Virtual World – Peerless White Emperor - ตอนที่ 649 : คำสั่งห้วงมิติ
ไม่นานหลังจากที่เย่ฉางจากไป เซี่ยหยู่เอ๋อร์ยังคงครุ่นคิดถึงทักษะอันเหลือเชื่อที่เย่ฉางได้สอนเธอ – นทีหมุนวน และการปลดล็อคพันธุกรรม เมื่อนึกถึงคำพูดที่เย่ฉางเตือนเธอให้ใช้วิธีธรรมดาๆ และฝึกฝนอย่างเรียบง่ายที่สุด โดยการฝึกตีหุ่นไม้อย่างน้อย 10,000 ครั้ง เธอได้แต่ถอนหายใจ ‘เขาเป็นคนแบบไหน?’
ในใจของเธอเต็มไปด้วยความคิดต่างๆ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไปเดินเล่นบนถนน ทันใดนั้นเธอเห็นชายที่ดูหดหู่กำลังนั่งกินอาหารเย็นอยู่ที่แผงร้านอาหารหาบเร่ จากนั้นเธอก็โกรธ ‘หากไม่เป็นเพราะไอ้บ้านี่ ฉันคงไม่ต้องโดนทรมาน! มันช่างน่ากลัวจริงๆ!’
ผู้ชายที่เธอพูดถึงก็คือ OldWang นั่นเอง! เขาสังเกตเห็นเธอและวางตะเกียบลง แล้วยิ้มอย่างสุภาพ “รุ่นพี่เซี่ย มานั่งกินด้วยกันไหม?”
เมื่อพูดเสร็จ เซี่ยหยู่เอ๋อร์ก็เหวี่ยงขาของเธอใส่เขา OldWang ยกคิ้วขึ้น ‘เร็วมาก!’ เขาสังเกตเห็นว่ามีแสงกระพริบตรงที่ข้อเท้าของเธอ ‘ทักษะในการเพิ่มความเร็วบางอย่าง?’ เขาดึงพู่กันออกมาทันที และน้ำหมึกก็สาดกระเด็นออกมา ในขณะที่พู่กันหมุนเป็นวงกลม พลังงานน้ำหมึกก็หมุนวนไปในอากาศเหมือนกระแสน้ำวน ซึ่งยึดจับขาของเซี่ยหยู่เอ๋อร์เอาไว้ OldWang ดึงพู่กันและเซี่ยหยู่เอ๋อร์ก็พุ่งมาหาเขา จากนั้นเขาจี้สกัดจุดเธอตรงกลางอก เซี่ยหยู่เอ๋อร์ยืนนิ่งเหมือนนางแบบในภาพวาด จากนั้นเขาค่อยๆนั่งลงและกินข้าวต่อ เซี่ยหยู่เอ๋อร์จ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ ‘คนๆนี้แข็งแกร่งมาก! ฉันรู้ว่าฉันแข็งแกร่งขึ้นมากแค่ไหน ฉันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมสองสามระดับแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่สามารถตอบโต้เขาได้’ เธอตะโกน “รีบปล่อยฉัน!”
ขณะที่ OldWang คลายจุดให้เธอ เซี่ยหยู่เอ๋อร์ก็นั่งลงและกัดฟันแน่น “ไปเยี่ยมญาติงั้นหรือ? ช่างเป็นเหตุผลที่ดีจริงๆ … นายรู้ไหมว่าฉันต้องลำบากมากแค่ไหน?”
“พอดีที่บ้านฉันเกิดเรื่อง ฉันเลยต้องรีบกลับไป ฉันไม่มีทางเลือก” OldWang ถอนหายใจ เมื่อเขาเก็บพู่กัน
เซี่ยหยู่เอ๋อร์ชำเลืองมอง และเห็นว่ามีพู่กันมากมายอยู่ในกระเป๋าของเขา รวมถึงพู่กันสไตล์ฝั่งตะวันตก ‘เขามีศิลปะการต่อสู้ชนิดใด!?’ เธอนึกถึงพลังงานน้ำหมึกที่ตรึงขาเธอไว้ “ศิลปะการต่อสู้ของนายเป็นวิชาประจำตระกูลใช่ไหม?”
OldWang ส่ายหัวของเขา “ร่างกายของฉันอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นมันจึงยากสำหรับฉันที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่ถึงกระนั้นฉันก็ชอบวาดรูป และประดิษฐ์ตัวอักษร …”
เซี่ยหยู่เอ๋อร์อยากรู้อยากเห็น เธอเริ่มกินและจ้องมองที่ OldWang “แล้วไงต่อ?”
