War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2918
ตอนที่ 2,918 : มาถึงนิกายอมตะสือหัง!
กว่าที่ความจริงเรื่องนิกายอมตะสราญรมย์ล่มสลายไปแล้ว จะถูกผู้คนจำนวนมากยืนยันข้อเท็จจริงได้ ด้านต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อ ก็ถูกเถี่ยไท่เหอหอบหิ้วเดินทางมาถึงพื้นที่สามัญเป็นที่เรียบร้อย
“ปรมาจารย์โอสถต้วน ตอนนี้พวกเราเข้าเขตของพื้นที่สามัญแล้ว แต่พอดีข้าไม่เคยไปนิกายอมตะสือหังมาก่อนเลย ข้าก็เลยไม่รู้เส้นทาง…”
หลังมาถึงพื้นที่สามัญ เถี่ยไท่เหอก็หยุดร่างลงเล็กน้อย หันไปกล่าวกับต้วนหลิงเทียนว่า “เช่นนั้นข้าก็เลยคิดจะไปหาเมืองใหญ่ๆ หรือขุมกำลังอันใดระหว่างทางเพื่อสอบถามดู…หากได้ตำแหน่งที่ตั้งที่แน่ชัดของนิกายอมตะสือหังแล้วพวกเราค่อยเดินทางกันต่อ”
“อาวุโสเถี่ย ท่านจัดการตามที่เห็นสมควรเถอะ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับฟัง สีหน้าไม่ยินดียินร้ายใดๆ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่เข้าเขตพื้นที่สามัญ ในใจต้วนหลิงเทียนก็เริ่มหาความสงบไม่เจอ ‘ไม่รู้ว่าไปนิกายอมตะสือหังครั้งนี้จะได้เจอนางรึเปล่า…’
การไปเยือนนิกายอมตะสือหังครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนไม่ได้คิดจะพบมู่หรงปิงแต่อย่างไร เว้นเสียแต่มู่หรงปิงจะออกมาพบเขาด้วยตัวเอง หาไม่แล้วเขาก็ไม่อยากฝืนใจนาง
เพราะสุดท้ายแล้วการไปนิกายอมตะสือหังคราวนี้ เขาไม่ได้ไปเพื่อพานางร่วมทางไปกับเขา แต่เป็นการจัดการฝากฝังให้นางสามารถอยู่ในนิกายอมตะสือหังได้อย่างปลอดภัยไร้เรื่องราว
“พี่หลิงเทียน…”
ถึงแม้ว่าสีหน้าต้วนหลิงเทียนจะไม่เผยความรู้สึกใดๆออกมา แต่ฮ่วนเอ๋อที่อยู่กับต้วนหลิงเทียนมาพักใหญ่ ย่อมคุ้นเคยกับสีหน้าท่าทีของต้วนหลิงเทียนเป็นอย่างดี
และครั้งนี้นางก็สัมผัสได้ชัดเจนว่าพี่หลิงเทียนของนางไม่ได้สงบอย่างที่เห็นแค่ผิวเผิน อารมณ์ยังไม่มั่นคงถึงขั้นทำให้กลิ่นอายพลังเริ่มแผ่ออกมาทั่วร่าง
จากนั้นนางก็เร่งกุมมือต้วนหลิงเทียนทั้งออกแรงบีบมือต้วนหลิงเทียนเบาๆ ราวกับอยากให้ต้วนหลิงเทียนสงบอารมณ์ลง
“ฮ่วนเอ๋อ ข้าไม่เป็นไร”
ต้วนหลิงเทียนที่สัมผัสได้ก็เอื้อมมืออีกข้างไปตบหลังมือฮ่วนเอ๋อเบาๆ ยิ้มกล่าวออกมาด้วยสีหน้าแววตาอ่อนโยน
ในขณะที่พวกต้วนหลิงเทียนเริ่มเดินทางเข้าไปยังพื้นที่สามัญได้สักพัก พื้นที่ก้าวข้ามกว่าครึ่งบัดนี้ก็ได้รับทราบเรื่องราววีรกรรมที่ต้วนหลิงเทียนทำลายนิกายอมตะสราญรมย์กันหมดแล้ว อีกทั้งเรื่องราวยังเริ่มแพร่กระจายออกไปด้วยความเร็วอันน่ากลัว คงอีกไม่นานก็รู้กันหมด
ณ ถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ
นับตั้งแต่วันที่ต้วนหลิงเทียนมาเยือนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับแล้วเข่นฆ่าโจวหมิง 1 ใน 3 บรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับไป และทำให้ไป๋หวู่จี้ต้องจบชีวิตตัวเอง บรรยากาศทั่วทั้งนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็อึมครึมประหนึ่งมีเมฆหมอกทะมึนมืดปกคลุมไปทั่ว
นอกจากอาวุโสฉีที่คึกคักอักโข มักยิ้มหน้าระรื่นไปด้วยความยินดีตอนไม่มีใครอยู่ด้วยแล้ว เรียกว่าไม่มีเสียงหัวเราะดังขึ้นในนิกายเลย
เพราะสุดท้ายแล้วการตกตายของโจวหมิง 1 ใน 3 บรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ กับประมุขนิกายอย่างไป๋หวู่จี้ สำหรับนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็ไม่ต่างอะไรจากถูกระเบิดลูกใหญ่ถล่มลงจากฟ้า!
หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้น ก็เลยไม่มีใครนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับสามารถหัวเราะออกมาได้
แต่วันนี้พอมีข่าวด่วนจากภายนอกรายงานมาถึง นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่ประหนึ่งบ่อน้ำโบราณที่เงียบสงบก็เดือดพล่านไปดั่งธารลาวา!
“ต้วนหลิงเทียน หัวหน้าปรมาจารย์โอสถของนิกายอมตะไท่อี ได้สังหาร หลี่ผิง ที่พึ่งบรรลุถึงราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด กระทั่งฆ่าล้างบางระดับสูงของนิกายอมตะสราญรมย์จนนิกายอมตะสราญรมย์ล่มสลายไปแล้ว!?”
“นิ…นี่เป็นความจริงหรือ!? หลี่ผิงที่ทะลวงถึงงขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด…ยังตกตายภายใต้เงื้อมมือต้วนหลิงเทียนผู้นั้น!?”
“ข่าวนี้มีหลายคนรับรองมาว่าเป็นความจริง…และจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นข่าวเท็จ”
“จ้าวสวรรค์ช่วย! หากเรื่องนี้เป็นความจริง ไม่ได้หมายความว่าต้วนหลิงเทียนผู้นั้นมีพลังสามารถมากพอจะฆ่าตัวตนขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดหรือไร!?”
…
พอนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับได้รับรายงานเรื่องที่นิกายอมตะสราญรมย์ได้ล่มสลายลงไปแล้ว ระดับสูงทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกกันยกใหญ่
“เช่นนั้นกล่าวได้ว่า…วันนั้นเป็นต้วนหลิงเทียนเมตตานิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกเราแล้วงั้นสิ ที่มันไม่ลงมือฆ่าล้างพวกเราหมดสิ้น?”
“ดูเหมือนจักเป็นเช่นนั้น”
“ด้วยพลังความแข็งแกร่งที่ร้ายกาจถึงขั้นฆ่าราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดได้ คิดจะทำลายนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกเราก็มิใช่เรื่องยากเย็น…ยังดีที่มันไม่คับแค้นจากการกระทำของไป๋อวี่ซวนบัดซบนั่น จนเอาโทสะมาลงกับพวกเรา!”
…
หลังจากได้รับรู้เรื่องที่นิกายอมตะสราญรมย์ล่มสลายไปแล้ว พอนึกถึงการลงมือของต้วนหลิงเทียนวันก่อน ระดับสูงและเหล่าศิษย์ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่อยู่ในเหตุการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“หลี่ผิงนั่น มันสามารถทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะได้แล้ว? แต่กระนั้นยังถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตาย?”
“ต้วนหลิงเทียน…ไม่ใช่แค่ราชาอมตะธรรมดาๆเป็นแน่!”
บรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ล้ลับที่เหลือกันอยู่ 2 คน พอได้ยินข่าวเรื่องราวจากโลกภายนอก ก็ถึงกับสะท้านใจไปครั้งใหญ่
อันที่จริงตั้งแต่ตอนที่ต้วนหลิงเทียนลงมือเข่นฆ่าโจวหมิงได้อย่างง่ายดาย พวกมันก็มีคาดเดากันไว้แล้ว ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่แค่ราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดเป็นแน่!
เพราะหากเป็นราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดจริง ต่อให้ใช้ความเร็วสูงสุด ด้วยระดับพลังของพวกมัน ก็สมควรจับเงาร่างความเคลื่อนไหวอันใดได้บ้าง
ทว่ายามต้วนหลิงเทียนเคลื่อนไหวลงมือ พวกมันไม่อาจจับร่องรอยอะไรของต้วนหลิงเทียนได้เลย!
สิ่งนี้แสดงให้เห็นอะไร?
ย่อมแสดงให้เห็นว่าพลังของต้วนหลิงเทียน ไม่ใช่แค่ขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดแน่นอน!
มาตอนนี้พอได้รับทราบข่าวที่เกิดขึ้นในนิกายอมตะสราญรมย์ พวกมันก็เสมือนได้ยืนยันการคาดเดาก่อนหน้า และยังรู้สึกดีใจนักที่ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ติดใจเอาความเรื่องนี้มากมาย ถึงขั้นคิดลงมือทำลายล้างนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกมัน
ต้องทราบด้วยว่า กระทั่งราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดยังถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตาย เช่นนั้นหากต้วนหลิงเทียนคิดจะทำลายนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับของพวกมันขึ้นมาจริงๆ ก็ย่อมกระทำได้ง่ายดายนัก!
จังหวะนี้บรรพบุรุษทั้ง 2 ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ถึงกับเหงื่อแตกพลั่กไปด้วยความหวาดเสียว แต่ละคนยังรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่สามารถรอดพ้นความตายมาได้!
“ถ่ายทอดคำสั่งของข้าลงไป…นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเรา ไม่อาจล่วงเกินคนของนิกายอมตะไท่อีได้โดยเด็ดขาด! หากพบเจอคนของนิกายอมตะไท่อีก็ต้องให้ความเกรงใจไว้หน้าพวกมันด้วย มิว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม!!”
จากนั้นไม่นาน บรรพบุรุษทั้ง 2 ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็เร่งถ่ายทอดคำสั่งลงมาเป็นการด่วน กระทั่งยังให้ยึดถือว่านี่เป็นดั่งประกาศิตฟ้าไม่อาจฝ่าฝืน ทั้งหมดเพราะพวกมันบังเกิดความหวาดกลัวต้วนหลิงเทียนจับใจแล้วจริงๆ!
และเมื่อได้รับทราบคำสั่งดังกล่าว คนของนิกายยอมตะสวรรค์ลี้ลับก็ไม่มีใครไม่เห็นด้วยสักคน ล้วนยินดีกระทำอย่างไม่ขัดข้องแม้แต่น้อย!
เนื่องจากพลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน ได้ทำให้พวกมันแตกตื่นครั้งใหญ่แล้วจริงๆ!
ต่อให้บรรพบุรุษทั้ง 2 ไม่ออกคำสั่งดังกล่าว พวกมันก็ตั้งใจไว้แต่แรกแล้ว ว่าวันหน้าจะไม่มีวันไปล่วงเกินคนของนิกายอมตะไท่อีเด็ดขาด!
ด้านต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้รู้เรื่องราวใดๆเหล่านี้เลย
สิ่งเดียวที่ต้วนหลิงเทียนรู้ ก็คืออีกไม่นานทั่ววทั้งพื้นที่ก้าวข้ามต้องรับทราบเรื่องราวการลงมือทำลายนิกายอมตะสราญรมย์ของเขาเป็นแน่
‘ป่านนี้ในพื้นที่ก้าวข้ามคงมีน้อยคนที่ยังไม่รู้เรื่องราวการลงมือของข้าที่นิกายอมตะสราญรมย์กระมัง?’
‘หมายความว่าหากนิกายยอมตะสราญรมย์ยังมียอดฝีมือขอบเขตกึ่งราชาอมตะเร้นกายอยู่ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้จริง พวกมันก็สมควรรับทราบเรื่องราวที่ข้าทำลายนิกายพวกมันแล้วสิ?’
เมื่อต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อถูกเถี่ยไท่เหอหอบหิ้วเดินทางมาถึงพื้นีท่ด้านนอกนิกายอมตะสือหัง ใจเขาก็ฉุกคิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมา
และความจริงก็เป็นดั่งที่ต้วนหลิงเทียนคิด
ตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อน เรื่องราวที่เขาทำลายนิกายอมตะสราญรมย์ก็ได้ล่วงรู้ไปทั่วพื้นที่ก้าวข้าม กระทั่งล่วงรู้ไปถึงหูยอดฝีมือขอบเขตกึ่งราชาอมตะทั้ง 3 ของนิกายอมตะสราญรมย์ที่เร้นกายอยู่!
“เจ้าหนูหลี่ผิงนั่น…แม้จะทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะแล้ว แต่ก็ยังถูกฆ่าตายงั้นหรือ?”
“เช่นนั้นหัวหน้าปรมาจารย์โอสถของนิกายอมตะไท่อีต้วนหลิงเทียนผู้นั้น…ที่แท้พลังฝีมือของมันสูงส่งถึงระดับไหน!?”
“มันเป็นผู้ใดกันแน่? ไฉนถึงมีพลังอันน่ากลัวได้ด้วยวัยเพียงเท่านี้?”
…
ยอดฝีมือกึ่งราชาอมตะทั้ง 3 ของนิกายอมตะสราญรมย์ พอได้รับทราบเรื่องราวที่นิกายอมตะสราญรมย์ถูกทำลาย พวกมันก็พากันโกรธเกรี้ยวเดือดดาลเป็นการใหญ่ หมายปรากฏตัวออกมาตามล่าทั้งเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียน ล้างแค้นให้ลูกหลานของพวกมันที่ตายตกไป…
อย่างไรก็ตามพอพวกมันได้รับทราบว่า หลี่ผิง ที่บรรลุถึงขอบเขตพลังราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดแล้ว ยังถูกต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าตายคามือ พวกมันก็ขจัดความคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนล้างแค้นออกไปจากหัวหมดสิ้น!
ถึงขั้นที่พวกมันไม่กล้าปรากฏตัวออกไปกอบกู้ฟื้นฟูนิกายอมตะสราญรมย์ด้วยซ้ำ!
เพราะพวกมันกังวลว่า หากทะลึ่งฟื้นฟูกอบกู้นิกายอมตะสราญรมย์ในสถานการณ์เช่นนี้ สิบในสิบไม่พ้นถูกต้วนหลิงเทียนย้อนกลับมาราวีอีกเป็นแน่!
ต้วนหลิงเทียนที่กระทั่งราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดยังฆ่ามาแล้ว คิดจะเข่นฆ่ากึ่งราชาอมตะเช่นพวกมัน ย่อมง่ายดายเหมือนตัดหญ้าฆ่าไก่!
พวกมันทั้ง 3 ที่เคยทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด ย่อมล่วงรู้ดี ว่าพลังของขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดมันเหนือกว่าพลังของพววกมันในปัจุบันขนาดไหน
และต่อให้พวกมันทั้ง 3 ผนึกกำลังร่วมมือกัน แต่เกรงว่าอาศัยราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดที่อ่อนด้อยที่สุด พวกมันก็รับมือได้ไม่ถึงร้อยกระบวนท่า!
“อาจารย์ลุง หรือพวกเราจะปล่อยไปเช่นนี้? พวกเราเพราะพรสวรรค์มีจำกัด จึงเต็มใจรั้งอยู่พื้นที่ชายแดนเพื่อปกป้องนิกาย แต่สุดท้ายพวกเรากลับทำได้แค่เฝ้าดูนิกายถูกทำลายโดยที่ไม่อาจทำอะไรได้เลยหรือ? ข้าไม่เต็มใจ..ข้าไม่เต็มใจปล่อยไปเช่นนี้!!”
1 ในตัวตนกึ่งราชาอมตะของนิกายอมตะสราญรมย์อันมีรูปลักษณ์เป็นชายวัยกลางคน หันไปกล่าวคำกับกึ่งราชาอมตะรูปลักษณ์ชายชราด้านข้าง
“เจ้าไม่เต็มใจ แล้วเจ้าคิดว่าข้าเต็มใจปล่อยเรื่องราวให้มันจบลงอีหร็อบนี้หรือ? ข้ารู้ว่าหลี่ผิงเป็นศิษย์ที่เจ้าภาคภูมิใจมากที่สุด และเจ้าอยากแก้แค้นให้มัน…แต่กระทั่งหลี่ผิงที่ทะลวงถึงราชาอมตะแล้วยังถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียนผู้นั้น เจ้าคิดว่าอาศัยเจ้าหรือกระทั่งพวกเราจะเป็นคู่มือมันงั้นหรือ?”
