War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3122
ในปัจจุบันต้วนหลิงเทียนเข้าใจความลึกซึ้งเคลื่อนมิติของกฏแห่งมิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นเท่านั้น ทำให้ระยะทางในการเคลื่อนย้ายจำกัดอยู่ที่ 100 หมี่
ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มที่รูปร่างหน้าตาเหมือนเขาทุกประการ ได้ใช้พลังของกฏแห่งไม้สร้างเถาวัลย์หนามปกคลุมอาณาบริเวณรอบกายเขากินรัศมี 100 หมี่เอาไว้ มันก็เหมือนปิดกั้นการเคลื่อนย้ายของเขากลายๆ
เพราะให้เขาใช้เคลื่อนมิติไปที่ใด ก็ไม่อาจรอดพ้นเถาวัลยย์หนามที่เป็นดั่งกรงนี้ได้…
‘คิดใช้ลูกไม้เพียงเท่านี้จัดการข้าหรือ?’
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มเย็น จากนั้นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดผสานธาตุมิติทั่วร่างก็ปะทุขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มก่อเกิดเขตแดนมิติปกคลุมรอบกายเขาเอาไว้!
แขตแดนมิติ ก็คือ 1 ใน 6 ความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติที่เขาเข้าใจ
ทันทีที่เขตแดนมิติก่อเกิดขึ้น เถาวัลย์หนามที่พุ่งเข้ามาจากทั่วสารทิศ ก็ถูกสกัดเอาไว้ในระ 10 หมี่รอบกาย! ปลายเถาเริ่มถูกทำลายด้วยความเร็วสูง ไม่อาจล่วงล้ำฝ่าเข้ามาได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตามสถาพดังกล่าวดำเนินไปอยู่ไม่นาน เถาวัลย์หนามทั้งหลายก็เริ่มเปล่งแสงสีเขียวเรืองจ้าขึ้นมา จากนั้นก็สังเกตเห็นได้ไม่ยากกว่าบริเวณที่ถูกทำลายลงนั้น กำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วสูง สุดท้ายอัตราการฟื้นฟูก็เร็วกว่าถูกทำลายทำให้รุกคืบเข้ามาได้อีกครา!!
แม้พลังของเขตแดนมิติจะทำลายพวกมันไม่หยุด แต่แสงสีเขียวที่ยิ่งมายิ่งเรืองสว่างก็สามารถทำให้พวกมันงอกเงยออกมาใหม่ได้!
‘เป็นความลึกซึ้งที่มีคุณสมบบัติรักษาของกฏแห่งไม้งั้นรึ?’
เห็นฉากเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปตรงหน้า ลูกตาต้วนหลิงเทียนก็หดเล็กลงอีกครั้ง
ดูเหมือนชายหนุ่มที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกันกับเขาทุกประการ จะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไม้ไม่น้อยเลยทีเดียว และสมควรเท่าๆกันกับเขา!
ที่สำคัญด่านพลังฝึกปรือของอีกฝ่าย ก็เป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศเหมือนกันกับเขา!
จุดนี้เขาก็พึ่งรับทราบหลังประมือกับอีกฝ่าย
‘ความลึกซึ้ง ผ่ามิติ!’
สองตาที่หดหยีของต้วนหลิงเทียนเผยประกายแหลมคมวาบหนึ่ง จากนั้นความว่างเปล่ารอบตัวเขาก็เริ่มฉีกเปิด ราวรอยแตก!
และทันทีที่รอยแตกดังกล่าวปรากฏขึ้น ก็ปรากฏแสงสีเทาที่มีรูปลักษณ์คล้ายคมมีดพุ่งออกมาจากรอยแตกดังกล่าว ราวกับเป็นการโจมตีที่มาจากมิติอื่น ถล่มทำลายเข้ามาในมิตินี้
ซัว!
แสงมีดพุ่งผ่านไปที่ใด ก็ทิ้งร่องรอยไว้ตามทาง และเมื่อพุ่งผ่านเถาวัลย์หนาม พวกมันก็ถูกตัดขาดได้อย่างง่ายดาย
มีดแสงเทาประหนึ่งดาบของผู้กล้าในตำนาน ไร้สิ่งใดที่ไม่อาจตัดผ่าน!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนใช้เขตแดนมิติพร้อมด้วยผ่ามิติเพื่อจัดการการโจมตีที่คุกกคามเข้ามา เถาวัลย์หนามที่ไม่อาจรุกคืบได้ ก็เปลี่ยนนรูปแบบการจู่โจมในฉับพลัน หนามแหลมที่ติดกับเถานั้นถูกยิงพุ่งออกมาดั่งห่าพิรุณ ปานเม่นสลัดขนก็ว่า!!
เขตแดนมิติกับคมมีดมิติจัดการเถาวัลย์หนามที่พุ่งแทงเข้ามาได้จริง แต่หนามที่พุ่งมาฉับไวแบบนี้ เกรงว่าจะไม่อาจทำลายได้หมด เพราะพวกมันถล่มเข้ามาประหนึ่งห่าพิรุณไม่มีผิด!
‘บิดเบือนมิติ!’
อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับห่าหนามที่พุ่งเข้ามาฉับไวปานศรสายฟ้าทั่วสารทิศ ต้วนหลิงเทียนหาได้แตกตื่นแต่อย่างใด พริบตาความว่างเปล่ารอบกายก็เริ่มบิดเบือนไป ราวห้วงมิติถูกจับบิด!
ซัว! ซัว! ซัว! ซัว! ซัว! ซัว!
…
หนามที่พุ่งมาดั่งห่าพิรุณ ในที่สุดก็พุ่งปะทะเข้ากับห้วงมิติบิดเบือนดังกล่าว
ทันใดนั้นความว่างเปล่าก็เริ่มสะเทือนสะท้าน หนามทั้งหลายที่เข้าสู่ห้วงมิติบิดเบือนเริ่มถูกป่นทำลายลงด้วยความเร็วอัศจรรย์ อย่างไรก็ตามพวกมันถูกทำลายได้ไม่นาน หนามที่พุ่งไล่หลังมาก็เริ่มปรากฏแสงพลังสีเขียวเรืองสว่างเจิดจ้า แม้จะถูกป่นทำลายไปแล้ว แต่ละอองธุลีของพวกมันก็เริ่มควบรวมก่อเกิดรูปลักษณ์ ราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากห้วงมิติบิดเบือน
ทันใดนั้นเหล่าผงหนามที่ควบรวมก่อเกิดรูปลักษณ์คล้ายมีดดาบก็สับบฟันเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนปานเคียวมรณะ รุกคืบเข้ามาใกล้ร่างต้วนหลิงเทียนมากขึ้นเรื่อยๆ
‘ความลึกซึ้งอีกประการของกฏแห่งไม้งั้นเหรอ?’
ต้วนหลิงเทียนหยีตาเพ่งหนามที่ถูกทำลายหากแต่เริ่มควบรวมก่อเกิดใบมีดเขม็ง แม้หนามส่วนใหญ่จะถูกห้วงมิติบิดเบียนกับพลังของเขตแดนทำลาย แต่เสี้ยวหนึ่งของมันก็สามารถก่อลักษณ์จู่โจมมาอย่างทรหด!
ไม่ยากที่ต้วนหลิงเทียนจะบอกได้ว่าการโจมตีดังกล่าวเกิดจากการเพิ่มพลังของความลึกซึ้งอีกประการลงไป
‘กักกัน!’
ต้วนหลิงเทียนรู้ดีแก่ใจว่าร่างเสมือนตัวเขาเบื้องหน้า สมควรเกิดจากค่ายกลบางอย่างของเจ้าวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย และทั้งหมดไม่พ้นอีกฝ่ายทำเพื่อประเมินพลังฝีมือของเขา หรือไม่ก็กำลังทำการทดสอบว่าเขาจะสามารถขึ้นรับตำแหน่งผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยในรอบ 30,000 ปีได้หรือไม่!
แน่นอนว่าเขาอยากให้เป็นอย่างหลังมากกว่า
ด้วยเหตุนี้แม้เขาจะมีวิธีรับมือการโจมตีของกฏแห่งไม้ที่ฝ่าเขตแดนมิติและห้วงมิติบิดเบือนมาได้ง่ายๆ แต่เขาก็เลือกที่จะใช้ความลึกซึ้งอีกประการของกฏแห่งมิติหยุดการโจมตี เพื่อสกัดกั้นกระบวนท่าของอีกฝ่ายอย่างสมบูรณ์!
กึก! กึก! กึก! กึก! กึก! กึก!
…
ต้วนหลิงเทียนมองจ้องไปยังคมมีดไม้ที่ฝ่าเขตแดนมิติทั้งห้วงมิติบิดเบือนเข้ามาเขม็ง สองตาทอประกายเรืองขึ้นวาบหนึ่ง จากนั้นหวงมิติรอบๆคมมีดไม้ดังกล่าวก็ดั่งจะถูกผนึกแข็ง!
พริบตาต่อมาคมมีดไม้ที่เกิดจากการควบรวมเศษหนามที่ป่นสลายก็หยุดกึกลงกลางหาว ราวกับพุ่งชนกำแพงอะไรบางอย่าง ไม่อาจขยับเขยื้อนแผลงฤทธิ์ใดๆได้สืบต่อ ประหนึ่งพวกมันถูกผนึกค้างกลางอากาศโดยสมบูรณ์! สุดท้ายไม่กี่ลมหายใจต่อมาพวกมันก็สลายหายไปในอากาศราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน!!
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะเขาพบได้แต่แรกว่าจะเถาวัลย์หนามก็ดี หนามที่ยิงพุ่งออกมาก็ดี หรือคมมีดไม้ที่ก่อเกิดจากเศษหนามควบรวมก็ดี ล้วนแล้วถูกสร้างขึ้นจากพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดและพลังของกฏแห่งไม้ทั้งสิ้น ไม่ใช่เถาวัลย์รากไม้อะไรที่แท้จริง
และเมื่อต้วนหลิงเทียนทำลายการโจมตีของเถาวัลย์หนามและคมมีดไม้ลงได้อย่างสมบูรณ์ ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าเบื้องหน้าประหนึ่งมีแสงสว่างวาบขึ้น จากนั้นไม่เพียงแต่ร่างปลอมของเขาจะอันตรธานหายไป ลานศิลาอันไร้ขอบเขตใต้เท้าเขาก็หายไปแล้ว ทุกอย่างสาบสูญไปราวไม่เคยมีมาก่อน
‘ออกจากภาพมายาแล้วรึ’
มองไปยังฉากเรื่องราวรอบๆ ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าบัดนี้เขาได้กลับมาอยู่ในหุบเขา ที่เต็มไปด้วยบุปผานานาพรรณและมวลหมู่วิหกเรียบร้อย นอกจากนั้นยังมีวังแลดูเก่าแก่โบราณหลังหนึ่งตั้งอยู่ ป้ายเหนือประตูวังดังกล่าวปรากฏอักษรงดงามดั่งหงส์มังกรเด่นหรา
วังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย!
“เจ้าต้องการเป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวเราหรือ?”
ทันใดนั้นเอง เสียงทุ้มต่ำและแหบแห้งก็ดังเข้าหูต้วนหลิงเทียน
พอได้ยินต้วนหลิงเทียนก็บอกได้ทันทีว่าเป็นเสียงของคนที่พุ่วซัดฉีเทียนหมิงจนปลิวไปก่อนหน้า อีกฝ่ายสมควรเป็นเจ้าวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยแห่งคฤหาสน์เฉวียนโยว เขาจึงตอบกลับไปฉับไว “ใช่แล้ว ผู้อาวุโส”
“เพราะเหตุใด?”
เสียมทุ้มต่ำทั้งแหบแห้งดังขึ้นอีกครา และราวกับกำลังถามไถ่ว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงอยากเป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย
เพราะเหตุใด?
ต้วนหลิงเทียนก็อดอึ้งไปไม่ได้เมื่อได้ยินคำถามดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาก็รีบตอบกลับฉับไวอย่างตรงไปตรงมาว่าไฉนถึงอยากเป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยว “เพราะสิ่งนี้จะทำให้ข้าสามารถเข้าสู่คฤหาสน์เฉวียนโยวได้ทันทีดั่งมีทางลัด…นอกจากนั้นยังทำให้ข้าได้รับทรัพยากรบ่มเพาะจากคฤหาสน์เฉวียนโยวอย่างมหาศาล”
“ข้าคิดใช้คฤหาสน์เฉวียนโยวต่างแท่นกระโดด เพื่อส่งตัวออกจากคฤหาสน์เฉวียนโยว กระทั่งออกจากแดนสวรรค์ใต้ไปยังเวทีที่กว้างใหญ่กว่านี้…”
“ข้าไม่คิดจมปลักอยู่ในแดนสวรรค์ใต้ไปชั่วชีวิต!”
คำตอบของต้วนหลิงเทียนนับว่าตรงไปตรงมาทั้งฟังดูเหิมเกริมไม่น้อย ราวกับจะบอกว่าไม่ขอเป็น ‘หัวไก่ ‘ในแดนสวรรค์ใต้ แต่อยากไปเป็น ‘หางหงส์’ ในเวทีที่กว้างใหญ่กว่านี้
อันที่จริงต้วนหลิงเทียนไม่ได้ไม่พอใจแค่แดนสวรรค์ใต้เท่านั้น กระทั่งยังไม่คิดจมปลักอยู่ในหลิงหลัวเทียนแห่งนี้…ไม่แม้แต่ระนาบเทวโลกใดๆด้วยซ้ำ!
เพราะเป้าหมายของเขาคือขึ้นไปยังระนาบเทพ ที่เรียกว่า ‘ดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ’ ที่คนสำคัญของเขาถูกจับตัวไว้
ถึงตอนนั้นหากเขาไม่มีพลังเหนือตัวตนใดๆในระนาบเทวโลก ทุกสิ่งที่วาดหวังก็ดั่งฟองฝัน…
“ความทะเยอทะยานของเจ้าไม่น้อยจริงๆ ทั้งเจ้ายังซื่อสัตย์นัก”
เสียงทุ้มต่ำอันแหบแห้งดังขึ้นอีกครา ฟังแล้วเห็นได้ชัดว่าพึงพอใจกับคำตอบของต้วนหลิงเทียน ขณะเดียวกันก็ไม่กล่าวอะไรออกมาอีกเลย บรรยากาศกลายเป็นเงียบงันในฉับพลัน
“ผู้อาวุโส…”
สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็เป็นฝ่ายริเริ่มทำลายความเงียบออกมา “ที่ข้าเจอเมื่อครู่ใช่การทดสอบเข้ารับตำแหน่งผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยยหรือไม่…อีกทั้ง ท่านคิดว่าด้วยอายุและความสามารถของข้า ตัวข้ามีคุณสมบัติเป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยในรอบ 30,000 ปีแล้วหรือยัง?”
“เมื่อครู่ข้าแค่ตั้งใจทดสอบพลังฝีมือของเจ้าเท่านั้น หาใช่บททดสอบสำหรับผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยไม่”
ได้ยินเสียงไถ่ถามของต้วนหลิงเทียน เสียงทุ้มต่ำแหบแห้งก็ดังขึ้นอีกรอบ “สำหรับตัวเจ้าที่ประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียงเท่านี้นับว่ายอดเยี่ยมมาก และนับว่ามีคุณสมบัติเป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยในรอบ 30,000 ปีจริงๆ…แต่กระนั้นเจ้าต้องผ่านการทดสอบที่กำหนดโดยวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยเสียก่อน”
“บททดสอบอะไรหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนถาม
“เข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเพื่อช่วงชิงอันดับ 1 มาเสีย…และตราบใดที่เจ้าได้อันดับ 1 ติดต่อกัน 12 เดือน เช่นนั้นเจ้าจักได้เป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวคนแรกในรอบ 30,000 ปี”
เสียงดังขึ้นอีกครั้ง และบอกเงื่อนไขในการทดสอบที่วังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยกำหนดไว้ออกมา
เข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง และช่วงชิงอันดับ 1!
หากได้รับอันดับ 1 ติดต่อกัน 12 เดือน เขาก็จะได้เป็นผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยของคฤหาสน์เฉวียนโยวคนแรกในรอบ 30,000 ปี!
“ผู้อาวุโส การทดสอบนี้มัน…”
หลังได้ฟังเงื่อนไขดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็อดคลี่ยิ้มขื่นขมออกมาไม่ได้ ถึงแม้เขาจะมั่นใจพลังของตัวเองในปัจจุบัน แต่การจะได้อันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางติดต่อกัน 12 เดือนนับว่ายากเย็นเหลือเกิน…
ระหว่างเดินทางมาคฤหาสน์เฉวียนโยว ฉีเทียนหมิงก็ได้บอกเขาหมดแล้วว่าในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง มีขุนนางอมตะ 10 ทิศ ที่คฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหลาย เพาะสร้างมาโดยเฉพาะ ตัวตนเหล่านั้นหาใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมันไม่!
“หากเจ้าคิดยอมแพ้ ก็ออกไปจากคฤหาสน์เฉวียนโยวเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย…รอให้คฤหาสน์เฉวียนโยวเปิดรับสมัครศิษย์จาก 3 นิกาย 2 ตระกูลเมื่อไหร่ เจ้าค่อยเข้าร่วมการทดสอบดังกล่าวในฐานะศิษย์นิกายอมตะเป้าผู่ สำหรับเจ้าแล้วคงไม่ยากอะไร”
เสียงกล่าวยังคงดังขึ้นสืบต่อ ทำราวกับต้นหลิงเทียนต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน
เพราะสุดท้ายแล้วต้วนหลิงเทียนพึ่งลั่นวาจาไปว่า เหตุผลที่คิดรับตำแหน่งผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย ก็เพื่ออยากใช้ทางลัดเข้าสู่คฤหาสน์เฉวียนโยว!
“ข้าตกลง”
ต้วนหลิงเทียนตอบตกลงออกไป เขารู้ดีว่าเขาได้ลั่นวาจาบอกเจตนาไว้แล้ว สิ่งนั้นย้อนกลับมามัดตัวเขาดั่งเขวี้ยงงูไม่พ้นคอ ทำให้ไม่มีทางเลือกอื่นอีก
ที่สำคัญ แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางที่ว่า จะช้าจะเร็วเขาก็ต้องเข้าไปอยู่ดี ตอนนี้ก็แค่เข้าไปไวหน่อยเท่านั้น
เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ตั้งใจจะคว้าอันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางดังกล่าวให้ได้ 24 เดือนติดต่อ เพื่อจะเข้าสู่ 10 ตระกูลใหญ่ของแดนสวรรค์ใต้!
ตระกูลที่อยู่เหนือคฤหาสน์เฉวียนโยว ก็เป็น 1 ใน 10 ตระกูลใหญ่ของแดนสวรรค์ใต้
เมื่อเข้าสู่ตระกูลใหญ่ใดได้ ก็เสมือนขึ้นสู่เวทีสูงสุดของแดนสวรรค์ใต้แล้ว…