้นมา
หมัดของเย่หยวนนั้นมันรุนแรงจริงแต่การที่สามารถสังหารจักรพรรดิเที่ยงลงได้ในหมัดเดียวเช่นนี้มันก็เพราะว่าหยางชิงนั้นกำลังกดดันอีกฝ่ายอยู่จนไม่มีเวลาหายใจ
แต่เหล่าทหารทั้งหลายย่อมไม่สนใจ
คนที่ฆ่าคือเย่หยวน เพราะฉะนั้นมันก็คือผลงานของเย่หยวน
หยางชิงที่กำลังได้ใจนั้นกลับถูกเย่หยวนแย่งความเด่นไปจนหมดสิ้น
เขาย่อมจะต้องรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาลึกๆ ในใจ
…………….