“มันก็มีแค่นี้แหละ” OldWang ยักไหล่ เซี่ยหยู่เอ๋อร์โกรธ ‘ถ้าฉันเอาชนะเขาได้ ฉันจะทำให้เขาบอกให้หมด …’ เธอถอนหายใจลึกๆ ‘ไม่เป็นไร! ถ้าเขาไม่ต้องการพูด มันก็ไม่ดีสำหรับฉันที่จะเซ้าซี้ถามอีก’ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะกลับที่พัก แต่จู่ๆเธอก็ได้ยินอะไรบางอย่าง …
“เฮ้ OldWang! ไปกันเถอะ! รีบไปอะซิกะได้แล้ว! (ร้านกาแฟชื่อดังซึ่งมีหญิงสาวแต่งกายเป็นสาวรับใช้คอยให้บริการลูกค้าในเวลากลางคืน) เมื่อวานนี้สาวที่ดูแลนาย – ชิโนะ เธอบอกให้ฉันเลือกเธอในวันนี้ ฉันรู้สึกว่าสาวที่ดูแลฉันเมื่อวานนี้ เธอไม่เหมาะกับสไตล์ของฉัน เธอไม่เหมือนที่โฆษณาไว้เลย ฉันคิดว่าชิโนะดีกว่ามาก ชุดสีขาว, หน้าอกเล็กๆ และยังเต้นอโกโก้เป็นอีกด้วย อ่า!! มันช่างน่าตื่นเต้นมาก! น่าตื่นเต้นจริงๆ! วันนี้ฉันต้องทำให้เธอเล่นกับฉันให้ได้! เอ้า! ทำไมนายถึงนั่งนิ่งอยู่ที่นั่นล่ะ? บ้าเอ้ย! รีบไปกันเถอะ! เมื่อวานนี้ฉันเป็นเจ้ามือไปแล้ว ดังนั้นวันนี้นายต้องเป็นคนจ่าย! เร็วๆ!”
เมื่อเห็นการสั่นเทาของเซี่ยหยู่เอ๋อร์ OldWang ก็กระโดดออกจากแผงขายอาหารทันที และรีบลากคนที่พูดออกไป
เมื่อนึกถึงความยากลำบากที่เธอได้รับ และประสบการณ์เฉียดตาย เซี่ยหยู่เอ๋อร์ก็โกรธมาก ‘ที่บ้านเกิดเรื่องแกดิ! เพียงเพราะแกจะไปอะซิกะ ไปหาหญิงสาวรับใช้!’ เธอกรีดร้อง “อ๊ากก! ไอ้บ้าหวัง!! ฉันจะจำแค้นนี้เอาไว้!!”
“เฮ้! นั่นไม่ใช่คนที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยเราหรอ? รุ่นพี่เซี่ยผู้แสนใจดี! นายรู้จักเธอ?”
“ก่อนหน้านี้เรารู้จักกัน แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่คิดอย่างนั้น…”
“……”
สถานีรถไฟลอยฟ้าในเมืองจักรพรรดิ
เย่ฉางกำลังนั่งรอรถไฟที่ชานชาลา เมื่อรถไฟเทียบท่า ทันใดนั้นชิเซียวก็เดินออกจากรถไฟในสภาพเปลือยกาย เขาเชิดคางขึ้นพร้อมกับสะบัด ‘ช้างน้อย’ ของเขาไปมา และมองเย่ฉางด้วยรอยยิ้ม “ฮ่า ฮ่า ฉันรู้ว่าฉันจะพบนายในระหว่างเดินทางกลับ! มาเลย! ฉันไม่กลัวนายอีกแล้ว!”
ชิเซียวกำลังสะบัด ‘ช้างน้อย’ไปทางซ้ายและขวา โดยไม่สนใจผู้โดยสารหญิงที่กำลังตกใจเลย เขาเอามือท้าวเอวและเริ่มเต้น
เย่ฉางมองเขาด้วยความเห็นใจอย่างมาก จากนั้นเย่ฉางก็เดินเข้าไปและตบไหล่ของเขา “เฮ้อ! ฝากทักทายพี่ชาย Asked ให้ฉันด้วยล่ะ”
เมื่อเย่ฉางกำลังจะขึ้นรถไฟ เขาก็หันหลังกลับและยิ้ม “เออ ฉันลืมบอกไป ตอนนี้พี่ชาย Asked อยู่ข้างหลังนาย”
ชิเซียวหันกลับมาทันทีและเห็น LordAsked ที่กำลังเดินกำหมัดแน่นเข้าหาเขา เขาดูจริงจังมาก “พะ พี่ … ครับ … ไม่! ฉัน … ฉัน … ฉันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด…!”
“ไอ้บ้า! นายทำให้ตระกูลชิต้องอับอาย! มารยาทของนายอยู่ที่ไหน!? นายเรียนรู้แต่สิ่งที่ผิดๆ! หัดมองดูสภาพตัวเองตอนนี้หน่อยสิ! อุบาทว์จริงๆ!”
“พี่อย่าต่อยหน้าฉัน! ฉันผิดไปแล้ว!”