ชายชราได้แต่ส่ายหัวไปมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม
“บางที…คงถึงเวลาแล้วที่พวกเราจักออกเดินทางไปจากพื้นที่ชายแดนเสียที เหตุผลเดียวที่พวกเราไม่ออกจากพื้นที่ชายแดนแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ภาคกลาง ก็เพราะพรสวรรค์ของพวกเรามีจำกัด และเป็นห่วงนิกาย…”
ชายชราคนสุดท้ายที่นิ่งฟังอยู่นาน ในที่สุดก็กล่าวออกมาพลางทอดถอนใจ “ด้วยเหตุนี้ สุดท้ายระดับพลังของพวกเราจากราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด จึงถดถอยกลับมายังขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศ…”
“ในชีวิตนี้เว้นเสียแต่พวกเราจะพบพานสมุนไพรอมตะหายากหรือโอสถอมตะเลิศล้ำ เพื่อขจัดผลข้างเคียงจากการถดถอยของด่านพลัง หาไม่แล้วด่านพลังของพวกเราคงมิอาจก้าวหน้าได้อีกชั่วชีวิต…”
“ตอนนี้ในเมื่อนิกายก็ล่มสลายไปแล้ว ถึงพวกเราจะรั้งอยู่พื้นที่ชายแดนสืบต่อก็ไร้ความหมายอันใด…มิสู้พวกเราดั้นด้นไปยังภาคกลางเถอะ บางทีพวกเราอาจพบเจอสมุนไพรหายากหรือโอสถล้ำค่าอันใด ที่สามารถขจัดผลข้างเคียงจากการถดถอยของด่านพลังได้ ทำให้ด่านพลังของพวกเราสามารถก้าวหน้าได้อีกครั้ง”
เห็นได้ชัดว่ากึ่งราชาอมตะของนิกายอมตะสราญรมย์ชราคนสุดท้าย คิดหาทางหนีทีไล่ไว้แต่แรก
สุดท้ายทั้งสามก็บรรลุฉันทามติ จากนั้นก็พากันเดินทางออกจากพื้นที่ก้าวข้าม รวมทั้งออกจาก 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และมุ่งหน้าเข้าสู่ภาคกลาง
และในใจของพวกมันตอนนี้ ล้วนบังเกิดความเสียใจนักที่ในปีนั้นตัดสินใจดับอนาคตของตัวเองและรั้งอยู่ที่นี่ สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ได้ทำให้ความทุ่มเทของพวกมัน กลับกลายเป็นสิ่งไร้ความหมายไปเสียฉิบ…
พวกมันจึงเกลียดชังต้วนหลิงเทียนสุดใจ!
อย่างไรก็ตาพอได้รับทราบถึงความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนแล้ว พวกมันก็รู้ดีว่าไม่อาจทำอะไรได้เลย กระทั่งชั่วชีวิตนี้คงไม่มีปัญญาจะแก้แค้นแล้วด้วยซ้ำ!
ด้านต้วนหลิงเทียนย่อมไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย
ว่ายอดฝีมือกึ่งราชาอมตะทั้ง 3 ของนิกายอมตะสราญรมย์ ได้เดินทางออกจากพื้นที่ชายแดนเพราะหวาดกลัวเขา
และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยิ่งคิดไม่ถึงว่า…
วันหนึ่งเขาจะได้พบกับกึ่งราชาอมตะทั้ง 3 ของนิกายอมตะสราญรมย์…
…
“ปรมาจารย์โอสถต้วน เบื้องหน้าก็เป็นนิกายอมตะสือหังแล้ว”
ด้านนอกถิ่นที่อยู่ของนิกายอมตะสือหัง เถี่ยไท่เหอได้หยุดร่างลงกลางหาว มองไปยังม่านเมฆหมอกที่อยู่เบื้องหน้า จากนั้นก็หันไปมองกล่าววแจ้งเรื่องราวกับต้วนหลิงเทียน ยังถามออกไปด้วยความระวังว่า
“พวกเรา…ควรทักทายก่อน หรือท่านจะบุกเข้าไปเลย?”