Virtual World – Peerless White Emperor - ตอนที่ 690 : โพนี่เทลหัวโล้น
ตอนที่ 690 : โพนี่เทลหัวโล้น
“เอาล่ะ ก็ได้ โรสตัวจริง! ฉันพนันได้เลยว่าเธอมาที่นี่เพื่อเจรจา เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ได้มาถึงขั้นนี้แล้ว แต่ฉันได้มอบเรื่องการบริหารทั้งหมดให้พวกเขาไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้ HappyFirmaments สาขายุโรปแล้ว เธอสามารถเข้าไปคุยอะไรก็ได้ที่เธอต้องการกับพวกเขา เราสามคนมาที่นี่เพื่อพักผ่อนเท่านั้น ดังนั้นเธอต้องเพ้นใจเรา เพราะเราไม่ได้สนุกกับตัวเองในช่วง 15 วันที่ผ่านมา” เย่ฉางกางแขนออก และพูดอย่างจริงใจ “เอาล่ะ! โชคดีจริงๆที่ได้เจอคุณที่นี่ มานี่สิ ขอฉันกอดเธอหน่อย”
เมื่อเห็นเย่ฉางยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับกางแขนออก เวอร์เลียนน่าก็กอดเขาตามมารยาท “ฉันไม่อยากกอดเขาจริงๆ งั้นฉันจะทําแบบลวกๆก็แล้วกัน เมื่อเขากอดเธอ มือของเย่ฉางก็เลื่อนไปแตะก้นของเธอ และบีบมัน “ไม่เลวเลย! เธอเป็นคนรักสุขภาพมากกว่าโรสตัวปลอมซะอีก หลินหลี่ อาเฉียง เราไปกันเถอะ”
ทุกคนต่างก็งงงวย เมื่อเห็นเย่ฉางเดินออกจากล็อบบี้ด้วยความสงบโดยไม่แสดงอาการผิดปกติอะไร ในขณะเดียวกันจางเจิ้งเฉียงก็รู้สึกประหลาดใจ “ทําไมฉันไม่คิดถึงเรื่องการกอดกันนะ? บ้าเอ๊ย!” สําหรับหลินหลี่ เขารีบกระโดดออกจากสถานที่แห่งนี้ ในขณะที่เขาตื่นเต้นเกี่ยวกับวันหยุดของพวกเขา
เวอร์เลียนน่าตกตะลึง “เขา… เขา!” มือของเธอสั่นเทา ขณะที่เธอกําลังโกรธ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และมองไปที่อีแวนส์ และคนอื่นๆ “พวกนายไม่เห็นอะไรเลย…. ใช่ไหม?”
พวกเขารีบพากันส่ายหัวทันที
ทันใดนั้นเย่ฉางก็กลับมา “โอ้! มาน้อย อลิก้า พวกคุณช่วยออกมาสักแปปนึ่งได้ไหม? อาเฉียง และฉันมีบางอย่างมอบให้พวกคุณสองคน เออ โรสตัวจริง นี่คือมาน้อยซึ่งเป็นหัวหน้าสาขาใหม่ของเรา ดังนั้นเธอจะเป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมด”
เวอร์เลียนน่าไม่ได้หันหลังกลับ และเธอก็ไม่ต้องการทําเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกับเขา และถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสังหารถ้าเธอทําเช่นนั้น
จากนั้นหญิงสาวทั้งสองก็เดินออกมา
ในล็อบบี้ มันช่างน่าอึดอัดใจมากเมื่อเวอร์เสียนน่าจ้องมองผู้ทรยศอย่างอีแวนส์ และเจย์น่า
“เอาล่ะ! จักรพรรดิขาว คุณจะไปพักผ่อนหลังจากคุยกับเวอร์เลียนน่าเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” อลิก้ายังคงหวาดกลัวเย่ฉาง เธอรู้สึกหนาวสั่นทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเผยรอยยิ้มออกมา
“ถือซะว่านี่เป็นการทดสอบด้วยตัวเธอเอง เมื่อฉันจากไป พวกเธอคือคนที่จะพัฒนาสาขานี้ ดังนั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเธอจะแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอมีดีอะไรบ้าง มาน้อย ตอนนี้ฉันจะปลูกหางม้าทั้งสองไว้ที่หัวของเธอแล้ว” เจย์ลิสรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่เย่ฉางพูดออกมา
“แต่ในฐานะหัวหน้าสาขา เธอจะต้องมีรูปลักษณ์ที่ดีกว่าโรสตัวจริง ฉันจะออกแบบทรงผมให้เธอโดยเฉพาะ ต้องเป็นโพนี่เทลสิน้า” เจย์ลิสรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ในที่สุดเขาก็จะสร้างรูปลักษณ์ใหม่ให้กับฉัน!”
