War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3555 : ทำได้แค่นี้?
“ผลที่ตามมา? ยังจะมีผลที่ตามมาอะไรได้?”
หวู่หลงมองต้วนหลิงเทียนที่วูบร่างขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าพลางยิ้มกล่าว และพอมันพูดจบคำอยู่ๆก็ปรากฏสายฟ้านับพันสายปะทุออกมาจากร่างมันทันที!
ชั่วพริบตาร่างหวู่หลงจมอยู่ในห่าอัสนีนับพันสาย ประหนึ่งมันกำลังอาบสายฟ้านับพันเส้นอย่างไรก็ไม่ทราบ ในมือยังปรากฏเส้นสายอัสนีวูบวาบแปลบปลาบปานมันกำลังถือสายฟ้าต่างอาวุธ ด้วยการกระทำดังกล่าวพร้อมด้วยเส้นสายอัสนีนับพันที่ผ่าลั่นอยู่รอบตัว ทำให้มันแลคล้ายเทพสายฟ้าอันทรงพลังน่าเกรงขาม!
เห็นได้ชัดว่ากฏที่หวู่หลงเชี่ยวชาญคือกฏสายฟ้า!
ในฐานะที่เป็นกฏอันต่อยอดออกมาจากกฏแห่งธาตุทั้ง 5 ธาตุ กฏสายฟ้านั้นไม่ต่างอะไรจากสีครามที่มาจากสีน้ำเงินแต่เข้มกว่าสีน้ำเงิน และเส้นสายอัสนีที่แลบลั่นแปลบปลาบทั่วร่างหวู่หลงยามนี้ พลังระเบิดของมันก็เหนือกว่ากฏแห่งไฟ มีความทรงพลังประหนึ่งกฏแห่งทอง และมีความเร็วอันน่าสะพรึงกลัวของกฏแห่งลม!
“มาเถอะต้วนหลิงเทียน ให้ข้ารับทราบว่าเจ้าที่ได้รับการขนานนามว่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับ 1 ของระนาบเทวโลกทั้งมวลที่แท้จักร้ายกาจเพียงใด…ข้าเพียงหวังว่าเจ้าคงมิใช่พวกชื่อเสียงจอมปลอม!”
พอหวู่หลงกล่าวออกมาอีกครั้ง เสียงของมันก็ดังกระหึ่มปานพายุฝนฟ้าคะนอง ขณะเดียวกันมันก็เริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง อยู่ๆคนก็เปลี่ยนไปเป็นสายฟ้ามหึมา ร่างกายยังขยายใหญ่ขึ้นในฉับพลัน!
เปรี๊ยะ!!
ครืนนน!!
…
ทันใดนั้นเสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด เหล่าคนของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ เห็นฉากฟ้าเปลี่ยนสีกับตา ยังมีอัสนีเส้นเขื่องที่ฟาดผ่าลงมาดั่งมังกรอัสนีจากชั้นฟ้ามาเยือนโลกมนุษย์!
และท่ามกลางอัสนีเส้นเขื่องที่ฟาดผ่าลงอย่างน่ากลัว อัสนีเส้นเขื่องปานมังกรสายฟ้านั่นก็เริ่มเหาะเหินม้วนวนไปรอบๆพื้นที่ๆหวู่หลงกับต้วนหลิงเทียนเผชิญหน้ากัน ราวกับมันจะปิดฟ้าบังตะวัน สภาวะพลังช่างน่าเกรงขามขู่ขวัญผู้ที่ชมมองนัก!
“ช่างเป็นกฏสายฟ้าที่ทรงพลังอะไรจะเช่นนี้…สมแล้วที่หวู่หลงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดารา! นับว่ามันคู่ควร!!”
ระดับสูงๆของพันธมิตรสวรรค์กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ
“รองผู้นำ…จะสู้มันได้หรือไม่?”
หลายคนเริ่มใช้สายตาสงสัยมองไปที่ต้วนหลิงเทียน ถึงแม้ว่าตอนนี้รองผู้นำของพวกมันจะยังแลดูสงบไม่แยแสชวนให้ผู้คนรู้สึกอุ่นใจไม่น้อย แต่พวกมันก็ไม่ได้หวังอะไรไว้มากนัก
“ผู้นำ…ท่านว่าจ้าววังน้อยจะเอาชนะมันได้หรือไม่?”
