War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 2959
ตอนที่ 2,959 : ต้วนหลิงเทียนเปิดหินดิบ!
อุปกรณ์อมตะนั้น ยิ่งมีระดับสูงมากเท่าไหร่มูลค่าของมันก็จะมหาศาลขึ้นไปดั่งเงาตามตัว
นี่คือสามัญสำนึกของทุกผู้คน
อย่างไรก็ตามความแตกต่างทางด้านมูลค่าของอุปกรณ์อมตะที่มีระดับต่ำกว่าขั้นราชานั้น โดยปกติแล้วจะไม่ได้แตกต่างกันมากมายอะไร กล่าวได้ว่ายังไม่ถึงขั้นแตกต่างกันเกิน 10,000 เท่า…
ก็เหมือนกับอุปกรณ์อมตะระดับขุนนางทั่วไปที่มีราคา 1,000 ผลึกหินอมตะระดับกลาง หรือเทียบได้กับผลึกอมตะระดับสูง 10 ชิ้น…
และอุปกรณ์อมตะระดับสูงสุดทั่วไปนั้น ก็มักมีราคาแค่ 10 ผลึกอมตะระดับกลางเท่านั้น ซึ่งนับว่าแตกต่างจากอุปกรณ์อมตะระดับขุนนาง 100 เท่า!
(แก้ตอนที่แล้วหน่อยครับ ราคาของกระบี่อมตะระดับสูงสุดนั้น แค่ 10 ผลึกอมตะระดับกลาง หรือที่ดีหน่อยก็ 20-30 ผลึกอมตะระดับกลางเท่านั้น ไม่ใช่ระดับสูง)
อย่างไรก็ตามมูลค่าของอุปกรณ์อมตะระดับราชานั้น ได้อยู่เหนือกว่าอุปกรณ์อมตะระดับขุนนนางมากโข เรียกว่าแตกต่างกันถึง 10,000 เท่า!
10,000 เท่า!
สิ่งนี้จะให้คิดอย่างไร?
กล่าวได้อีกอย่างว่า มูลค่าของอุปกรณ์อมตะระดับราชา 1 ชิ้นนั้น มันเทียบได้กับมูลค่าของอุปกรณ์อมตะระดับขุนนางถึง 10,000 ชิ้น! และสิ่งนี้ยังวัดกันในแง่มูลค่าราคาผลึกหินอมตะเท่านั้น!!
เพราะโดยปกติแล้ว ผู้ที่ครอบครองอุปกรณ์อมตะระดับขุนนางอยู่ 10,000 ชิ้น หากอยากจะได้อุปกรณ์อมตะระดับราชามาครองสักชิ้น ให้มันไปขอแลกซื้อกับผู้ใด ก็คงไม่มีใครบ้าแลกกับมัน เว้นเสียแต่จะไปขายอุปกรณ์อมตะระดับขุนนางที่มีให้กลายเป็นผลึกอมตะระดับสูงเสียก่อน…
“กระบี่อมตะระดับราชา!!”
“จ้าวสวรรค์ช่วย มันกลับเป็นกระบี่อมตะระดับราชาจริงๆ! ยังจะมีผู้ใดคาดคิดกัน ว่าเจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนจะได้รับกระบี่อมตะระดับบราชาจากหินดิบรูปทรงกระบี่พวกนั้นจริงๆ!!”
“กระบี่อมตะระดับราชา…ขอเพียงมีสภาพสมบูรณ์ไม่ชำรุดเสียหายอันใด อย่างน้อยๆก็ต้องมี 100,000 ผลึกอมตะระดับสูง…นับว่าครั้งนี้เจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนทำกำไรได้ครั้งใหญ่!”
“เฮ่อ เมื่อครู่พวกเรายังพากันเสียดายแทนอยู่เลย ที่เจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนเอาเงินมาทิ้งเปล่าปลี้ๆหลายหมื่นผลึกอมตะระดับสูง…แต่ไม่ทันไรเจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนกลับเหมือนได้รับผลึกอมตะระดับสูงมาครองต่ำๆ 100,000 ชิ้นแล้ว!”