ในขณะที่รถไฟแล่นออกไป เย่ฉางกำลังจ้องมองชิเซียวที่ถูกทุบตี เขาถอนหายใจ “นายทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?…”
ณ.นิกายดาบสวรรค์
หลินหลันยืนกอดอกอยู่บนยอดเทือกเขาดาบสวรรค์ เขาดูกระวนกระวายใจ เมื่อแผลเป็นรูปดาบบนหน้าผากของเขาส่องแสงสีแดง
ข้างๆเขาหลินซ่งหยินมีสีหน้าเป็นกังวล “ท่านอาจารย์ปู่ มันเป็นมรสุมแห่งความมืดหรือเปล่า?”
หลินหลันพยักหน้าอย่างช้าๆ และพึมพำ “อืม และนี่เป็นงานชุมนุมครั้งที่ 99? ป่าวประกาศคำสั่งห้วงมิติออกไป”
“รับทราบ” หลินซ่งหยินโค้งคำนับและจากไปทันที
ณ. 10 บทบัญญัติ
“ตระกูลหลินแห่งนิกายดาบสวรรค์ออกคำสั่งห้วงมิติแล้ว งานชุมนุมครั้งที่ 99 กำลังจะเกิดขึ้น” หมายเลข 1 กล่าว
“เมื่อคำสั่งห้วงมิติถูกประกาศออกมา มันก็หมายความว่ามรสุมแห่งความมืดกำลังจะเกิดขึ้น!” ColdMoon พูดถึงข่าวลืออย่างเฉยเมย
ทุกคนต่างให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามฟางชิและ SpyingBlade นั้นดูเฉยๆ เพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของพวกเขา ผู้ช่วยของ ColdMoon – Bones ก็อธิบายให้พวกเขาฟังด้วยรอยยิ้ม “มรสุมแห่งความมืดหมายถึงการแตกร้าวของห้วงมิติ ตระกูลหลินสามารถทำนายเวลาและที่ตั้งของรอยแตกได้ แต่มันจะเกิดขึ้นทุกๆ 10 ปีเท่านั้น นอกจากนี้จะมีสัตว์ร้ายห้วงมิติปรากฏขึ้น ดังนั้นนี่จึงเรียกว่ามรสุมแห่งความมืด”
“มันอันตรายมากไหม?” ฟางชิถาม
Bones ส่ายหัวของเธอ “แน่นอน แม้ว่าฉันจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มันควรจะน่ากลัวมาก นี่เป็นเพราะว่ามันเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเมือง C หายไปทั้งเมือง”
“ตกลงภัยพิบัติที่เมือง C ไม่ได้เกิดจากแผ่นดินไหวใช่ไหม?” SpyingBlade ตั้งคำถาม
“คุณจะเชื่อคำพูดพวกสื่อของรัฐบาลกลางได้อย่างไรกัน พวกเขาแค่ต้องการป้องกันไม่ให้ผู้คนตื่นตระหนก” Bones กลอกตา
“ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้น?” SpyingBlade นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ขนาดการโจมตีของผู้ก่อการร้ายขององค์กรนิพพาน ก็ยังทำลายไปหลายพันครอบครัวเลย แล้วมรสุมแห่งความมืดครั้งนี้จะร้ายแรงขนาดไหน?
“อย่าถามฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าจะถามใครดีเหมือนกัน เรื่องที่ร้ายแรงเช่นนี้ เราทำได้เพียงแค่รอผลการประชุมระหว่าง ColdMoon, หัวหน้า และคนอื่นๆเท่านั้น” Bones ถอนหายใจ เพราะเธอรู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้
ณ.เมืองหลินไห่
เมื่อลงจากรถไฟแล้ว เย่ฉางเห็นข้อความที่หมายเลข 1 ส่งมา เขาขมวดคิ้วขณะที่หันไปทางทิศตะวันตก และพึมพำ “มรสุมแห่งความมืดกำลังจะเกิด?”
ทันใดนั้นทุกคนในที่ประชุมก็เห็นเงาบนที่นั่งหมายเลข 7
“ช่างเป็นแขกที่เจอตัวได้ยากจริงๆ นี่ใช่ Silver Demon ตัวจริงๆหรือเปล่า?” War Soul (หมายเลข 2) แซวเขา
เย่ฉางไม่ได้ใส่ใจกับมัน และจ้องที่หมายเลข 1 “ครั้งนี้ฉันจะไปด้วย และไม่ถือว่าเป็นสัญญาที่เราตกลงกันไว้”
“ทำไม?” หมายเลข 1 สงสัย
“มีบางอย่างที่ฉันสนใจ” เมื่อพูดจบ เย่ฉางก็ออกจากโลกเสมือนจริง
“เขาเริ่มหยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆนะ” War Soul เย้ยหยันเขา
“War Soul อย่าให้ฉันรู้ที่อยู่ของคุณ…” เสียงที่เหมือนยมฑูตของ ColdMoon ดังขึ้นมา เธอจ้องมอง War Soul อย่างเย็นชา หลังจากที่สั่งให้ Bones และฟางชิเป็นตัวแทนของเธอในการประชุมแล้ว เธอก็จากไป