War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3130
WSSTH ตอนที่ 3,130 : สองคฤหาสน์ตกตะลึง!
“ศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยว?”
เมื่อศิษย์ที่สายตาแหลมคมของคฤหาสน์หลิ่วสือกล่าวจบคำ เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสคฤหาสน์หลิ่วสือที่ชมดูเรื่องราวในม่านแสงของลูกแก้วเงาลอยอยู่ ก็มองจ้องไปยังป้ายที่ห้อยแขวนบริเวณเอวต้วนหลิงเทียนทันที
ครู่ต่อมาทั้งหมดจึงตระหนักได้ ว่านั่นเป็นป้ายศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวจริงๆ!
เนื่องจากป้ายประจำตัวเหล่าศิษย์ของคฤหาสน์อมตะทั้งหลายก็มีรูปแบบคล้ายๆกัน พวกมันจึงระบุได้ทันทีว่าเจ้าของป้ายมีฐานะใด
“อะไรกัน? ต้วนหลิงเทียนผู้นี้…เป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวงั้นเหรอ?”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะงุนงง
อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกคนหันไปให้ความสนใจกับม่านแสงเบื้องหน้าอีกครั้ง
และฉากเรื่องราวในม่านแสง ก็ฉายเรื่องราวตอน0ต้วนหลิงเทียนเคลื่อนมิติหลบหลีกการโจมตีของหงจี จากนั้นก็วูบร่างไปหยุดอยู่เบื้องหลังหงจีและลงมือจู่โจมหงจี
หลังหงจีพยามต่อต้านแข็งขืนพลังของต้วนหลิงเทียนอยู่พักหนึ่ง มันก็ปะทุพลังชั่วชีวิตหมายทำลายพันธนาการ หากแต่ต้วนหลิงเทียนกลับสะบัดมือแหวกเปิดมิติซ้อน 2 ครั้งกลืนกระบวนท่าทำลายของหงจีได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะเร่งพลังถล่มร่างหงจีจนยับเยิน
ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!
…
เห็นหงจีแพ้พ่ายอย่างที่ไม่อาจทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้เลย คนของคฤหาสน์หลิ่วสือก็พากันสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ ลูกตายังเบิกโพลงปานจะถลนออกเบ้า!
ศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวร้ายกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ความลึกซึ้งเขตแดนมิติ ความลึกซึ้งกักกัน ความลึกซึ้งบิดเบือน ความลึกซึ้งผ่ามิติ…หากรวมกับความลึกซึ้งเคลื่อนมิติก่อนหน้ากับความหมายแห่งงมิติแล้ว เจ้าศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นี้มันเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติทั้งสิ้น 6 ประการ!”
อาวุโสคนหนึ่งของคฤหาสน์หลิ่วสือที่มีความรู้กล่าวออกเสียงเข้ม
กล่าวจบ มันยังอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ข้าไม่คิดเลยจริงๆ ว่าจักมีตัวตนเช่นนี้ปรากฏขึ้นในคฤหาสน์เฉวียนโยว…”
“คนที่ร้ายกาจเช่นมัน กลับเป็นได้แค่ศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวงั้นเหรอ…นี่คนของคฤหาสน์เฉวียนโยวสองตามืดบอดกันหมดแล้วรึไร?”
อาวุโสคฤหาสน์หลิ่วสืออีกคนอดไม่ได้ที่จะโพล่งคำสบถออกมา
ตัวตนเช่นนี้ หากมาอยู่ที่คฤหาสน์หลิ่วสือของพวกมัน อย่างน้อยๆก็ต้องได้เป็นศิษย์ฝ่ายใน และไม่ยากเย็นอะไรที่จะกลายเป็นศิษย์หลัก!
เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่จะเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้ ก็ต้องมีอายุน้อยกว่า 1,000 ปี!
อายุไม่ถึงพันปี เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ 6 ประการ…
ตัวตนระดับนี้ให้ไปอยู่คฤหาสน์อมตะใด ก็ไม่ยากที่จะได้รับการดูแลอย่างดีในฐานะศิษย์หลัก!
“ไฉนข้ารู้สึกว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวจงใจหยามหน้าพวกเรากัน…นี่ใช่พวกมันกำลังคุยโวโอ้อวดกันอยู่หรือไม่ ว่าศิษย์ฝ่ายในคฤหาสน์หลิ่วสือเราสู้ศิษย์ฝ่ายนอกของมันไม่ได้?”
“มีเหตุผล! ข้าว่าพวกคฤหาสน์เฉวียนโยวจงใจทำให้ผู้อื่นชะล่าใจ…มันให้เจ้านั่นพกป้ายศิษย์ฝ่ายนอกแบบนี้สมควรคิดทำให้ผู้อื่นตายใจแน่! ศิษย์ฝ่ายนอกมารดาพวกมันร้ายกาจขนาดนี้?!”
“แต่คฤหาสน์เฉวียโยวนับว่าซุกซ่อนเจ้านี่ได้ดียิ่ง…ก่อนหน้าข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีตัวตนดังกล่าวในคฤหาสน์เฉวียนโยว…ไม่นานเรื่องศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาส์เฉวียนโยวคนนั้นจะต้องโด่งดังในบรรดาคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหมดแน่!”
…
หลังสนทนนาหารือกันไปสักพัก อาวุโสและเหล่าศิษย์ของคฤหาสน์หลื่วสือก็สรุปความกันได้
คฤหาสน์เฉวียนโยวคิดไม่ซื่อ! ใช้กลอุบายหมาป่าห่มหนังแกะมาหยอกล้อกับคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหมด!!
เพราะอาศัยพลังฝีมืออันร้ายกาจของชาหนุ่มชุดม่วงในลูกแก้วเงาลอยเมื่อครู่ ไม่มีทางเป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอกไปได้!
“หรือเจ้านั่นมันจะเป็นคนนอกที่คฤหาสน์เฉวียนโยวหามาช่วย?”
พอเสียงสนทนาขอทุกคนค่อยๆสงบลง ถงฉี่ซานที่สบโอกาสก็เอ่ยความเห็นออกมา
“ไฉนเจ้าคิดเช่นนั้น?”
ทุกคนพลันหันไปมองถงฉี่ซานด้วยสงสัยทันที
“พวกเจ้าทราบหรือไม่…ว่าศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวที่เห็นเมื่อครู่มีอายุเท่าใด?”
ถงฉี่ซานเอ่ยถาม
“ผู้ใดจะไปรู้เล่า…”
ผู้คนโดยรอบได้แต่ส่ายหัว ในเมื่อพวกมันได้เห็นอีกฝ่ายผ่านลูกแก้วเงาลอยแบบนี้ ย่อมไม่อาจตัดสินอายุของอีกฝ่ายได้เลย เพราะต่อให้มีอายุมากแค่ไหน หากจะคงรูปลักษณ์วัยหนุ่มสาวเอาไว้ก็ทำได้ไม่ยาก จึงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังมีอายุน้อยแน่นอน
กระทั่งยังมีสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายที่มีอายุหลายหมื่นปี แต่ใช้รูปลักษณ์เป็นหนุ่มน้อยวัยละอ่อนอายุราวๆ 17-18 ปีให้เห็นอยู่บ่อยๆ…
“ในเมื่อมันเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้ เช่นนั้นก็คงไม่เกินพันปีเป็นแน่…ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่มีความสำเร็จในกฏมิติเช่นมัน คิดจะเป็นศิษย์หลักยังไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไหนเลยจะเป็นศิษย์ฝ่ายนอกธรรมดาๆได้”
“มิผิด เห็นชัดว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวจงใจปั่นหัวพวกเราเล่นๆ เจ้านั่นมีหรือจะไม่ใช่แม้กระทั่งศิษย์ฝ่ายใน…ครั้งนี้คฤหาสน์เฉวียนโยวคิดหลอกต้มผู้คนแล้ว!”
“ในแดนสวรรค์ใต้เรา มีไม่กี่คนที่อายุไม่ถึง 1,000 ปีแต่มีความสำเร็จในกฏแห่งมิติถึงระดับนี้…ข้าไม่คิดเลยว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวจะซุกซ่อนมันเอาไว้ได้นานนัก เพราะเจ้านั่นหากไม่ใกล้พันปีก็ต้องมี 800!”
…
การจะเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้ ก่อนอื่นเลยก็ต้องมีอายุไม่ถึงพันปี อาวุโสและเหล่าศิษย์ของคฤหาสน์หลิ่วสือทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ นอกจากหงจีกับถงฉี่ซานแล้วล้วนคิดว่าชายหนุ่มในลูกแก้วเงาลอยหากไม่ถึงพันปีก็ต้องมี 800
“อายุไม่ถึงพันปีก็ต้องมี 800?”
หงจีที่เงียบมาตั้งแต่ต้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
จนบัดนี้ภาพเรื่องราวในม่านแสงของลูกแก้วเงาลอยยังคงฉายวนต่อไปซ้ำๆ ฉากหงจีถูกทำร้ายจนร่วงฟ้าก็ฉายวนไม่หยุด เนื่องเพราะถงฉี่ซานยังไม่ได้หยุดจ่ายพลังเซียนอมตะต้นกำเนิด
“ต้วนหลิงเทียนคนนี้ไม่ใช่ขุนนางอมตะ 10 ทิศธรรมดาๆ…”
เหลือบไปมองม่านแสงที่ฉายร่างในชุดม่วงลอยค้างกลางหาวหลังจัดการหงจีได้อีกรอบ เสียงของถงฉี่ซานก็ดังขึ้น และด้วยความที่น้ำเสียงมันเข้มจนผิดปกติ หลายคนก็เงียบเสียงและหันมามองมันด้วยความสงสัย
“แต่มันยังมีอายุไม่ถึง 100 ปีอีกด้วย…”
และพอถงฉี่ซานกล่าวจบคำ ลูกตาทุกคนก็หดเล็กลง จากนั้นทุกคนโดยรอบก็พร้อมใจกันเงียบงันปานคนตาย
จังหวะนี้ต่อให้เข็มร่วงตกพื้นสักเล่ม น่ากลัวจะดังเข้าหูทุกคนชัดเจน
“ถง…ถงฉี่ซาน เจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวนั่นยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีหรือ?”
ศิษย์คนหนึ่งของคฤหาสน์หลิ่วสือที่ฟื้นสติก่อนใคร อดไม่ได้ที่จะเอ่ถามถงฉี่ซานออกมาด้วยน้ำเสียงคลางแคลงสงสัย
“ข้ารู้ดีว่าทุกคนไม่มีทางเชื่อข้าแน่…แต่ทั้งหมดเป็นความจริง หงจีที่ประมือกับมันย่อมรู้ดีที่สุด เพราะไม่ยากอะไรที่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเลือดเนื้อของเจ้านั่นตอนอยู่ใกล้ๆ…”
ถงฉี่ซานกล่าวจบก็ยักไหล่เบาๆ
มันเองก็ไม่คิดว่าทุกคนโดยรอบจะเชื่อคำพูดของมันแต่แรก เพราะการได้ฟังกับได้เห็นกับตา มันเป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
มันลองคิดในมุมของทุกคนดูก็เข้าใจ
เพราะหากมันเป็นคนที่รับฟังเรื่องราวเหมือนคนอื่นๆ ว่าศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวอันบรรลุขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศและเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติได้ 6 ประการที่เห็นๆกันอยู่ ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี มันก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอน
“ไปกันเถอะ”
หงจีเอ่ยทักถงฉี่ซานคำหนึ่ง จากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินจากไป…
และเป็นดั่งที่ถงฉี่ซานคิดไว้ไม่มีผิด ถึงแม้ทุกคนนจะตกใจกับคำพูดของมัน แต่ก็ไม่มีใครเชื่อมันสักคน!
ขุนนางอมตะ 10 ทิศอายุไม่ถึงร้อยปี?
นอกจากนั้นยังเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติได้ 6 ประการ?
ตัวตนเช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของแดนสวรรค์ใต้…
แต่วันนี้ถงฉี่ซานกลับมาบอกพวกมันว่า…
ตัวตนดังกล่าวกลับปรากฏขึ้นในคฤหาสน์เฉวียนโยว…แถมยังเป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอก
ผู้ใดจะไปเชื่อ?
“เพ่ย! แสร้งทำเป็นมีลับลมคมในไปได้…นี่พวกมันคิดว่าพวกเราจะเชื่อได้ลงคอหรือ?”
“แต่ถงฉี่ซานกับหงจีก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกพวกเรามิใช่หรือไร?”
“ไม่รู้ล่ะ จะอย่างไรก็ช่าง แต่ข้าคนนึงล่ะที่หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ข้าไม่มีทางเชื่อแน่ว่าศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวที่เราเห็นในลูกแก้วเงาลอยนั่น จะยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี!”
“ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน”
…
หลังถงฉี่ซานกับหงจีเดินจากไป จุดเคลื่อนย้ายของคฤหาสน์หลิ่วสือจุดนี้ก็ยังคงคึกคักมีชีวิตชีวา ขณะเดียวกันก็มีผู้คนบดขยี้ยันต์อมตะสื่อสารเป็นการใหญ่
ไม่นานกระทั่งอาวุโสของคฤหาสน์หลิ่วสือที่ไม่ได้อยู่บริเวณจุดตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายก็ได้รับทราบเรื่องราว ว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวมีศิษย์ฝ่ายนอกคนหนึ่งที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ 6 ประการ
ยิ่งไปกว่านั้นศิษย์ฝ่ายนอกที่ว่าก็เป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศแล้ว!
เป็นธรรมดาว่าไม่มีใครบอกเล่าสหายว่าศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวนามต้วนหลิงเทียนที่ว่ายังมีอายุไม่ถึงร้อยปี…เพราะเรื่องนี้มันเหลวไหลเกินจะเชื่อได้ลงคอ!
เมื่อข่าวแพร่ออกไป คฤหาสน์หลิ่วสือก็ตกใจกันไม่น้อย
และในคฤหาสน์หลิ่วสือก็มีผู้อาวุโสหลายคนที่สนิทสนมกับผู้อาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยว และคนเหล่านั้นก็หยิบลูกแก้ววิญญาณสหายเก่า ทั้งหยิบยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณมาบดขยี้กันยกใหญ่
“เพ่ยเจ้าเฒ่าลืมตาย! คฤหาสน์เฉวียนโยวเจ้ามันร้ายลึกนักนะ…ถึงกับซ่อนขุนนางอมตะ 10 ทิศอายุไม่ถึงพันปีที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติ 6 ประการมานานปี…นอกจากนี้พวกเจ้ายังคิดละเล่นหมูกินเสือโดยให้มันพกป้ายศิษย์ฝ่ายนอกมาก่อการอีก เดี๋ยวนี้พวกเจ้าถึงกับต้องเล่นเล่ห์น่ารังเกียจกันแล้วรึ?”
“เหล่าหลี…ท่านรู้จักศิษย์ฝ่านอกนามต้วนหลิงเทียนในคฤหาสน์เฉวียนโยวของท่านหรือไม่? ข้ามี 3 คำอยากฝากไปบอกเจ้านั่น…ถล่มมารดาเจ้า!”
…
ด้านคฤหาสน์เฉวียนโยว เหล่าอาวุโสทั้งหลายที่ได้รับการติดต่อจากสหายที่คฤหาสน์หลิ่วสือก็งงกันเป็นแถบ เพราะอยู่ๆก็ถูกสหายส่งข้อความมาโวยทั้งสาปแช่งอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว…
“ใจเย็นสหาย เจ้าพูดเรื่องอะไรของเจ้าอยู่กัน…ต้วนหลิงเทียน? ศิษย์ฝ่ายนอกอายุไม่ถึงพัน? ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติ 6 ประการ? นี่เจ้ารับประทานโอสถผิดขนานมาหรือไม่?”
“คางคกเฒ่า เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ใช่ทางเจ้าได้ข้อมูลมาผิดๆ? หากคฤหาสน์เฉวียนโยวข้ามีตัวตนเช่นนั้น ไฉนข้าจึงไม่ทราบได้เล่า?”
“หืม? อันใดนะ ตอนนี้มันได้อันดับที่ 93 แล้วงั้นหรือ? รอข้าก่อน…ข้าขอไปดูที่ตำหนักเคลื่อนย้ายก่อน”
…
เหล่าอาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวทั้งหลาย หลังติดต่อส่งขอความคุยกับสหายจนรู้ความ ก็เร่งรุดเหินร่างไปยังตำหนักเคลื่อนย้ายกันจ้าละหวั่น สุดท้ายจึงได้เห็นความจริงบนม่านแสงตารางจัดอันดับในลานหน้าตำหนักเคลื่อนย้าย
“ให้ตายเถอะ…เรื่องจริงหรือนี่ มีคนเช่นนี้อยู่จริงๆ?”
พอเหล่าอาวุโสที่เร่งรุดเหินมา พบเห็นชื่อต้วนหลิงเทียนในอันดับที่ 93 ของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางมีคำคฤหาสน์เฉวียนโยวเขียนต่อท้ายจริงๆ พวกมันก็ยืนเหวอหน้าตารางจัดอันดับไปพักหนึ่ง
ขณะเดียวกัน พวกมันก็ได้ยินเสียงสนทนาดังระงมในลานเรื่องต้วนหลิงเทียนพอดี
ผู้คนแถวนี้กำลังคุยกันว่า
ต้วนหลิงเทียนนั้นสมควรเป็นผู้ที่มีโชคหล่นจากฟ้ามาถึงตรงหน้า เดินดุ่มๆไปเจอยอดฝีมือที่กำลังเข่นฆ่ากันจนตกตายทั้งคู่ และได้รับแต้มของทั้ง 2 คนมาอย่างงงๆ…
“สหาย…พวกเจ้าเข้าใจอันใดผิดแล้วล่ะ เรื่องติด 100 อันดับแรก ต้วนหลิงเทียนของคฤหสน์เฉวียนโยวเรา มิได้โชคดีแต่อย่างใด”
อาวุโสที่ได้รับทราบเรื่องราวจากสหายในคฤหาสน์หลิ่วสือที่พึ่งมาถึง และบังเอิญรู้จักกับอาวุโสที่ประจำโต๊ะบริการในตำหนักเคลื่อนย้าย ก็เร่งกล่าวแก้ความเข้าใจผิดของสหายทันที “เมื่อครู่สหายเก่าข้าที่คฤหาสน์หลิ่วสือพึ่งส่งข้อความมาว่า ศิษย์ฝ่ายนอกนามต้วนหลิงเทียนของพวกเรา ได้ทุบตีหงจีศิษย์ฝ่ายในของพวกมันจนเปลี้ย…หลังจากหงจรทำลายป้ายหยกยอมแพ้ ถงฉี่ซานที่รู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ก็ทำลายป้ายหยกเพื่อยอมแพ้เช่นกัน”
“มิผิด สหายเก่าของข้ายังเล่ามาอีกด้วย…ว่ามันได้เห็นต้วนหลิงเทียนลงมือทำร้ายหงจีชัดเจนทุกขั้นตอนกระบวนการผ่านลูกแก้วเงาลอยที่ถงฉี่ซานลอบบันทึกไว้…และต้วนหลิงเทียนนั่นยังเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติถึง 6 ประการอีกด้วย”
“แล้วนี่เจ้าทราบหรือไม่ ว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้เป็นใครมาจากไหน ข้าในฐานะอาวุโสคนหนึ่งของคฤหาสน์เฉวียนโยว ไฉนจึงไม่ทราบเรื่องราวเลยเล่า?”
…
อาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวที่ได้รับข้อความจากสหายในคฤหาสน์หลิ่วสือ ทยอยกันกล่าวออกมาทีละคนๆ
ทันใดนั้นเหล่าศิษย์และอาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวที่ตำหนักเคลื่อนย้ายก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงกับเรื่องราวที่ได้รับทราบจากเหล่าอาวุโสที่เร่งรุดมาถึง ทั้งหมดพร้อมใจกันเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ…