Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2844 ซ่งชิงหยาง!
ตอนที่ 2844 ซ่งชิงหยาง!
“ศิษย์น้อง เจ้าเพิ่งมาถึงนิกายเจ้าคงไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไรออกไปแต่…เจ้าได้สร้างปัญหาให้ท่านอาจารย์แล้ว!” ฮั่วจงกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางลำบากใจ
“ศิษย์น้อง เจ้าเพิ่งมาถึงนิกายเจ้าคงไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไรออกไปแต่…เจ้าได้สร้างปัญหาให้ท่านอาจารย์แล้ว!” ฮั่วจงกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางลำบากใจ
“โอ้? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเล่า?” เย่หยวนถามขึ้น
ได้เห็นท่าทางนั้นของเย่หยวน ฮั่วจงก็ยิ่งคับแค้นใจที่ศิษย์น้องคนนี้ช่างผิดหวังเขาไปนัก
แต่อาจารย์ของเขานั้นย้ำมานักหนาว่าให้ดูแลศิษย์น้องคนนี้ให้ดี ดูท่าแล้วอาจารย์ของเขาคงให้ค่ากับเด็กหนุ่มคนนี้มากตัวฮั่วจงจึงกดความคับแค้นไว้ในใจ
“เจ้านั้นเพิ่งมาถึงนิกายคงยังไม่รู้เรื่องราวภายในอีกมากมาย นิกายยาสุดล้ำนั้นมันมีคนมากมายอยู่ภายในแน่นอนว่าย่อมจะเกิดพรรคพวกอย่างมากเกินนับ แม้ว่าคนทั้งหลายที่ข้าด่าว่าไปนั้นจะมีพลังบ่มเพาะไม่สูงส่งแต่ว่าพวกเขานั้นก็มีคนหนุนหลังอยู่ไม่น้อย เจ้าคิดจะส่งพวกเขาไปแนวหน้ามันย่อมจะไม่มีทางเป็นจริงได้แน่แล้ว! แต่เจ้ากลับพูดออกไปอย่าง หวู่เจียงและพวกมันเองก็คงจะเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศใหญ่โตแน่ ถึงตอนนี้ต่อให้อยากจะถอนคำพูดมันก็คงไม่อาจทำได้ ท่านอาจารย์ต้องเสียหน้าครั้งใหญ่เพราะเรื่องนี้แน่!” ฮั่วจงนั้นกล่าวขึ้น
ฮั่วจงนั้นเองก็เคยเป็นจักรพรรดิเซียนมาก่อนและย่อมรู้ดีว่าสภาพสังคมมันเป็นอย่างไร
เรื่องลูกไม้ของพวกคนอย่างหวู่เจียงนั้นเขาย่อมจะเข้าใจได้ดี
วิธีการเช่นนี้หากใช้กับมหาจักรพรรดิมันคงเท่ากับรนหาที่ตาย
แต่กับเด็กใหม่เช่นเย่หยวนนี้มันย่อมจะได้ผลเสมอๆ
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ศิษย์พี่ ข้านั้นคิดว่านิกายยาสุดล้ำนี้ยังสบายอยู่มากทีเดียว! ตอนนี้เรากำลังต่อสู้กับศัตรูของเผ่าพันธุ์แต่นิกายยาสุดล้ำนั้นกลับยังไม่ได้ยกกำลังขึ้นแนวหน้าใดๆ เลย เรื่องนี้มันไม่สมควร! พวกหวู่เจียงนั้นจะเป็นแค่ชุดแรกที่ได้ไปเท่านั้น ข้าคิดว่าหลังจากนี้เราต้องส่งศิษย์ของนิกายยาสุดล้ำออกไปเป็นชุดๆ เพื่อฝึกตัวที่แนวหน้า เพราะที่แห่งนั้นมันคือที่ที่จะบีบคั้นให้คนเราทุ่มเทอย่างสุดตัวโดยแท้จริง!”
ฮั่วจงนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างเพราะไม่อยากเชื่อคำที่ได้ยิน
ไม่มีการตอบคำถามใด!
นอกจากนั้นแล้วเจ้าเด็กบ้านี่ยังมีหน้าบอกว่าจะส่งศิษย์ชุดอื่นๆ ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์อีกด้วย!
นี่มันบ้าไปแล้ว?
แค่จักรพรรดิเซียนอย่างเจ้านี้ก็สามารถทำได้?
หรือว่าเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเจ้านิกายยาสุดล้ำที่สามารถสั่งการอะไรก็ได้?
ฮั่วจงนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ศิษย์น้อง หากเรื่องนี้มันไม่คลี่คลายแล้วอาจารย์ท่านคงโกรธเจ้าขึ้นมาด้วยแน่ ถึงเวลานั้นมันก็คงไม่ดีกับตัวเจ้าด้วย!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ศิษย์พี่วางใจเถอะ ข้านั้นพอมีทางแก้ของตัวเองอยู่!”
‘ทางแก้กับพ่อเจ้าสิ!’
ฮั่วจงนั้นได้แต่ต้องร้องด่าขึ้นมาในใจ เขาไม่รู้ต้องพูดอย่างไรแล้ว!
อาจารย์ของเขาไปเห็นดีเห็นงามอะไรในตัวเด็กโง่ๆ คนนี้กัน?
“อย่างนั้นข้าคงขอเตือนเท่านี้ ศิษย์น้องดูแลตัวเองแล้วกัน!” ฮั่วจงนั้นเปลี่ยนน้ำเสียงไปทันที
คนเช่นนี้มันบ้าคลั่งไม่ไว้หน้าใครนอกจากนั้นยังไม่สนใจคำเตือนของคนอีก
ฮั่วจงพาเย่หยวนเข้าที่พักและจากไปทันทีไม่หยุดอยู่คุยต่อ
เทือกเขาชัยบูรพานั้นกินพื้นที่กว้างใหญ่มีเส้นวิญญาณตัดผ่านมากมาย คนของจั่วเฉินนั้นเองก็มีสำนักของตนตั้งอยู่บนยอดประกาศตะวัน
ที่พักของเย่หยวนและพวกหยางชิงเองก็ย่อมจะอยู่บนยอดประกาศตะวัน
หลังจากเย่หยวนได้เข้าที่พักแล้วมันก็ปรากฏร่างชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในชุดสีเขียวอ่อนขึ้นมาในห้อง
“เจ้านิกายคนปัจจุบัน ซ่งชิงหยางขอคารวะอาจารย์ลุง!” ชายวัยกลางคนผู้นี้ยกมือขึ้นคารวะเย่หยวนทันที
หากคนอื่นมาได้เห็นพวกเขาคงจะสั่นสะท้านจนลืมหายใจ
เพราะชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดอันเก่งกาจและรับตำแหน่งเจ้านิกายคนปัจจุบัน ซ่งชิงหยาง!
เขานั้นกลับมาก้มหัวให้จักรพรรดิเซียนคนหนึ่ง!
แน่นอนว่าท่าทางของซ่งชิงหยางมันก็มีอาการแข็งๆ อยู่บ้าง
ไม่ว่าอย่างไรจะให้ยอดคนระดับเขานั้นมาทำท่าเหมือนเป็นคนรับใช้กับจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งนั้นมันก็เป็นสิ่งที่เขาได้แต่ต้องทำอย่างลำบากใจ!
บรรพบุรุษหยุนซานท่านนั้นช่างสร้างปัญหาได้เก่งกาจนัก กลับไปรับจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งเข้ามาเป็นศิษย์!
นี่มันไม่ทำให้คนอกแตกตายกันหรือ?
ตอนนี้เย่หยวนกำลังเก็บตัวคิดทบทวนวิชาอยู่ภายในเมื่อได้ยินเสียงของซ่งชิงหยางเขาก็ต้องเบิกตาขึ้นมามอง “ข้าทำให้ท่านเจ้านิกายลำบากแล้ว!”
ซ่งชิงหยางรีบปฏิเสธกลับมาทันที “อาจารย์ลุงทำข้าอายุสั้นแล้ว ท่านนั้นคือศิษย์ของบรรพบุรุษหยุนซาน ท่านย่อมจะเป็นผู้อาวุโสของชิงหยางเช่นกัน เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้มันเป็นสิ่งที่ชิงหยานต้องทำอยู่แล้ว”
ซ่งชิงหยางนั้นมาด้วยคำสั่งของโจวซ่งฉวน
โจวซ่งฉวนนั้นย้ำกับเขาไว้แล้วว่าศิษย์น้องคนนี้เป็นที่รักของอาจารย์หยุนซานมาก
ต่อให้จะเป็นเจ้านิกายอย่างเขาเองเขาก็ยังไม่กล้าจะเสียมารยาทมากมาย
ต่อให้เขาจะรู้ว่าเย่หยวนนั้นเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตก็ตาม
หากให้พูดตามความเป็นจริงแล้วซ่งชิงหยางนั้นเป็นศิษย์ที่ห่างจากบรรพบุรุษหยุนซานไปหลายต่อหลายรุ่นมาก
แต่ด้วยความที่เขานั้นบ่มเพาะมาถึงอาณาจักรมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้มันทำให้เขามีสิทธิ์ที่จะเรียกหยุนซานว่าอาจารย์ปู่ได้
เพราะฉะนั้นเมื่อเขาได้เห็นเย่หยวนมันก็ย่อมจะเท่ากับว่าเขาได้เห็นอาจารย์ลุง
ในนิกายยาสุดล้ำนั้นเจ้านิกายมิใช่คนที่กุมอำนาจจริงๆ ไว้
เหนือจากเจ้านิกายไปนั้นมันยังมีอีกสองระดับอำนาจ
หนึ่งย่อมจะเป็นเหล่าเจ้าโลก!
ส่วนรองจากเจ้าโลกลงมามันก็คือหอสุดแสง
จากนั้นมันถึงจะเป็นเจ้านิกาย
ในหอสุดแสงนั้นมันมีแต่เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าจากยุคก่อนๆ บ้างก็เป็นเจ้านิกายรุ่นก่อนๆ บ้างก็เป็นผู้อาวุโสของนิกายและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ว่าคนที่เข้าหอสุดแสงไปได้นั้นส่วนมากแล้วก็มีแต่เหล่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดทั้งสิ้น!
เหล่าคนทั้งหลายนั้นจะเก็บตัวตลอดปีหรือไม่ก็ออกเดินทางไปทั่วแผ่นดินเพื่อหาโอกาสบรรลุระดับเจ้าโลก
เจ้าโลกอีกสองคนของนิกายยาสุดล้ำนั้นเองเดิมทีก็เป็นคนในหอสุดแสงนี้
โจวซ่งฉวนนั้นเองก็เคยเป็นสมาชิกของหอสุดแสงด้วยก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นระดับเจ้าโลกไป
เย่หยวนนั้นได้รับแต่งตั้งโดยหยุนซานให้เข้าเป็นคนของหอสุดแสงมันย่อมจะทำให้เขานั้นมีอำนาจสูงกว่าซ่งชิงหยางไปทันที
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้แต่ต้องระวังการทำตัว
เพียงแค่ว่าต้องมาแสดงท่าทีเคารพต่อจักรพรรดิเซียนคนหนึ่ง ตัวซ่งชิงหยางก็ต้องรู้สึกขมขื่นในใจไม่น้อย
“ท่านเจ้านิกายไม่ต้องทำเช่นนี้หรอก แม้ว่าข้านั้นจะมีพลังบ่มเพาะต่ำแต่ข้านั้นก็ไม่ได้โง่จนไม่รู้จักโลก เวลาปกตินั้นท่านก็ทำเหมือนข้าเป็นศิษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งเถอะข้าเองก็จะนับถือท่านเป็นเจ้านิกายเช่นกัน ที่ข้าเข้านิกายยาสุดล้ำมาคราวนี้มันก็เพื่อจะเข้าไปอ่านในห้องสมุดคัมภีร์ อีกไม่นานจากนี้ข้าก็คงต้องเข้าเก็บตัวแล้ว” เย่หยวนยิ้มตอบ
ได้ยินเช่นนั้นซ่งชิงหยางก็ค่อยหายใจได้โล่งคอขึ้นมา
เพราะเขานั้นกลัวว่าเด็กหนุ่มที่ได้ตำแหน่งสูงส่งนั้นจะทำให้เขาหลงตัวคิดเข้ามายุ่งเรื่องของนิกายจนเกินไป
เช่นนั้นตำแหน่งเจ้านิกายของเขามันคงไร้ค่าแล้ว
แต่เย่หยวนนั้นแค่เข้านิกายมาเพื่ออ่านห้องสมุดคัมภีร์?
นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกัน?
ซ่งชิงหยางนั้นรีบตอบกลับไป “เช่นนั้นข้าคงต้องขอให้อาจารย์ลุงท่านทนรับท่าทางของข้าด้วย! เรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกนิกายนั้นชิงหยานรู้เรื่องหมดแล้ว หลังจากส่งอาจารย์ลุงเข้าไปยังหอสุดแสงแล้วข้าจะรีบดำเนินการให้”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ขอบคุณมากท่านเจ้านิกาย!”
ซ่งชิงหยางพยักหน้ารับ “เช่นนั้น…เราไปยังหอสุดแสงกันเลยดีหรือไม่?”
เย่หยวนพยักหน้าตอบก่อนที่ซ่งชิงหยางจะสะบัดมือดึงตัวเย่หยวนให้หายไปจากจุดที่นั่งทันที
เงาร่างหนึ่งเดินมาหยุดตรงหน้าที่พักของหวู่เจียงลงพร้อมหัวเราะลั่น “หวู่เจียง ข้าได้ยินมาว่าเจ้านั้นเสียท่าให้จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิงเลยนี่? ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า!”
คนผู้นี้คือสหายรักของหวู่เจียงนามว่าโจวชุน
โจวชุนนั้นไม่ได้เก่งกาจมากมาย เทียบเคียงได้กับหวู่เจียงแต่เขานั้นเป็นคนมีความสามารถด้านอื่น
ในนิกายยาสุดล้ำที่ใหญ่โตนี้มันย่อมจะมีคนที่ทำตัวเป็นพ่อค้าข้อมูลอยู่ อย่างเช่นโจวชุนคนนี้
เพราะฉะนั้นเรื่องที่หวู่เจียงเสียหน้านั้นมันจึงไปถึงหูเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อหวู่เจียงเห็นหน้าโจวชุนเขาก็ต้องร้องตอบกลับไปทันที “ข้าก็กำลังจะไปหาเจ้าพอดี มาได้ถูกเวลานัก!”
โจวชุนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคิดจะเล่นลูกไม้ใส่อาจารย์ลุงของเราหรือ?”
หวู่เจียงยิ้มขึ้น “เจ้าเข้าใจข้าดีนี่!”
โจวชุนนั้นหัวเราะขึ้น “เจ้าวางใจเถอะ นี่มันคืองานถนัดของข้า! ในเวลาไม่ถึงวันคนทั้งเมืองจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม้แต่เหล่ามหาจักรพรรดิก็ต้องรู้! ถึงตอนนั้นข้าอยากจะรู้นักว่าอาจารย์ลุงของเราจะกู้หน้าคืนมาอย่างไร!”
…………………