อย่างไรก็ตามอลิก้ารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ดีกําลังจะเกิดขึ้น ‘หากออร่าและรูปลักษณ์ที่สวยงามของเวอร์เลียนน่าถูกเอาชนะได้ด้วยสกิลแปลงโฉมบางอย่าง เช่นนั้นเธอก็คงจะไม่ถูกเรียกว่ากุหลาบแห่งแวร์ซาย’
“หลับตาลงเสีย” เย่ฉางยิ้ม ในขณะเดียวกันหลินหลี่และจางเจิ้งเฉียงก็หันกลับมา และถอนหายใจ “เพื่อนหลินหลี่และฉันจะไปรอนายที่ประตูเมืองนะ”
ช่วงเวลาต่อมาเย่ฉางนํากล่องเครื่องมือตัดผมออกมา และหยิบผมหางม้าทั้งสองออกจากกระเป๋าของเขา เขาลูบคางและใช้ความคิด จากนั้นเขาใช้มีดโกนเพื่อลงมือตัดผม “ฉับ ฉับ ฉับ” อลิก้า เห็นเจย์ลิสกลายเป็นหัวโล้นทันที นอกจากนี้สกิลการตัดผมของเยฉางยังได้รับการขัดเกลาเป็นอย่างดี จนทําให้หัวของเธอสามารถสะท้อนแสงได้
จากนั้นเย่ฉางก็วางหางม้าทั้งสองไว้ราวกับว่าเขากําลังปลูกข้าวสาลี ต่อมาเขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก “ยอดเยี่ยม! ตอนนี้เธอจะไม่ถูกเวอร์เลียนน่ากดขี่ ในแง่ของรูปลักษณ์อีกต่อไปแล้ว!”
“เอาล่ะ! ตอนนี้ฉันต้องไปแล้ว อลิน้อย เธออย่าลืมช่วยตัดสินใจร่วมกับเจย์น่าและคน อื่นๆด้วยล่ะ!” เมื่อพูดจบ เย่ฉางก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเจย์ลิสต้องการนํากระจกออกมาส่องดู อลิก้าก็จับมือเธอไว้ “อย่าส่องกระจก! เมื่อเธอล็อกอินเข้าเกมครั้งหน้า เธอต้องหลับตาจนกว่าจะล็อกอินเสร็จ! ฟังฉันนะ! อย่ากังวลแม้ว่าจะมีคนนินทาเกี่ยวกับเรื่องนี้! สําหรับฉันแล้ว เรื่องนี้มันหนักหนามากเกินไป..”