ข้างกายของซ่างกวนอวิ๋นเฟิงบัดนี้ ไม่เพียงแต่มีผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซานเท่านั้น กลับมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ และพวกมันก็คือผู้พิทักษ์คนอื่นๆของพันธมิตรสวรรค์นั่นเอง หนึ่งในนั้นก็หันมามองถามซ่างกวนอวิ๋นเฟิงด้วยความคาดหวัง
“เรื่องนี้ยากจะกล่าว…”
ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงส่ายหน้าไปมา “พลังฝีมือของหวู่หลงผู้นั้น ทุกคนในสมรภูมิ 9 ยมโลกก็รู้ๆกันอยู่…ส่วนจ้าววังน้อยนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือมาจากโลกภายนอก และเพียงแค่เปิดเผยพลังระดับยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดาราออกมาเท่านั้น”
“แต่ก็เป็นความจริงที่การเปิดเผยพลังระดับยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดารา จ้าววังน้อยมิได้ใช้อุปกรณ์อมตะ”
“นอกจากนั้น ตอนที่จ้าววังน้อยเผยพลัง ระดับบ่มเพาะก็ยังอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิอมตะ 9 ตำหนัก”
“ตอนนี้จ้าววังน้อยสมควรบรรลุถึงจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศแล้ว…พลังฝีมือสมควรสูงส่งกว่ากาลก่อน อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ หาไม่แล้วคงมิอาจรักษาความสงบอยู่ได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหวู่หลง”
ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าศึกครั้งนี้ต้วนหลิงเทียนจะเอาชนะได้หรือไม่ แต่มันเห็นถึงความมั่นใจในตัวเองของต้วนหลิงเทียนชัดเจน ทำให้แม้คำตอบที่มันพูดออกไปจะคลุมเครือ แต่ในใจของมันก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง
หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น และต้วนหลิงเทียนสามารถเอาชนะหวู่หลงได้!
และเชื่อได้เลยว่า หากศึกครั้งนี้ต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายเอาชนะหวู่หลงได้ล่ะก็ ชื่อเสียงของต้วนหลิงเทียนจะแพร่กระจายไปทั่วปานไฟลามทุ่ง!
ไม่เพียงแต่ในสมรภูมิ 9 ยมโลก แตยังรวมถึงระนาบเทวโลกต่างๆ! ทุกต้องแตกตื่นกับเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสามารถเอาชนะหวู่หลงได้แน่!!
กล่าวได้ว่าถึงตอนนั้นชื่อเสียงของต้วนหลิงเทียนจะพุ่งถึงจุดสูงสุด โด่งดังยิ่งกว่าผู้เป็นอาจารย์อย่างจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางแน่นอน!
“เจ้าลงมือเถอะ!”
ทันใดนั้นเอง เสียงพูดของหวู่หลงพลันดังขึ้นก้องฟ้า ไม่ต่างอะไรกับเสียงอัสนีคำรน!
พริบตาต่อมา ทุกคนก็เห็นว่าร่างสายฟ้าของหวู่หลงที่เดิมใหญ่โตอยู่แล้ว พอมังกรสายฟ้าที่ม้วนวนรอบๆเมื่อครู่พุ่งมาหลอมรวม ร่างมันก็ทวีความใหญ่โตขึ้นไปอีกในฉับพลัน เรียกว่าใหญ่โตกว่าตัวหวู่หลงในตอนแรกถึง 10 เท่า! ทำให้บัดนี้หวู่หลงประหนึ่งกลายเป็นเทพสายฟ้าไปแล้วจริงๆ!!
ร่างที่ก่อเกิดจากสายฟ้าอันมหึมาของหวู่หลงยืนตระหง่านท่ามกลางฟ้าดิน ในมือเริ่มปรากฏดาบที่ควบรวมสร้างขึ้นจากเส้นสายอัสนี และดาบอัสนีดังกล่าว พอปรากฏสมบูรณ์กลิ่นอายทำลายล้างชวนสยองก็กวาดสะท้านไปในบรรยากาศทันที ให้ความรู้สึกราวกับจะผ่าทำลายได้กระทั่งสวรรค์และโลก!
ร่างสายฟ้ามหึมาของหวู่หลงลอตระหง่านกลางหาวพร้อมดาบสายฟ้าเล่มเขื่อง ให้สภาวะยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน คนคล้ายจะสามารถปิดฟ้าบังตะวัน!
ตรงกันข้ามกับต้วนหลิงเทียนอย่างสิ้นเชิง
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างอยู่ฝั่งตรงข้ามหวู่หลง เสมือนกลายเป็นมดตัวกระจิ๊ดริดตัวหนึ่งที่กำลังแหงนมองขุนเขา!
“ตามที่ขอ”
เผชิญหน้ากับคำท้าทายให้ลงมือก่อนของหวู่หลง ต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวตอบกลับไปเสียงเรียบ จากนั้นทั่วร่างก็เริ่มปรากฏไอพลังกำจายออกมาเป็นวงคลื่น ทันใดนั้นเองเงาร่างต้นไม้มหึมาให้ความรู้สึกโบราณเก่าแก่หนึ่งก็ค่อยๆเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ!
เรียกว่าตอนแรกเสมือนภูตพราย แต่สุดท้ายก็กลายเป็นมีสภาพดั่งต้นไม้จริงๆ!
ไม่ใช่ใดอื่นเป็นร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว ที่ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานานแล้ว และเมื่อร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวปรากฏออกมาอีกครั้ง ในแง่ความสูงใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าร่างสายฟ้าของหวู่หลงเลย!
“นี่มัน…ต้นไม้เทพสนหลิวเช่นนั้นรึ?”
“อะไรกัน? ที่แท้ร่างจริงของรองผู้นำเป็นต้นไม้เทพสนหลิวหรอกเหรอ!?”
“ไม่! จ้าววังน้อยเป็นมนุษย์ไม่ผิดแน่! นี่เป็นแค่ร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวเท่านั้น!!”
…
ต้นไม้เทพสนหลิวนั้น เป็นพฤกษาที่ผู้คนระดับสูงๆของระนาบเทวโลกรู้จักกันดี เรียกว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เทียบได้กับสัตว์อมตะชั้นยอด การสร้างร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับสัตว์อมตะที่จำแลงกายเป็นมนุษย์เลือกจะคืนร่างที่แท้จริงเลย!
กล่าวได้ว่าผู้คนที่สามารถสร้างร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิวได้ ความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ต้วนหลิงเทียนที่บัดนี้อยู่ใจกลางร่างอวตารกฏต้นไม้เทพสนหลิว อาศัยเพียงหนึ่งห้วงคิด กิ่งต้นสนหลิวมากมาย ก็พุ่งฟาดออกไปมางหวู่หลงด้วยความเร็วจนเห็นเป็นเงาเลือนดั่งภูตพราย เสียงอากาศแตกระเบิดดังขึ้นจนฟ้าสะท้านดินสะเทือน!
ท่ามกลางทุกสายตาที่ชมดูเรื่องราวอย่างใจจดจ่อ พริบตาร่างสายฟ้าหมึมาของหวู่หลง ก็เสมือนกำลังจะถูกกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวนับไม่ถ้วนปกคลุมแล้ว!
เรียกว่ากิ่งต้นไม้เทพสนหลิวที่ฟาดมา เสมือนถักทอเป็นข่ายฟ้าแหสวรรค์ ยากที่หวู่หลงจะหลีกหลบไปไหนได้ ไม่ต่างอะไรกับคุกเคลื่อนที่!..ไอรีนโนเวล
“หึ!”
เผชิญหน้ากับการจู่โจมอันดุร้ายของต้วนหลิงเทียน หวู่หลงพ่นลมสบถเสียงเย็นคำหนึ่ง จากนั้นดาบสายฟ้าเล่มเขื่องในมือก็เริ่มตวัดด้วยความเร็วประหนึ่งอัสนีวาบลั่น ฟาดฟันเข้าใส่แพกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวที่โถมถันเข้ามาดั่งคลื่นสมุทร!
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
ยามดาบอัสนีฟาดฟัน เสียงอัสนีแลบลั่นก็ดังขึ้นตามติดประหนึ่งเงาตามตัว!
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
…
กิ่งต้นไม้เทพสนหลิวไม่ว่าจะโถมฟาดไปกี่กิ่งต่อกี่กิ่ง ก็ถูกดาบสายฟ้าที่ตวัดฟันด้วยความเร็วสูงล้ำจนเห็นเป็นประกายแสงวูบวาบ สับหั่นจนขาดวิ่นทั้งหมด!
“เจ้าทำได้แค่นี้รึ?”
หวู่หลงที่ฟันกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวของต้วนหลิงเทียนจนหมด คอนดาบเฉียงลงข้างกาย เชิดหน้าขึ้นพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงท่าทีเหนือกว่า
อย่างไรก็ตาม แทบจะพร้อมๆกันกับที่หวู่หลงกล่าวจบคำ สีหน้ามันก็ต้องชะงักข้างไปทันที
เพราะมันเห็นว่ากิ่งต้นไม้เทพสนหลิวที่มันตวัดดาบสายฟ้าฟันหั่นจนขาดวิ่นร่วงตกฟ้าไปทั้งหลายนั่น กลับไม่ได้หวนคืนสู่สภาพพลังงานและสลายหายไป แต่เหล่ากิ่งที่ขาดวิ่นทั้งหลายอยู่ๆก็หยุดค้างกลางหาว จากนั้นก็หันมาเพ่งเล็งมันราวกับลูกศร ก่อนจะพุ่งทะลวงฟ้ามาด้วยความเร็วอัศจรรย์!
“ผิดท่าแล้ว!!”
หวู่หลงที่เห็นห่ากิ่งหลิวที่พุ่งยิงเข้ามาไม่ต่างอะไรกับห่าลูกเกาทัณฑ์นับพันหมื่น ก็เริ่มตวัดดาบสายฟ้าขวางไปเบื้องหน้า ก่อนจะระเบิดพลังออกมาอย่างเกรี้ยวกราด อุบัติแพอัสนีกำจายออกจากตัวดาบ ประหนึ่งจะสร้างข่ายสายฟ้ากำบัง!!
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นกระบวนท่าที่ปลดปล่อยออกมาอย่างฉุกละหุก ไม่ได้รวมรั้งพลังให้มากพอ เช่นนั้นเพียงต้านทานกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวที่ขาดวิ่นได้สักพัก ก็ถูกกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวที่ยังเหลือเกือบครึ่งฝ่าทะลวงข่ายอัสนีมาได้ในที่สุด!!
“อั๊คคค!!”
ถึงแม้ว่าข่ายสายฟ้าจะใช้ออกอย่างฉุกละหุก ทำให้ไร้พลังอำนาจป้องกันอย่างที่ควร แต่มันก็ทำลายกิ่งต้นไม้เทพสนหลิวต่างลูกศรไปได้กว่าครึ่ง เช่นนั้นด้วยจำนวนที่เหลือแม้จะพุ่งทะลวงร่างสายฟ้ามหึมาของหวู่หลงจนปุพรุน แต่พลังอำนาจยังด้อยกว่าโดนเต็มๆมาก ร่างจริงหวู่หลงเพียงหน้าซีดและกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่งเท่านั้น!
“รองผู้นำร้ายกาจยิ่ง!!”
“หวู่หลงโดนการโจมตีไม่คาดฝันจนบาดเจ็บแล้ว!!”
“ดูเหมือนว่ารองผู้นำจะเอาชนะหวู่หลงได้จริงๆ!”
…
ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าทำให้สองตาคนของพันธมิตรสวรรค์ฉายแววจ้าขึ้น อารมณ์ยังกลายเป็นฮึกเหิมขึ้นมาทันตาเห็น!
อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของหวู่หลงก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากนัก เพราะสุดท้ายแล้วร่างสายฟ้าของมันก็เป็นร่างพลังงาน หลังปาดเช็ดเลือดที่มุมปากกับเดินพลังเล็กน้อย ใบหน้าที่ซีดลงไปชั่วขณะก็เริ่มมีสีเลือดอีกครั้ง “นับว่าเอาเรื่องอยู่บ้าง…ต้องยอมรับว่าทั้งหมดเป็นข้าประมาทเอง!”
“เอ่าละ ในเมื่อเจ้าลงมือก่อนแล้ว…จากนั้นก็ถึงตาข้าบ้าง!”
หลังหวู่หลงกล่าวออกเสียงเย็น มันก็ผายมือออกก่อนจะผลักออกเบื้องหน้า
ทันใดนั้นเองฟ้าเบื้องบนเสมือนเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง!
เปรี๊ยงงงง!!
ครืนนนน!!!
…
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ฟ้าเบื้องบนพลันปรากฏเมฆสีดำทะมึนก่อตัวขึ้นอย่างหนานแน่น แพเมฆดำเริ่มปิดฟ้าบังตะวัน ทำให้อาณาบริเวณโดยรอบเริ่มมืดลงเสมือนม่านรัตติกาลคลี่กลางปกคลุม คนของพันธมิตรสวรรค์พากันแหงนมองฟ้าด้วยท่าทีจริงจัง เพราะตอนนี้บรรยากาศเสมือนกำลังจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองครั้งใหญ่!
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!เปรี๊ยง!
…
และในขณะที่คนของพันธมิตรสวรรค์กำลังมองแพเมฆทะมึนด้วยสายตาจริงจังนั้นเอง เพียงหวู่หลงพลิกฝ่ามือเล็กน้อย ก็อุบัติห่าอัสนีฟาดผ่าลงจากแพเมฆทะมึนเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนทันที!
ฉากเรื่องราวดังกล่าวเสมือนกับสวรรค์กำลังพิโรธ ปลดปล่อยความเกรี้ยวกราดลงมาพิฆาตสรรพชีวิต!
ดั่งทัณฑ์สวรรค์!
ห่าสายฟ้านับหมื่นพันกระหน่ำฟาดลงจากฟ้าผ่าเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนไม่หยุด จนตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเสมือนถูกห่าสายฟ้ากลืนหายไปอย่างไรอย่างนั้น!
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ บัดนี้ร่างต้วนหลิงเทียนได้ถูกห่าสายฟ้ากลืนหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคนแล้ว!
ฉากเรื่องราวอันน่ากลัวเบื้องหน้า ทำให้ใจของสมาชิกพันธมิตรสวรรค์จมลงทันที
เมื่อครู่พวกมันพึ่งเห็นต้วนหลิงเทียน รองผู้นำพันธมิตรสวรรค์ของพวกมันกำลังมีเปรียบอยู่หยกๆ แต่ในพริบตาหวู่หลงก็ลงมือประหนึ่งเทพสายฟ้าที่กำลังพิโรธ ปลดปล่อยห่าทัณฑ์สวรรค์ลงมาพิฆาตต้วนหลิงเทียน!
ฉากสายฟ้าที่อานุภาพรุนแรงประหนึ่งทัณฑ์สวรรค์ฟาดผ่าไม่หยุดราววันสิ้นโลก ช่างมีอานุภาพขู่ขวัญคนของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์นัก! แต่ละคนเริ่มใจเสียและหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ!!
“จ้าววังน้อย…”
จังหวะนี้แม้แต่สีหน้าของซ่างกวนอวิ๋นเฟิงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขรึมเคร่ง สองหมัดยังเริ่มกำแน่น…
มันลองถามตัวเองดูว่าหากเป็นมันเผชิญหน้ากับห่าสายฟ้าที่ถล่มผ่าลงมาประหนึ่งความพิโรธของสวรรค์แบบนี้ มันจะเป็นเช่นไร…มันก็สามารถตอบได้ทันที หากไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!
เรียกว่ากระบวนท่านี้มากพอจะทำให้มันหมดสภาพต่อสู้โดยสมบูรณ์!
และต้องทราบด้วยว่า จนถึงบัดนี้ หวู่หลงยังไม่ได้ใช้อุปกรณ์อมตะใดๆ!
“เจ้าทำได้แค่นี้หรือ?”
แต่ในขณะที่จิตใจของผู้คนของพันธมิตรสวรรค์กำลังระส่ำระสาย เสียงเฉยเมยแฝงความเย้ยหยันหนึ่ง พลันดังขึ้นท่ามกลางห่าสายฟ้าที่ไม่ต่างอะไรจากความพิโรธของสวรรค์! ครู่ต่อมาร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวให้ผู้คนเห็นอีกครั้ง!!
ทั้งหมดเห็นร่างชายหนุ่มในชุดสีม่วงผู้หนึ่งกำลังยืนตระหง่านท่ามกลางห่าสายฟ้าพิโรธอย่างไร้เรื่องราว! ไม่ว่าเส้นสายอัสนีจะฟาดผ่าลงมากี่เส้นต่อกี่เส้น หากทว่าเมื่อเข้าใกล้ร่างชายหนุ่มชุดม่วงได้ระยะหนึ่ง มันก็อันตรธานสาบสูญไปในฉับพลัน!!
เป็นการทำลายล้างด้วยพลังอำนาจที่เหนือชั้นกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด!
พื้นที่ในอาณารัศมีไม่กี่หมี่รอบตัวชายหนุ่มชุดม่วง เสมือนเขตแดนต้องห้าม ยังผลให้คนเสมือนอยู่ยงคงกระพัน ไม่ว่าพลังอำนาจใดๆก็มีอันต้องถูกทำลายไม่อาจย่างกรายเฉียดใกล้!
“นี่มัน…หรือว่าจะเป็นวิถีควบคุม! 1 ใน 4 วิถีแห่งสวรรค์และโลก!?”
ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าทำให้สองตาของ ซ่างกวนอวิ๋นเฟิง ผู้นำพันธมิตรสวรรค์ลุกโชนขึ้นมาปานเพลิงไฟ! จตุรวิถีในสวรรค์และโลกตัวมันได้ยินมานานแล้ว หากแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจแลเห็นธรณีประตูดังกล่าว และในอดีตมันก็ไม่เคยพบเจอผู้ใดใช้ให้เห็นสักครั้ง!
นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้ประจักษ์กับตาตัว!