Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2878 สระโลหิต!
ตอนที่ 2878 สระโลหิต!
เก้าว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนที่เพิ่งเอาชนะมาได้นั้นต่างย่อมจะภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก
เก้าว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนที่เพิ่งเอาชนะมาได้นั้นต่างย่อมจะภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก
แต่พริบตาต่อมาพวกเขาก็หายไปสิ้น!
“บ้า! จะบ้าเกินไปแล้ว! ไอ้นี่มันคนสติไม่ดีหรือ?”
“มันไม่รู้หรืออย่างไรหากว่าที่ร้อยบุตรได้ตำแหน่งมาแล้วพวกเขาจะได้การคุ้มครองจากวิหารโลหิตเทวาถือเหรียญทองเว้นตาย?”
“เรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆ แล้วแน่! วิหารโลหิตเทวานั้นย่อมจะไม่ยอมจบเรื่องนี้ลงง่ายๆ แน่!”
“ชิๆ เรื่องราวเช่นนี้มันคงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การคัดเลือกร้อยบุตรแน่!”
…
คนทั้งหลายนั้นต่างตกตะลึงในการกระทำของเย่หยวน
เหล่าคนทั้งหลายนั้นได้ตำแหน่งว่าที่ร้อยบุตรมาแล้วย่อมจะถือว่าเป็นศิษย์ของวิหารโลหิตเทวา
แต่เย่หยวนกลับสังหารพวกเขาลงสิ้น!
เช่นนั้นแล้วถามว่าเฉียเจียนหยุดเย่หยวนไม่ได้หรือ?
เขาย่อมจะหยุดได้!
แต่เขาเลือกจะไม่หยุด
เฉียเจียนนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นเยือก “ไอ้หนู เจ้ามันโอหังอย่างไม่รู้จักฟ้าดินแท้ๆ! แต่ครั้งนี้ข้าอยากเห็นนักว่าใครจะยังมาช่วยเจ้าได้อีก!”
เย่หยวนได้กลอกตากลับไปมองเฉียเจียน “เลิกใช้ลูกไม้โง่ๆ ของเจ้าเถอะ! เจ้านั้นไม่ได้เข้าใจโลกของผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเลย! หากปล่อยให้ขยะพวกนี้มันไปถึงวิหารโลหิตเทวาแล้วมันก็คงมีแต่จะไปอวดโง่เท่านั้น เมืองข่ายยักษ์นั้นมีข้าไปคนเดียวก็เกินพอแล้ว!”
“พูดได้ดี!”
เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า ตัวเขาคนนี้มีคลื่นพลังที่เหนือล้ำกว่าพวกเฉียเจียนทั้งสองคนไปเล็กน้อย
แต่สีหน้าของเฉียเจียนนั้นมันกลับซีดขาวลง
เพราะเขาคิดไปว่าท่านทูตโลหิตนั้นจะต้องลงโทษเย่หยวนเป็นแน่
ใครจะไปคิดว่าเขากลับกล่าวชมว่าพูดได้ดีแทน!
ทูตโลหิตคนนั้นมองหน้าเย่หยวนด้วยสายตาที่ชื่นชม “ไอ้หนู ข้าถูกใจเจ้าไม่น้อย!”
คำพูดเดียวนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอีกครั้ง!
ทูตโลหิตหันมามองเฉียเจียนและกล่าวขึ้นอย่างผิดหวัง “เฉียเจียน เจ้าทำให้ทูตผู้นี้ผิดหวังมากแล้ว! การพัฒนาพลังบ่มเพาะของเจ้ามันกลับทำให้จิตใจของเจ้าถดถอยลงแทน! ก่อนนั้นเจ้าเองก็เป็นร้อยบุตรคนหนึ่งที่สังหารศัตรูอย่างเลือดเย็นไม่เว้นหน้า! แต่ความเฉียบคมของเจ้านั้นมันได้หายไปจนสิ้นแล้ว เจ้าลืมเป้าหมายหลักของการเลือกร้อยบุตรไปแล้ว?”
ก่อนที่จากนั้นเขาจะหันไปมองหน้าพวกหยางชิงทั้งหลาย “เผ่าเลือดของเรานั้นไม่กลัวตาย สิ่งที่เรากลัวนั้นคือกลัวจะอ่อนแอ! มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะรอดชีวิตไปได้! คนอ่อนแอนั้นมันต้องตาย! เฉียเจียนนั้นมีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำอย่างที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน! เจ้าคิดว่าข้าผู้นี้จะลงโทษเฉียชิงเพราะขยะพวกนี้หรือ? บ้าบอ! สิ่งที่เขาพูดมานั้นมันถูกต้องแล้ว เมืองข่ายยักษ์นั้นมีแค่เขามันก็เกินพอ!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องเงียบปากลงทันที หลายต่อหลายคนได้แต่ต้องก้มหน้าด้วยความอับอาย
ตอนนี้แม้แต่เฉียเจียนเองก็ยังได้แต่ก้มหน้าอย่างอับอาย
คนทั้งสองนี้ไปตกลงอะไรกันมาก่อนหรือ?
ทำไมเขาถึงถูกตบหน้ารัวๆ จากทุกด้านเช่นนี้?
แต่หยางชิงนั้นต้องหัวเราะขึ้นมาในใจเมื่อได้ยิน เจ้าโง่นี่มันโผล่มาจากไหนกัน?
แน่ใจหรือว่าจะไปสนับสนุนคนอย่างมันนี้?
หากได้รู้ว่าคนที่ตัวเองสนับสนุนมันเป็นสายลับจากเผ่ามนุษย์แล้วเจ้าจะทำหน้าอย่างไรกัน?
แค่คิดหยางชิงก็แทบหลุดหัวเราะออกมา!
หยางชิงเฝ้ารอให้วันนั้นมาถึงไวๆ
เย่หยวนนั้นมันช่างก่อปัญหาได้สวยงามนัก!
“เอาล่ะ ในเมื่อการคัดเลือกจบลงแล้วพวกเจ้าทั้งสิบเอ็ดก็ออกเดินทางไปยังเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์กับข้าแล้วกัน!”
…
เมื่อมาถึงเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์นั้นต่อให้จะเป็นเย่หยวนเขาก็ต้องอ้าปากค้างกับความยิ่งใหญ่ของมันเช่นกัน!
เขานั้นสัมผัสได้ว่ากำแพงเมืองนี้มันก่อขึ้นมาจากสมบัติระดับสูงที่ส่งคลื่นพลังอันตรายอย่างมากออกมา
แม้ว่าเย่หยวนจะไม่เห็นว่ากำแพงเมืองนั้นมีค่ายกลใดๆ ติดตั้งอยู่แต่ว่ามันย่อมจะสามารถโจมตีผู้รุกรานได้อย่างรุนแรงแน่นอน!
มหานครฉีใต้นั้นมันไม่อาจจะมาเทียบเคียงกับเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์นี้ได้เลย
เมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์นี้มันสร้างขึ้นมาด้วยเลือดเนื้อของเผ่าเลือดอย่างแท้จริง!
ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกมาบุกมันก็คงไม่อาจจะครอบครองเมืองนี้ได้ง่ายๆ!
“ท่านเสี่ยวเฟย เมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์นี้มันดูต่างจากเมืองอื่นๆ ไปสิ้นเชิงเลย!” เย่หยวนถามขึ้นอย่างสงสัย
ร้อยบุตรกลุ่มพวกเขานั้นต่างเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่เพิ่งได้เข้าเมืองใหญ่ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ไม่ต่างจากเย่หยวน
เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินคำถามของเย่หยวนคนทั้งหลายก็อดเงี่ยหูฟังไม่ได้
เสี่ยวเฟยตอบกลับไป “เจ้ารู้แค่ว่าต่อให้จะเป็นเจ้าโลกมาบุกเมืองนี้มันก็คงต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝังเช่นกัน! ไม่ต้องพูดถึงคนที่ระดับต่ำกว่านั้นเลย! นี่มันคือความลับของเผ่าเลือดหากเจ้าอยากรู้ก็หมั่นบ่มเพาะให้พลังถึงระดับแล้วเจ้าย่อมจะได้รู้มันเอง!”
เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ต้องใจสั่นขึ้นมา!
ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด!
แต่ว่ามันก็ถือเป็นข่าวดีอย่างมากเช่นกัน
หากวันหนึ่งเจ้าโลกเกิดคลั่งมาบุกเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์นี้แล้วพวกเขาคงไม่อาจจะกลับไปได้อย่างครบสามสิบสองแน่
แม้ว่าเผ่าเลือดนั้นมันจะไม่เข้าใจเต๋าค่ายกลแต่มันก็ย่อมจะมีวิชาความลับอย่างอื่นเข้ามาทดแทนได้
เพียงแค่ว่าเผ่าเลือดนั้นมันลึกลับจนเกินกว่าที่คนนอกจะรู้ถึงได้
“เอาล่ะ หลังจากเข้าเมืองแล้วพวกเจ้าก็อย่าไปเพ่นพ่านที่ไหนเล่า บางทีนั้นพวกเจ้ายังไม่อาจจะเข้าไปได้! ข้าจะสั่งคนให้ไปดูแลและอธิบายเรื่องให้พวกเจ้าฟังทีหลัง พวกเจ้านั้นคือยอดฝีมือที่เอาชนะคนนับล้านมาเป็นว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิกันทั้งสิ้น เพื่อเป็นรางวัลให้แก่พวกเจ้านั้นพวกเจ้าจะสามารถเข้าไปบ่มเพาะที่สระโลหิตสวรรค์สัมบูรณ์ได้สิบวัน! ส่วนเรื่องที่ว่าจะเก็บเกี่ยวประโยชน์มาได้แค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าแล้ว!” ทูตโลหิตเสี่ยวเฟยกล่าว
เผ่าเลือดนั้นแทบจะไม่เข้าใจอะไรเต๋าโอสถเลย
แต่พวกเขานั้นก็มีวิชาที่ช่วยในการบ่มเพาะเช่นกัน
สระโลหิตนั้นสร้างขึ้นมาด้วยวิชานั้น!
เผ่าเลือดนั้นศึกษาส่วนประกอบของเลือดอย่างหนักหน่วง
การดื่มเลือดนั้นคือสัญชาตญาณของพวกเขา!
เผ่าเลือดนั้นมีอาชีพที่เรียกว่านักหลอมโลหิต
มันคล้ายกับนักหลอมโอสถเพียงแค่ว่าพวกเขานั้นจะไม่ใช้สมุนไพรแต่ใช้เลือดแทน เพื่อผสมและกลั่นให้มันออกมาเป็นโอสถให้กับชาวเผ่าได้ซึมซับกัน
เผ่าเลือดนั้นจะสร้างสระโลหิตและเทเลือดทั้งหลายที่กลั่นแล้วนั้นลงไปค่อยๆ เติมเต็มมัน
แต่ว่าวิธีการเช่นนี้ย่อมจะต้องใช้ชีวิตมากมายเป็นเครื่องสังเวย
การจะสร้างสระโลหิตขึ้นมาแต่ละแห่งนั้นมันต้องใช้เลือดมหาศาล
พวกเขานั้นยึดครองพื้นที่สองทวีปมาได้ มันย่อมจะมีเผ่ามากมายที่ตกเป็นทาสเผ่าเลือด
เพราะฉะนั้นเผ่าเลือดจึงสามารถรีดเลือดจากชีวิตนับไม่ถ้วนเพื่อสร้างสระโลหิตทั้งหลายขึ้นมา
ความชั่วร้ายของพวกเขานี้มันมากจนไม่อาจจะนับได้!
ในเมืองข่ายยักษ์นั้นเองก็มีสระโลหิตเช่นกันแต่มันย่อมจะไม่มีทางเทียบกับสระโลหิตของเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ได้แน่นอน
นอกจากนั้นเย่หยวนยังเข้าใจดีว่าสระโลหิตที่ดีที่สุดนั้นมันย่อมจะอยู่ในวิหารโลหิตเทวา!
ของรางวัลสุดท้ายของการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันคือการได้เข้าไปยังสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวา!
นี่มันคือรางวัลใหญ่ของเผ่าเลือด!
หากร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งหลายได้เข้าไปชุบตัวในนั้นพวกเขาก็จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างสิ้นเชิง!
เมื่อได้เห็นพวกเย่หยวนมุ่งหน้าไปยังสระโลหิตนั้นมุมปากของเสี่ยวเฟยก็ต้องเผยอขึ้นยิ้ม
เพราะด้วยนิสัยของเจ้าหนุ่มคนนี้มันย่อมจะไปสร้างเรื่องใหญ่โตขึ้นมาแน่ๆ
แต่ว่ายิ่งสร้างปัญหาเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีเท่านั้น!
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะอวดอ้างความเก่งของเจ้าเด็กนี่ได้อย่างไร?
ทูตโลหิตนั้นดูแลทั้งโลกหล้า!
แต่ทูตโลหิตคนนี้ทำหน้าที่แค่ดูแลดินแดนเล็กๆ บนทวีปสวรรค์แรก
บนทวีปสายฟ้าคำรามและทวีปวาโยนานนั้นมันมีเมืองมหาจักรพรรดิเลือดอยู่ถึงเก้าสิบเก้าเมือง!
การคัดเลือกร้อยบุตรนั้นมันแทบจะไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับคนบนทวีปสวรรค์แรก
เพราะว่าคนที่เสี่ยวเฟยพามาทุกครั้งนั้นล้วนแล้วแต่เป็นแค่ขยะ
ด้วยความที่บนทวีปสายฟ้าคำรามและทวีปวาโยนานนั้นมันมีเมืองมหาจักรพรรดิเลือดอยู่ถึงเก้าสิบเก้าเมืองทำให้แต่ละทวีปนั้นต้องมีทูตโลหิตคอยดูแลถึงสามคน
และในทูตโลหิตทั้งเจ็ดคนนั้น เสี่ยวเฟยย่อมจะมีตำแหน่งตำที่สุด!
แต่ครั้งนี้เรื่องของเย่หยวนมันทำให้เขาต้องเบิกตากว้าง!
เพราะเจ้าเด็กคนนี้มันไร้ชื่อเสียงมาก่อน แต่กลับสามารถทำเรื่องใหญ่โตอย่างไม่อยากเชื่อขึ้นมาได้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังมั่นใจในฝีมือของหยางชิงด้วย!
สองเฉียชิงนี้จะกู้หน้าเขากลับมาได้แน่!
‘ครั้งนี้ถึงตาพ่อเจ้าจะอวดเบ่งบ้างแล้ว!’