หัวใจของเจย์ลิสจมดิ่งลง เธอผลักมือของอลิก้าออก แล้วมองเข้าไปในกระจก “โพนี่เทลหัวโล้น!” เธอตกตะลึง
อลิก้าดึงเธอเข้ามากอด “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง แม้ว่ารูปลักษณ์ของเธอจะเป็นแบบนี้ แต่เธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่สวยงามอยู่ดี”
“นะ นี่ รูปลักษณ์นี้เจ๋งมาก! ฉันชอบมันมาก! มันจะดีมากยิ่งขึ้นถ้าฉันมีลายสัก ฉันต้องการลายสักเฮลโลคิตตี้ จากนั้นมันก็จะสมบูรณ์แบบ และที่สําคัญที่สุดผมหางม้าทั้งสองของฉันกลับมาแล้ว!” คําพูดของเจย์ลิสทําให้อลิก้าตกตะลึง
เมื่อเห็นเจย์ลิสชื่นชอบ และกลับไปที่ล็อบบี้อย่างอารมณ์ดี อลิก้าก็พิมพ์ออกมา “ไม่น่าแปลกใจที่เธอได้รับเลือกให้ดํารงตําแหน่งหัวหน้าสาขา แน่นอนว่าเธอแตกต่างจากเรา ด้วยฉายาโพนเทลหัวโล้น และลอร์ดมาก้า ด้วยชื่อเหล่านี้ฉันพนันได้เลยว่า มันจะทําให้ทั้งยุโรปตกตะลึง…”
เมื่อเวอร์เลียนน่าเห็นเจย์ลิสกลับมา เธอก็ตกตะลึง “เธอเปลี่ยนแปลงออร่าของเธอด้วยการออกไปข้างนอกได้อย่างไร?! โพนี่เทลหัวโล้น! ความคิดนี้น่าสนใจ!” เธอเริ่มระมัดระวังเกี่ยวกับเจย์ลิส เธอจะต้องไม่ธรรมดา เนื่องจากเธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสาขายุโรปโดยสามพี่น้อง แม้ว่าเธอจะถูกผู้เล่นธรรมดาฆ่าตายมากกว่า 100 ครั้ง แต่นั้นต้องเป็นแผนของเธออย่างแน่นอน! เธออาจดูโง่ แต่ลึกๆข้างในนั้นเธออาจจะฉลาดมากกว่าฉันเสียอีก”
จากนั้นเจย์ลิสก็นั่งบนที่นั่งของเธอ ในขณะที่อีแวนส์ส่งสัญญาณให้เธอ เมื่อเห็นเวอร์เลียนน่านั่งตรงข้ามกับเธอ เธอก็รู้สึกประหม่า แต่เมื่อเธอนึกได้ว่าหางม้าของเธอกลับมาแล้ว เธอก็สงบลง อลิก้าก็กลับไปที่ห้องประชุม และนั่งลงหลังจากมองเห็นเวอร์เลียนน่า
“เอาล่ะ! เราจะไม่พูดถึงการกบฏต่อสหภาพพันธมิตร แต่หัวหน้าลอร์ดมาก้า เธอได้ร่วมทีมกับพวกกบฏ และฆ่าสมาชิกกิลด์ส่วนใหญ่ของฉันในภาคเหนือ เธอจะชดเชยสิ่งนี้อย่างไร!?” น้ําเสียงของเวอร์เลียนน่าเคร่งเครียด และเธอก็จ้องมองที่เจย์ลิส สายลมแห่งความเหนื่อยล้ากําลังไหลกลับมาที่เจย์ลิส ขณะที่เธอรู้สึกมึนงง ในขณะเดียวกันเจย์น่าก็กระซิบอยู่ข้างๆ “ไม่ต้องกลัว เธอได้รับเลือกจากจักรพรรดิขาว, จักรพรรดิแห่งโชค และจักรพรรดิคําราม เธอไม่ต้องการทําให้จักรพรรดิขาวที่เลี้ยงดูเธอมาต้องผิดหวังใช่ไหม?” เขาให้โอกาสนี้กับเธอ แม้ว่าเราจะสามารถให้เธอยืมมือได้ แต่เธอก็ยังคงต้องรับผิดชอบในบางเรื่องเช่นกัน อย่าทําให้ชื่อของ HappyFirmaments เสื่อมเสีย”
“ถูกต้อง! แม้ว่าฉันอาจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าสาขาได้ดี และไม่สามารถเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่สวยที่สุดแห่งยุโรปได้ แต่ฉันต้องไม่ยอมแพ้ง่ายๆ!” จากนั้นเจย์ลิสก็นึกถึงช่วงเวลา ก่อนที่เธอจะพบเย่ฉาง ครั้งหนึ่งฉันเคยเป็นเพียงนักบวชขี้อายที่ถูกรังแกจากทุกคน แต่หลังจากที่รู้จักเย่ฉางมาเกือบครึ่งเดือน ฉันก็เข้าใจแล้วว่า ตราบใดที่คุณมีความกล้า, ชั่วร้าย และไร้ยางอาย ทุกอย่างก็เป็นไปได้! แม้ว่าฉันจะไม่ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดในครั้งเดียว แต่อย่างน้อยฉันก็ต้องพยายามโชว์ความอหังการดูสักครั้ง! แสดงมันออกมาต่อหน้ากุหลาบแห่งแวร์ซาย!”
อีแวนส์ต้องการช่วยเจย์ลิสด้วยการทําลายความเงียบ แต่เขาก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นเจย์ลิสจ้องมองอย่างมั่นใจ
“ชดเชย?! ฉันคิดว่าสหภาพพันธมิตรและฉันยังมีหนี้ค้างบางอย่างที่ยังตกลงกันไม่เรียบร้อย! เมื่อตอนที่ฉันเลเวล 2 ฉันถูกพวกเธอฆ่าไปตั้ง 5 ครั้ง! เมื่อฉันเลเวล 5 ฉันถูกฆ่า 3 ครั้งที่หมู่บ้านปิน เมื่อเลเวล 10 ฉันถูกฆ่า 26 ครั้งที่หุบเขาลมคลั่ง และต้องนอนตายค้างคืนที่เมืองไอรอนซอว์เมื่อตอนเลเวล 13!” เจย์ลิสรู้สึกท้อแท้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนเลเวล 13 ครั้งนั้นฉันซื้ออุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมด้วยเงินออมทั้งหมดของฉัน แต่เพียงเพราะความขัดแย้งระหว่างสหภาพพันธมิตรและกิลด์พันธะเลือด ฉันจึงถูกฆ่าตายด้วยสกิล [Flame Burst] ของนักเวท” เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็กระแทกโต๊ะแล้วตะโกน “กุหลาบแห่งแวร์ซาย! เธอจะชดเชยเรื่องนี้อย่างไร?!”
เวอร์เลียนน่ารู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของเจย์ลิส ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนขี้ขลาดกลายเป็นนักเลงหัวไม้เช่นนี้ แม้แต่อีแวนส์ก็ตกตะลึงกับท่าทางโกรธแค้นของเจย์ลิส
“นั่นหมายความว่าเธอต้องการที่จะเห็นทั้งภาคเหนือเป็นศัตรูกับเธอใช่ไหม?” เวอร์เลียนน่าพูดอย่างเย็นชา
“ไม่! แต่เป็นเธอนั่นแหละที่จะเป็นศัตรูของคนทั้งภาคเหนือ จงอย่าลืมว่าเมืองมังกรเงินเป็นศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ! และฉันก็เป็นบอสของที่นี่!” เจย์ลิสไม่อ่อนข้อ และตอบกลับ ด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา ซึ่งเลียนแบบการกระทําของเย่ฉาง
เวอร์เลียนน่าขมวดคิ้ว ขณะที่เธอจ้องมองหัวโล้นของเจย์ลิส “หญิงสาวโพนี่เทลหัวโล้นคนนี้ไม่ง่ายเสียแล้ว เธอปิดกั้นฉันด้วยประโยคแรกของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอกําลังแสวงหาการแก้แค้น และประโยคที่สองของเธอยังเน้นถึงตําแหน่งของเธอในเมืองมังกรเงิน”
“เอ่อ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันคิดว่าฉันเป็นบอสของเมืองมังกรเงินนะ” จาลิสขัดจังหวะพวก เธออย่างสงบ แต่เจย์ลิสจ้องเขม็งไปที่เขา “ก็ได้ ก็ได้ เธอคือบอส เธอคือบิ๊กบอส”
“…” ทุกคน