…
การที่หานอวิ๋นเฮ่อได้รับกระบี่อมตะระดับราชาหลังป่นหินดิบนั้น เรียกว่าได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทั้งร้านทันที
กระทั่งบางคนที่เดินผ่านร้านมา พอได้ยินเสียงอุทานดังระงม ก็ถึงกับต้องหยุดดูชมเรื่องราวด้วยความอยากรู้
และเมื่อมีบางคนหยุดดูชมด้านนอกร้าน ผู้ที่สัญจรไปมาก็บังเกิดความสนใจและเริ่มมามุงชมกันด้วย พอได้รับทราบว่าที่แท้ภายในร้านมีคนได้รับกระบี่อมตะระดับราชาจากหินดิบ ก็เริ่มกล่าวด้วยความอิจฉากันยกใหญ่
“ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับเจ้าเมืองน้อยหาน วันนี้ท่านมีโชคยิ่ง ได้รับกระบี่อมตะระดับราชาไปครอง!”
พนักงานที่คอยดูแลหานอวิ๋นเฮ่อก็เร่งกล่าวคำปแสดงความยินดีกับหานอวิ๋นเฮ่อทันทีหลังฟื้นคืนสติ
“เจ้าไม่ต้องมาแสดงความยินดีอะไรกับข้าหรอก…ข้าซื้อหินดิบรูปทรงกระบี่ไปทั้งสิ้น 150,000 ผลึกอมตะระดับสูงแล้ว และตีจากสภาพของกระบี่อมตะระดับราชาเล่มนี้ อย่างดีก็คงขายได้ราว 130,000 – 140,000 ผลึกอมตะรดับสูงเท่านั้น…”
“คิดคำนวณดูแล้ว…ข้ายังเหมือนขาดทุนอยู่ราวๆ 1-2 หมื่นผลึกอมตะระดับสูง”
เผชิญหน้ากับการแสดงความยินดีของพนักงานในร้าน หานอวิ๋นเฮ่อเพียงกล่าวออกเสียงเบา “ส่วนหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เหลือที่ข้ายังไม่ได้เปิด ข้าจะคืนให้เจ้า…เช่นนั้นก็ถือว่าข้าจะไม่ได้ขาดทุนอะไร และเหมือนได้กระบี่เล่มนี้มาในราคาทุน”
กล่าวจบคำหานอวิ๋นเฮ่อก็ส่งหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เหลือให้ลอยกลับไปตั้งไว้บนแผงตามเดิม…
สิ่งนี้ทางร้านก็อนุญาตให้กระทำได้
เพราะตราบใดที่หินดิบยังไม่ได้ถูกป่นทำลายเปิดเผยของภายใน ท่านก็สามารถคืนมันได้ทุกเมื่อ แต่มีข้อแม้ว่าต้องคืนก่อนที่จะเดินออกจากร้านเท่านั้น และนี่คือกฏของตลาดพนันหินของย่านซีฟางที่ทุกคนรู้กันดี
หลังคืนหินดิบรูปทรงกระบี่ที่ยังไม่ได้เปิดให้ทางร้านแล้ว หานอวิ๋นเฮ่อก็เดินออกจากร้านพร้อมกับชายชราที่ติดตามอยู่ด้านหลัง ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย
กลุ่มคนที่มามุงดูอยู่ด้านนอกร้าน ก็เร่งหลีกทางให้อีกฝ่ายเดินสะดวกอย่างรู้งาน
หลังจากที่แผ่นหลังของหานอวิ๋นเฮ่อหายลับไปจากสายตาของทุกคนแล้ว ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
“อั้ย ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าเมืองน้อยของเมืองฝูเจี้ยน หานอวิ๋นเฮ่อ จะได้รับกระบี่อมตะระดับราชาจากร้านนี้!”
“คนของจวนเจ้าเมืองฝูเจี้ยนล้วนเป็นเซียนอมตะที่มุ่งเน้นในมรรคากระบี่ทั้งสิ้น…และถึงจวนเจ้าเมืองฝูเจี้ยนจะมีอุปกรณ์อมตะระดับราชาไม่น้อย แต่อุปกรณ์อมตะระดับราชาประเภทกระบี่ก็มีเพียงแค่ 2 เล่มเท่านั้น หนึ่งอยู่ในมือของตัวเจ้าเมืองฝูเจี้ยนเอง ส่วนอีก 1 ชิ้นก็อยู่ในมือของผู้บัญชาการเมืองฝูเจี้ยน เช่นนั้นเจ้าเมืองน้อยหานจึงไม่เคยได้ครอบครองกระบี่อมตะระดับราชามาก่อน”
“แม้กระบี่อมตะระดับราชาจะมีปรากฏขึ้นในตลาดมืดเป็นบางครั้ง…แต่อย่างไรเสียอุปกรณ์อมตะระดับราชาประเภทศาสตราที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในระนาบเทวโลกก็คือกระบี่ พอปรากฏว่ามีขายคราใด ก็ถูกผู้คนซื้อไปแทบจะทันที…เช่นนั้นแม้เจ้าเมืองน้อยหานจะมีผลึกอมตะมากพอซื้อหา แต่ก็ยากที่จะหาซื้อกระบี่อมตะระดับราชาได้…”
“ใช้ผลึกอมตะระดับสูง 130,000-140,000 ชิ้นเพื่อซื้อหากระบี่อมตะระดับราชาที่มีราคาพอๆกัน แม้ผิวเผินดูเหมือนจะไม่ได้กำไรหรือขาดทุน แต่จริงๆแล้วคราวนี้นับว่าเจ้าเมืองน้อยหานได้กำไรครั้งใหญ่!”
“ถึงแม้จักได้กำไร แต่ก็เป็นกำไรที่สมควรได้รับแล้วล่ะ…คนธรรมดาไหนเลยจักมีความกล้าหาญเช่นนี้? เท่าที่ข้ารู้มาเจ้าเมืองฝูเจี้ยนได้มอบผลึกอมตะระดับสูงให้เจ้าเมืองน้อยหาน 200,000 ชิ้น และให้ไปจัดการหาซื้อกระบี่อมตะระดับราชาด้วยตัวเอง…”
…
วาจาทำนองเดียวกันเริ่มดังขึ้นทั่วร้านหินดิบรวมถึงพื้นที่หน้าร้านหินดิบ ต้วนหลิงเทียนที่ได้ฟังเรื่องราวก็อดไม่ได้ที่จะนับถือความกล้าได้กล้าเสียของเจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนผู้นี้อยู่บ้าง
เพราะสุดท้ายแล้วไม่ใช่ทุกคนที่มีผลึกอมตะระดับสูง 200,000 ชิ้น จะมีความกล้าหากระบี่อมตะระดับราชามาครองด้วยวิธีเล่นพนันหิน!
“อาศัยความกล้าหาญนี้ของเจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยน ข้าเกรงาว่าความสำเร็จในภายภาคหน้าย่อมไม่อ่อนด้อยกว่าบิดาแน่…”
หวงเจียหลงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เมืองฝูเจี้ยนนั้นก็เป็น 1 ในเมืองใต้การปกครองของประเทศตันจี้ และยังเป็นหนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดเช่นกัน
และเจ้าเมืองฝูเจี้ยนนั้น ยังเป็นหนึ่งในยอดฝีมือขอบเขตขุนนางอมตะที่ร้ายกาจที่สุดของประเทศตันจี้
หลังจากที่คนต้นเรื่องอย่างหานอวิ๋นเฮ่อจากไปแล้ว ไม่นานสถานการณ์ภายนอกร้านก็เริ่มกลับสู่ความสงบ ผู้คนก็เริ่มแยกย้ายกันจากไป
ขณะเดียวกัน ด้านต้วนหลิงเทียนกับหวงเจียหลงก็มองชมหินดิบมากมายภายใต้การแนะนำของชายวัยกลางคน
และในระหว่างที่รับฟังคำแนะนำ หวงเจียหลงเองก็มีเลือกหินดิบติดไม้ติดมือมาลองดู อนิจจาทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีแต่ผงคลี เสียเงินไปเปล่าๆ…
“พี่เจียหลง ท่านเล่นเลือกสะเปะสะปะแบบนี้คงยากจะเจอของดี…ไม่สู้ซื้อเหมือนเจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนจะดีกว่าหรือ อย่างน้อยๆก็อาจจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง อันที่จริงข้าว่าซื้อหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เหลือนั่นเลยก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะท่านอาจเก็บตกของดีที่คนไม่มองก็ได้”
เมื่อเห็นว่าหินดิบที่หวงเจียหลเลือกซื้อมาป่นเล่นนั้น ล้วนแล้วแต่มีละอองธุลีไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมาพลางกล่าวด้วยความขบขัน
“และข้าเชื่อว่าหากท่านเก็บตกของดีจากหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เหลือจากเจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนได้ล่ะก็ ข้าเชื่อว่าทันทีที่เจ้านั่นรู้ข่าวคงต้องกระอักเลือดด้วยความช้ำใจแน่นอน…”
ต้วนหลิงเทียนยังคงกล่าวสืบต่อด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน
เป็นธรรมดาว่าที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวแนะนำออกไป ก็แค่กล่าวเล่นไปอย่างนั้น เพราะเห็นว่าหากเป็นจริงก็คงน่าสนุกสนานไม่น้อย ไม่ได้ตั้งใจจะให้หวงเจียหลงทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ
เพราะสุดท้ายแล้วหากยังไม่หน้ามืดตามัวจริงๆ ก็คงรู้ว่าที่เขาพูดไปนั้น ก็แค่กล่าวเล่นไปเรื่อยหาแก่นสารอะไรไม่ได้
อย่างน้อยชายวัยกลางคนที่เป็นผู้คอยดูแลรับรองต้วนหลิงเทียยนยกับหวงเจียหลงในร้านก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มขบขันหลังได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน
“อั้ย! ที่น้องต้วนกล่าวนับบว่ามีเหตุผลยยิ่ง…จัดไป! เช่นนั้นข้าจะเหมาหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนไม่เอาทั้งหมด!!”
“หากข้าดูไม่ผิดน่าจะมีเหลือทั้งสิ้น 13 ชิ้นใช่หรือไม่…จัดมา ข้าเหมา!!”
ตอนที่เจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนคืนหินดิบรูปทรงกระบี่นั้น หวงเจียหลงก็เห็นเช่นกัน จากนั้นพอหันไปมองนับดูก็พบว่ามี 13 ชิ้น จึงคิดจะเหมาหมดตามคำแนะนำของต้วนหลิงเทียน
“พี่เจียหลง…ข้าแค่พูดเล่นไปอย่างนั้น ไฉนท่านถึงกับบ้าจี้ตามข้าได้เล่า!?”
ต้วนหลิงเทียนถึงกับอึ้งไปอยู่บ้าง ด้วยไม่คิดเลยว่าเขาที่พูดเล่นไปขำๆ แต่หวงเจียหลงจะบ้าจี้เอาจริงขึ้นมา!
หินดิบรูปทรงกระบี่ที่เหลือ 13 ชิ้นนั้น ตีราคาแล้วก็มากกว่า 13,000 ผลึกอมตะระดับสูงเสียอีก!
“อั้ยน้องต้วน ในเมื่อวันนี้ข้ามาพนันหิน ข้าก็คิดไว้แล้วว่าจะเล่นให้มันสนุกสักหน่อย…สำหรับข้าหวงเจียหลงแล้ว อันใดสนุกสนานข้าล้วนกระทำได้หมด ข้าไม่คิดมากหรอกหน่า ขำๆ”
หวงเจียหลงคลี่ยิ้มสบายๆ ไม่ได้แลดูจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจเรื่องเหมาหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เหลือ
“เอ้านี่ เจ้านับดูว่าครบ 13,000 ผลึกอมตะระดับสูงหรือไม่…หากไม่มีปัญหา ไปจัดหินดิบรูปทรงกระบี่ทั้ง 13 ชิ้นที่เหลือนั่นมาให้ข้า! ให้ไวเลย!!”
ขณะกล่าวหวงเจียยหลงก็สะบัดมือส่งแหวนพื้นที่อันมีผลึกอมตะจำนวน 13,000 ใส่ไว้ให้พนักงานชายวัยกลางคน เป็นอันว่าตัดสินใจซื้อหินดิบตามคำแนะนำของต้วนหลิงเทียน
“เอ่อ…”
พนักงานที่คอยดูแลแนะนำต้วนหลิงเทียนกับหวงเจียหลงได้แต่รับแหวนพื้นที่มาอย่างงงๆ จากนั้นพอส่องภายในดูก็พบว่าเป็นผลึกอมตะระดับสูงจำนวน 13,000 ชิ้นจริงๆ สีหน้ามันก็ฉายชัดถึงความตื่นเต้นยินดีทันที
มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าลูกค้าที่มันออกมาดูแลรับรองทั้ง 2 ที่แท้จะเป็นนายน้อยมือเติบเช่นกัน!
อีกฝ่ายกระทั่งจ่ายผลึกอมตะระดับสูงออกมา 13,000 ชิ้นโดยตาไม่กระพริบด้วยซ้ำ!
“ได้! ได้เลยขอรับ! ท่านลูกค้ารอสักครู่นะขอรับ! ข้าน้อยจะไปจัดมาให้ท่านบัดเดี๋ยวนี้!!”
หลังจากได้รับแหวนมาแล้วนับผลึกอมตะภายในเรียบร้อย พนักงานชายวัยกลางคนก็เร่งใช้พลังไร้สภาพหยิบคว้าหินดิบรูปทรงกระบี่ทั้ง 13 ชิ้นนั่นมาให้หวงเจียหลงเร็วไว ไม่สนว่าพวกมันจะบินข้ามหัวผู้ใดมาบ้าง
จังหวะนี้พนักงานต้อนรับคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะมองมาด้วยความอิจฉา!
ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้ มีแต่พนักงานที่คอยดูแลเจ้าเมืองน้อยเมืองฝูเจี้ยนเท่านั้นที่จะทำผลงานได้ขนาดนี้!
“พี่เจียหลงท่านนี่จริงๆเลย…อย่างน้อยนั่นมันก็ 13,000 ผลึกอมตะระดับสูงนา”
เมื่อเห็นว่าหวงเจียหลงถูๆมือ ก่อนที่จะเริ่มป่นทำลายหินดิบบรูปทรงกระบี่ไปเรื่อยๆอย่างเมามัน ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า และรู้สึกว่าครั้งนี้หวงเจียหลงจะเอาแต่ใจเกินไปแล้ว
“เอาน่า ในเมื่อพวกเรามาเล่นพนันทั้งทีก็จัดหนักไปเลย…เต็มที่ก็แค่เสียไป 13,000 ผลึกอมตะระดับสูงเท่านั้นล่ะ ข้าไม่คิดมากหรอก อย่างดีก็ติดสินบนอาไป๋อย่าให้ท่านพ่อรู้ก็พอ..”
หวงเจียหลงยิ้มตอบอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
และตอนนี้หลังจากป่นทำลายหินดิบทรงกระบี่ไปกว่า 5 ชิ้น แต่กระบี่ที่ดีที่สุดที่ได้ก็เป็นแค่กระบี่อมตะระดับขุนนางเท่านั้น
“ช่างร่ำรวยและใจถึงโดยแท้…หินดิบรูปทรงกระบี่ปรากฏกระบี่อมตะระดับราชามาสักเล่มก็นับว่าโชคดีอย่างมากแล้ว ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่ผู้อื่นมีโชคไปแล้ว ยังกล้าจะเก็บตกของเหลือมาเช่นนี้ ถึงกับจับจ่ายยออกไป 13,000 ผลึกอมตะระดับสูงตาไม่กระพริบเพื่อละเล่น!”
“ในเมืองหลวงประเทศตันจี้เรา ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีคุณชายนายน้อยบ้านใดใจถึงขนาดนี้มาก่อนเลย…อย่างไรก็ตามอีกไม่กี่วันงานประมูลของตระกูลราชวงศ์ก็จะเริ่มขึ้น ตอนนี้เมืองหลวงประเทศตันจี้เรามีแขกจากประเทศข้างเคียงมากันหนาตา บางทีชายหนุ่มผู้นี้อาจเป็นคุณชายนายน้อยบ้านใดจากประเทศเพื่อบ้านเราก็เป็นได้”
“สมควรเป็นเช่นนั้น เพราะเท่าที่ข้าทราบมาในเมืองหลวงตันจี้เรา ไม่มีคุณชายนายน้อยบ้านใดใจถึงขนาดนี้อีกแล้ว กระทั่งเจ้าเมือน้อยเมืองฝูเจี้ยนนั่น เจอสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่กล้าเสี่ยงเสียเงินเปล่าหรอก…”
…
เมื่อเห็นว่าหวงเจียหลงเริ่มป่นทำลายเปิดหินดิบทรงกระบี่อีก 5 ชิ้น ทุกคนในเหลาก็หันมามองชมหวงเจียหลงด้วยความสนใจอีกครั้ง
“อั้ย ดูเหมือนว่าวันนี้ดวงข้าไม่ค่อยจะดีเท่าไร…ตอนนี้เหลือหินดิบอีกแค่ 3 ชิ้นแล้ว น้องต้วนท่านจัดให้ข้าหน่อย”
ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งหมดในร้าน หวงเจียหลงก็สะบัดมือใช้พลังหอบหิ้วหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เหลืออีก 3 ชิ้นไปให้ต้วนหลิงเทียนจัดการ
เมื่อเห็นหวงเจียหลงมองมาด้วยสายตาคาดหวัง ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดเกรงใจอะไร รับหินดิบรูทรงกระบี่ทั้ง 3 เตรียมลงมือทันที
“พี่เจียหลง คราวนี้หากท่านยังเจ๊งอีกท่านก็โทษข้าไม่ได้นา…เพราะข้าก็ใช่ว่าจะดวงดีกว่าท่าน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวล้อเล่นออกมาด้วยความขบขัน จากนั้นก็เริ่มแผ่พลังครอบคลุมหินดิบรูปทรงกระบี่ทั้ง 3 ชิ้น
“ฮ่าๆๆ…น้องต้วน หากท่านเปิดได้กระบี่อมตะระดับต่ำขึ้นมา อย่างน้อยๆหลังจากนี้ข้าก็มีเรื่องล้อท่านเรื่องดวงตกไปอีกนานแล้ว!”
หวงเจียหลงเองก็รู้ว่าต้วนหลิงเทียนพูดเล่น จึงกล่าวหยอกกลับด้วยทีท่าขบขัน
จนถึงตอนนี้หินดิบรูปทรงกระบี่ที่ถูกเปิดมาทั้งหมดรวมส่วนของเจ้าเมืองน้อยยเมืองฝูเจี้ยนนั้น ระดับที่ต่ำที่สุดก็ยังเป็นกระบี่อมตะระดับกลางเท่านั้น ไม่เคยปรากฏกระบี่อมตะระดับต่ำมาก่อนเลยย
“ถึงข้าจะดวงกุดก็คงไม่ดวงกุดขนาดนั้นหรอกมั้ง…เอ่อ… อันนี้ยังได้อยู่ เป็นกระบี่อมตะระดับกลาง…”
ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะทันได้กล่าวจบคำ เขาก็พบว่าหินดิบรูปทรงกระบี่ที่เขาเริ่มปนทำลายไปชิ้นแรก กลับเป็นแค่กระบี่อมตะระดับกลาง ที่มีระดับต่ำที่สุดเท่าที่เคยเปิดได้วันนี้มาเท่านั้น นี่ทำให้หน้าเขาเสียไปไม่น้อย ด้วยกลัวว่าจะทะลึ่งเปิดได้กระบี่อมตะระดับต่ำออกมาสร้างความหัวเราะให้ผู้คนจริงๆ!
แคร่ก!
ต้วนหลิงเทียนยังเลือกจะเปิดหินดิบรูปทรงกระบี่ชิ้นที่ 2 ออกมาด้วยความเชื่อว่าดวงเขาคงไม่ซวยขนาดนั้น!
วู้มมม!!
ทว่าทันทีที่ต้วนหลิงเทียนเริ่มป่นทำลายหินดิบรูปทรงกระบี่ชิ้นที่สอง เขาก็พบว่าหลังใช้พลังป่นทำลายหินดิบจนสลายตัวเป็นธุลีร่วงหล่นไปบางส่วน กลับปรากฏแสงพลังลี้ลับเรืองสว่างสาดส่องออกมาจากจุดนั้น แสงพลังลี้ลับยังสาดส่องไปทั่วร้าน! จนทั่วทั้งร้านคล้ายจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายแหลมคมอันเยียบเย็นหนึ่ง!!
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ทั้งร้านตกตะลึงอึ้งไปทันที!
“นี่มัน…กระบี่อมตะจอมราชัน!?”
ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงโดยพลัน!